นักร้องเสียงห้าวเป็นคนอเมริกัน การเลือกเพลง: ผู้ชายที่มีเสียง "ผู้ชาย"

ตามที่สัญญาไว้ฉันเสนอตัวเลือกสำหรับดนตรีประเภทต่าง ๆ ที่แสดงโดยผู้ชายที่มีทุน M ตอนนี้คุณจะเข้าใจทุกอย่าง ไม่ได้แตะเลยจริงๆ ศิลปินยอดนิยม(เป็นที่นิยมไม่ใช่ในแง่ของแนวเพลง แต่ในแง่ของการจัดเรต) เรารู้จักพวกเขาดีอยู่แล้ว ฉันเสนอคนสดใหม่ มีของเก่าด้วย แต่ไม่ทรุดโทรมมาก ... โดยทั่วไปสนุกกับมัน .... *************************** *** ********************************************* พระกรุเล หนุ่มวัย 17 !!! โปรดใส่ใจเป็นพิเศษเมื่อฟัง!))) ถ่ายรูปไว้นานแล้ว เพราะโรงเรียนอนุบาลเป็นเช่นนั้น ... )))))))
“ก่อนที่ฉันจะมีเงินซื้อ Macintosh ฉันถูกบังคับให้เขียนเพลงด้วยแล็ปท็อป Toshiba ห่วยๆ ฉันต้องดาวน์โหลดโปรแกรมเวอร์ชันฟรีที่อนุญาตให้ฉันบันทึกไฟล์ได้เพียงวันเดียว - ดังนั้นฉันจึงต้องเล่นเพลงให้เสร็จภายในคืนเดียว มันกระตุ้นฉันอย่างมีพลัง - แต่ถ้าฉันไม่มีเวลา เพลงก็หายไป” ถูกต้อง!))))))))) และเขาเขียนด้วยจิตวิญญาณของ "ผู้พูด" คนก่อนหน้า - - dubstep, ทางเลือก, อินดี้ ฯลฯ เนื่องจากอายุมีความรู้สึก "ชื้น" ของงาน แต่ศักยภาพนั้นค่อนข้างใหญ่ คิงครูล King Krule - ภาพเหมือนในสีดำและสีน้ำเงินพีท ยอร์น - นักร้องชาวอเมริกันนักร้องนักแต่งเพลงและมือกีตาร์ที่ได้รับครั้งแรก การยอมรับในระดับสากลเมื่อเพลงของเขา - รวมถึงเพลง "Strange Condition" - ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Me, Myself & Irene ในปี 2000 สำหรับผู้ฟังที่หลากหลายเขาเป็นที่รู้จักจากข้อเท็จจริงที่ว่าเขาบันทึกอัลบั้มร่วมกับ Scarlett Johansson พีท ยอร์น พีท ยอร์น ************************************************************************* เจคอบ ดีแลนรู้จักกับ Bob Dillon ลูกชายสุดหล่อหลายคน เมื่อเป็นศิลปินเดี่ยวของกลุ่ม วอลล์ฟลาวเวอร์นอกจากนี้เขายังมีเสียงที่ไพเราะมาก Solo Jacob แสดงดนตรีในสไตล์คันทรี, ป๊อป, ผู้แต่ง ... โดยทั่วไปไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในกลุ่ม และทีมแสดงเพลงร็อค อัลเทอร์เนทีฟ ป๊อปร็อค โดยทั่วไปแล้วยาโคบถูกโยนจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง แต่สาระสำคัญยังคงอยู่ - เสียงที่มีมนต์ขลัง จาคอบ ดีแลน จาคอบ ดีแลน วอลล์ฟลาวเวอร์ The Wallflowers - จดหมายจากดินแดนรกร้าง *********************************************************************** ไรอัน บิงแฮมอดีตนักขี่โรดีโอผันตัวเป็นนักดนตรี เกิดในปี 1981 เขาออกอัลบั้มหลายชุด: "Mescalito" (2007) และ "Roadhouse Sun" (2009) อัลบั้มที่สาม "Junky Star" ออกร่วมกับกลุ่ม The Dead Horses ไรอัน บิงแฮม ไรอัน บิงแฮม *********************************************************************** ตำนานจอห์นนักร้องชาวอเมริกันที่แสดงดนตรีแนวอาร์แอนด์บี โซล นีโอโซล โดยทั่วไปแล้วดนตรีเป็นสิ่งที่พิเศษที่สุด) ฉันจริงจัง ฟังดูหายากและเป็นที่รู้จักมาก เพลงฮิตที่สุดของเขา ขับร้อง แค่เราไม่แคร์ จากล่าสุดไม่ดังอย่างที่ทุกคนรู้************************************************** ***** ********************* ถ้าคุณต้องการเสียงผู้ชายมากๆ คุณมาที่นี่เพื่อ สก็อตตี้ แมคครีรี่. นั่นคือผู้ที่แม้จะมีอายุน้อย แต่ก็มีเสียงร้องที่ยอดเยี่ยมซึ่งสามารถทำให้หลงเสน่ห์ได้ อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมอีกคน การแสดงดนตรี. เป็นที่น่าสังเกตว่าเด็กชายร้องเพลงสไตล์คันทรีเป็นส่วนใหญ่ แต่เพลงเพราะมาก และเสียงนั้น เสียงนั้น! สก็อตตี้ แมคครีรี่ สก็อตตี้ แมคครีรี่ *********************************************************************** เดวิด คุกนักร้องชาวอเมริกัน. ผู้ชนะรายการทีวีเพลง American Idol ปี 2008 ก่อนการแข่งขันเขาได้ออกอัลบั้มแรก - Analog Heart (2549) หลังจากชัยชนะ สตูดิโออัลบั้ม"เดวิด คุก" (2551) และ "เช้าวันนี้" (2554) เดวิด คุก เดวิด คุก************************************************** ***** ************************* ฉันพยายามรวบรวมนักร้องที่หลากหลายสำหรับโพสต์วันนี้ เราได้สะสมมากขึ้น แต่มันมากเกินไปสำหรับปัญหาเดียว ฉันจะทำมันในครั้งต่อไป ฉันหวังว่าคุณจะพบสิ่งใหม่และน่าสนใจสำหรับตัวคุณเองหรือแบ่งปันความประทับใจเกี่ยวกับไอดอลของคุณ...)))

“ครั้งหนึ่งในช่วงต้นทศวรรษที่ 80 ของศตวรรษที่แล้ว ในฐานะ “มรดกตกทอด” จากพี่สาวของฉันซึ่งเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในอีกเมืองหนึ่ง ฉันได้เทปคาสเซ็ตต์ที่ไม่มีเครื่องหมายระบุตัวตน เพลงหลายเพลงถูกบันทึกโดยชาวอิตาลีที่มี เลียนแบบไม่ได้ เสียงแหบ. หลายปีผ่านไป...เทปนี้หายไปนาน ดังนั้น ... เมื่อฉันมีคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ฉันมีเป้าหมาย - กู้คืนคลังเพลงเก่าของฉัน ด้วยความยากลำบากอย่างมาก จากการลองผิดลองถูก ฉันจึงได้รู้ว่านั่นคืออัลบั้ม "Quante volte...ho contato le stelle" ของ Mia Martini ในปี 1982 ในเวลานั้นความนิยมของเวทีอิตาลีอยู่ที่จุดสูงสุด แต่ถึงอย่างนั้น ในตอนเป็นวัยรุ่น ฉันก็ตระหนักว่ามันเป็นอย่างอื่น เพลงเหล่านี้ไม่ใช่เพลงฮิตของอิตาลีแบบสามคอร์ดแบบแฮ็กนีย์อย่างเพลงของ Albano, Pupo หรือ Ricci และ Believe (แม้ว่าฉันจะชอบพวกเขามากก็ตาม) เพลงของ Mia ในทางใดทางหนึ่ง ผลงานไพเราะในรูปแบบที่ทันสมัย ​​(ในขณะนั้น) เสียงที่น่าทึ่งพร้อมเสียงแหบที่น่าหลงใหล การเปลี่ยนจากหัวข้อหนึ่งไปยังอีกหัวข้อหนึ่งอย่างผิดปกติ และการระเบิดอารมณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในแต่ละเพลง น่าเสียดายที่เธอไม่อยู่กับเราแล้ว แม้ว่าจะไม่ แต่เธอยังคงอยู่กับเราพร้อมกับเพลงของเธอ และมันจะคงอยู่ตราบเท่าที่เราฟังมัน และเพลงโปรดของ Mia คือ "Io appartengo a te" (I belong to you)"

แสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง

นักร้องและนักแต่งเพลง Mia Martini ชื่อจริง Domenica Berte เกิดที่ Bagnara, Calabria เมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2490

บิดา จูเซปเป ราดาเมส แบร์เต (พ.ศ. 2464) ศาสตราจารย์ด้านภาษาละตินและกรีก ซึ่งต่อมาได้เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน มารดามาเรีย ซัลวินา ดาโต ครูโรงเรียนประถม, เสียชีวิตในปี 2546
เธอใช้ชีวิตวัยเด็กใน Macerata ใน Porto Recanati กับพ่อแม่และน้องสาวสามคนของเธอ Loredana, Leda และ Oliva พี่สาวคนโตคนที่สองเธอชอบร้องเพลงฟังเพลงและตั้งแต่อายุยังน้อยก็เริ่มแสดงในงานเทศกาลพื้นบ้านในท้องถิ่นเข้าร่วมการแข่งขันหลายครั้งสำหรับเยาวชนที่มีพรสวรรค์
ในปี 1962 มีมี่อายุสิบห้าปี (ย่อจาก โดเมนิกา ) เกลี้ยกล่อมให้แม่พาเธอไปมิลานเพื่อหาค่ายเพลงที่จะดูแลอาชีพของเธอในอนาคต
Mia Martini เด็กสาวที่ฉลาดมากด้วยเสียงที่มีชีวิตชีวาและมีแนวโน้มได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลง Juke Box

ในปี พ.ศ. 2506 มีมี่บันทึกซิงเกิ้ลแรกของเธอ "I miei baci non puoi scordare" ซึ่งออกภายใต้ชื่อจริงของเธอคือ Mimi Berte ซิงเกิ้ลนี้ได้รับการสังเกตและบทความเชิงบวกหลายบทความเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่มีพรสวรรค์คนนี้ได้รับการตีพิมพ์ในสื่อและ "Tuttomusica" รายสัปดาห์รวมถึงเธอในกลุ่มที่เรียกว่า "greffa" ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพรสวรรค์ในการโจมตี

ในขณะเดียวกัน Mimi ก็ปรับเสียงของเขาให้สมบูรณ์แบบและปล่อยเพลง "In summer" และ "Il magone" (1964) ซึ่งทำให้เขาได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกเป็นครั้งแรก ควรมีคำเชิญให้เข้าร่วมในฐานะแขกรุ่นเยาว์ รายการโทรทัศน์"Teatro 10" พร้อมการตีความ "E adesso che abbiamo litigato"

ในปี 1966 ซิงเกิ้ล "Non sar? tardi / Quattro settimane" ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีใครสังเกตเห็น Mimi บันทึกเพลงเหล่านี้ด้วยความประทับใจจากผลงานของ Etta James และ Aretha Franklin
ครอบครัว Berte ย้ายไปอยู่ที่กรุงโรม ที่ซึ่ง Mimi เรียนภาษา เรียนที่สถาบันศิลปะ และ... อุทิศร่างกายและจิตวิญญาณให้กับการพบปะสังสรรค์ ในช่วงปลายยุค 60 เขาทำงานในวงดนตรีร็อค La Macchina ชื่อของวงดนตรีเดียวกันนี้ถูกเปลี่ยนเป็น I Posteri ในภายหลังเมื่อกลายเป็นวงดนตรีสนับสนุนของ Mia
คืนหนึ่งในปี 1969 อาชีพและชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อ Mimi Berte เพื่อนของเธอ Renato Zero และ Loredana Berte น้องสาวของเธอถูกตำรวจควบคุมตัว มีมี่มีกัญชาครึ่งกรัมอยู่ในกระเป๋า ถูกจับและติดคุกสี่เดือน เหตุการณ์นี้หยุดอาชีพของเธอเป็นเวลาหลายปี
อันเป็นผลมาจากเรื่องอื้อฉาวแอกยังคงอยู่กับเธอตลอดชีวิต - นักร้องที่ไม่มั่นคงและไม่น่าเชื่อถือและแผ่นดิสก์ "Coriandoli ใช้เวลา" ที่บันทึกไว้เมื่อวันก่อนไม่ได้ถูกเผยแพร่เลยเนื่องจากเหตุการณ์เหล่านี้

หลังจากเข้าร่วมการบันทึกเสียงร่วมกับนักร้องคนอื่นๆ ในฐานะนักร้องสนับสนุน มีมี่ เบิร์ตก็กลับมา อาชีพเดี่ยวด้วยผลงานที่ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้นในสไตล์บลูส์และโซล โดยได้รับอิทธิพลจาก Ella Fitzgerald และ the Beatles
Alberigo Crocetta ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Piper หลงใหลในเสียงของเธอ ตัดสินใจโปรโมตเธอในเวทีระดับนานาชาติ แทนที่ชื่อของเธอด้วยชื่อที่ดังกว่า "Mia Martini" Mia เพื่อเป็นเกียรติแก่ Mia Farrow และ Martini ได้รับเลือกจาก คำภาษาอิตาลีที่มีชื่อเสียงที่สุดสามคำในต่างประเทศ (สปาเก็ตตี้ พิซซ่า และมาร์ตินี่) เขาสร้างภาพลักษณ์ของยิปซีให้กับเธอโดยมีแหวนมากมายในมือของเธอและหมวกกะลาบังคับ

ในฤดูใบไม้ผลิปี 1971 Martini ได้รับการติดต่อจากตัวแทนของ RCA ซึ่งเสนอให้เธอบันทึกอัลบั้ม ซึ่งเธอต้องเปลี่ยนนักดนตรีที่มาพร้อมกัน
ด้วยความช่วยเหลือของ Premiata Forneria Marconi และ Osanna และอีกกลุ่มหนึ่ง (ซึ่งรวมถึงสมาชิกของ Free Love) เธอได้บันทึกเสียงซิงเกิลแรกของ RCA ชื่อ "Padre davvero" แม้ว่าหน้าปกจะยังคงเขียนว่า "Mia Martini e La Macchina"

กับ กลุ่มใหม่เธอเข้าร่วมในเทศกาลแรก "Festival d" avanguardia e nuove tendenze "ใน Viareggio ซึ่งร่วมกับกลุ่ม "La macchina" เธอชนะด้วยเพลง "Padre davvero" ซึ่งเป็นเพลงที่แหวกแนวและไม่สุภาพ ในอีกด้านหนึ่งของแผ่นดิสก์นี้ และ "Amore... amore ... un corno"

ในอัลบั้มแรกของ Mia Martini "Oltre la collina" บางเพลงเขียนโดย Claudio Baglioni ที่มีชื่อเสียง "Oltre la collina" ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ดีที่สุดของเธอในบรรดาผลงานทั้งหมดที่มนุษย์ครึ่งหนึ่งที่อ่อนแอรับรู้ เพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม ได้แก่ "Gesu il mio fratello" และ "Lacrime di Marzo" แม้จะประสบความสำเร็จในการบันทึก แต่ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า

ในปี 1972 จากความร่วมมือระหว่าง Mia และ Bruno Lauzi เพลง "Piccolo uomo" จึงถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในขบวนพาเหรดเพลงฮิตระดับประเทศเป็นเวลา 5 เดือน ได้รับรางวัล Festivalbar และยังประสบความสำเร็จในฝรั่งเศส สเปน และละติน อเมริกา.
ในช่วงเวลาแห่งความสุขและประสิทธิผลนี้ เธอได้เข้าร่วมใน "Mostra internazionale di musica leggera" ในเวนิสพร้อมกับเพลง "Donna sola"

บันทึกเมียหลวง อัลบั้มใหม่"Il giorno dopo" และเธอได้รับเชิญให้ออกทีวีเพื่อเข้าร่วมในรายการพิเศษที่สร้างโดย Lucio Battisti (นักแต่งเพลงชาวอิตาลี) ซึ่งรู้สึกทึ่งกับสไตล์เสียงร้องที่ไม่ธรรมดาของเธอ

โชคไม่ดีที่ชื่อเสียงมาพร้อมกับข่าวซุบซิบสารพัดที่จะวางยาเธอไปตลอดชีวิต”
ในบรรดาเพลงของอัลบั้ม "Il giorno dopo" ควรสังเกตว่า "Ma quale amore" โดย Antonello Venditti ซึ่งเป็นเพลงคัฟเวอร์ของ "Your song" เอลตัน จอห์นและ "Signora" โดย Jean Manuel Serrat แปลโดย Paolo Limiti

Mia Martini ยังคงรวบรวมรางวัล: ชนะรางวัล "Gondola d" oro "(Golden Gondola)" ได้รับเลือก " นักร้องที่ดีที่สุดแห่งปี" ในการลงประชามติ "Sorrisi e canzoni" เธอได้รับรางวัล Palma de Majorca European Critics Award
สำหรับเพลง "Minuetto" ที่เขียนโดย Franco Califano และ Baldan Bembo Mia Martini ได้รับรางวัล Grand Prize "Festivalbar '73"

ในปี 1974 ความร่วมมือกับ Charles Aznavour เริ่มต้นขึ้นซึ่งจุดสุดยอดนั้นถือได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตใน Olympia Hall ที่มีชื่อเสียงในปารีสในปี 1977 ซึ่งเธอแสดงเหมือน Edith Piaf
ความสำเร็จเพิ่มเติมของ Mia Martini ด้วยการเผยแพร่เพลงในอัลบั้มและซิงเกิ้ลเป็นประจำเช่น "Sensi e controsensi", "Un altro giorno per me", "Donna con te" เข้าร่วมที่ Festivalbar ในปี 1975 กับเพลง "Per amarti"

เนื่องจากความไม่ลงรอยกันกับค่ายเพลง Ricordi ทำให้ Mia Martini ยุติสัญญาก่อนกำหนด เมื่อถูกหมายศาล เธอไม่สามารถพิสูจน์สาเหตุของการเลิกราได้ และส่งผลให้เธอถูกบังคับให้จ่ายค่าปรับจำนวนมหาศาล

หลังจากย้ายไปอาร์ซีเอ Mia Martini ได้บันทึกอัลบั้มใหม่ "Che vuoi che sia... se ti ho aspettato tanto"
เพื่อสนับสนุนอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จในระดับปานกลาง RAI ได้เปิดตัวภาพยนตร์สั้นสีเดียวที่กำกับโดย Ruggero Miti

ในปี 1981 หลังจากการผ่าตัดเส้นเสียงที่ซับซ้อนซึ่งทำให้เสียงของเธอเปลี่ยนไป ขอบเขตเสียงของเธอก็กว้างขึ้นและมีเสียงที่แหบมากขึ้น Mia ตัดสินใจว่าตอนนี้เธอสามารถแสดงเป็น Cantautrice (นักร้อง-นักแต่งเพลง) ได้ด้วย
เธอเลือกสไตล์ที่เป็นกลางและเป็นผู้ชายมากกว่าซึ่งห่างไกลจากความเยื้องศูนย์ของอายุเจ็ดสิบและออกอัลบั้ม "" Mimi "" ซึ่งประกอบด้วยเพลงสิบเพลงซึ่งเขียนโดยเธอเกือบทั้งหมดโดย Dick Halligan เรียบเรียง"

ในปี 1982 Mia Martini ไปที่ San Remo พร้อมเพลง Ivan Fossati, "E non finisce mica il cielo" และได้รับรางวัลในฐานะนักแสดงที่ดีที่สุด
ในปีต่อๆ มา Mia ร้องเพลงเฉพาะเพลงที่เธอชอบ ซึ่งได้รับความรักจากแฟนๆ มากขึ้น และทำให้เรามีเพลงที่ไพเราะและน่าสนใจมากขึ้นอีกหลายสิบเพลง

ในปี 1992 Mia Martini ได้รับรางวัลที่สองในเทศกาล Sanremo ด้วยเพลง "Gli uomini non cambiano" ของ Luca Barbarossa ซึ่งเป็นหนึ่งในการแสดงครั้งสุดท้ายของเธอ

ผู้ชายไม่เปลี่ยน

(Gli uomini non cambiano )

ฉันเป็นผู้หญิงคนเดิม
ในความรักกับพ่อของเธอ
สำหรับเขาฉันผิดเสมอ
ฉันเป็นลูกสาวจอมยุ่งของเขา
ฉันพยายามเอาชนะเขา
แต่ฉันไม่เคยประสบความสำเร็จ
เขาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงมัน
เราต้องการชีวิตอื่น

ความอดทนของผู้หญิง
มันเริ่มตั้งแต่อายุ
เมื่อมีครอบครัวเกิดขึ้น
ความเกลียดชังเหล่านี้
และคุณหลงทางในโรงภาพยนตร์
และคุณฝันที่จะจากไป
กับคนแรกที่เข้าใจคุณและผู้ที่โกหก

ผู้ชายไม่เปลี่ยน
ก่อนอื่นพวกเขาพูดถึงความรัก
แล้วพวกเขาก็ทิ้งคุณไว้คนเดียว
ผู้ชายทำให้คุณเปลี่ยนไป
และคุณร้องไห้เป็นพันคืน "ทำไม"
ในขณะที่ผู้ชายฆ่าคุณ
และพวกเขารวมตัวกันกับเพื่อน ๆ

ที่จะหัวเราะเยาะคุณ

ฉันยังร้องไห้เป็นครั้งแรก
บีบที่มุมและบดขยี้
เขาทำและไม่เข้าใจ
เพราะฉันมั่นคงและเงียบงัน
แต่ฉันค้นพบเมื่อเวลาผ่านไป
และรุนแรงขึ้นเล็กน้อย
ผู้ชายใน บริษัท นั้นแย่กว่านั้น
เมื่ออยู่คนเดียวก็ยิ่งมีความกลัวมากขึ้น

ผู้ชายไม่เปลี่ยน.
พวกเขาหาเงินเพื่อซื้อคุณ
แล้วพวกเขาก็ขายคุณในตอนกลางคืน
ผู้ชายไม่กลับมา
และพวกเขาให้ทุกสิ่งที่คุณไม่ต้องการ
แต่ทำไม...

ในวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 มีอา มาร์ตินีถูกพบว่าเสียชีวิตภายใต้สถานการณ์ลึกลับในอพาร์ตเมนต์ของเธอในคาร์ดาโน อัล กัมโป ใกล้กับมิลาน ตามฉบับอย่างเป็นทางการ โคเคนเกินขนาด แต่ Loredana Berte น้องสาวของเธอเชื่อว่าสาเหตุคือ "การใช้ยาเสพติด"

Loredana Berte ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Leda น้องสาวของเธอ เพิ่งยื่นฟ้อง Giuseppe Radames Berte พ่อของเธอ โดยบอกว่าเขามีส่วนรับผิดชอบทางอ้อมต่อการตายของพี่สาวคนดังของพวกเขา

โอลิเวียพี่สาวคนที่สามในสี่คนพูดปกป้องพ่อของเธอว่า “พ่อของฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาด เขาคือ คนทั่วไป"เธอพูด "พวกเขาเองก็พูดไม่รู้เรื่อง แต่ในช่วงสุดท้ายของชีวิตมีมี่ก็สนิทกับเขามากจนเธอย้ายไปอยู่ใกล้เขา ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเป็นไปอย่างกระตือรือร้นเป็นมิตรนอกจากนี้ยังเต็มไปด้วย รัก. "

ก่อนไปพักผ่อน(เป็นครั้งสุดท้าย) มีอาคุยกับพ่อของเธอแล้วบอกลาพ่ออย่างอบอุ่น แล้วจากไป ไม่มีใครเห็นเธอมีชีวิตอยู่อีกเลย

เธอเหงามาก

มีอา มาร์ตินี่

(เมื่อความรักจบลง)

"Almeno Tu Nell" Universo" ซานเรโม 1989

Gli uomini non cambiano

(ผู้ชายไม่เปลี่ยน)

ซาน เรโม, 1992

มีอา มาร์ตินี และโรแบร์โต มูโรโล

"คู"มเม"

ภาษาสเปนในภาษาเนเปิลส์

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ชายอ้วนที่น่าขันที่มีตาเล็กๆ บวมๆ หรือผมสีน้ำตาลผอมแห้งที่มีบุหรี่อยู่ในปาก ไม่สำคัญว่าคุณจะมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์หรือไม่ การร้องเพลงค่อนข้างชวนให้นึกถึงการจูบที่เร่าร้อนเพราะอวัยวะเดียวกันมีส่วนเกี่ยวข้องที่นี่ - ริมฝีปากและลิ้นและ รูปร่างไม่สำคัญอีกต่อไป - เสียงสามารถหลอกลวงรูปลักษณ์ที่ธรรมชาติให้มา เสียงคือการ์ดเสียงที่แสดงภาพเหมือนของจิตวิญญาณของคุณ ไม่ว่าคุณจะดูน่าเกลียดหรือสวยงามเพียงใด ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนี่คือรายชื่อผู้หญิงสิบห้าชื่อซึ่งรวมถึงเจ้าของเสียงที่มีเอกลักษณ์ตลอดกาลในธุรกิจเพลงตามนิตยสาร หินกลิ้ง

รอนนี่ สเปคเตอร์ (ur. เวโรนิกา อีเวตต์ สเปคเตอร์)

เพลงยอดนิยม: Be My Baby ที่รัก ฉันรักเธอ เดินกลางสายฝน

อิทธิพลความคิดสร้างสรรค์: Joey Ramone, Patti Smith, Billy Joel

รอนนี่เป็นสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป โรเน็ตต์เสียงของเธอกลายเป็นคำนิยามสำหรับอายุหกสิบเศษต้น ๆ และดนตรีก็เป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ที่สุดในวงการเพลงร็อกแอนด์โรล เพลงที่มีมนต์ขลังปนความโรแมนติกเล็กน้อย เพลงที่ขับร้องโดย Ronnie เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Patti Smith, Joan Jett และนักร้องคนอื่นๆ อีกมากมาย แต่เพลงเหล่านี้มีผลกระทบมากที่สุดต่อมือกีตาร์ วงดนตรีอีสตรีทสตีเฟน แวน แซนด์

บียอร์ค (Isl. Björk Guðmundsdóttir)

เพลงยอดนิยม: Army of Me มันช่างเงียบเหลือเกิน พฤติกรรมมนุษย์

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: Thom Yorke และ Jonsi

เสียงของเธอเหมือนเงาที่ไม่มีอยู่จริง โทนสีซึ่งไม่ช้าก็เร็วต้องมีการประดิษฐ์ขึ้น จริงอยู่ที่หลายคนลืมไปแล้วว่าผลกระทบจากการปรากฏตัวของเธอในโลกของธุรกิจการแสดงนั้นคาดไม่ถึงเพียงใด เธอมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถร้องเพลงประกอบรายการทีวีไร้สาระและยังคงเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลก คุณสามารถชื่นชมความยิ่งใหญ่ของ Björk ได้อย่างเต็มที่ด้วยการฟังอัลบั้มปี 1997 ของเธอ ทำให้เป็นเนื้อเดียวกันเป็นพระคัมภีร์สำหรับนักร้องในยุคของเรา ในหนึ่งนาที Björk สามารถเร่งความเร็วให้เท่ากับความเร็วของรถไฟด่วน และรีเซ็ตไดรฟ์ของเขาเป็นศูนย์ในวินาทีต่อมา เธอเก่งและไม่เหมือนใคร

คริสติน่า อากีล่าร์ (อังกฤษ) คริสติน่าอากิร่า)

เพลงยอดนิยม: มารในขวด สวยไม่แพ้ใคร

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: Danity Kane และ Kelly Clarkson

ฉันรู้ว่าเธอร้องเพลงได้เฮอร์บี แฮนค็อกกล่าวถึงเพลงคู่ของเธอกับอากีเลราเมื่อสี่ปีที่แล้ว - ชม โอ๊ย ร้องหนักมาก! พูดตามตรง คริสติน่าเพิ่งทำให้ฉันสลบไป. Aguilera มีเสียงที่หนักแน่นและเรียนเก่งพอที่จะอ้างสิทธิ์ในการเป็นราชินีเพลงบลูส์สมัยใหม่ เริ่มตั้งแต่อายุ 11 ปี (นั่นคือตอนที่เธอปรากฏตัวครั้งแรกในรายการทีวี ค้นหาดาว). ในซิงเกิ้ลฮิตของเธอแล้ว Genie ในขวดเห็นได้ชัดว่าเทคนิคของเด็กสาวคนนี้อ้างอิงถึงตัวอย่างมาตรฐานของประเภท

เมวิส สเตเปิลส์ (ur. Mavis Staples)

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: Prince, the Pointer Sisters และ Amy Uvinehouse

ในเวลาที่เพลง นักร้องหลักครองชาร์ตจังหวะและเพลงบลูส์ ความขัดแย้งสูงของนักร้องนำของวง Mavis Staples เป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพสำหรับผู้หญิงที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของตน เราจะไม่ลากคนเข้าโบสถ์ที่ชอบใช้ชีวิตในคลับคุณพ่อ Mavis Roebuck กล่าว ป๊อปลวดเย็บกระดาษ - เราจึงต้องบุกเข้าไปในคลับและเริ่มประกาศที่นั่น เมื่อฉันได้ยิน Mavis ร้องเพลง ฉันรู้ว่าวิวัฒนาการยังไม่สิ้นสุด Bob Dylan กล่าว

แกลดีส์ ไนท์ (ur. แกลดีส์ มาเรีย ไนต์)

เพลงยอดนิยม: ฉันได้ยินมันผ่านต้นองุ่น ไม่ใช่พวกเราคนใดคนหนึ่ง Midnight Train To Georgia

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: Mariah Carey และ Jill Scott

Gladys Knight เป็นนักร้องแนวโซลชาวอเมริกันที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในยุค 60 และ 70 ในฐานะนักร้องนำของวงดนตรี Gladys Knight และ Pipsเธอชอบให้คำแนะนำกับเพื่อนร่วมงาน เช่น เพียงแค่ร้องเพลงและพูดคำที่ชัดเจน. Gladys ให้ความสำคัญกับการแต่งเพลงของเธออย่างจริงจังเสมอมา และไม่เหลือที่ว่างสำหรับการอิมโพรไวส์ Gladys ทำให้ฉันนึกถึงหนังสือเรียน- Mariah Carey กล่าวในพิธีรับอัศวินเข้าสู่ Rock and Roll Hall of Fame - รับมันและเรียนรู้

บอนนี่ ไรท์ (ur. บอนนี่ ลินน์ เรตต์

เพลงยอดนิยม: Nick Of Time ฉันไม่สามารถทำให้คุณรักฉันรักฉันรักผู้ชาย

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: นอราห์ โจนส์, เชอร์รีล โครว์ และ ลูกไก่ Dixie

แพทซี่ ไคลน์ (ur. เวอร์จิเนีย แพตเตอร์สัน เฮนสลีย์)

เพลงยอดนิยม: I Fall To Pieces, Walkin' After Midnight, Crazy

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: Loretta Lynn, Linda Ronstadt และ Kay Dee Lang

Patsy เป็นเจ้าของเสียงต่ำที่เร้าอารมณ์ เธออาจจะเป็นนักร้องคันทรีคนแรกที่บุกเข้าไปในสถานีวิทยุเพลงป๊อปและปูทางให้กับ Dolly Parton, Faith Hill และศิลปินคนอื่นๆ ที่มีความทะเยอทะยานเกินกว่านักดนตรีในตอนนั้น แม้ว่า Patsy จะเล่นคันทรี เธอก็ยังเป็นนักร้องเพลงป๊อปลูซินดา วิลเลียมส์ กล่าว - บางครั้งดูเหมือนว่าเธอได้แสดงเสียงร้องคลาสสิก

โจนี่ มิทเชลล์ (ur. โรเบอร์ตา โจน แอนเดอร์โซ)

เพลงยอดนิยม: ทั้งสองฝ่ายตอนนี้ช่วยฉันด้วยเรื่องการปล้น

อิทธิพลของความคิดสร้างสรรค์: Robert Plant และ Fiona Apple

บทบาทของนักกวีสาวตามแบบฉบับนั้นสืบทอดมาจากมิทเชลจากโจน บาเอซ แต่โจนีก้าวไปไกลกว่านั้นมาก มีการอ้างอิงถึงทั้งแจ๊สและบลูส์ในเพลงของเธออย่างเพียงพอ Joni ได้ยิน Billie Holiday ร้องเพลง Solitude ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เธอก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนเฮอร์บี แฮนค็อก กล่าว เธอมีความแปลก ความรู้สึกของจังหวะ, Bob Dylan กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ RS - เป็นจังหวะในตัวมันเอง

ดัสตี้ สปริงฟิลด์ (ur. แมรี อิโซเบล แคทเธอรีน เบอร์นาเด็ตต์ โอไบรอัน)

เพลงฮิต : ฉันต้องการอยู่กับคุณและลูกชายของนักเทศน์เท่านั้น

อิทธิพลของความคิดสร้างสรรค์: ดัฟฟี่และเอมี่ ไวน์เฮาส์

นักร้องโฟล์คชาวอังกฤษที่มีอาชีพยาวนานถึงสี่ทศวรรษ และได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงทศวรรษที่ 1960 และปลายทศวรรษที่ 1980 คุณจะกลายเป็นนักร้องที่ยอดเยี่ยมได้เมื่อคุณเปิดเผยตัวตนของคุณบนเวที ดัสตี้ไม่เคยกลัวที่จะดูเปราะบางและไม่ปลอดภัย คุณจะจำเสียงนี้ได้ตั้งแต่โน้ตตัวแรก- ดาร์ลีน เลิฟ.

วิทนีย์ ฮูสตัน (n. วิทนีย์ ฮูสตัน)

เพลงฮิต : The Greatest Love Of All ฉันอยากเต้นรำกับใครสักคน ฉันจะ รักเสมอคุณ

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: บียอนเซ่, มารายห์ แครีย์ และแมรี่ เจ. ไบลจ์

วิทนีย์เป็นลูกสาวของนักร้องเพลงกอสเปล ซิสซี ฮูสตัน เติบโตภายใต้การดูแลของอารีธา แฟรงคลินและเกลดีส์ ไนท์ เพื่อนของแม่ของเธอ เมื่อฉันร้องเพลง -จำฮุสตัน , - สำหรับฉันมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะเริ่มพูดเมื่อวิทนีย์อายุได้ 22 ปี เธอได้รับการพิจารณาให้เป็นนักร้องนำในยุคของเธอ อัลบั้มเปิดตัวของเธอมีเพลงฮิตที่ทรงพลังถึง 3 เพลงในคราวเดียว: เก็บความรักทั้งหมดของฉันไว้เพื่อคุณ ฉันจะรู้ได้อย่างไรและ ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทั้งหมด

Nina Simone (Eng. ยูนิซ แคธลีน เวย์มอน)

เพลงยอดนิยม: รู้สึกดี มิสซิสซิปปีก็อดแดม ผู้หญิงสี่คน ฉันอยากรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรที่มีอิสระ

อิทธิพลของความคิดสร้างสรรค์: เจฟฟ์ บัคลี่ย์, รูฟัส เวนไรท์, เอริก้า บาดู

นักร้อง นักเปียโน นักเรียบเรียงเสียงประสาน และนักแต่งเพลงแจ๊สชาวอเมริกัน Nina Simone มีต่อมทอนซิลคอหอยที่ขยายใหญ่ขึ้นตามพยาธิสภาพ ซึ่งทำให้เธอมีน้ำเสียงที่ลึกและน่าหลงใหล เธอใช้มันในหลากหลาย ทิศทางดนตรีไม่ว่าจะเป็นแจ๊ส โซล ป็อป กอสเปล หรือบลูส์ เสียงของเธอถูกเรียกว่าเสียงของการปฏิวัติสีดำ - ในยุค 60 เธอได้รับความรักจากสาธารณชนที่ไม่มีประสบการณ์และได้รับความเคารพจากมืออาชีพ ด้วยความนิยมของเธอเธอจึงมีโอกาสพูดและได้ยิน ด้วยความช่วยเหลือของความคิดสร้างสรรค์ Nina ได้ถ่ายทอดความคิดและความคิดทางการเมืองของเธอให้กับผู้คน หัวข้อการเลือกปฏิบัติต่อชาวแอฟริกันอเมริกันในสหรัฐอเมริกากลายเป็นบรรทัดฐาน เพราะนักร้องรู้โดยตรงว่าบางครั้งอาจยากแค่ไหนหากสีผิวของคุณเข้มกว่าที่จำเป็น

แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดอย่างชัดเจนว่าใครคือ Nina Simone ในระดับที่สูงกว่า: นักร้องนักแต่งเพลงหรือนักเปียโน นอกจากนี้ ดนตรีของเธอไม่สามารถกำหนดได้ด้วยรูปแบบหรือลักษณะเฉพาะ เนื่องจากลักษณะเฉพาะของงานของเธอคือความเป็นสากลทางดนตรี: ในการแสดงของเธอ โดยใช้ทำนองเพลงบลูส์ เธอพบสถานที่สำหรับทั้งความแตกต่างของ Bach และจังหวะแอฟริกัน

เจนิส ลิน จอปลิน

เพลงยอดนิยม: Piece of My Heart, Cry Baby and Me และ Bobby McGee

อิทธิพลความคิดสร้างสรรค์: Bonnie Wright, Sheryl Crow, Lucinda Williams

ถือเป็นศิลปินบลูส์สีขาวที่ดีที่สุดและเป็นหนึ่งในนักร้องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีร็อค

ในปี 1995 เจนิส จอปลินได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศร็อคแอนด์โรล จอปลินทุบบนเวทีจริงๆ และเธอก็กรีดร้องอย่างเดือดดาลจนฉันจะจำมันไปตลอดชีวิต, - นักร้อง Melissa Etheridge เล่าถึงการแสดงของ Janice - บางครั้งสำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าเสียงนั้นไม่ได้เป็นของ Joplin เลย แต่เป็นของหญิงผิวดำสูงอายุบางคน. เสียงร้องที่ทรงพลังที่สุดของ Joplin ซึ่งเหมาะสมพอๆ กันในเพลงไซคีเดลิกบลูส์และเพลงคันทรี่ในอัลบั้มต่อๆ มาของเธอ ยังคงให้เสียงราวกับว่าเจ้าของบ้าๆ บอๆ ของเขาคำนวณทุกส่วนล่วงหน้าให้กับตัวโน้ต

เอตต้า เจมส์

เพลงยอดนิยม: ในที่สุด วันอาทิตย์แห่งความรัก บอกแม่และ ความรักเกี่ยวอะไรกับตัวฉัน

ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับอิทธิพล: บียอนเซ่และมิก แจ็กเกอร์

ฉันจะไม่มีวันลืมครั้งแรกที่ฉันเห็นทีน่าบนเวทีบียอนเซ่กล่าว - สำหรับฉัน เทอร์เนอร์เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง. ทีน่าเริ่มออกทัวร์เมื่อเกือบครึ่งศตวรรษก่อน ความก้าวหน้าของเธอมาพร้อมกับเวอร์ชันคัฟเวอร์ ภูมิใจแมรี่ที่ Creedence Clearwater Revival ซึ่งในปี 1971 กลายเป็นคำประกาศอิสรภาพของผู้หญิง ในแง่ของพลังงาน เทอร์เนอร์ทำให้ฉันนึกถึงรถถังจอห์น โฟเกอร์ตี เล่า เมื่อเวลาผ่านไป อารมณ์ของ Tina ในฐานะนักร้องก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น เสียงของเธอไม่สามารถจัดประเภทได้เมลิสซ่า เอเธอริดจ์ กล่าว - Tina Turner เป็นความหลงใหลที่บริสุทธิ์

อารีธา แฟรงคลิน (ur. อารีธา หลุยส์ แฟรงคลิน)

เพลงยอดนิยม: คุณทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงธรรมดา เคารพ ฉันไม่เคยรักผู้ชายคนไหน (ในแบบที่ฉันรักคุณ) Think and Chain of Fools

อิทธิพลของความคิดสร้างสรรค์: วิทนีย์ ฮูสตัน, อลิชา เคส, แอรอน เนวิลล์ และแอนนี่ เลนน็อกซ์

เมื่อพูดถึงการแสดงบุคลิกภาพผ่านเพลง Aretha Franklin คือสิ่งที่ดีที่สุดที่นี่ เธอไม่เพียงแต่เป็นนักร้องแนวจังหวะและบลูส์ จิตวิญญาณและกอสเปลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่านั้น เธอยังมีพรสวรรค์จากเบื้องบนอีกด้วย เธอเป็นเจ้าของทั้งเทคนิค ข้อมูลเชิงลึก เสน่ห์ และพลังงานอันเหลือเชื่อ ด้วยเสียงร้องที่ยืดหยุ่นและทรงพลังของเธอ เธอมักถูกเรียกว่าราชินีแห่งจิตวิญญาณและนักร้องหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคร็อกแอนด์โรล

นักร้องในเวทีสมัยใหม่มีพรสวรรค์มากมายวันนี้เราจะพูดถึงนักร้องที่มีเสียงต่ำ ใครบอกว่าจะเป็นนักร้องชื่อดังได้ คุณต้องมีช่วงเสียงที่กว้างหรือเสียงทุ้ม? มันไม่เป็นความจริง สิ่งสำคัญไม่ใช่จำนวนอ็อกเทฟของคุณ แต่เป็นวิธีควบคุมเสียงของคุณ วันนี้เราตัดสินใจที่จะแนะนำคุณให้รู้จักกับห้านักร้องที่มีชื่อเสียงด้วยเสียงทุ้มหรือช่วงเสียงที่เล็ก และคนแรกคือคนดัง นักร้องชาวอังกฤษอเดล

คุณคงคุ้นเคยกับนักร้องสาว Adele? เธอเป็นผู้บันทึกเพลงประกอบร่วมสมัยสำหรับภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เรื่อง Skyfall อย่างไรก็ตาม Adele เป็นนักร้องที่มีเสียงสีที่ตรงกันข้ามซึ่งต่ำที่สุด เสียงผู้หญิง. แต่อเดลก็คล่องแคล่วและไม่กลัวที่จะร้องสดแม้แต่ใน สดสถานีวิทยุ โดยวิธีการที่คลิป เพลงใหม่เพลง "Hello" ของ Adele ได้รับการชมหลายล้านครั้งภายในเวลาไม่กี่วัน และทำให้นักร้องดังมากยิ่งขึ้น วันนี้ใน TOP-5 ของเรา Adele เป็นที่หนึ่งอย่างมีเกียรติ!

นักร้อง Shakira นอกจากนี้ คอนทราลโตของชากีรายังฟังได้จากสถานีวิทยุทุกสถานี ในรถยนต์ส่วนใหญ่ทั่วโลก นักร้องขึ้นอันดับหนึ่งในพาเหรดและชาร์ตเพลงฮิต Sharika เป็นนักร้องจากโคลอมเบีย มีชื่อเสียงในด้านเสียงที่ไม่ธรรมดา เพื่อทำความเข้าใจว่าเสียงต่ำของผู้หญิงนั้นมีเอกลักษณ์เพียงใด คุณต้องฟังเพลงของเธอสักสองสามเพลง

อดีตภรรยาของเคิร์ต โคเบน นักร้องสไตล์กรันจ์ คอร์ทนี่ย์ เลิฟ ก็ร้องเพลงนี้ด้วยเสียงที่ตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม สำหรับกรันจ์ร็อก เสียงนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ นักร้องได้รับความนิยมในระดับหนึ่งและคอร์ทนี่ย์ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่แฟน ๆ ของสไตล์กรันจ์ แม้ว่าเท่าที่เราทราบ คอร์ทนี่ย์ไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางดนตรีอีกต่อไป แฟน ๆ จะได้รับเฉพาะการบันทึกก่อนหน้าของกลุ่มนักร้อง อย่างไรก็ตามก็เพียงพอแล้วสำหรับแฟน ๆ ที่จะฟังเสียงผู้หญิงลึก ๆ

Tina Turner นักร้องชื่อดังก็ร้องเพลงด้วยเสียงที่ตรงกันข้าม เราขอเตือนคุณว่าเสียงประสานเป็นเสียงร้องเพลงของผู้หญิงที่มีสีต่ำที่สุด พวกเราหลายคนรู้จักและร้องเพลงของนักแสดงคนนี้แม้กระทั่งทุกวันนี้ ทีน่าเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีชื่อเสียงที่สุด เพลงป๊อบด้วยเสียงที่คล้ายกัน ยิ่งไปกว่านั้น หลายคนยังประหลาดใจกับพลังเสียงของเธอ และเธอสามารถแข่งขันกับใครก็ได้

ตัวอย่างเช่น นักร้อง Cher ซึ่งมีส่วนร่วมในการแสดง แสดงในภาพยนตร์ The Witches of Eastwick ร้องเพลงด้วยเสียงที่เบามาก และแม้แต่คนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านการเปล่งเสียงก็สามารถได้ยินได้ เฌอ - นักร้องที่มีชื่อเสียงในเพลงยอดนิยมซึ่งเป็นที่นิยมแม้ในปัจจุบันในหมู่ผู้ชื่นชอบเสียงร้องของผู้หญิง ในบทเรียนการร้องเพลงป๊อปหลายๆ ครั้ง นักเรียนมักจะแยกวิเคราะห์เพลงของ Cher

แน่นอนว่าพวกเราหลายคนได้ยินเกี่ยวกับ Isabelle Geffroy เป็นครั้งแรกเพราะในประเทศของเราเธอเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้นามแฝง ZAZ ตามที่นักร้องเองหมายถึงความเก่งกาจของดนตรีของเธอซึ่งผสมผสานทุกสไตล์ตั้งแต่ A ถึง Z และจาก Z ถึง A เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาการบันทึกการแสดงบนถนนแพร่กระจายบนอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ (ใน ฝรั่งเศส นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย แต่เป็นบรรทัดฐาน ) เด็กผู้หญิงที่มีเสียงแหบแห้งผิดปกติและมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ วันนี้เรารู้เพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับนักร้อง

เธอแสดงอยู่บ่อยครั้งตามท้องถนนในปารีส เปลี่ยนกลุ่มไปเรื่อยๆ และแต่ละครั้งก็เอาชนะใจผู้ชมด้วยเสียงที่ไม่ธรรมดา แฟน ๆ เปรียบเทียบ Isabelle กับ Edith Piaf ในตำนาน ความรุ่งโรจน์ที่แท้จริงมาถึง ZAZ หลังจากชนะการแข่งขันอันทรงเกียรติซึ่งเป็นอะนาล็อกฝรั่งเศสของ "Star Factory" ของเรา บน ช่วงเวลานี้ในคอลเล็กชั่นส่วนตัวของหญิงชาวฝรั่งเศสผู้มีความสามารถนี้มีจำนวนมากที่สุด รางวัลต่างๆและชื่อเรื่อง อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมชาติไม่เหมือนเรา ปฏิบัติต่ออิสซาเบลมากกว่าการยับยั้งชั่งใจ จากประสบการณ์หลายปีแสดงให้เห็นว่าชาวฝรั่งเศสผู้อุทิศตนเพื่ออีดิธมานานหลายศตวรรษไม่ชอบคนที่พยายามเข้ามาแทนที่เธอมากเกินไป

อลิสซี่

ชะตากรรมของเด็กผู้หญิงคนนี้ถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับจนบางครั้งพวกเขาถึงกับระบุว่าเธอเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดการปรากฏตัวของฝาแฝดและมีหลายเวอร์ชั่นที่Alizéeไม่มีอยู่จริง - นักแสดงหลายคนแสดง ภายใต้ชื่อของเธอ ในความเป็นจริงเธออยู่คนเดียวมีชีวิตและสบายดีซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฝรั่งเศสและยังมีชื่อเสียงจากการที่เธอเข้าร่วมการแสดงทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง บุคลิกภาพของสื่อ

เธอเกิดที่ชายฝั่งทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ผู้ปกครองซึ่งเป็นแฟนตัวยงของการเล่นวินด์เซิร์ฟตั้งชื่อ Alize ตามสายลม เธอเป็นหนึ่งในดาราเด็กที่มักจะสูญเสียความนิยมเมื่ออายุมากขึ้น อย่างไรก็ตาม Alize จะไม่ยอมแพ้วัยเด็กและวัยรุ่นสิ้นสุดลงนานแล้วและนักร้องยังคงอยู่ในบรรทัดแรกของชาร์ตแสดงเพลงใหม่ออกอัลบั้มชนะใจผู้ชม ทุกวันนี้ Alize ร้องเพลงน้อยลง ชอบเต้น แต่ก็ยังเป็นที่รักของแฟนๆ

อาเมล เบนท์

Amel Bent เป็นตัวแทนทั่วไปของฝรั่งเศส - ลูกสาวของชาวแอลจีเรียและชาวโมร็อกโก เธอเกิดในชุมชน La Courneuve ตั้งแต่วัยเด็กเธอชอบร้องเพลงและมีส่วนร่วมในการแข่งขันยอดนิยม "Nouvelle Star" จริงอยู่เธอไม่สามารถคว้าชัยชนะจากคู่แข่งมืออาชีพได้ แต่ผู้ผลิตเริ่มสนใจ Amel ดาวดวงใหม่ได้ขึ้นสู่ท้องฟ้า

Amel เปิดตัวอัลบั้ม "Un Jour d" été จากนั้นเป็น "Ma Philosophie" ซิงเกิ้ลแรกจาก "Ma Philosophie" ซึ่งนักร้องบันทึกร่วมกับ Diam's นักร้องแร็พชาวฝรั่งเศสขึ้นแพลตตินัมและยังคงอยู่ในตำแหน่งแรกของฝรั่งเศสเป็นเวลา 6 ปี สัปดาห์หลังจากการเปิดตัว แผนภูมิ ในปี 2549 ในพิธีมอบรางวัล Victoires de la musique Amel ได้รับการยอมรับว่าเป็น "Discovery of the Year" Amel ยังคงแสดงอย่างต่อเนื่องและยังสามารถไปทัวร์ในรัสเซียได้แม้ว่าวันนี้นักร้อง ระงับกิจกรรมชั่วคราว - Amel แต่งงานและให้กำเนิดลูกสาว

Isabelle Marie-Anne de Truchy de Varenne เกิดที่ชานเมืองปารีส ด้วยความอยากผจญภัยและกระวนกระวายใจ แม่จึงตั้งชื่อเล่นให้เธอว่า Zazi ซึ่งเป็นชื่อนางเอกของหนังสือเล่มโปรดเล่มหนึ่งของเธอ "Zazi in the Metro" เธออยากเป็นนักเขียน นักถ่ายภาพยนตร์ นางแบบแฟชั่น หรือนักเขียน แต่โชคชะตาชักนำเธอมาสู่ดนตรี

Zazi มีอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จหลายรางวัล รางวัลและรางวัลอันทรงเกียรติ และถึงแม้จะมีประสบการณ์การทำงานที่มั่นคง แต่ความรักของสาธารณชนก็ยังคงได้รับการเก็บรักษาไว้

ไมลีน ฟาร์เมอร์

ชื่อนี้คงคุ้นหูคนรักดนตรีทุกคน และคำถามที่นี่ไม่ใช่ความรักโดยเฉพาะสำหรับดนตรีฝรั่งเศส แต่สำหรับดนตรีโดยทั่วไป เพราะสิ่งที่ Mylene Farmer สร้างขึ้นนั้นยากที่จะผลักดันไปสู่กรอบใด ๆ ใคร ๆ ก็สามารถชื่นชมได้เท่านั้น Mylene Farmer อยู่ในที่เกิดเหตุมาเป็นเวลานาน ประสบการณ์ของเธอสมควรได้รับความเคารพ น้อยคนนักที่จะอยู่ได้นานถึงเพียงนี้ แม้แต่ในฝรั่งเศส ที่ความมั่นคงมีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ชาวนา - เกิดที่แคนาดาในปี 2504 จากนั้นย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ที่ฝรั่งเศส ในบ้านเกิดของเธอ Milen ตระหนักว่าเธอต้องการเป็นเพียงนักแสดง! เป็นความจริงที่ว่าทุกอย่างไม่ได้ผลตั้งแต่เริ่มต้น - พวกเขาไม่ได้นำสิ่งที่ไม่ดีไปที่โรงละครหรือโรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามเธอสามารถแสดงในโฆษณาหลายรายการได้

การได้พบกับนักแต่งเพลงและกวีเจอโรม ดานทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอพลิกผัน เพลงที่แสดงโดย Milen ได้พิชิตทั้งฝรั่งเศสและจากนั้นก็ทำลายโลก นอกจากนี้ Mylene ยังมีชื่อเสียงจากวิดีโอของเธอซึ่งแต่ละวิดีโอนั้นมีความสามารถมากกว่า ถ่ายทำหนังสั้น. วันนี้ชาวนายังคงร้องเพลงบันทึกเพลงและยังคงเป็นที่ชื่นชอบของชาวฝรั่งเศสแม้ว่าผู้รักดนตรีในท้องถิ่นจะมีทัศนคติที่ค่อนข้างลำเอียงต่อ "พวกเขาเอง"

ลาร่า เฟเบียน

แม้ว่าตามธรรมเนียมแล้วเราจะถือว่าเฟเบียนเป็นนักร้องชาวฝรั่งเศส แต่เธอก็มีความสัมพันธ์ทางอ้อมกับฝรั่งเศสมากที่สุด ลาร่าเกิดในเบลเยียมในครอบครัวชาวเฟลมิชและซิซิลี ที่ซึ่งเธอสร้างความประทับใจให้สาธารณชนเป็นครั้งแรกด้วยเสียงของเธอ จากนั้นจึงย้ายไปแคนาดา วันนี้ฟาเบียนเข้าสู่ยุโรปมากมายในคลังแสงภาษาอังกฤษและ ภาษาอิตาลีแต่เพลงส่วนใหญ่ยังคงบันทึกเป็นภาษาฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี 2000 นักร้องเริ่มปรากฏตัวบนหน้าจอทีวีในฝรั่งเศสด้วยความสม่ำเสมอที่น่าอิจฉา หญิงสาวมีส่วนร่วมในโปรแกรมต่างๆ ในขณะเดียวกัน อัลบั้มของเธอก็กระจายไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ - 5 ล้านชุดในเวลาไม่กี่เดือน

ติดตาม Celine Dion, Isabelle Boulet และ Lara Fabian ดาวดวงใหม่ปรากฏขึ้นในโลก แม้ว่า พรสวรรค์รุ่นเยาว์ถูกซื้อกิจการในแคนาดาสำหรับยุโรปการขึ้นเครื่องบินที่สดใสนั้นไม่สามารถสังเกตได้: ในปี 2544 นาตาชาได้รับเกียรติอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน - เธอมีโอกาสที่แทบจะไม่เหมือนใครในการเป็นตัวแทนของฝรั่งเศสในยูโรวิชันด้วยเพลง "Je n "ai que mon âme " ("ฉันมีเพียงจิตวิญญาณของฉันเท่านั้น") ประพันธ์โดย Robber Goldman (น้องชายของ Jean-Jacques Goldmann) เธอได้อันดับที่สี่เท่านั้น แต่ชนะใจชาวฝรั่งเศสทุกคน

ภายในปี 2546 นาตาชาเซนต์ปิแอร์ได้รับสถานะเป็นดาราเพลงฝรั่งเศสอย่างมั่นใจ เธอให้ คอนเสิร์ตเดี่ยวชนะการแข่งขันครั้งแล้วครั้งเล่าและโดยทั่วไปแล้วฉันต้องบอกว่าเธอก้าวไปสู่จุดสูงสุดของ Olympus อย่างรวดเร็วจนนักแสดงที่ช่ำชองคนอื่นทำได้เพียงอิจฉาเธอ นาตาชาได้รับความร่วมมือจาก Garou เองซึ่งจัดทัวร์ยุโรปให้เธอ จากนั้นเธอก็บันทึกอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จหลายชุดภายใต้การแนะนำของสหายชาวฝรั่งเศสที่มีอายุมากกว่า