สถาปัตยกรรมของ Charles edouard le corbusier เลอ กอร์บูซิเยร์ (ชาร์ลส์ เอดูอาร์ ฌ็องเนอเรต์-กริซ)

นักเขียนผู้ปลุกปั่น จิตรกรผู้มีพรสวรรค์ ผู้ริเริ่มสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ผู้เขียนทฤษฎีเมือง และนักโต้เถียงที่ไม่มีใครเทียบได้แห่งศตวรรษที่ 20 - Le Corbusier ซึ่งผลงานของเขาสามารถพบเห็นได้ในเกือบทุกเมืองในโลก

Le Corbusier: ชีวประวัติโดยย่อและหลักการสำคัญของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

เลอกอร์บูซีเยร์ นิวยอร์ก 2490

1887

Charles Edouard Jeanneret-Gris เกิดที่ Chaux-de-Fonds (สวิตเซอร์แลนด์). ต่อมาเขาใช้นามแฝงว่า Le Corbusier

1904

Corbusier จบการศึกษาจากโรงเรียนศิลปะและทำโครงการสถาปัตยกรรมชิ้นแรกสำเร็จสำหรับหนึ่งในคณะกรรมการของโรงเรียน ขณะนั้นมีพระชนมายุ 17 พรรษาครึ่ง

“ตอนอายุ 17 ปีครึ่ง ฉันออกแบบบ้านหลังแรก เขาแย่มาก! ฉันมักจะหลีกเลี่ยงมัน "

Villa Fallet, La Chaux-de-Fonds, สวิตเซอร์แลนด์ พ.ศ. 2448

1907

ด้วยเงินที่ได้รับ Corbusier ออกจากเมืองต่างจังหวัดและไปทัศนศึกษาที่อิตาลี ออสเตรีย ฮังการี สิ้นสุดการเดินทางในฝรั่งเศส

1908 - 1909

ในปารีส เขาทำงานเป็นช่างเขียนแบบฝึกหัดให้กับ Auguste และ Gustave Perret (ออกุสต์และกุสตาฟแปร์เร็ต)ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มในสาขาของตนและส่งเสริมการใช้คอนกรีตเสริมเหล็กที่เพิ่งค้นพบ ต่อจากนั้น พวกเขาปฏิเสธที่จะเรียกคอร์บูซีเยร์ว่าลูกศิษย์เพราะ "ความคิดสุดโต่งเกินไป"

1910

ในช่วง 2 ปีที่ทำงานในปารีส Corbusier เรียนภาษาเยอรมันและย้ายไปเบอร์ลินเพื่อฝึกงานกับปรมาจารย์ด้านสถาปัตยกรรม Peter Bernes (ปีเตอร์ เบเรนส์)ซึ่งมักถูกยกให้เป็นนักออกแบบอุตสาหกรรมคนแรกของโลก

ภาพเหมือนของเลอกอร์บูซิเยร์

1911

ชาร์ลส์ออกเดินทางเพื่อการศึกษาอีกครั้ง คราวนี้ไปทางทิศตะวันออก ผ่านกรีซ คาบสมุทรบอลข่าน และเอเชียไมเนอร์ ที่นั่นเขาได้ศึกษาอนุสรณ์สถานโบราณและการก่อสร้างพื้นบ้านแบบดั้งเดิมของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

1912 - 1916

หลังจากการเดินทางเขากลับไปที่บ้านเกิดของเขาและเป็นเวลา 4 ปีสอนที่โรงเรียนที่เขาเรียนด้วยตัวเอง

ในช่วงเวลาเดียวกัน Corbusier ได้ออกแบบและจดสิทธิบัตรโครงการนี้ บ้าน - อิโนะ(Dom-ino: dumos - บ้าน, ino - นวัตกรรม). โดยยึดแนวคิดการสร้างด้วยชิ้นส่วนสำเร็จรูปขนาดใหญ่ ในเวลานั้นถือเป็นก้าวสำคัญทางสถาปัตยกรรม แนวคิดของ Dom - Eno ถูกนำมาใช้โดยสถาปนิกในอาคารหลายหลังของเขา

1917 - 1920

ชาร์ลส์ไม่เคยซ่อนความไม่ชอบเมืองบ้านเกิดของเขา ดังนั้นเมื่อมีโอกาส เขาจึงย้ายไปปารีสทันที ที่นั่นเขาได้พบกับ Amede Ozanfant (อาเมเดะ โอเซนแฟนต์)ผู้แนะนำให้เขารู้จักกับจิตรกรรมร่วมสมัย จากนั้น Corbusier ก็วาดภาพแรกของเขา

“ฉันชอบวาดรูปมากกว่าพูด การวาดภาพเร็วขึ้น และทำให้มีพื้นที่สำหรับการโกหกน้อยลง"

พวกเขาร่วมกับ Ozanfant จัดนิทรรศการภาพวาดร่วมกันเรียกพวกเขาว่านิทรรศการของ "คนเจ้าระเบียบ" - ผู้สนับสนุนลัทธิพูดน้อยผู้ต่อสู้กับการผสมผสานและการตกแต่ง และพวกเขาได้สร้างนิตยสารวิจารณ์เชิงปรัชญาและศิลปะ "L'esprit Nouveau" (วิญญาณใหม่).

ฉบับนิตยสาร L'esprit Nouveau

1925

“ทุกอย่างในบ้านควรเป็นสีขาว พลเมืองทุกคนต้องเปลี่ยนผ้าม่าน เครื่องนอน วอลล์เปเปอร์ และทุกอย่างด้วยสีขาว เมื่อคุณทำความสะอาดบ้านของคุณ คุณก็ทำความสะอาดตัวเองด้วย”

ในปีเดียวกัน Charles ได้สร้าง "Plan Voisin" (แผน โวซิน)หรือ "เมืองสมัยใหม่ที่มีประชากร 3 ล้านคน" - แผนสำหรับการปรับปรุงปารีสให้ทันสมัยอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งเขาถือว่า "สร้างขึ้นที่ทางแยกและเหยียบกีบลา"

สถาปนิกวางแผนที่จะทำลายอาคารครึ่งหนึ่ง เพิ่มความสูงของอาคารใหม่ (สูงสุด 20 ชั้น) สร้างระบบถนนที่ทันสมัย ​​และแบ่งเมืองเป็น "สี่เหลี่ยมจัตุรัส" ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตในเมือง

"งานของฉัน ความปรารถนาของฉันคือดึงคนสมัยใหม่ออกจากความวุ่นวายและหายนะ ให้เขาอยู่ในบรรยากาศที่มีความสุขและความสามัคคี"

1928

ในปีนี้ Charles ได้สร้างอาคาร Tsentrosoyuz ในมอสโกว ได้กลายเป็นตัวอย่างใหม่ของโซลูชันการสร้างธุรกิจสมัยใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในยุโรป

1929

ในวารสาร L'esprit Nouveau ของเขา Corbusier ได้ตีพิมพ์ The Five Points of Modern Architecture ซึ่งเป็นชุดของกฎสำหรับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

1. บ้านต้องยืนค้ำ ด้วยเหตุนี้สถานที่จึงกำจัดความชื้น มีแสงและอากาศเพียงพอ พื้นที่ก่อสร้างจึงกลายเป็นสวนที่วิ่งใต้ถุนบ้าน

2. ผนังภายในตั้งอยู่ในสถานที่ใดก็ได้: เลย์เอาต์ของชั้นหนึ่งไม่ขึ้นอยู่กับชั้นอื่น ไม่มีกำแพงเมืองหลวง แต่มีเยื่อหุ้มของป้อมปราการแทน

3. ส่วนหน้าถูกผลักไปข้างหน้าจากโครงสร้างรองรับ ดังนั้นจึงสูญเสียคุณสมบัติการรับน้ำหนัก และหน้าต่างสามารถยืดออกได้ทุกความยาวโดยไม่สัมพันธ์โดยตรงกับส่วนภายในของอาคาร

4. หน้าต่างริบบิ้นที่ต้องเปิดหน้าต่างผสาน ด้วยเหตุนี้จึงไม่เพียงปรับปรุงแสงสว่างของสถานที่ แต่ยังสร้างรูปแบบทางเรขาคณิตของส่วนหน้าด้วย

5. ที่ด้านบนของบ้านควรมีระเบียงบนหลังคาเรียบพร้อมสวน "กลับ" สู่เมืองด้วยความเขียวขจีที่ปริมาตรของอาคารใช้ วางท่อน้ำทิ้งภายในบ้าน

Corbusier ไม่ตามใจลูกค้าด้วยการตกแต่ง สีเป็นการตกแต่งแบบเดียวที่เขาอนุญาต

ภาพเหมือนของเลอกอร์บูซิเยร์

สำหรับสถาปนิกรุ่นใหม่ของ "การเคลื่อนไหวใหม่" ชุดของกฎกลายเป็น "จุดเริ่มต้น" ในการทำงานของพวกเขา และสำหรับบางคน ความเชื่อแบบมืออาชีพ

วิลล่า ลา โรช (วิลล่า ลา โรช)และวิลล่า ซาวอย (วิลล่า ซาวอย)ซึ่งคอร์บูซีเยร์เป็นผู้ออกแบบ เป็นภาพประกอบที่ชัดเจนของกฎเหล่านี้

ใน วิลล่า ลา โรชตั้งแต่ปี พ.ศ. 2511 มูลนิธิเลอกอร์บูซีเยร์ได้ก่อตั้งขึ้น ซึ่งอุทิศตนเพื่อการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกของสถาปนิก

วิลล่า ซาวอยเจ้าของจากไปเมื่อ 75 ปีที่แล้ว เหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับรอยรั่ว ตอนนี้วิลล่าเป็นอนุสาวรีย์ทางสถาปัตยกรรม

1940

ในฝรั่งเศส งานบูรณะเริ่มขึ้น และทางการได้เชิญกอร์บูซีเยร์มาเป็นผู้วางผังเมือง เขาสร้างแผนสำหรับการสร้างเมือง Saint-Dieu และ La Rochelle ของฝรั่งเศสขึ้นใหม่ ซึ่งเขาทำตามแนวคิดของเขาเรื่อง "เมืองสีเขียว"

1946

Le Corbusier สร้างอาคารของโรงงาน Claude and Duval ซึ่งเป็นตึกสี่ชั้นที่มีพื้นที่อุตสาหกรรมและสำนักงานพร้อมกระจกด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างการก่อสร้างมีการใช้ "ตัวตัดแสงอาทิตย์" (พื้นรองเท้าแบบยกขึ้น) ซึ่งเป็นโครงสร้างบานพับพิเศษที่ปกป้องส่วนหน้ากระจกจากแสงแดดโดยตรงซึ่งชาร์ลส์คิดค้นขึ้นเอง นับจากนั้นเป็นต้นมา ซันคัตเตอร์ได้กลายเป็นจุดเด่นของอาคารของคอร์บูซีเยร์ พวกเขาทำหน้าที่ทั้งบริการและตกแต่ง

1948

เลอ กอร์บูซิเยร์ได้พัฒนาระบบสัดส่วนในสถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์โดยพิจารณาจากอัตราส่วนทองคำและสัดส่วนของร่างกายมนุษย์ เมื่อพัฒนาระบบ ชาร์ลส์ใช้สามจุดทางกายวิภาค: ส่วนบนของศีรษะ ช่องท้องแสงอาทิตย์ และจุดบนสุดของแขนที่ยกขึ้น

สถาปนิกเองอธิบายว่ามันเป็น "ชุดของสัดส่วนฮาร์มอนิก สอดคล้องกับขนาดของมนุษย์ ซึ่งใช้ได้กับสถาปัตยกรรมและกลไกในระดับสากล"

"โมดูลอร์" เลอ คอร์บูซีเยร์

1950

ทางการรัฐปัญจาบของอินเดียได้เชิญคอร์บูซีเยร์และสถาปนิกคนอื่นๆ ให้ออกแบบเมืองหลวงของรัฐแห่งใหม่ โครงการนี้ใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา

ผลงานดั้งเดิมและสมบูรณ์ที่สุด ได้แก่ Assembly Palace, Palace of Justice และ Open Hand Monument

พระราชวังประกอบ

"เปิดมือ"

วังแห่งความยุติธรรม

1952

จุดเริ่มต้นของยุค Corbusier ใหม่: เขาถอยห่างจากการบำเพ็ญตบะและการยับยั้งชั่งใจ ตอนนี้ลายมือของเขามีความโดดเด่นด้วยความสมบูรณ์ของรูปแบบพลาสติกและพื้นผิวที่มีพื้นผิว

Marseille Block กลายเป็นหนึ่งในโครงการที่มีชื่อเสียงที่สุดในรูปแบบใหม่ นี่คืออาคารอพาร์ตเมนต์ใน Marseille ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง

พื้นที่สาธารณะส่วนใหญ่ออกแบบไว้บนหลังคา มีสวน ลู่วิ่ง สโมสร โรงเรียนอนุบาล ห้องออกกำลังกาย และสระว่ายน้ำขนาดเล็ก ร้านค้า สถานพยาบาล และโรงแรมขนาดเล็กตั้งอยู่ภายในตัวอาคาร บ้านหลังนี้ซึ่งคอร์บูซีเยร์เรียกว่า "เมืองภายในเมือง" ได้รับการปรับพื้นที่และประโยชน์ใช้สอยให้เหมาะกับผู้อยู่อาศัย

โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นที่อยู่อาศัยทดลองที่มีแนวคิดเรื่องการอยู่ร่วมกัน (ชุมชนชนิดหนึ่ง)

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติ ดีใจ และพึงพอใจที่ได้นำเสนอยูนิตพักอาศัยขนาดสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นต้นแบบของพื้นที่ใช้สอยที่ทันสมัย”

1950 - 1960

คอร์บูซีเยร์ออกแบบอาคารหลายหลังที่ตอกย้ำชื่อเสียงของเขาในฐานะสถาปนิกแนวหน้าอันดับ 1 ของยุโรป

คนหลักคือ:

โบสถ์ Ronchamp

Le Corbusier ผู้ไม่เชื่อในพระเจ้าเข้ารับงานด้วยอิสระในการสร้างสรรค์อย่างสมบูรณ์ เขาพบแรงบันดาลใจในเปลือกหอยขนาดใหญ่ที่พบบนชายหาด ซึ่งดูเหมือนเป็นการแสดงออกถึงความปลอดภัยสูงสุดสำหรับเขา

อารามที่ซับซ้อนของ La Tourette

อาคารนี้สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยมีลานด้านในซึ่งแบ่งตามห้องแสดงภาพที่มีหลังคา

พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกในโตเกียว

19 ปีหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น Kunio Makaeva ลูกศิษย์ของ Le Corbusier ได้เพิ่มห้องเพิ่มเติมอีกหลายห้องในพิพิธภัณฑ์

1965

Corbusier เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 77 ปี เขาจมน้ำขณะว่ายน้ำ สันนิษฐานว่าเกิดจากหัวใจวาย เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ Cape Roquebrune ซึ่งเขาอาศัยอยู่ในบ้านฤดูร้อน Le Cabanon ของเขาที่มีพื้นที่ 15 ตารางเมตร ม. Le Cabanon เป็นที่พักขนาดเล็กที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างที่อยู่อาศัยขั้นต่ำของ Corbusier

“เยาวชนและสุขภาพรับประกันความสามารถในการผลิตจำนวนมาก แต่ต้องใช้ประสบการณ์หลายสิบปีในการผลิตให้ดี”

2003 - 2006

José Ubreri ลูกศิษย์ของ Le Corbusier ได้สร้างโบสถ์ Saint-Pierre de Firmini เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามแผนที่สถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่ได้พัฒนาขึ้นในปี 1963 จากนั้นการขาดเงินทำให้เกิดการหยุดโครงการ Joséไม่สูญเสียความหวังในการทำงานให้สำเร็จและในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เขาได้สร้างกองทุนเพื่อระดมทุน ในปี พ.ศ. 2546 การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง

ผลงานอื่นๆ ของ Le Corbusier

ศาลาสวิส ฝรั่งเศส 2475

สภาวัฒนธรรม, ฝรั่งเศส, 2508

บ้าน Guiette เบลเยียม 2469

อาคารสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา พ.ศ. 2495

บ้านของนายแพทย์คูรูเชต์ อาร์เจนตินา พ.ศ. 2492

วิลล่าสารภี, อินเดีย, 2494

บ้านในหมู่บ้าน Weissenhof ประเทศเยอรมนี 2470

อาคารสำนักงานเลขาธิการ ประเทศอินเดีย พ.ศ. 2501 (โทโมะ ยาสึ)เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ

คุณสามารถจับความคล้ายคลึงกันระหว่างผลงานของ Corbusier และ Alexander Zhuk สถาปนิกในประเทศได้ในบทความของเราเกี่ยวกับเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

นอกจากนี้ คุณอาจสนใจชีวประวัติเกี่ยวกับ:
- - ตำนานของการถ่ายภาพแนวสตรีท

สถาปนิกร่วมสมัยที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง

นักออกแบบอุตสาหกรรม Braun

Charles Edouard Jeanneret สถาปนิกที่โดดเด่นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Le Corbusier เกิดในเมือง La Chaux-de-Fonds ของสวิส ในตอนแรกชาร์ลส์เลือกอาชีพช่างแกะสลักนาฬิกาซึ่งเป็นประเพณีของครอบครัวมากกว่า แต่ในไม่ช้าเขาก็หลงใหลในสถาปัตยกรรม โดยบังเอิญ สถาปนิกที่สดใสแห่งศตวรรษที่ 20 ไม่สามารถรับการศึกษาพิเศษตามความหลงใหลของเขาได้ และโรงเรียนสถาปัตยกรรมของเขาก็มีแต่พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด การเดินทาง ตลอดจนการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์กับผู้ทรงคุณวุฒิในยุคนั้น

วิลล่าซาวอย 2472-2474

ปี 1910-1911 สำหรับ Le Corbusier ใช้เวลาในกรุงเบอร์ลินที่ทำงานในเวิร์คช็อปของ P. Behrens ซึ่งเขาได้พบกับ Walter Gropius ด้วยตัวของเขาเอง เมื่อต้นปี พ.ศ. 2459 สถาปนิกวัย 29 ปีเดินทางถึงปารีสเพื่อทำงานที่โรงงานวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในวันหยุดหรือในตอนเย็น Corbusier ศึกษาทฤษฎีศิลปะและการวาดภาพ หลังจากนั้นในปี 1918 เขาและเพื่อนของเขา A. Ozanfant ได้ตีพิมพ์แถลงการณ์เรื่อง After Cubism

วิลล่า ซาวอย แผน

การอุทธรณ์วรรณกรรมนี้เปิดเผยการกำหนดบทบัญญัติหลักของความพิถีพิถัน - แนวโน้มใหม่ในการวาดภาพตามปกติ หลังจากที่เพื่อน ๆ ตีพิมพ์นิตยสาร Esprit Nouveau (จิตวิญญาณใหม่) ชาร์ลส์ได้ลงนามในนามแฝงว่า Le Corbusier ซึ่งเป็นนามสกุลของญาติฝ่ายแม่ของเขาในหน้าเพจ

พ.ศ. 2465 ได้เตรียมการเปลี่ยนแปลงสำหรับสถาปนิกหนุ่ม Le Corbusier ออกจากโรงงานและร่วมกับลูกพี่ลูกน้อง Pierre Jeanneret เปิดสตูดิโอออกแบบของตัวเองในปารีส

หัวข้อหลักของงานของเขาคือการพัฒนาวิทยานิพนธ์สำหรับการก่อสร้างเมืองและที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2457 ชาร์ลส์เสนอแนวคิดเรื่อง "House with Cells" (โครงการ "Dom-Ino") แผนผังของอาคารนี้คล้ายกับโซ่ที่เรียงกันเหมือนในเกมโดมิโน โดยมีเสาในรูปแบบของจุดบนข้อนิ้ว โดยพื้นฐานแล้ว นี่เป็นโครงการบ้านแบบเฟรมโครงการแรกสำหรับการก่อสร้างแบบต่อเนื่อง

ต้องขอบคุณจุดสำคัญทางสถาปัตยกรรมห้าจุดของเขาที่คิดค้นขึ้นในปี 1926 คนสมัยใหม่สามารถศึกษาอาคารต่างๆ เช่น:

• สวิส วิลล่า ฟอล 1905
• บ้าน Atelier ในกรุงปารีสของ Ozenfant ในปี 1922
• ศาลานิทรรศการปารีส "ESPRI NUVO" 2467
• บ้านลี้ภัยของ Salvation Army ในปารีส (พ.ศ. 2469)
• มอสโกเฮาส์แห่ง Tsentrosoyuz (2471-33)
• วิลล่าซาวอยในพัวซี ประเทศฝรั่งเศส (พ.ศ. 2472-2474)
• บ้าน Curuchet ในเมือง La Plata ของจังหวัดในอาร์เจนตินา (1949)
• วังแห่งความยุติธรรมปัญจาบในอินเดีย (พ.ศ. 2494-55)
• พิพิธภัณฑ์ศิลปะในญี่ปุ่น โตเกียว (2500-59)
• สร้างครั้งสุดท้ายที่ Boston Carpenter Center สำหรับทัศนศิลป์ พ.ศ. 2505

ศาลา "Esprit Nouveau" 2467

ทำเนียบทหารบก พ.ศ. 2469

อาคารประกอบ. จัณฑีครห์เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของรัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย พ.ศ.2494-2505

คุณสมบัติทางสถาปัตยกรรมหลักห้าประการในงานของ Le Corbusier คือการวางแผนอาคารฟรีเพื่อให้สามารถจัดพาร์ติชันภายในได้ นอกจากนี้อาคารต้องยืนอยู่บนฐานรองรับในอาณาเขตของฝาครอบสีเขียว ส่วนหน้าฟรี (ไม่รับน้ำหนัก) ได้รับการออกแบบขึ้นอยู่กับเค้าโครง อาคารต่างๆ จะได้รับการสวมมงกุฎด้วยหลังคาแบนในรูปแบบของระเบียงพร้อมสวนเพื่อคืนความเขียวขจีที่อาคารเลือก และสุดท้าย ช่องเปิดหน้าต่างรวมเข้าเป็นหน้าต่างริบบิ้นเดียวเพื่อสร้างรูปแบบด้านหน้าอาคารที่พิเศษและปรับปรุงแสงในห้อง

โพสต์ยกย่อง Le Corbusier
Le Corbusier เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2430 - สถาปนิก, ศิลปิน, ผู้เขียนทฤษฎีการวางผังเมืองซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยในสถาปัตยกรรมของศตวรรษที่ 20

เลอ คอร์บูซีเยร์สร้างโครงการสถาปัตยกรรมชิ้นแรกเมื่ออายุ 17 ปีภายใต้การแนะนำของอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ เป็นอาคารอพาร์ตเมนต์ของ Louis Fallet ซึ่งเป็นคณะกรรมการของ School of Art ที่ซึ่ง Charles-Edouard Jeanneret (ชื่อจริง Le Corbusier) ศึกษาศิลปะและงานฝีมือในเวลานั้น ถัดไปในซีรีส์: และอื่น ๆ เกี่ยวกับ

Le Corbusier (Charles-Edouard Jeanneret-Gris) และการสร้างสรรค์ของเขา

ในปี 1914 สถาปนิกได้เปิดเวิร์คช็อปของตัวเองในเมือง La Chaux-de-Fonds บ้านเกิดของสวิส และในปี 1922 เขาก็สร้างสำนักงานของตัวเองในปารีสและตั้งรกรากที่นั่นภาพวาดครอบครองสถานที่พิเศษในชีวิตของ Le Corbusier ร่วมกับเพื่อนของเขา ศิลปิน Amédée Ozanfant พวกเขาได้กำหนดคำว่า "ความพิถีพิถัน" ในโลกศิลปะ ซึ่งเป็นหลักการที่ Le Corbusier ได้ถ่ายทอดไปยังโครงการสถาปัตยกรรมของเขา ความพิถีพิถันปฏิเสธการตกแต่งที่มีอยู่ในรุ่นก่อน - ลัทธิเขียนภาพแบบเหลี่ยมและประกาศภาพลักษณ์ของความเป็นจริงที่ "บริสุทธิ์" ในปี 1920 พวกเขาได้สร้างนิตยสาร Esprit Nouveau (L`Esprit Nouveau - "The New Spirit") ซึ่งกินเวลาจนถึงปี 1925 สิ่งพิมพ์ดังกล่าวกลายเป็นเวทีสำหรับการอภิปรายเกี่ยวกับศิลปะและสถาปัตยกรรม และที่นั่น Charles-Edouard Jeanneret ซึ่งใช้นามแฝงว่า Le Corbusier ได้ตีพิมพ์บทความที่สำคัญที่สุดสำหรับผลงานของเขา ซึ่งต่อมาได้รวมกันเป็นคอลเลกชั่น "Toward Architecture" ผังเมือง” และอื่นๆ

Le Corbusier เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานหลายคนของเขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในโครงการวิลล่าส่วนตัวของเขา ในปี ค.ศ. 1920 เขาได้สร้างอาคารหลายหลังในสไตล์สมัยใหม่ ซึ่งใหม่และท้าทายในยุคนั้น - Villa La Roche / Jeanneret, Villa Stein ใน Garches, Villa Savoy ใน Poissy พวกเขาเริ่มพูดถึง Le Corbusier ในฐานะตัวแทนของสถาปัตยกรรมแนวหน้า เพราะเขาใช้เทคนิคใหม่ในการออกแบบโดยพื้นฐาน ลักษณะเด่นของโครงการของเขาคือด้านหน้าเรียบสีขาว รูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่าย ปริมาตรลอยอยู่ในอากาศ กระจกแนวนอน โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

ในปี 1925 เลอกอร์บูซีเยร์ได้สร้างศาลาที่งานแสดงสินค้านานาชาติในปารีสภายใต้ชื่อที่คุ้นเคยว่า "Esprit Nouveau" เพื่อเป็นการประกาศเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมแนวหน้า ศาลาฝรั่งเศสมีหลายวิธีคล้ายกับศาลาของสหภาพโซเวียตซึ่งสร้างโดย Konstantin Melnikov เพื่อนร่วมชาติของเรา

Le Corbusier เริ่มคำสั่งซื้อจำนวนมากในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 ในเวลาเดียวกันเขามีส่วนร่วมในการแข่งขันเพื่อสร้างอาคาร Tsentrosoyuz ในมอสโกวและเยี่ยมชมสหภาพโซเวียต หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สถาปนิกแสดงตนว่าเป็นนักวางผังเมืองและสร้างแผนสำหรับการสร้างเมือง Saint-Dieu และ Roshal ของฝรั่งเศสขึ้นใหม่ ที่นี่ Le Corbusier นำแนวคิดที่มีชื่อเสียงของเขาเกี่ยวกับ "Radiant City" มาใช้อย่างต่อเนื่องซึ่งยังคงถูกกล่าวถึงโดยคนเมืองและพบว่าบางส่วนมีการประยุกต์ใช้ในพื้นที่เมืองใหญ่ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบในเมือง Radiant City: ความสมมาตรในการวางแผน สวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวจำนวนมาก ระบบขนส่งที่พัฒนาแล้ว และการแบ่งเขตที่สะดวกสบาย สถาปนิกเสนอให้สร้างพื้นที่อยู่อาศัยด้วยอาคารอพาร์ตเมนต์สูงไม่เกิน 50 เมตร และอยู่อาศัยได้มากถึง 2,000 คน แนวคิดเหล่านี้ได้รวมอยู่ใน Marseille Unit ที่มีชื่อเสียง และจากนั้นในโครงการที่ใหญ่ที่สุดของสถาปนิก การวางแผนเมือง Chandigarh ในอินเดีย

1. Villa La Rocha/Janneret ในปารีส

ในปี 1923 สถาปนิกได้สร้างบ้าน 2 หลังสำหรับนายธนาคาร Raoul La Roche และ Albert Jeanneret พี่ชายของเขา ในโครงการนี้เป็นครั้งแรกที่คุณสมบัติหลักของสไตล์ของผู้แต่งของสถาปนิกซึ่งเราจำงานของเขาได้ปรากฏขึ้น: สีขาว, ระนาบแนวตั้งขนาดใหญ่, รูปทรงปริซึม ปัจจุบันมูลนิธิเลอ กอร์บูซีเยร์กำลังดำเนินการก่อสร้างวิลล่า ลา โรชา

2. วิลล่าซาวอยในพัวส์ซี

เมื่อไม่นานมานี้ Savoy Villa และ Moscow Melnikov House ได้กลายเป็นอนุสรณ์สถานพี่น้องกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปีแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมรัสเซีย-ฝรั่งเศส 2016-2017 ทั้งคู่เป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยในสถาปัตยกรรม ในโครงการของ Villa Savoy เลอกอร์บูซิเยร์ได้รวบรวมความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมดของเขาซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "ห้าจุดเริ่มต้นของสถาปัตยกรรม": เสาเข็มแทนที่จะเป็นฐานรากปกติ, อาคารสีขาวเรียบ, กระจกแถบแนวนอน, หลังคาแบนซึ่ง จัดสวนได้ วางแผนสถานที่ฟรี

3. อาคาร Tsentrosoyuz ในกรุงมอสโก

โชคดีสำหรับเรา อาคารที่ออกแบบโดย Le Corbusier ก็ถูกสร้างขึ้นในมอสโกวเช่นกัน Tsentrosoyuz สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2471 ถึง 2478 และในช่วงเวลานี้สถาปนิกมามอสโคว์มากกว่าหนึ่งครั้งซึ่งเขาได้พบกับบุคคลสำคัญของโซเวียตเปรี้ยวจี๊ด - พี่น้อง Vesnin, Konstantin Melnikov, Moses Ginzburg Tsentrosoyuz ไม่ใช่อาคารสำนักงานทั่วไปและเป็นตัวอย่างของรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ สำหรับการก่อสร้างของรัสเซีย การใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นประสบการณ์ใหม่โดยสิ้นเชิง ด้วยความช่วยเหลือจากเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัย ​​เลอ คอร์บูซีเยร์สามารถใช้หลักการวางแผนอย่างอิสระอันเป็นที่รักของเขา รวมทั้งจัดหาระบบปรับอากาศภายในเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบาย บันไดทางลาดที่ไม่มีที่สิ้นสุดสร้างการตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ของอาคาร เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2558 อนุสาวรีย์ของ Le Corbusier ได้รับการเปิดเผยที่ด้านหน้าของอาคารบนถนน Myasnitskaya

4. โบสถ์ใน Ronchamp

สถาปนิกได้รับคำสั่งให้สร้างโบสถ์ใน Ronchamp ในปี 1950 ที่นี่เขาสร้างรูปแบบสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่งของอาคาร ซึ่งไม่เหมือนกับปริมาตรที่ถูกต้องทางเรขาคณิตก่อนหน้านี้ Le Corbusier ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพธรรมชาติ ทำให้หลังคาดูเหมือนกระดองปูหรือเปลือกหอย พื้นที่ด้านในของโบสถ์สว่างไสวด้วยไฮไลท์หลากสีจากหน้าต่างกระจกสีที่ผนังด้านใต้ของอาคาร

5. หน่วยที่อยู่อาศัยใน Marseille

ในโครงการนี้ สถาปนิกได้ตระหนักถึงความฝันของเขาเกี่ยวกับ "เมืองแห่งสวน" หลังสงคราม มาร์กเซยต้องการพื้นที่ใช้สอยอย่างมาก และเลอ คอร์บูซีเยร์สามารถรองรับอพาร์ทเมนท์ 337 ห้องในโครงคอนกรีตเสริมเหล็กได้ ในขณะที่สร้างสภาพความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย บ้านถูกสร้างขึ้นบนเสาที่ทรงพลังซึ่งวางท่อสื่อสารไว้ภายใน พื้นที่ใช้สอยแบ่งออกเป็นหลายชั้น เชื่อมต่อกันด้วย "ถนนอากาศ" บนถนนสายหนึ่งมีการจัดบริการจัดหาสิ่งของทั่วไปและโรงแรมและชั้นบนสุดได้รับโรงยิมและโรงเรียนอนุบาล

ในการหุ้มอาคาร เลอ กอร์บูซิเยร์ใช้คอนกรีต "ดิบ" (béton brut) เป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาเขาใช้ในการก่อสร้างพระราชวังแห่งรัฐสภาในจัณฑีครห์

6. คอนแวนต์ La Tourette ในเมืองลียง

อารามอันเงียบสงบสร้างขึ้นในสไตล์เลอกอร์บูซีเยทั้งหมด อาคารนี้สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยมีลานภายในแบ่งเป็นห้องแสดงภาพที่มีหลังคา รูปลักษณ์ของนักพรตของอารามผสมผสานกับการใช้งานที่น่าทึ่งซึ่งสถาปนิกยืมมาจากโครงการอาคารอพาร์ตเมนต์

พื้นที่ของอารามมีห้องขังสำหรับพระสงฆ์ 100 รูป โบสถ์ พื้นที่สาธารณะพร้อมหอสมุด ห้องสมุด และห้องประชุม เช่นเดียวกับในโครงการอื่น ๆ ของเขา สถาปนิกจะเจือจางสีเทาด้วยจุดสีอย่างแน่นอน ที่นี่เขาทาสีโบสถ์ที่อยู่ติดกับโบสถ์ด้วยสีน้ำเงิน แดง และเหลือง

7. โครงการเมือง Chandigarh ของอินเดีย

สำหรับเลอกอร์บูซิเยร์แล้ว จัณฑีครห์เป็นโอกาสพิเศษครั้งแรกในการสร้างเมืองใหม่ทั้งหมด ผลที่ตามมาก็คือเขาได้ทำลายแผนของวงดนตรีและการก่อสร้างอาคารของ Capitol ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของเมือง การก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหลือได้รับความไว้วางใจจากสถาปนิกชาวอังกฤษและอินเดีย หนึ่งในโครงการที่สำคัญที่สุดที่เลอ คอร์บูซีเยร์สร้างขึ้นในจัณฑีครห์คือพระราชวังแห่งสภา ได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นฉบับและสมบูรณ์ที่สุดในแง่ของการใช้งาน ในห้องโถงด้านในขนาดใหญ่สถาปนิกได้วางหนังสือไว้หลายเล่ม - ห้องโถงของ Upper Chamber ที่มีหลังคาเคลือบในรูปแบบของปิรามิดและห้องประชุมในรูปแบบของไฮเพอร์โบลอยด์ ภายนอกอาคารโดดเด่นด้วยส่วนหน้าอันแปลกประหลาดพร้อมระเบียงโค้งที่หันหน้าเข้าหาศาลากลาง

เลอ คอร์บูซิเยร์(Le Corbusier) (1887-1965) สถาปนิกชาวฝรั่งเศส นักทฤษฎีสถาปัตยกรรม ศิลปิน นักออกแบบ Le Corbusier (ชื่อจริง - Charles Edouard Jeanneret) เกิดที่ La Chaux-de-Fonds ในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2430 เขาศึกษาสถาปัตยกรรมกับ J. Hoffmann ในเวียนนา (1907), O. Perret ในปารีส (1908-1910), P. Behrens ในเบอร์ลิน (1910-1911) ในปีพ.ศ. 2465 ร่วมกับปิแอร์ จีนเนอเรต์ ลูกพี่ลูกน้องของเขา เขาได้ก่อตั้งเวิร์กช็อปสถาปัตยกรรมในปารีส พวกเขายังคงทำงานร่วมกันจนถึงปี 2483 ในปี 1920 Le Corbusier และกวี P. Derme ได้สร้างนิตยสารเชิงโต้เถียงแนวหน้า "Esprit Nouveau" (ตีพิมพ์ในปี 2463-2468) จากหน้าที่โฆษณาชวนเชื่อของแนวคิด functionalist ฟัง ในหนังสือ "To Architecture" (1923), "Urbanism" (1925) และในบทความหลายฉบับที่ตีพิมพ์ใน Esprit Nouveau นั้น Le Corbusier ได้กำหนดหลักการห้าประการของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่อันโด่งดังของเขา ซุ้ม, หน้าต่างริบบิ้น , หลังคาแบนพร้อมระเบียงสวน, เค้าโครงภายในฟรี) หลักการเหล่านี้รวมอยู่ในการสร้าง Villa "Savoy" ในปัวส์ซีใกล้กับปารีส (พ.ศ. 2472) จากนั้นจึงสร้างหอพักสำหรับนักศึกษาชาวสวิสในมหาวิทยาลัยในปารีส (พ.ศ. 2473-2475)

Le Corbusier เป็นเจ้าของโครงการวางผังเมืองแบบยูโทเปียหลายโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อจัดระเบียบชีวิตในเมืองในแนวตั้งหลายชั้น ผังเมืองปกติแบ่งออกเป็นโซนของหน้าที่ต่าง ๆ ได้รับคำสั่งอย่างเคร่งครัดจากสถาปัตยกรรมและเปรียบได้กับการทำงานของเครื่องจักร กิจกรรมของผู้คน (แผน Voisin สำหรับปารีส และแผนสำหรับอุปกรณ์ใหม่ของ Buenos Aires, Algiers, Antwerp เป็นต้น) หนึ่งในโครงการเหล่านี้มองเห็นการปรับโครงสร้างของมอสโกตามแผนปกติ แต่ไม่ได้คำนึงถึงอาคารประวัติศาสตร์และภูมิทัศน์ ในรัสเซียตามโครงการของ Le Corbusier อาคาร Tsentrosoyuz ถูกสร้างขึ้นบนถนน Myasnitskaya (พ.ศ. 2471-2476 โดยมีส่วนร่วมของสถาปนิก N.D. Colli) เขายังเป็นเจ้าของหนึ่งในโครงการของ Palace of Soviets อาคารของ Le Corbusier ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และต้นทศวรรษที่ 1940 รวมถึงอาคารของ Salvation Army Center ในปารีส (1932-1933) และกระทรวงศึกษาธิการและสุขภาพในรีโอเดจาเนโร (1937-1943 ร่วมกับสถาปนิกอีกจำนวนหนึ่ง)

ในปี 1940 Le Corbusier ได้พัฒนาระบบปริมาณฮาร์มอนิกตามสัดส่วนของร่างกายมนุษย์ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการออกแบบสถาปัตยกรรม เธอถูกเรียกว่า "modulor" ในปี พ.ศ. 2491-2495 เขาได้สร้าง "หน่วยที่อยู่อาศัย" ในมาร์กเซย์ ซึ่งเป็นอาคารสีสันสดใสสูง 17 ชั้นที่ติดตั้งเครื่องตัดแสงแดด ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำงานด้วยตนเองได้ แต่แนวคิดนี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้ ต่อจากนั้น เขาสร้างโบสถ์นอเทรอดามดูโอในรอนชอง (พ.ศ. 2493-2496); แผนแม่บทเมืองและอาคารบริหารในจัณฑีครห์ เมืองหลวงของรัฐปัญจาบของอินเดีย (พ.ศ. 2493-2500); พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติในโตเกียว (2500-2502); ศูนย์ศิลปะแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในเคมบริดจ์ในสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2507); โรงพยาบาลในเวนิส (พ.ศ. 2508)

Le Corbusier เป็นผู้เขียนเอกสารและบทความประมาณ 50 ฉบับ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาคือ "To Architecture" ("Vers une architecture", 1923); "ความเป็นเมือง" (Urbanisme, 1925); "เมื่ออาสนวิหารเป็นสีขาว" (Quand les cathedrales etaient blanches, 1937); "สามสถาบันมนุษย์" (Les Trois Etablissements humins, 1945) ในปีพ. ศ. 2461 ร่วมกับ Ozenfant เขากลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งขบวนการผู้บริสุทธิ์ในการวาดภาพ

บทบรรณาธิการ

สู่งานสถาปัตยกรรม แปลโดย V.N. Zaitseva
บทคัดย่อ

การวางผังเมือง. แปลโดย V.N. Zaitseva
บทบัญญัติทั่วไป
คำสั่ง
เมืองที่ทันสมัย
เมืองทันสมัยที่มีประชากรสามล้านคน
ผังเมือง
ใจกลางกรุงปารีส
"แผน Voisin" และประวัติศาสตร์ของปารีส

มัณฑนศิลป์วันนี้. แปลโดย V.N. Zaitseva

จิตวิญญาณใหม่ในสถาปัตยกรรม แปลโดย V.V. Fryazinova

ชี้แจงเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง แปลโดย V.N. Zaitseva
"แผน Voisin" สำหรับปารีส บัวโนสไอเรสจะกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกได้หรือไม่?
บรรยากาศของมอสโก

เมืองเรืองแสง แปลโดย V.N. Zaitsev
อากาศของเมือง
วิธีแก้ปัญหาของปารีส?
"ฟาร์มสดใส"
“หมู่บ้านสดใส” หรือหมู่บ้านสหกรณ์

ปืน ปลอกกระสุน? อนุญาตให้ออกไป! ที่อยู่อาศัย? โปรด! คุณชอบที่จะต่อสู้ไหม? แปลโดย V.N. Zaitsev

กฎบัตรเอเธนส์ แปลโดย V.V. Fryazinova
บทบัญญัติทั่วไป เมืองและภูมิภาค
สถานะของเมืองในปัจจุบัน คำติชมและการเยียวยา
มรดกทางประวัติศาสตร์ของเมือง
บทสรุป. บทบัญญัติพื้นฐานของหลักคำสอน
หมายเหตุเกี่ยวกับการประชุมระหว่างประเทศของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

คอมเพล็กซ์ที่อยู่อาศัยใน Marseille แปลโดย V.N. Zaitsev
ประณาม
มุมมองด้านบน
เรื่อง
วงจรสุริยะยี่สิบสี่ชั่วโมง
เงื่อนไขพื้นฐานของเสรีภาพส่วนบุคคล
ชีวิตครอบครัว
เทคนิค
การสื่อสาร
การดำเนินการ
บทสรุป
ข้อสรุป
ตั้งแต่แผนที่ยุโรปไปจนถึงการอยู่อาศัยของมนุษย์ไปจนถึงความสมดุลทางเทคนิคและสังคมใหม่
Marseille ขวดและลังขวด
ในการเดินทางไกลปี 1907-1950 และโปรแกรมสำหรับอนาคต
โปรแกรมสำหรับอนาคต

สามสถาบันของมนุษย์ แปลโดย V.N. Zaitsev
“โรงงานสีเขียว”
อาคารพักอาศัย
โรงงานอุตสาหกรรม

โมดูเลเตอร์ แปลโดย V.V. Fryazinova
สภาพแวดล้อม ขอบข่าย เงื่อนไข และพัฒนาการของงานวิจัย
ลำดับเหตุการณ์

จดหมาย บันทึก ฯลฯ แปลโดย V. N. Zaitsev
ห้าจุดเริ่มต้นของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่
ในงานเลี้ยงรับรองกับรัฐมนตรีกระทรวงการก่อสร้าง นายซูโดร
จดหมายเปิดผนึกถึงท่านนายอำเภอ
ภาพสะท้อน
ประกาศในการประชุมเชิงปฏิบัติการของ Le Corbusier
ถ้อยแถลงของเลอ คอร์บูซีเยร์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2502
จดหมายจาก Le Corbusier ถึงนายกเทศมนตรีเมืองเวนิส
จดหมายจาก Le Corbusier ถึงกลุ่มสถาปนิก Johannesburg

ผลงานของ เลอ คอร์บูซีเยร์
อาคารที่สร้างเสร็จแล้ว
โครงการที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง
งานวรรณกรรม

คำต่อท้าย เค.ที. โทปูริเดซ

บทบรรณาธิการ

ชื่อของเลอ กอร์บูซิเยร์ ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่โดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรม นักทฤษฎีสถาปัตยกรรมสมัยใหม่และศิลปะในเมือง เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลก

Le Corbusier ได้ทิ้งมรดกทางวรรณกรรมไว้มากมายซึ่งแยกออกจากงานของเขาไม่ได้

เป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษที่ Le Corbusier สนับสนุนการสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ การวางผังเมืองใหม่ เพื่อให้ทุกคนและทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม เขาเผยแพร่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สุนทรพจน์เชิงโต้แย้ง หนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีสถาปัตยกรรมและศิลปะ

หนังสือเล่มแรกของเขาชื่อ The Development of theมัณฑนศิลป์ในประเทศเยอรมนี ตีพิมพ์ในปี 1911 เมื่อผู้เขียนอายุ 24 ปี ตั้งแต่นั้นมา Le Corbusier จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต (พ.ศ. 2508) ก็ไม่ละทิ้งปากกา ปกป้องความคิดของเขา

ในหนังสือ Toward an Architecture ตีพิมพ์ในปี 1923 เลอ กอร์บูซีเยร์ได้สรุปพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรมของเขา จากนั้นเราเผยแพร่เพียงส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนซึ่งให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับลัทธิความคิดสร้างสรรค์ของอาจารย์และข้อความอื่น ๆ ที่พัฒนาวิทยานิพนธ์เหล่านี้

จากงานทุน "การวางผังเมือง" ที่ตีพิมพ์ในปารีสในปี พ.ศ. 2468 คอลเลกชั่นนี้รวมถึงส่วนที่เลอกอร์บูซิเยร์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงโครงการเมืองสมัยใหม่ของเขาสำหรับผู้อยู่อาศัย 3 ล้านคนและโครงการสร้างศูนย์กลางปารีสขึ้นใหม่ (ที่เรียกว่า " แผนวอยซิน").

คอลเลกชั่นนี้ยังรวมถึงข้อความที่ตัดตอนมาจากหนังสือ: "มัณฑนศิลป์วันนี้" (1925), "Almanac of Modern Architecture" (1926), "ชี้แจงเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของสถาปัตยกรรมและการวางผังเมือง" (1930), "Radiant City" (1935) ), "สามสถาบันมนุษย์" (2488).

จากหนังสือ "Moduleur" (1950) มีการแปลข้อความที่ตัดตอนมาซึ่งสรุปหลักการพื้นฐานของระบบการสร้างองค์ประกอบและการจัดสัดส่วนที่สร้างขึ้นโดย Le Corbusier

หนังสือของ Le Corbusier กฎบัตรแห่งเอเธนส์ (1943), The Residential Complex in Marseille (1950) มีเนื้อหาครบถ้วน นอกจากนี้ ของสะสมยังรวมถึงจดหมายและบันทึกของเลอ กอร์บูซิเยร์บางส่วนที่โซฟี ดาเรียรวบรวมไว้ในหนังสือของเธอ เลอ กอร์บูซิเยร์ (1964)

ในหนังสือและบทความของเขาเกี่ยวกับทฤษฎีการวางผังเมืองและสถาปัตยกรรม เลอ กอร์บูซิเยร์ก้าวไปไกลกว่างานอาชีพแคบๆ และหยิบยกปัญหาสังคมที่ลึกซึ้ง

สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือการวิพากษ์วิจารณ์สภาพความเป็นอยู่ในเมืองต่างๆ ของโลกทุนนิยมอย่างเฉียบคมและไร้ความปรานี แน่นอน นักมนุษยนิยมผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ไม่เข้าใจว่าในเงื่อนไขของการถือครองที่ดินส่วนบุคคล การตัดสินใจวางผังเมืองอย่างกล้าหาญที่เขาหยิบยกมานั้นไม่สามารถดำเนินการได้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ เลอ คอร์บูซีเยร์มักพยายามประนีประนอมกับผู้ที่เข้ากันไม่ได้โดยไม่ทราบปรัชญาของลัทธิมาร์กซ-เลนิน

แต่โดยภาพรวมแล้วเขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เขาอยู่ข้างความก้าวหน้า เสรีภาพ และความยุติธรรมเสมอ ในปี 1938 เลอกอร์บูซีเยออกมาต่อต้านผู้ที่กำลังเตรียมสงครามโลกครั้งที่สองอย่างรุนแรง ในปีพ.ศ. 2493 ร่วมกับกลุ่มหัวก้าวหน้าคนอื่นๆ เขาได้ลงนามในคำอุทธรณ์สตอกโฮล์มเพื่อสันติภาพ

Le Corbusier เป็นนักประชาสัมพันธ์ที่มีสีสันด้วยรูปแบบการนำเสนอที่แปลกประหลาดมาก รูปแบบของงานวรรณกรรมของเขานั้นด้อยกว่าเนื้อหาเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ เขามักจะหันไปใช้อติพจน์, ความขัดแย้ง, การทำซ้ำโดยเจตนา สิ่งสำคัญสำหรับเขาคือการนำความคิดของเขามาสู่ผู้อ่านด้วยวิธีที่สั้นที่สุด เขามักจะพยายามเพื่อความชัดเจนในการนำเสนอและความชัดเจน เขาเรียกร้อง เขาเรียกร้อง เขาวิจารณ์อย่างรุนแรง แม้ว่าเลอ กอร์บูซิเยร์จะแสดงแนวคิดที่เป็นข้อขัดแย้ง ผู้อ่านก็ดูเหมือนจะรวมอยู่ในข้อโต้แย้งนี้ อุดมด้วยแนวทางเชิงตรรกะของความคิดของเขาและวาดข้อสรุปของเขาเอง

รูปภาพจากอาคารที่สำคัญที่สุดที่สร้างขึ้นตามการออกแบบของ Le Corbusier, โครงการ, ภาพร่าง, ไดอะแกรม, ภาพวาด, ภาพวาดและการทำสำเนาภาพวาดและประติมากรรมของเขาซึ่งอยู่ในคอลเลกชัน (เลือกและจัดทำโดย K. T. Topuridze) จะนำเสนอผู้อ่านด้วยสายตา ด้วยแนวคิดของปรมาจารย์ในแผนและการดำเนินการและจะช่วยให้ได้แนวคิดเกี่ยวกับห้องปฏิบัติการสร้างสรรค์ของสถาปนิกที่ใหญ่ที่สุดในยุคของเรา