Honore de Balzac คือใคร ชีวประวัติโดยย่อของบัลซัค

Balzac มาจากครอบครัวชาวนา พ่อของเขามีส่วนร่วมในการซื้อที่ดินอันสูงส่งที่ถูกยึดจากเจ้าของแล้วขายต่อ

Honoré จะไม่ได้เป็นบัลซัคถ้าพ่อของเขาไม่เปลี่ยนนามสกุลและซื้ออนุภาค "de" เพราะนามสกุลเดิมดูเหมือนเป็นคนธรรมดา

ส่วนมารดาเป็นบุตรสาวของพ่อค้าจากกรุงปารีส พ่อของ Balzac เห็นลูกชายของเขาในด้านการสนับสนุนเท่านั้น

นั่นคือเหตุผลที่ในปี 1807-1813 Onere เป็นนักเรียนที่ College of Vendome และในปี 1816-1819 Paris School of Law กลายเป็นสถานที่ศึกษาต่อของเขาในขณะเดียวกันชายหนุ่มก็ทำงานเป็นอาลักษณ์ให้กับทนายความ

แต่อาชีพนักกฎหมายไม่ได้สนใจ Balzac และเขาเลือก เส้นทางวรรณกรรม. เขาแทบไม่ได้รับความสนใจจากพ่อแม่เลย ไม่น่าแปลกใจที่เขาลงเอยที่ Vandoms College โดยไม่ได้ตั้งใจ อนุญาตให้เยี่ยมญาติได้ปีละครั้ง - ในช่วงวันหยุดคริสต์มาส

ในช่วงปีแรก ๆ ที่อยู่ในวิทยาลัย Honore มักอยู่ในห้องขังหลังจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เขาเริ่มคุ้นเคยกับระเบียบวินัยของวิทยาลัย แต่เขาก็ไม่หยุดหัวเราะเยาะครู ตอนอายุ 14 ปีเขาถูกพาตัวกลับบ้านเนื่องจากอาการป่วยเป็นเวลาห้าปีที่เธอไม่ถอยและความหวังในการฟื้นตัวก็ดับลง และทันใดนั้นในปี 1816 หลังจากย้ายไปปารีส ในที่สุดเขาก็หายเป็นปกติ

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2366 บัลซัคเผยแพร่ผลงานหลายชิ้นโดยใช้นามแฝง ในนวนิยายเหล่านี้เขายึดมั่นในแนวคิดของ "แนวโรแมนติกที่มีความรุนแรง" ซึ่งได้รับการพิสูจน์โดยความปรารถนาของ Honore ที่จะทำตามแฟชั่นในวรรณคดี เขาไม่ต้องการจำประสบการณ์นี้ในภายหลัง

ในปี พ.ศ. 2368-2371 บัลซัคพยายามจัดพิมพ์ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในฐานะนักเขียน Honore de Balzac ได้รับอิทธิพลจากนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ของ Walter Scott ในปี พ.ศ. 2372 ได้มีการตีพิมพ์ครั้งแรกภายใต้ชื่อ "Balzac" - "Chuans"

ตามด้วยงานดังกล่าวโดย Balzac: "Scenes ความเป็นส่วนตัว"- 2373 เรื่อง "Gobsek" - 2373 นวนิยายเรื่อง "Elixir of Longevity" - 2373-2374 นวนิยายเชิงปรัชญา « หนังชากรีน"- 2374 เริ่มทำงานในนวนิยายเรื่อง "The Thirty-Year-Old Woman", วงจร "Naughty Stories" - 2375-2380 บางส่วน นวนิยายอัตชีวประวัติ"Louis Lambert" - 1832 "Seraphite" - 1835 นวนิยายเรื่อง "Father Goriot" - 1832 นวนิยาย "Eugen Grandet" - 1833

อันเป็นผลมาจากความไม่ประสบความสำเร็จของเขา กิจกรรมเชิงพาณิชย์มีหนี้สินก้อนโต ความรุ่งโรจน์มาถึงบัลซัค แต่สภาพวัตถุไม่ได้เพิ่มขึ้น ความมั่งคั่งยังคงอยู่ในความฝันเท่านั้น Honore ไม่ได้หยุดทำงานหนัก - การเขียนงานต่อวันใช้เวลา 15-16 ชั่วโมง เป็นผลให้สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้ถึงหกเล่มต่อวัน ในผลงานชิ้นแรกของเขา Balzac ได้เลี้ยงดู ธีมต่างๆและความคิด แต่พวกเขาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับชีวิตที่หลากหลายในฝรั่งเศสและผู้อยู่อาศัย

ตัวละครหลักคือผู้คนจากหลากหลายชั้นทางสังคม: นักบวช พ่อค้า ชนชั้นสูง; จากหลากหลาย สถาบันทางสังคม: รัฐ กองทัพ ครอบครัว การกระทำเกิดขึ้นในหมู่บ้าน จังหวัด และในกรุงปารีส ในปี 1832 Balzac เริ่มติดต่อกับขุนนางจากโปแลนด์ - E. Hanska เธออาศัยอยู่ในรัสเซียซึ่งเขามาถึงในปี พ.ศ. 2386

การประชุมครั้งต่อมาเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2390 และ พ.ศ. 2391 ในยูเครนแล้ว ทางการได้จดทะเบียนสมรสกับ E. Ganskaya ก่อนการเสียชีวิตของ Honore de Balzac ซึ่งเสียชีวิตในปารีสเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2393 ไม่นาน เขาถูกฝังอยู่ในสุสาน Pere Lachaise ชีวประวัติของ Honore de Balzac เขียนโดยน้องสาวของเขา Madame Surville ในปี 1858

หนึ่งในนักเขียนร้อยแก้วที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 19 คือ O. de Balzac ชีวประวัติของนักเขียนคนนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเลย การผจญภัยในป่าวีรบุรุษที่เขาสร้างขึ้น จนถึงขณะนี้โลกสนใจในชีวิตส่วนตัวของเขา

วัยเด็กที่ขมขื่น

ผู้ก่อตั้งสัจนิยมเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2342 ในเมืองตูร์ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางประเทศฝรั่งเศส นักเขียนร้อยแก้วมาจากครอบครัวที่เรียบง่ายแต่กล้าได้กล้าเสีย พ่อของเขาซึ่งเป็นทนายความท้องถิ่น Bernard Francois Balssa ได้ซื้อและขายต่อที่ดินของขุนนางที่ถูกทำลาย ธุรกิจนี้ทำให้เขามีกำไร นี่คือเหตุผลที่เขาเปลี่ยนนามสกุลและโอ้อวดความสัมพันธ์ของเขากับ นักเขียนยอดนิยม Jean-Louis Gez de Balzac ซึ่งเขาไม่มีอะไรทำ

ต่อจากนั้นเขาได้รับคำนำหน้าอันสูงส่ง "de" เบอร์นาร์ดแต่งงานกับหญิงสาวคนหนึ่ง แอนน์-ชาร์ลอตต์-ลอรา ซาลัมเบียร์ ซึ่งอายุน้อยกว่าเขา 30 ปี แม่ของ Honore มาจากครอบครัวชนชั้นสูง ผู้หญิงคนนี้รักอิสระและไม่ปิดบังนิยายของเธอ จากการเชื่อมต่อด้านข้างพี่ชายของนักเขียนซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแอนนาก็ปรากฏตัวขึ้น และนักเขียนในอนาคตก็มอบให้กับพยาบาล หลังจากนั้นก็อาศัยอยู่ในหอพัก

ในบ้านที่ทุกอย่างยกเว้นครอบครัวถูกวางไว้ตั้งแต่แรก มันไม่ง่ายเลยสำหรับเด็กชายคนนี้ Honore de Balzac ได้รับความสนใจเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ชีวประวัติสั้น ๆ ได้อธิบายไว้ในผลงานบางส่วนของเขา ปัญหาที่ทรงประสบเมื่อทรงพระเยาว์ได้ปรากฏอยู่ในงานของพระองค์ในเวลาต่อมา

ทนายความล้มเหลว

เห็นได้ชัดว่าอัจฉริยะได้รับคุณสมบัติหลักของพ่อแม่ของเขาเนื่องจากในอนาคตพวกเขาจะแสดงออกอย่างชัดเจนในตัวละครของเขา ตามคำร้องขอของพ่อและแม่ลูกชายถูกส่งไปที่วิทยาลัยวองโดมซึ่งเขาเรียนกฎหมาย สถาบันมีความโดดเด่นด้วยระเบียบวินัยที่รุนแรงซึ่งเด็กคนนี้ทำผิดอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้รับชื่อเสียงว่าเป็นคนเกียจคร้านและโจร เด็กคนนั้นได้ค้นพบโลกของหนังสือที่นั่น ตอนอายุ 12 ปี เขาพยายามเป็นนักเขียนเป็นครั้งแรก จากนั้นเพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็เยาะเย้ยผลงานของเขา

เพราะว่า ความเครียดคงที่และขาดความเอาใจใส่ เด็กก็ล้มป่วย พ่อแม่ของเขาพาเขากลับบ้าน ผู้ชายป่วยเป็นเวลาหลายปี แพทย์หลายคนไม่ให้การรับประกันว่าเด็กจะมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาก็ผ่านพ้นไปได้

ชายหนุ่มยังคงศึกษาธุรกิจทนายความในปารีสซึ่งพ่อแม่ของเขาย้ายไป เขาเรียนที่โรงเรียนกฎหมายในปี พ.ศ. 2359-2362 ในเวลาเดียวกันเขาทำงานเป็นทนายความ แต่มีเพียงโลกของวรรณกรรมเท่านั้นที่ดึงดูดใจเขา บัลซัคถูกดึงดูดเข้าหาเขา ชีวประวัติอาจแตกต่างออกไป แต่พ่อแม่ตัดสินใจที่จะสนับสนุนงานอดิเรกของลูกชายและให้โอกาสเขา

รักแรก

พ่อสัญญาว่าจะสนับสนุน Honore เป็นเวลาสองปี ในช่วงเวลานี้ชายหนุ่มต้องพิสูจน์ว่าเขาสามารถทำงานในทิศทางที่เลือกได้ ในช่วงเวลานี้พรสวรรค์ในอนาคตกำลังทำงานอย่างแข็งขัน แต่ไม่มีงานใดของเขาที่จริงจัง โศกนาฏกรรมครั้งแรก "ครอมเวลล์" ถูกประณามอย่างไร้ความปราณี โดยทั่วไปจนถึงปี 1823 เขาเขียนประมาณ 20 เล่ม ต่อมาผู้เขียนเองเรียกผลงานแรกของเขาว่าเป็นความผิดพลาดโดยสิ้นเชิง

ในบางครั้ง ชายหนุ่มออกจากปารีสไปยังจังหวัดที่พ่อแม่ของเขาย้ายไป ที่นั่นเขาได้พบกับลอรา เดอ เบอร์นี ชีวประวัติของเขาเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้ Balzac Honore ผู้ซึ่งได้รับความรักจากมารดาเป็นอย่างน้อย พบความอบอุ่นและความอ่อนโยนในอ้อมแขนของมาดาม (อายุมากกว่าเขา 20 ปี) ไม่พอใจใน ชีวิตครอบครัวมีลูกหกคนอยู่ในอ้อมแขนของเธอ เธอกลายเป็นความรักและการสนับสนุนของเขา

เมื่อถึงเวลาที่ต้องรายงานให้ญาติของเขาทราบเกี่ยวกับเวลา 2 ปีที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากความหลงใหลของเขา Balzac ก็ไม่มีอะไรจะให้ ความพยายามทั้งหมดที่จะบุกเข้าไปในโลกแห่งคำศัพท์ล้มเหลว ดังนั้นครอบครัวจึงปฏิเสธเงินของเขา

เส้นเลือดของผู้ประกอบการ

ตั้งแต่วัยเด็กเจ้าของคำพูดใฝ่ฝันที่จะร่ำรวยอย่างอนาจาร ในขณะที่วรรณกรรมไม่ได้ผลนักเขียนร้อยแก้วพยายามหาเงิน ในตอนแรกเขาออกฉบับคลาสสิกเล่มเดียว ยังจัดสำนักพิมพ์ จากนั้นเขาก็ไปที่ซาร์ดิเนียเพื่อค้นหาเงินของชาวโรมันโบราณในเหมือง อีกแผนหนึ่งที่ไม่ได้พิสูจน์ตัวเองคือการปลูกสับปะรดใกล้ปารีส ชีวประวัติของ Balzac เต็มไปด้วยแผนธุรกิจที่ซับซ้อนและน่าอัศจรรย์ อธิบายแผนการทั้งหมดของเขาสั้น ๆ ได้ในคำเดียว - ความล้มเหลว

จากความล้มเหลวทำให้หนี้ก้อนโตอยู่แล้วยิ่งพอกพูนมากขึ้น เขาได้รับการช่วยเหลือจากคุกเพราะแม่ของเขาซึ่งจ่ายคืนเงินกู้บางส่วน

ตลอดชีวิตอันยาวนาน อัจฉริยะถูกไล่ตามด้วยความยากจน ดังนั้น ในคืนหนึ่ง ขโมยได้เข้าไปในอพาร์ทเมนต์ที่เรียบง่ายของเขา เขาควานหาของที่สามารถขโมยได้ เจ้าของห้องซึ่งอยู่ในห้องขณะนั้นไม่ได้เสียหน้าและพูดว่า: "คุณกำลังมองหาบางสิ่งในความมืดโดยเปล่าประโยชน์ซึ่งฉันมองไม่เห็นแม้แต่ในแสงสว่าง"

หนทางสู่ความสำเร็จ

การยอมจำนนไม่ได้เป็นหนึ่งในคุณธรรมที่ Honore de Balzac มี ชีวประวัติของนักเขียนจะไม่ทำให้เกิดอารมณ์มากมายหากไม่ใช่เพราะศรัทธาที่ไม่สั่นคลอนในโชคชะตาของเขา นายยังคงทำงานต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ในปี 1829 นักเขียนร้อยแก้วหยิบปากกาขึ้นมาอีกครั้ง เขาทำตารางเวลาที่ยากลำบากสำหรับตัวเอง เข้านอน 6 โมงเย็น ตื่นเที่ยงคืน ฉันเขียนตลอดเวลา หลายสิบหน้าออกมาจากใต้มือของเขา เขารักษาความแข็งแกร่งด้วยกาแฟรสเข้มหลายแก้ว

ความพยายามได้รับการสวมมงกุฎด้วยความสำเร็จ ชื่อเสียงนำเขามา นวนิยายอิงประวัติศาสตร์"ซวน". โลกยังไม่รู้ว่าบัลซัคคือใคร ชีวประวัติของผู้เขียนระบุว่าเขาเคยใช้นามแฝงต่างๆ มาแล้ว

เหตุการณ์ในหนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นระหว่างมหาราช การปฏิวัติฝรั่งเศส. ที่นี่ผู้เขียนที่มีความสามารถอธิบายการต่อสู้ของกองทหารสาธารณรัฐกับ Chouans อย่างชำนาญ

รากฐานของงานหลัก

บนปีกแห่งความสำเร็จ อาจารย์ตัดสินใจในปี พ.ศ. 2374 เพื่อสร้างเรื่องราวต่างๆ มันควรจะเป็นคำอธิบายของศีลธรรมในขณะนั้น ชื่อ - " ความขบขันของมนุษย์". งานเริ่มต้นด้วยฉากจากชีวิตของปารีสในศตวรรษที่ 18-19

ประตูหลายบานถูกเปิดออกโดยใช้ชื่อ Honore de Balzac ชีวประวัติของชายคนหนึ่งหลังจากความนิยมสายฟ้าแลบได้รับสีสันใหม่ ในร้านเสริมสวยที่ทันสมัยที่สุดเขาได้รับเป็นแขกผู้มีเกียรติ ที่นั่นผู้เขียนได้พบกับฮีโร่หลายคนในผลงานในอนาคตของเขาซึ่งรวมอยู่ใน "Human Comedy" จุดประสงค์ของงานคือการรวมงานเขียนทั้งหมดของเขาไว้ในวงจรเดียว เขานำนิยายที่ตีพิมพ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมดมาดัดแปลงบางส่วน ฮีโร่ในหนังสือต่าง ๆ ได้รับครอบครัวมิตรภาพและความสัมพันธ์อื่น ๆ ซึ่งกันและกัน มหากาพย์ควรจะประกอบด้วยนวนิยาย 143 เล่ม แต่ชาวฝรั่งเศสไม่ประสบความสำเร็จในการนำความคิดนี้ไปสู่จุดจบ

ทฤษฎีตลก

"นักประพันธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้" - นั่นคือสิ่งที่บัลซัคได้รับจากนักวิจารณ์ ชีวประวัติของนักเขียนเกี่ยวข้องกับ "Human Comedy" ตลอดไป ประกอบด้วยสามส่วน ครั้งแรกและกว้างที่สุดซึ่งรวมถึงผลงานก่อนหน้านี้ - "Etudes on Morals" ที่นี่ผู้ชมได้พบกับคนขี้เหนียว Gobsek พ่อของ Goriot ไม่สนใจ Chabert เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศส ส่วนที่สองคือ "ปรัชญา" ช่วยให้ผู้อ่านให้เหตุผลเกี่ยวกับความหมายของชีวิต ซึ่งรวมถึงนวนิยายเรื่อง Shagreen Skin ส่วนที่สามคือ "การศึกษาเชิงวิเคราะห์" หนังสือในส่วนนี้โดดเด่นด้วยการคิดนอกกรอบ และบางครั้งก็บดบังโครงเรื่อง

ชีวประวัติของ Balzac เต็มไปด้วยสถานการณ์ที่แปลกประหลาด ความคิดสร้างสรรค์ให้ผลกำไร แต่ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดและหนี้สินในอดีต มีเรื่องหนึ่งที่ผู้เขียนไปหาบรรณาธิการของเขาทุกสัปดาห์เพื่อขอล่วงหน้าเกี่ยวกับค่าลิขสิทธิ์ในอนาคต เจ้านายขี้เหนียวดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยให้เงิน เมื่อนักเขียนเช่นเคยมาชำระเงิน แต่เลขาบอกว่าวันนี้เจ้าของไม่ยอมรับ ซึ่ง Balzac ตอบว่ามันไม่สำคัญสำหรับเขา สิ่งสำคัญคือผู้นำให้เงิน

ผู้หญิงบัลซัค

Honoréที่ดูขี้เหร่ยังคงเอาชนะผู้หญิงหลายคนได้ พวกเขารู้สึกประทับใจกับฟิวส์และความหลงใหลที่นักเขียนร้อยแก้วพูด นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกอย่าง เวลาว่างจากการเขียนผู้ชายใช้เวลากับเมียน้อยมากมาย สตรีผู้สูงศักดิ์หลายคนเรียกร้องความสนใจจากเขา แต่บ่อยครั้งก็ไร้ผล บัลซัครักผู้หญิงในวัยที่ "สง่างาม" ชีวประวัติของนักเขียนเต็มไปด้วยการผจญภัยที่โรแมนติก วีรสตรีของพวกเขาเป็นผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 30 ปี เขาบรรยายถึงบุคคลดังกล่าวในผลงานของเขา

ความนิยมมากที่สุดคือตัวละครในนวนิยายเรื่อง "The Thirty-Year-Old Woman" ตัวละครหลักคือสาวจูลี่ ผู้เขียนสื่อถึงจิตวิทยาของเพศที่ยุติธรรมผ่านภาพนี้อย่างชัดเจน เป็นเพราะงานนี้ทำให้เกิดการแสดงออกว่า "ผู้หญิงในยุคของ Balzac" นั่นคือผู้หญิงอายุ 30 ถึง 40 ปี

ฝันที่เป็นจริง

ความรักมีบทบาทสำคัญในชีวิตของบุคคล Evelina Hanska เคาน์เตสชาวโปแลนด์กลายเป็นความหลงใหลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ Honore de Balzac เคยรู้สึก ชีวประวัติสั้น ๆ อธิบายความคุ้นเคยของพวกเขา ผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกับแฟน ๆ อีกหลายร้อยคนส่งคำสารภาพไปยังนักเขียน ชายคนนั้นตอบว่า การติดต่อเริ่มขึ้น เป็นเวลานานที่พวกเขาพบกันอย่างลับๆ

Evelina ปฏิเสธที่จะทิ้งสามีของเธอและแต่งงานกับนักเขียนร้อยแก้ว ความสัมพันธ์ดำเนินต่อไปเป็นเวลา 17 ปี เธอเป็นอิสระเมื่อเธอกลายเป็นม่าย จากนั้นทั้งคู่ก็แต่งงานกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2393 ในเมืองเบอร์ดิเชฟของยูเครน แต่บัลซัคไม่มีเวลามีความสุขกับชีวิตแต่งงาน เขา เป็นเวลานานป่วยหนักและเสียชีวิตในปีเดียวกันในวันที่ 18 สิงหาคม ที่กรุงปารีส

อาจารย์แกะสลักฮีโร่ของเขาแต่ละคนออกมา เขาไม่กลัวที่จะทำให้ชีวิตของพวกเขาไม่เพียง แต่สดใส แต่ยังสมจริงอีกด้วย นั่นคือเหตุผลที่ตัวละครของ Balzac ยังคงน่าสนใจสำหรับผู้อ่าน

Honore de Balzac นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสซึ่งถือว่าเป็นบิดาของนวนิยายแนวธรรมชาติเกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2342 ในเมืองตูร์ (ฝรั่งเศส) พ่อของ Honore de Balzac - Bernard Francois Balssa (บางแหล่งระบุชื่อ Waltz) - ชาวนาที่ร่ำรวยในช่วงหลายปีของการปฏิวัติโดยการซื้อและขายที่ดินขุนนางที่ถูกยึดและต่อมาได้กลายเป็นผู้ช่วยนายกเทศมนตรีของเมือง Tours . เมื่อเข้ารับราชการในแผนกเสบียงทางทหารและอยู่ในหมู่เจ้าหน้าที่เขาได้เปลี่ยนนามสกุล "พื้นเมือง" โดยพิจารณาว่าเป็นสามัญชน ในช่วงเปลี่ยนทศวรรษที่ 1830 ในทางกลับกัน Honore ก็เปลี่ยนนามสกุลของเขาโดยเพิ่มอนุภาคอันสูงส่ง "de" โดยพลการให้เหตุผลนี้ด้วยนิยายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขาจากตระกูลขุนนางของ Balzac d "Entreg แม่ของ Honore Balzac อายุน้อยกว่าพ่อของเขา 30 ปี

ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสาเหตุของการทรยศของเธอ: Henri พ่อของ Honore น้องชายของ Honore เป็นเจ้าของปราสาท

ลานของวิทยาลัย Vendôme ซึ่งแม่ระบุว่า Honore อายุแปดขวบ การเลี้ยงดูที่นี่รุนแรง เขาจะใช้เวลาหกปีใน "คุกใต้ดินแห่งความรู้" นี้ โดยพบพ่อแม่ของเขาเพียงสองครั้งในช่วงเวลานี้ ห้องสมุดภาพถ่ายของพิพิธภัณฑ์ Paris/Balzac House-Museum/Spadem, 1995

ในปี 1807-1813 Honore เรียนที่วิทยาลัยแห่งเมือง Vendome; ในปี พ.ศ. 2359-2362 - ที่ Paris School of Law ในขณะที่ทำหน้าที่เป็นเสมียนในสำนักงานทนายความ พ่อพยายามที่จะเตรียมลูกชายของเขาให้พร้อมสำหรับการสนับสนุน แต่ Honore ตัดสินใจที่จะเป็นกวี ที่สภาครอบครัว ตัดสินใจให้เวลาเขาสองปีในการทำความฝันให้เป็นจริง Honore de Balzac เขียนบทละครเรื่อง "Cromwell" แต่สภาครอบครัวที่เพิ่งประชุมกันเห็นว่างานนี้ไร้ประโยชน์และชายหนุ่มถูกปฏิเสธความช่วยเหลือทางการเงิน ตามมาด้วยช่วงเวลาแห่งความยากลำบากทางวัตถุ อาชีพวรรณกรรมของบัลซัคเริ่มขึ้นในราวปี พ.ศ. 2363 ภายใต้นามแฝงต่างๆ เขาเริ่มพิมพ์นวนิยายที่อัดแน่นไปด้วยแอ็คชั่นและแต่ง "รหัส" ทางศีลธรรมของพฤติกรรมทางโลก

ต่อมานวนิยายเรื่องแรกบางเล่มปรากฏภายใต้นามแฝงของ Horace de Saint-Aubin ช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์นิรนามสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2372 ด้วยการตีพิมพ์นวนิยายเรื่อง Chouans หรือ Brittany ในปี พ.ศ. 2342 Honore de Balzac เรียกนวนิยายเรื่อง Shagreen Skin (1830) ว่า "จุดเริ่มต้น" ของงานของเขา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2373 ภายใต้ชื่อเรื่องทั่วไป "ฉากชีวิตส่วนตัว" เรื่องสั้นจากสมัยใหม่ ชีวิตฝรั่งเศส.

ในปี 1834 ผู้เขียนตัดสินใจที่จะผูก ฮีโร่ทั่วไปเขียนไว้แล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2372 และผลงานในอนาคตรวมเข้าเป็นมหากาพย์ ต่อมาเรียกว่า "ตลกมนุษย์" (La comedie humaine)

เป็นหลัก ครูวรรณกรรม Honoré de Balzac พิจารณา Molière, François Rabelais และ Walter Scott

จากซ้ายไปขวา: Victor Hugo, Eugene Xu, Alexandre Dumas และ Honore de Balzac "Condors of Thinking and Style". ภาพล้อเลียนโดย Jérôme Paturo ห้องสมุดภาพถ่ายของพิพิธภัณฑ์ Paris/Balzac House-Museum/Spadem, 1995

นักเขียนนวนิยายสองครั้งพยายามทำอาชีพทางการเมืองโดยเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2375 และ พ.ศ. 2391 แต่เขาล้มเหลวทั้งสองครั้ง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2392 เขาก็ล้มเหลวในการเลือกตั้งที่ French Academy

นักเขียนได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิง ขอบคุณ Honore สำหรับคำอธิบายที่จริงใจ รักแรกของเขาคือลอรา เดอ แบร์นี ผู้หญิงที่แต่งงานแล้วและอายุต่างกันยี่สิบสองปี
Louise Antoinette-Laure de Berny รักแรกของเขาชื่อ Dilecta โดยเขา เขารู้สึกถึงความเคารพกตัญญูของเธอและความหลงใหลอย่างบ้าคลั่งของคู่รัก ภาพเหมือนโดย Van Gorp ฌอง-ลูป ชาร์มต์.

Honore de Balzac ได้รับจดหมายจากผู้อ่านอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหนึ่งในจดหมายเหล่านี้จึงเปลี่ยนชีวิตของเขา ในปี พ.ศ. 2375 เขาได้รับจดหมายจาก "ชาวต่างชาติ" เคาน์เตสชาวโปแลนด์ เอเวลินา แกนสกายา พลเมืองรัสเซีย ซึ่งอีก 18 ปีต่อมาก็ได้กลายมาเป็นภรรยาของเขา

Balzac ซื้อคฤหาสน์บนถนน Fortuné เพื่อรอการมาถึงของ Hanska ซึ่งตกลงเป็นภรรยาของเขาในที่สุด ห้องสมุดภาพถ่ายของพิพิธภัณฑ์ Paris/Balzac House-Museum/Spadem, 1995

หม้อกาแฟบัลซัค ห้องสมุดภาพถ่ายของพิพิธภัณฑ์ Paris/Balzac House-Museum/Spadem, 1995

แต่โชคชะตาไม่เอื้ออำนวยต่อนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ผู้พิชิตเลย ห้องอาบน้ำของผู้หญิง Honore de Balzac ห้าเดือนหลังจากการแต่งงานของเขาในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2393 ในขณะที่ภรรยาของเขากำลังนอนหลับอยู่ในห้องถัดไปในอพาร์ตเมนต์ในปารีสของเขาเขาเสียชีวิต

Balzac - การแสดงออกที่เป็นที่นิยม

นี่คือวิธีการจัดการผู้ชาย: พวกเขาสามารถต่อต้านการโต้แย้งที่ชาญฉลาดที่สุดและไม่ต่อต้านการมองเพียงครั้งเดียว

การพูดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะรักผู้หญิงคนเดียวกันเสมอไปนั้นไม่มีความหมายพอๆ กับที่เชื่อว่านักดนตรีที่มีชื่อเสียงต้องการไวโอลินที่แตกต่างกันเพื่อเล่นท่วงทำนองที่แตกต่างกัน

ผู้ที่สามารถเป็นคนรักของเธอได้จะไม่เป็นเพื่อนของผู้หญิง

ทักษะทั้งหมดของมนุษย์เป็นเพียงส่วนผสมของความอดทนและเวลา

การสงสัยคือการสูญเสียอำนาจ

ผู้หญิงที่หัวเราะเยาะสามีของเธอไม่สามารถรักเขาได้อีก

ทุกอย่างมาตามเวลาสำหรับผู้ที่รู้จักรอ

พวกเขาไม่แขวนความเชื่อไว้บนกำแพง

สถานการณ์เปลี่ยนแปลง หลักการไม่เคย

การใส่ร้ายไม่แยแสต่อสิ่งที่ไม่มีตัวตน

กุญแจสู่วิทยาศาสตร์ทั้งหมดคือเครื่องหมายคำถาม

การสงสัยในพระเจ้าคือการเชื่อในพระองค์

มโนธรรมของเราเป็นผู้ตัดสินที่ผิดพลาดจนกว่าเราจะฆ่ามัน

ผู้มีจิตใจสูงส่งจะนอกใจไม่ได้

ความไม่แยแสต่อเพศที่ยุติธรรมในวัยชราเป็นการลงโทษสำหรับการเอาใจวัยรุ่นมากเกินไป

การแสวงหาความหลากหลายในความรักเป็นสัญญาณของความไร้อำนาจ

เราจำได้ว่าเป็นบุคคลหนึ่งเท่านั้นที่วิญญาณใฝ่ฝันถึงความรักพอๆ กับความสุขทางใจพอๆ กับความสุขทางกาย

ความอิจฉาริษยาในมนุษย์ประกอบด้วยความเห็นแก่ตัว นำมาสู่นรก จากความเย่อหยิ่ง ประหลาดใจ และความฟุ้งซ่านจอมปลอมที่ทำให้หงุดหงิด

การแต่งงานไม่สามารถมีความสุขได้หากคู่สมรสไม่รู้จักมารยาท อุปนิสัย และลักษณะนิสัยของกันและกันอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะเข้าสู่ความสัมพันธ์

ห้ามให้บริการที่ไม่ได้ร้องขอ

ผู้คนกลัวอหิวาตกโรค แต่ไวน์นั้นอันตรายกว่ามันมาก

ความอิจฉาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของความเกลียดชังที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ความโหดร้ายและความกลัวจับมือกัน

เมื่อดื่มถ้วยแห่งความสุขลงไปถึงก้นบึ้ง เราพบว่ามีกรวดมากกว่าไข่มุก

Honore de Balzak France, 05/20/1799 - 08/18/1850 นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสถือเป็นบิดาแห่งนวนิยายแนวธรรมชาตินิยม Honore de Balzac เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2342 ในเมืองตูร์ (ฝรั่งเศส) Bernard Francois Balzac พ่อของ Honore de Balzac (บางแหล่งระบุว่าชื่อ Waltz) เป็นชาวนาที่ร่ำรวยในช่วงหลายปีของการปฏิวัติโดยการซื้อและขายที่ดินของขุนนางที่ถูกยึด และต่อมาได้กลายเป็นผู้ช่วยนายกเทศมนตรีของเมือง ทัวร์ เมื่อเข้ารับราชการในแผนกเสบียงทางทหารและอยู่ในหมู่เจ้าหน้าที่เขาเปลี่ยนนามสกุลพื้นเมืองของเขาโดยพิจารณาว่าเป็นสามัญชน ในช่วงเปลี่ยนทศวรรษที่ 1830 ในทางกลับกัน Honore ก็แก้ไขนามสกุลโดยเพิ่มอนุภาคอันสูงส่งเข้าไปโดยพลการโดยให้เหตุผลกับนิยายเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเขาจากตระกูลขุนนางของ Balzac d "Entreg แม่ของ Honore Balzac อายุน้อยกว่าพ่อของเขา 30 ปีซึ่ง ส่วนหนึ่งเป็นเหตุผลที่เธอทรยศ: พ่อของน้องชายของ Honore - Henri - เป็นเจ้าของปราสาท ในปี 1807-1813 Honore เรียนที่ College of Vendome ในปี 1816-1819 - ที่โรงเรียนกฎหมายแห่งปารีส ขณะทำหน้าที่เป็นเสมียนในสำนักงานทนายความ พ่อของ Balzac พยายามเตรียมเขาให้พร้อมสำหรับการเรียกร้อง " แต่ Honore ตัดสินใจที่จะเป็นกวี ในสภาครอบครัว มีมติให้เวลาเขาสองปีเพื่อเติมเต็มความฝันของเขา Honore de Balzac เขียน ละครเรื่อง Cromwell แต่สภาครอบครัวที่เพิ่งประชุมกันเห็นว่างานนี้ไร้ประโยชน์และ Honore ถูกปฏิเสธความช่วยเหลือทางการเงินตามมาด้วยความทุกข์ยากทางวัตถุ อาชีพวรรณกรรม Balzac เริ่มขึ้นในราวปี 1820 เมื่อเขาเริ่มพิมพ์งานโดยใช้นามแฝงต่างๆ นวนิยายและแต่งขึ้นทางศีลธรรม จรรยาบรรณของฆราวาส ต่อมานวนิยายเรื่องแรกบางเล่มปรากฏภายใต้นามแฝงของ Horace de Saint-Aubin ช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์นิรนามสิ้นสุดลงในปี พ.ศ. 2372 ด้วยการตีพิมพ์ของ Chouans หรือ Brittany ในปี พ.ศ. 2342 Honore de Balzac เรียกนวนิยายเรื่อง Shagreen Leather (1830) ว่าจุดเริ่มต้นของผลงานของเขา เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2373 เรื่องสั้นจากชีวิตชาวฝรั่งเศสสมัยใหม่เริ่มตีพิมพ์ภายใต้ชื่อทั่วไปว่า Scenes of Private Life ในปี 1834 บัลซัคตัดสินใจเชื่อมโยงฮีโร่ทั่วไปที่เขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1829 กับผลงานในอนาคต รวมเข้าด้วยกันเป็นมหากาพย์ ซึ่งต่อมาเรียกว่า Human Comedy (La comedie humaine) Balzac สองครั้งพยายามสร้างอาชีพทางการเมืองโดยเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งสภาผู้แทนราษฎรในปี พ.ศ. 2375 และ พ.ศ. 2391 แต่ล้มเหลวทั้งสองครั้ง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2392 เขาก็ล้มเหลวในการเลือกตั้งที่ French Academy ในปี 1832 Balzac เริ่มติดต่อกับขุนนางชาวโปแลนด์ E. Hanska ซึ่งอาศัยอยู่ในรัสเซีย ในปี 1843 นักเขียนไปเยี่ยมเธอที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและในปี 1847 และ 1848 ในยูเครน การแต่งงานอย่างเป็นทางการกับ E. Ganskaya สิ้นสุดลง 5 เดือนก่อนการเสียชีวิตของ Honore de Balzac ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2393 ในปารีส ในปี 1858 Ms. Surville น้องสาวของ Honore de Balzac เขียนชีวประวัติของนักเขียน -“ Balzac, sa vie et ses oeuvres d" apres sa contactance " ผู้เขียนหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับ Balzac คือ Stefan Zweig (Balzac), Andre Maurois (Prometheus หรือ Life Balzac), Wurmser (หนังตลกเหนือมนุษย์) ในบรรดาผลงานของ Honore de Balzac ได้แก่ นิทาน เรื่องสั้น การศึกษาเชิงปรัชญา นิทาน นวนิยาย บทละคร

Honoré de Balzac - นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียง เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2342 ในเมืองตูร์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2393 ในปารีส เขาถูกส่งไปเรียนที่โรงเรียนประถมในเมืองตูร์เป็นเวลาห้าปี และเมื่ออายุได้ 7 ขวบ เขาเข้าเรียนที่ Jesuit College of Vendôme ซึ่งเขาอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 7 ปี ในปี พ.ศ. 2357 บัลซัคได้ย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ของเขาที่ปารีส ซึ่งเขาจบการศึกษาครั้งแรกในโรงเรียนกินนอนเอกชน ซอร์บอนน์ที่เขาฟังการบรรยายอย่างกระตือรือร้น กิโซ, ลูกพี่ลูกน้อง, วิลแมน. ในเวลาเดียวกัน เขากำลังเรียนกฎหมายเพื่อเอาใจพ่อที่ต้องการให้เขาเป็นทนายความ

ออเนอร์ เดอ บัลซัค ดาแกร์รีโอไทป์ 1842

ประสบการณ์วรรณกรรมครั้งแรกของบัลซัคคือโศกนาฏกรรมในกลอน "ครอมเวลล์" ซึ่งทำให้เขาต้องทำงานหนักมาก แต่กลับกลายเป็นว่าไร้ค่า หลังจากความล้มเหลวครั้งแรกนี้ เขาละทิ้งโศกนาฏกรรมและหันไปหาความรัก ด้วยแรงกระตุ้นจากความต้องการทางวัตถุเขาเริ่มเขียนนวนิยายที่เลวร้ายมากซึ่งเขาขายให้กับสำนักพิมพ์ต่างๆในราคาหลายร้อยฟรังก์ งานดังกล่าวเพราะเศษขนมปังเป็นภาระอย่างยิ่งสำหรับเขา ความปรารถนาที่จะหลุดพ้นจากความยากจนโดยเร็วที่สุดทำให้เขามีส่วนร่วมในธุรกิจการค้าหลายแห่งซึ่งจบลงด้วยความพินาศโดยสิ้นเชิงสำหรับเขา เขาต้องเลิกกิจการโดยรับภาระหนี้มากกว่า 50,000 ฟรังก์ (พ.ศ. 2371) ต่อจากนั้นต้องขอบคุณเงินกู้ใหม่เพื่อชำระดอกเบี้ยและการสูญเสียทางการเงินอื่น ๆ จำนวนหนี้ของเขาเพิ่มขึ้นตามความผันผวนต่าง ๆ และเขาอิดโรยภายใต้ภาระเหล่านี้ตลอดชีวิต เพียงไม่นานก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในที่สุดเขาก็สามารถกำจัดหนี้สินของเขาได้ ในช่วงต้นทศวรรษ 1820 บัลซัคได้พบและกลายเป็นเพื่อนสนิทกับมาดามเดอแบร์นี ผู้หญิงคนนี้เป็นอัจฉริยะที่ดีในวัยเยาว์ของเขาในช่วงปีที่ยากลำบากที่สุดของการต่อสู้ การกีดกัน และความไม่แน่นอน จากการยอมรับของเขาเอง เธอมีอิทธิพลอย่างมากต่อตัวละครของเขาและต่อการพัฒนาความสามารถของเขา

นวนิยายเรื่องแรกของ Balzac ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและทำให้เขาก้าวไปข้างหน้าในหมู่นักเขียนมือใหม่คนอื่นๆ คือ The Physiology of Marriage (1829) ตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความอุดมสมบูรณ์และพลังงานที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของเขาช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ในปีเดียวกันเขาได้ตีพิมพ์นวนิยายอีก 4 เล่ม เล่มถัดไป - 11 เล่ม ("Thirty-year-old Woman"; "Gobsek", "Shagreen Skin" ฯลฯ ); ในปี พ.ศ. 2374 - 8 รวมถึง "Country Doctor" ตอนนี้เขาทำงานมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความเอาใจใส่เป็นพิเศษ เขาทำงานเสร็จ ทำซ้ำสิ่งที่เขาเขียนหลายครั้ง

อัจฉริยะและวายร้าย ออเนอร์ เดอ บัลซัค

Balzac ถูกล่อลวงมากกว่าหนึ่งครั้งโดยบทบาทของนักการเมือง ด้วยตัวเอง มุมมองทางการเมืองเขาเข้มงวด ถูกต้องตามกฎหมาย. ในปี พ.ศ. 2375 เขาได้เสนอชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนใน Angouleme และในโอกาสนี้ได้แสดงโปรแกรมต่อไปนี้ในจดหมายส่วนตัวฉบับเดียว: "การทำลายขุนนางทั้งหมดยกเว้นห้องแห่งคนรอบข้าง การแยกพระสงฆ์ออกจากกรุงโรม พรมแดนธรรมชาติของฝรั่งเศส ความเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์ของชนชั้นกลาง การรับรู้ถึงความเหนือกว่าที่แท้จริง ประหยัดค่าใช้จ่าย; เพิ่มรายได้ด้วยการกระจายภาษีที่ดีขึ้น การศึกษาเพื่อปวงชน".

หลังจากล้มเหลวในการเลือกตั้ง เขาเริ่มทำงานวรรณกรรมด้วยความกระตือรือร้น พ.ศ. 2375 นวนิยายเรื่องใหม่ 11 เรื่องได้รับการตีพิมพ์ ได้แก่ "Louis Lambert", "Abandoned Woman", "Colonel Chabert" ในตอนต้นของปี พ.ศ. 2376 บัลซัคได้ติดต่อกับเคาน์เตสฮันสกา จากการติดต่อนี้ทำให้เกิดความรักที่กินเวลา 17 ปีและจบลงด้วยการแต่งงานไม่กี่เดือนก่อนที่นักเขียนนวนิยายจะเสียชีวิต อนุสรณ์ของนวนิยายเรื่องนี้คือจดหมายจำนวนมากของบัลซัคถึงนางกันสกายา ซึ่งต่อมาได้รับการตีพิมพ์ภายใต้ชื่อจดหมายถึงคนแปลกหน้า ในช่วง 17 ปีที่ผ่านมา Balzac ยังคงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และนอกจากนวนิยายแล้ว เขายังเขียนบทความต่างๆ ในนิตยสารอีกด้วย ในปี 1835 เขาเริ่มตีพิมพ์ Paris Chronicle ด้วยตัวเอง; ฉบับนี้กินเวลานานกว่าหนึ่งปีและผลที่ตามมาทำให้เขาขาดดุลสุทธิ 50,000 ฟรังก์

ตั้งแต่ปี 1833 ถึง 1838 Balzac ตีพิมพ์เรื่องราวและนวนิยาย 26 เรื่อง ได้แก่ "Eugenia Grande", "Father Goriot", "Seraphite", "Lily of the Valley", "Lost Illusions", "Caesar Biroto" ในปี 1838 เขาออกจากปารีสอีกครั้งเป็นเวลาสองสามเดือน ครั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ทางการค้า เขาฝันถึงกิจการที่ยอดเยี่ยมที่สามารถทำให้เขาร่ำรวยขึ้นได้ในทันที เขาไปที่ซาร์ดิเนียซึ่งเขาจะใช้ประโยชน์จากเหมืองเงินซึ่งรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยที่โรมันปกครอง การเสี่ยงโชคครั้งนี้จบลงด้วยความล้มเหลว เมื่อนักธุรกิจที่เก่งฉกาจฉกรรจ์กว่าใช้ประโยชน์จากแนวคิดของเขาและขัดขวางเส้นทางของเขา

จนถึงปี 1843 Balzac อาศัยอยู่แทบไม่ได้หยุดพักในปารีสหรือในที่ดินของเขา Les Jardies ใกล้ปารีส ซึ่งเขาซื้อในปี 1839 และกลายเป็นแหล่งค่าใช้จ่ายคงที่แหล่งใหม่สำหรับเขา ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2386 Balzac ไปที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นเวลา 2 เดือนซึ่งนาง Ganskaya อยู่ที่นั่นในเวลานั้น (สามีของเธอเป็นเจ้าของที่ดินขนาดใหญ่ในยูเครน) ในปี พ.ศ. 2388 และ พ.ศ. 2389 เขาเดินทางไปอิตาลีสองครั้งซึ่งเธอใช้เวลาช่วงฤดูหนาวกับลูกสาวของเธอ งานเร่งด่วนและภาระหน้าที่เร่งด่วนต่าง ๆ บังคับให้เขาต้องกลับไปปารีส และความพยายามทั้งหมดของเขามุ่งสู่การชำระหนี้และจัดการเรื่องต่าง ๆ โดยที่เขาไม่สามารถดำเนินการได้ในที่สุด ความฝันที่หวงแหนตลอดชีวิตของเขา - เพื่อแต่งงานกับผู้หญิงที่เขารัก เขาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง Balzac ใช้เวลาช่วงฤดูหนาวปี 1847 - 1848 ในรัสเซียที่ที่ดินของเคาน์เตส Hanskaya ใกล้ Berdichev แต่ไม่กี่วันก่อนการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ เรื่องเงินเรียกให้เขาไปปารีส อย่างไรก็ตามเขายังคงแปลกแยกต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างสมบูรณ์และในฤดูใบไม้ร่วงปี 2391 เขาก็ไปรัสเซียอีกครั้ง

ในปี 1849 - 1847 นวนิยายใหม่ 28 เล่มของ Balzac ปรากฏในสิ่งพิมพ์ (Ursula Mirue, The Country Priest, Poor Relatives, Cousin Pons ฯลฯ ) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2391 เขาทำงานเพียงเล็กน้อยและแทบไม่ได้ตีพิมพ์อะไรใหม่เลย การเดินทางไปรัสเซียครั้งที่สองกลายเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับเขา ร่างกายของเขาอ่อนล้าเพราะ “ทำงานหนักเกินไป; นี้มาพร้อมกับความหนาวเย็นที่ตกลงมาที่หัวใจและปอดและกลายเป็นความเจ็บป่วยที่ยืดเยื้อ สภาพอากาศที่รุนแรงยังส่งผลเสียต่อเขาและขัดขวางการฟื้นตัวของเขา รัฐนี้มีการปรับปรุงชั่วคราวลากยาวไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิปี 2393 ในวันที่ 14 มีนาคมการแต่งงานของเคาน์เตสกันสกายากับบัลซัคเกิดขึ้นที่เบอร์ดิเชฟในที่สุด ในเดือนเมษายน ทั้งคู่ออกจากรัสเซียและไปปารีส ซึ่งทั้งคู่ตั้งรกรากอยู่ในโรงแรมเล็กๆ ที่บัลซัคซื้อเมื่อไม่กี่ปีก่อน และตกแต่งอย่างหรูหราด้วยศิลปะ อย่างไรก็ตาม สุขภาพของนักเขียนนวนิยายกำลังทรุดโทรมลง และในที่สุด ในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2393 หลังจากทนทุกข์ทรมานอย่างหนักเป็นเวลา 34 ชั่วโมง เขาก็เสียชีวิต

ความสำคัญของ Balzac ในวรรณคดีนั้นยอดเยี่ยมมาก: เขาขยายขอบเขตของนวนิยายและเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งหลัก เหมือนจริงและแนวโน้มทางธรรมชาติได้แสดงให้เขาเห็นถึงเส้นทางใหม่ๆ ซึ่งเขาดำเนินไปในหลายทางจนถึงต้นศตวรรษที่ 20 มุมมองพื้นฐานของเขาเป็นแบบธรรมชาติล้วน ๆ เขามองว่าทุกปรากฏการณ์เป็นผลมาจากการโต้ตอบของเงื่อนไขบางอย่างซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่รู้จัก ตามนี้ นวนิยายของ Balzac ไม่เพียง แต่เป็นภาพของตัวละครแต่ละตัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงภาพรวมด้วย สังคมสมัยใหม่ด้วยพลังหลักที่ควบคุมมัน: การแสวงหาพรแห่งชีวิตทั่วไป ความกระหายในกำไร เกียรติยศ ตำแหน่งในโลก กับการดิ้นรนต่างๆ ของกิเลสตัณหาน้อยใหญ่ ในเวลาเดียวกัน เขาเปิดเผยต่อผู้อ่านถึงเบื้องหลังทั้งหมดของการเคลื่อนไหวนี้ในรายละเอียดที่เล็กที่สุดในชีวิตประจำวัน ซึ่งทำให้หนังสือของเขามีลักษณะของความเป็นจริงที่ลุกโชน เมื่ออธิบายถึงตัวละคร เขาเน้นคุณลักษณะเด่นหลักอย่างหนึ่ง ตามคำกล่าวของ Fai สำหรับ Balzac ทุกคนไม่มีอะไรมากไปกว่า "ความหลงใหลบางอย่าง ซึ่งให้บริการโดยจิตใจและอวัยวะ และถูกขัดขวางโดยสถานการณ์" ด้วยเหตุนี้ฮีโร่ของเขาจึงได้รับความโล่งใจและความสดใสเป็นพิเศษและหลายคนกลายเป็นชื่อที่ใช้ในครัวเรือนเช่นวีรบุรุษของMolière: ดังนั้น Grande จึงมีความหมายเหมือนกันกับความตระหนี่ Goriot - ความรักของพ่อ ฯลฯ ผู้หญิงครอบครองสถานที่ขนาดใหญ่ในนวนิยายของเขา . ด้วยความสมจริงที่ไร้ความปรานีของเขา เขามักจะวางผู้หญิงไว้บนแท่นเสมอ เธอมักจะยืนอยู่เหนือสิ่งแวดล้อม และเป็นเหยื่อของความเห็นแก่ตัวของผู้ชาย ผู้หญิงที่เขาชอบคือผู้หญิงอายุ 30-40 ปี (“อายุบัลซัค”)

ผลงานฉบับสมบูรณ์ของบัลซัคได้รับการตีพิมพ์โดยตัวเขาเองในปี พ.ศ. 2385 ภายใต้ชื่อทั่วไปว่า " ความขบขันของมนุษย์"โดยมีคำนำหน้าซึ่งเขากำหนดงานของเขาดังนี้: "ให้ประวัติและในขณะเดียวกันก็วิจารณ์สังคมสอบสวนโรคภัยไข้เจ็บและตรวจสอบจุดเริ่มต้นของมัน" หนึ่งในผู้แปล Balzac เป็นภาษารัสเซียคนแรกคือ Dostoevsky ผู้ยิ่งใหญ่ (งานแปล "Eugenie Grande" ของเขาซึ่งทำขึ้นก่อนที่จะทำงานหนัก)

(เรียงความผู้อื่น นักเขียนชาวฝรั่งเศสดูบล็อก "เพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อ" ด้านล่างข้อความของบทความ)