ประวัติแผนที่ทางภูมิศาสตร์ แผนที่ทางภูมิศาสตร์

16. แผนที่ทางภูมิศาสตร์และคุณสมบัติของมัน

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ (GK) เป็นภาพย่อส่วนเชิงสัญลักษณ์ของพื้นผิวโลกบนระนาบ ซึ่งสร้างขึ้นตามสัญญาณทางคณิตศาสตร์บางอย่าง แสดงตำแหน่ง คุณสมบัติ และความสัมพันธ์ของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและสังคม GC ประกอบด้วยพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ภาพแผนที่ (ภาพนูน แม่น้ำ ฯลฯ) องค์ประกอบของลักษณะเพิ่มเติม (ภาพวาด กราฟ) และอุปกรณ์ (ตำนาน ชื่อแผนที่ การกำหนดมาตราส่วน) การฉายภาพ

ฐานจีโอเดติก (จุดกำเนิดของความสูงและพิกัด) เป็นระบบของจุดบนโลก ตำแหน่งของ kt ถูกกำหนดอย่างแม่นยำในระบบพิกัด ทั้งในระนาบและความสูง ด้วยความช่วยเหลือของจุดเหล่านี้ คุณสามารถทำการ "เปลี่ยนผ่าน" ทางคณิตศาสตร์จากวัน (ภูมิประเทศ)

pov-ty กับ pov-terrestrial ellipsoid ตามทฤษฎี

มาตราส่วน - อัตราส่วนของความยาวของเส้นบนแผนที่ (แผน) ต่อความยาวของความต่อเนื่องในแนวนอนของเส้นนี้บนพื้น ประเภทของเครื่องชั่ง: ตัวเลข (แสดงเป็นเศษส่วน โดยที่ตัวเศษคือหนึ่ง และตัวส่วนคือตัวเลขที่ระบุระดับของการลดลง) คำอธิบาย (ชื่อ) (ระบุอัตราส่วนของความยาวของเส้นบนแผนที่และบนพื้น ), กราฟิก (เชิงเส้นและแนวขวาง - ใช้เพื่อกำหนดจากความยาวของเส้นแผนที่ในธรรมชาติ)

เส้นโครงแผนที่เป็นวิธีทางคณิตศาสตร์ในการวาดภาพโลกทรงรีหรือทรงกลมบนระนาบ การฉายภาพมี 2 ประเภท:

1. โดยธรรมชาติของการบิดเบือน:

Equiangular (conformal) - ไม่มีการบิดเบี้ยวของมุม แต่มีการบิดเบี้ยวของพื้นที่และรูปร่าง

โดยพลการ (เท่ากัน - ขนาดของความยาวตามทิศทางหลักใดทิศทางหนึ่งจะถูกรักษาไว้) - มุม รูปร่าง และพื้นที่บิดเบี้ยว

เทียบเท่า (เทียบเท่า, หรือเทียบเท่า). ในการฉายภาพเหล่านี้ ความเท่าเทียมกันของพื้นที่จะถูกรักษาไว้ แต่จะมีการบิดเบือนมุมและรูปร่างอย่างมาก

2. ตามประเภทของตารางการทำแผนที่ (โดยวิธีการโอนพื้นผิวโลกไปยังระนาบ):

ทรงกระบอก (เส้นเมอริเดียนตั้งฉากกับแนวขนานและเว้นระยะห่างจากกันเท่ากัน เส้นศูนย์สูตรคือเส้นศูนย์สูตร ไอโซโคลมีรูปแบบของเส้นตรงขนานกับเส้นศูนย์สูตร ทิศทางหลักตรงกับเส้นตารางการทำแผนที่ ในขณะที่ระยะห่างจากเส้นศูนย์สูตรทำให้ความผิดเพี้ยนเพิ่มขึ้น)

ทรงกรวย (เส้นเมอริเดียนเป็นเส้นตรง บรรจบกัน ณ จุดที่แสดงยอดกรวยบนระนาบ เส้นขนานคือส่วนโค้งของวงกลมศูนย์กลางโดยมีศูนย์กลางอยู่ที่จุดที่หายไปของเส้นเมอริเดียน เส้นหนึ่งของการบิดเบี้ยวเป็นศูนย์ โดยมีระยะห่างเพิ่มขึ้นจาก kt การบิดเบี้ยว เพิ่มขึ้น ทิศทางหลักของกริดทรงกรวยปกติทั้งหมดตรงกับเส้นเมอริเดียนและเส้นขนาน)

azimuthal (จุดศูนย์การบิดเบือน - จุดสัมผัสของโลกกับระนาบ (ปกติ - จุดขั้ว, ขวาง - จุดเส้นศูนย์สูตร, แนวเฉียง - ระนาบเชิงอย่างอื่น); ขนาดของการบิดเบือนเพิ่มขึ้นตามระยะทางใน ทุกทิศทางจาก TNR ดังนั้นไอโซโคลจึงมีรูปแบบของวงกลมศูนย์กลางโดยมีจุดศูนย์กลางที่ TNR ทิศทางหลักเป็นไปตามรัศมีและเส้นที่ตั้งฉากกับพวกมัน ราบจะไม่บิดเบี้ยวในทุกทิศทางจาก TNI)

เงื่อนไข - การฉายภาพ ในรูปแบบของตารางการทำแผนที่ผลลัพธ์ไม่สามารถแสดงบนพื้นฐานของการฉายภาพบนพื้นผิวเสริมบางอย่าง (รูปทรงกระบอกหลอก - เส้นขนานตรงและเส้นเมอริเดียน - เส้นโค้ง ฯลฯ )

ในบรรดาคุณสมบัติที่สำคัญของแบบจำลองการทำแผนที่เราควรรวมถึงการมองเห็นการมองเห็นความน่าเชื่อถือและเนื้อหาข้อมูล K. A. Salishchev นักภูมิศาสตร์ - นักทำแผนที่ชาวโซเวียตที่มีชื่อเสียงได้แยกหน้าที่หลักของแผนที่ออกเป็นแบบจำลองของความเป็นจริง - การสื่อสาร, การปฏิบัติงาน, ความรู้ความเข้าใจและการพยากรณ์โรค

การสื่อสาร เช่น การถ่ายโอนข้อมูล ดำเนินการโดยใช้การ์ดเมื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูล แผนที่ยังทำหน้าที่เป็นที่เก็บข้อมูล ฟังก์ชั่นการดำเนินงานของแผนที่แสดงในการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขาเช่นในการนำทางเมื่อวางแผนเส้นทางการสื่อสารการพัฒนาแผนสำหรับการพัฒนาดินแดน ฯลฯ ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ยังใช้ฟังก์ชั่นการรับรู้ของแผนที่ สาขาวิทยาศาสตร์(และกิจกรรมอื่นๆ) และนักศึกษาได้รับความรู้ ฟังก์ชั่นการพยากรณ์ของแบบจำลองการทำแผนที่นั้นดำเนินการในการระบุทิศทางของการพัฒนาในอนาคตของปรากฏการณ์ที่พวกเขาศึกษา

ประเภทของแผนที่ทางภูมิศาสตร์:

ตามความครอบคลุมของอาณาเขต แผนที่โลก ซีกโลก ทวีป และมหาสมุทร ส่วนต่างๆ ของทวีป รวมถึงกลุ่มประเทศและแต่ละรัฐ ส่วนต่างๆ ของรัฐมีความโดดเด่น

ในการจำแนกประเภทตามวัตถุประสงค์ บัตรเพื่อการศึกษา โฆษณาชวนเชื่อ และบัตรอ้างอิงจะแตกต่างกัน หลังถูกแบ่งย่อยขึ้นอยู่กับลักษณะของงานที่ได้รับการแก้ไขด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา ออกเป็นวิทยาศาสตร์และการอ้างอิง การนำทาง ถนน การทหาร นักท่องเที่ยว และอื่น ๆ

ตามมาตราส่วน แผนที่แบ่งออกเป็นสามกลุ่ม: มาตราส่วนขนาดใหญ่ที่มีมาตราส่วน 1:200,000 และใหญ่กว่า; ขนาดกลาง - ที่มีมาตราส่วนที่เล็กกว่า 1:200,000 และสูงถึง 1:1,000,000 และมาตราส่วนขนาดเล็กซึ่งมีมาตราส่วนที่เล็กกว่า 1:1,000,000 แผนที่ทางภูมิศาสตร์และแผนที่เฉพาะเรื่องทั่วไปมีการแบ่งมาตราส่วน เช่น แผนที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดใหญ่ทั่วไปคือ เรียกว่าภูมิประเทศ ภูมิศาสตร์ทั่วไปขนาดกลาง - การสำรวจภูมิประเทศ และการสำรวจทางภูมิศาสตร์ทั่วไปขนาดเล็ก

นอกเหนือจากแผนที่ทางภูมิศาสตร์แล้ว งานด้านการทำแผนที่ยังรวมถึง: แผนที่ทางภูมิศาสตร์ ลูกโลก แผนที่นูน โปรไฟล์ และบล็อกไดอะแกรม

แผนที่นูนจำลองพื้นผิวโลกในรูปแบบของแบบจำลองสามมิติสามมิติ

โปรไฟล์ - การตัดแนวตั้ง เปลือกโลกในบางทิศทางแผนที่จะ "สัมพันธ์กัน" กับแผนที่ตามลักษณะดังกล่าว: สร้างขึ้นบนมาตราส่วน มีสัญลักษณ์ เป็นตัวแทนของพื้นผิวโลกและปรากฏการณ์ที่อยู่ใกล้กับพื้นผิวโลกในรูปแบบทั่วไป

บล็อกไดอะแกรมคือการรวมกันของภาพเปอร์สเป็คทีฟของพื้นผิวโลกกับโปรไฟล์

การใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง: วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ, การวิจัยที่ซับซ้อน, สังคมศาสตร์ (หากไม่มีแผนที่เป็นไปไม่ได้ที่จะประเมินสภาพทางภูมิศาสตร์อย่างถูกต้องสำหรับความต้องการของเศรษฐกิจของประเทศ, พัฒนาแผนสำหรับการป้องกันและปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์, ร่างการกระจายที่เหมาะสม ของกำลังการผลิต, ระบุทิศทางของการพัฒนาแบบบูรณาการของภูมิภาคเศรษฐกิจ), สำหรับการปฐมนิเทศระหว่างทาง, พวกเขาทำหน้าที่เป็นพื้นฐานสำหรับการออกแบบเส้นทางการขนส่ง, การก่อสร้างอุตสาหกรรม, ในการพัฒนาแผนสำหรับการจัดวางวัตถุทางวัฒนธรรม, แผนที่ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในกิจการทางทหาร หากไม่มีการศึกษาแผนที่ก็เป็นไปไม่ได้

ตามวิธีการพรรณนาวัตถุ แผนที่เฉพาะเรื่องต่อไปนี้มีความโดดเด่น:

1. แผนที่พื้นหลังสี (แผนที่พืชพันธุ์ ดิน พื้นที่ธรรมชาติและอื่น ๆ.). แสดงความแตกต่างเชิงคุณภาพของวัตถุในพื้นที่หนึ่งๆ ส่วนใหญ่มักใช้ในภูมิศาสตร์ของโรงเรียน คำถามในแผนที่เหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การระบุตำแหน่งและขอบเขตของส่วนที่เลือกเป็นหลัก

2. แผนที่ของพื้นที่ พวกเขาระบุพื้นที่การกระจายของสัตว์แต่ละชนิด พืช พืชผล ฯลฯ แผนที่เหล่านี้กำหนดขอบเขตของพื้นที่

3. แผนที่ของไอโซลีน (แผนที่ของไอโซเทอร์ม ฯลฯ ) บนเส้นเหล่านั้น เส้นกำหนดสถานที่ที่เหมือนกันในแง่ของการแสดงออกเชิงปริมาณของปรากฏการณ์ พวกเขาเปิดเผยคุณสมบัติของเส้นทางไอโซลีน

4. แผนที่เส้นจราจร (แผนที่การไหลของสินค้า ทิศทางลม ฯลฯ)

5. แผนที่ไอคอน (แผนที่แหล่งแร่ ตำแหน่งของอุตสาหกรรม

ศูนย์กลางของประเทศและภูมิภาค เป็นต้น) ตัวเลขประเภทและขนาดต่าง ๆ แสดงถึงตำแหน่งของวัตถุที่แปลเป็นภาษาท้องถิ่น การใช้แผนที่เหล่านี้ ด้วยความช่วยเหลือของคำถามของครู การสะสมของวัตถุที่ใหญ่ที่สุดจะถูกเปิดเผย และคุณลักษณะของแต่ละภูมิภาคจะถูกสร้างขึ้น

6. แผนผัง แสดงอัตราส่วนของส่วนทั้งหมดในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ลักษณะของคำถามในแผนที่ดังกล่าวจะคล้ายกับคำถามในแผนที่ไอคอน แต่จะเน้นที่ขนาดการเน้นมากกว่า

7. แผนผัง (แผนที่ความหนาแน่นของประชากร การกระจายของฝน ฯลฯ) - สะท้อนความแตกต่างในความรุนแรงของปรากฏการณ์ด้วยสีหรือการแรเงา บนแผนที่ดังกล่าว มีการตั้งคำถามเพื่อระบุภูมิภาคที่มีความรุนแรงสูงสุดและต่ำสุดของปรากฏการณ์และรูปแบบในการกระจายทางภูมิศาสตร์

ในขั้นตอนการศึกษา แผนที่ ทำหน้าที่ด้านการศึกษาต่าง ๆ แผนที่ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยภาพหลักในทางภูมิศาสตร์ คุณสามารถสำรวจพื้นที่กว้างใหญ่ของพื้นผิวโลกและทั่วทั้งโลกได้ทันทีบนแผนที่นี้ หน้าที่หลัก ๆ ของแผนที่คือแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งของวัตถุบนพื้นผิวโลก ในเรื่องนี้มันทำหน้าที่เป็นวิธีการพิเศษที่จำเป็นสำหรับความรู้เนื่องจากไม่มีวิธีการอื่นใด - ไม่ว่าจะเป็นคำหรือรูปภาพหรือแม้แต่ความคุ้นเคยส่วนตัวกับพื้นที่ - ให้แนวคิดที่ชัดเจนและถูกต้องเกี่ยวกับการจัดวางวัตถุในอวกาศ ทิศทาง โครงร่าง และการรวมกัน แผนที่สะท้อนถึงภาษาของสัญลักษณ์ทั่วไป ไม่เพียง แต่ตำแหน่ง แต่ยังรวมถึงลักษณะของวัตถุที่ปรากฎบนนั้นด้วย ไม่เพียง แต่สถานะเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเคลื่อนไหว การพัฒนา และการเปลี่ยนแปลงของพวกมันด้วย ตัวอย่างคือแผนที่ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจและแผนที่พิเศษอื่น ๆ ในกระบวนการสอนภูมิศาสตร์แผนที่มีบทบาททางจิตวิทยาและการสอนที่สำคัญมาก - ช่วยให้ความรู้คล่องตัวอำนวยความสะดวกในการดูดซึมและการท่องจำ

การทำงานกับแผนที่ในกระบวนการสอนภูมิศาสตร์มีเป้าหมายในการสอนนักเรียนให้เข้าใจ อ่าน และรู้เรื่องนั้น ในวรรณคดีระเบียบวิธีไม่มีความชัดเจนเพียงพอในคำจำกัดความของแนวคิดของ "ความเข้าใจ" "การอ่าน" และ "ความรู้" ของแผนที่แม้ว่าจะใช้คำศัพท์ทั้งสามคำบ่อยๆ ในขณะเดียวกัน พวกเขากำหนดทิศทางที่แตกต่างกันในการทำงานกับแผนที่ ครูต้องแยกแยะระหว่างพวกเขาอย่างชัดเจนเพราะหากไม่มีสิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้ที่จะแนะนำการเรียนรู้อย่างมีสติและประสบความสำเร็จ

การเข้าใจแผนที่หมายถึงการมีความรู้ด้านการทำแผนที่: รู้ว่าแผนที่คืออะไร คุณสมบัติ เนื้อหา วัตถุประสงค์ สัญลักษณ์แต่ละอย่างบนแผนที่หมายถึงอะไร ควรใช้แผนที่อย่างไร และสิ่งนี้มีประโยชน์อย่างไร

การอ่านแผนที่หมายถึงการหาข้อสรุปเกี่ยวกับลักษณะทางภูมิศาสตร์ของประเทศต่างๆ โดยใช้สัญลักษณ์ทั่วไปร่วมกัน "เพื่อดูพื้นที่ตามที่เป็นจริง" (V. P. Budanov) เพื่อให้สามารถศึกษาและทำความเข้าใจโดยใช้ความช่วยเหลือจาก แผนที่แสดงตำแหน่ง สภาพ และความเชื่อมโยงของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของธรรมชาติและสังคมมนุษย์

การเรียนรู้ที่จะอ่านแผนที่เริ่มต้นขึ้นแล้วในระดับประถมศึกษา กระบวนการของการได้รับความรู้ด้านการทำแผนที่ ความรู้ด้านภูมิศาสตร์และการอ่านแผนที่ ซึ่งเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิดก่อตัวเป็นองค์ประกอบทั้งหมดที่แยกออกจากกันไม่ได้ซึ่งพัฒนาขึ้นในทุกขั้นตอนของการศึกษาในโรงเรียน แผนที่เองทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลความรู้ทางภูมิศาสตร์และการทำแผนที่ ดังนั้นการอ่านแผนที่จึงเป็นวิธีการสำคัญในการสอนภูมิศาสตร์

การรู้จักแผนที่หมายถึงการแสดงตำแหน่ง รูปร่าง และชื่อของวัตถุทางภูมิศาสตร์บางอย่างจากหน่วยความจำ

อย่างไรก็ตาม นักเรียนอาจ "รู้" แผนที่และไม่เข้าใจสิ่งที่แสดงบนแผนที่ ตัวอย่างเช่น พวกเขาสามารถแสดงชื่อของวัตถุทางภูมิศาสตร์โดยคำนึงถึงตำแหน่งของพวกเขาบนแผนที่อย่างแน่นหนา โดยไม่เข้าใจภาพการทำแผนที่ของวัตถุซึ่งชื่อเหล่านี้อ้างถึง

ขั้นตอนการแนะนำให้เด็กเข้าใจแผนที่นั้นใช้เวลานาน ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พวกเขาได้รับความรู้และทักษะเบื้องต้นในการหาทิศทางด้วยความช่วยเหลือของดวงอาทิตย์และเข็มทิศ นอกเหนือจากการศึกษาเนื้อหาทางเลขคณิตแล้ว พวกเขายังได้พัฒนาการแทนค่าเชิงพื้นที่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาเรียนรู้การใช้มาตราส่วนทางวาจา ทำความคุ้นเคยกับแผนของพื้นที่กับโลกและแผนที่ของรัสเซียและซีกโลก

ในการศึกษาแผน เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การวาดทิศทางที่ด้านข้างของเส้นขอบฟ้าและวัดระยะทางบนกระดาษ ทำความคุ้นเคยกับแผนที่ง่ายที่สุด (ของห้องเรียนและโรงเรียนที่มีพื้นที่โรงเรียนติดกัน) เรียนรู้ที่จะวาดแผนสำหรับวัตถุง่าย ๆ ด้วยตนเอง (หนังสือ กล่อง ฯลฯ) และสุดท้าย พวกเขาวาดแผนสำหรับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน "ด้วยตา" พัฒนาทักษะบางอย่างสำหรับการปรับทิศทางในการวาดภาพ จากนั้นพวกเขาเรียนรู้ที่จะอ่านแผนผังของพื้นที่ที่แนบมากับตำราและวางไว้ในแผนที่ การดำเนินการเหล่านี้ส่วนใหญ่ดำเนินการในรูปแบบ งานจริงภายใต้คำแนะนำของอาจารย์ งานทั้งหมดข้างต้นทำให้เด็กเข้าใจแผนที่

คุณลักษณะของแผนที่ถูกเปิดเผยโดยเปรียบเทียบกับแผนในระหว่างการสนทนาของครูกับนักเรียนโดยมีส่วนร่วมของแผนภูมิประเทศและแผนที่ของสหภาพโซเวียตและซีกโลก เด็กๆ จะเข้าใจสัญลักษณ์ที่ใช้บนแผนที่ทางกายภาพ แผนที่แร่ธาตุ และแผนที่ทางกายภาพของซีกโลก

เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับความหมายของสัญลักษณ์ทั่วไปของแผนที่ เด็ก ๆ จำเป็นต้องมีความคิดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับวัตถุจริงที่สอดคล้องกัน การเป็นตัวแทนดังกล่าวสะสมในการทัศนศึกษาในบริเวณใกล้เคียงโรงเรียน ภาพยนตร์, ภาพวาด, การสร้างแบบจำลองจากดินน้ำมัน, การทำงานกับทรายและในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ก็มีส่วนเกี่ยวข้องเช่นกัน

นอกจากนี้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นอกเหนือจากการรวบรวมความรู้และทักษะที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ (มาตราส่วนและการวัดระยะทางโดยใช้ตารางการทำแผนที่สำหรับการวางแนวและกำหนดพิกัด การกำหนดความสูงและธรณีสัณฐานในระดับความสูงและความลึกและเครื่องหมายจุด การจดจำวัตถุโดย สัญญาณธรรมดาของพวกเขา) นักเรียนได้รับทักษะในการกำหนดระยะทางโดยไม่ต้องใช้มาตราส่วนตามตารางตามเส้นเมอริเดียนและเส้นศูนย์สูตร (โดยใช้อัตราส่วนที่หนึ่งองศาของส่วนโค้งของเส้นเหล่านี้เท่ากับ 111 กม.) เรียนรู้การกำหนดมาตราส่วนโดยประมาณใน ชิ้นส่วนต่างๆแผนที่บนกริดทางภูมิศาสตร์ ความสูงของจุดที่อยู่ระหว่างขอบเขตของขั้นตอนสีของมาตราส่วนความสูง "ด้วยตา" การดูดซึมความรู้และทักษะใหม่เหล่านี้เกิดขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากคำอธิบายสั้น ๆ โดยครู การแสดงวิธีการทำงานกับแผนที่และการทำแบบฝึกหัดภาคปฏิบัติกับนักเรียนด้วยแผนที่และลูกโลก

ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 7 มีการนำเสนอแผนที่ใหม่ - แผนที่ทางการเมืองของซีกโลก กายภาพ การเมือง ภูมิอากาศ และแผนที่โซนธรรมชาติสำหรับทุกส่วนของโลก รวมถึงแผนที่พิเศษ (ความหนาแน่นของประชากร) การศึกษาเนื้อหาของแผนที่พิเศษเหล่านี้และวิธีการใหม่ในการพรรณนาปรากฏการณ์ที่ใช้กับพวกเขา (ไอโซเทอร์ม, วิธีคาร์โตแกรม, คาร์โทแกรมและพื้นหลังสี, วิธีการไอคอน) สามารถดำเนินการได้ทีละน้อย ตัวอย่างเช่น ครูที่มีประสบการณ์แนะนำนักเรียนเกี่ยวกับเนื้อหาของตำนานของแผนที่ใหม่ พยายามอธิบายสาระสำคัญของปรากฏการณ์ใหม่ที่แสดงบนแผนที่และคุณลักษณะของภาพ

ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 8 มีการทำความเข้าใจสาระสำคัญของแผนที่เมื่อเรียนหลักสูตรภูมิศาสตร์กายภาพของรัสเซีย นักเรียนทำความคุ้นเคยกับความแตกต่างของแผนที่ในระดับ (ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่) โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการบิดเบือนแผนที่เนื่องจากความโค้งของโลก ทำความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของการบิดเบือนเหล่านี้ (ระยะทาง ทิศทาง และ พื้นที่). จากการเปรียบเทียบแผนที่ในระดับต่างๆ นักเรียนจะได้รับแนวคิดเกี่ยวกับภาพรวมของภาพการทำแผนที่ ให้ความสนใจอย่างมากกับการทำความคุ้นเคยกับแผนที่ภูมิประเทศ

ในชั้นเรียนระดับสูงความคุ้นเคยกับคุณสมบัติของบัตรเศรษฐกิจและบัตรพิเศษอื่น ๆ ยังคงดำเนินต่อไป

ความสามารถในการอ่านแผนที่ไม่ได้รับการพัฒนาในทันที จะต้องมีการปรับปรุงอย่างลึกซึ้งและค่อยเป็นค่อยไปในระบบ หลังจะต้องเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับระบบความรู้ทางภูมิศาสตร์และการทำแผนที่เนื่องจากการอ่านแผนที่ไม่เพียง แต่อาศัยพวกเขาเท่านั้น แต่ยังใช้เป็นวิธีการพิเศษในการรับความรู้ทางภูมิศาสตร์และการทำแผนที่จากแผนที่ด้วย

ระบบที่รู้จักควรอยู่ในการใช้การ์ดด้วย ท้ายที่สุด เนื้อหาของแผนที่พิเศษจำนวนมากนั้นซับซ้อนกว่าแผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไป ดังนั้นควรเริ่มทำงานกับการ์ดดังกล่าวหลังจากที่นักเรียนเรียนรู้ที่จะเข้าใจและอ่านเพิ่มเติม บัตรธรรมดา. เห็นได้ชัดว่าการ์ดต้องปรับให้เข้ากับงานด้านการศึกษาและระดับการพัฒนาของนักเรียน

หลักการสอนต่อไปนี้สามารถแยกออกเป็นพื้นฐานได้:

สติและกิจกรรม

ทัศนวิสัย;

ความสม่ำเสมอและความสม่ำเสมอ;

ความแข็งแกร่ง;

วิทยาศาสตร์

ความพร้อมใช้งาน;

ความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติ

อย่างที่คุณทราบแผนที่มีมาก่อนยุคของเรา ตั้งแต่นั้นมา ภูมิศาสตร์ได้รวบรวมข้อมูลที่สะสมไว้ ข้อมูลบนแผนที่ถูก "บันทึก" ด้วยวิธีพิเศษ ภาษาแผนที่เป็นภาษาของสัญลักษณ์ที่มีรูปร่าง ขนาด และสีต่างๆกัน ช่วยให้คุณถ่ายทอดข้อเท็จจริงทางภูมิศาสตร์ คำอธิบาย รูปแบบในรูปแบบกราฟิกสั้นๆ แต่สิ่งนี้ไม่ได้ป้องกันแผนที่จากความสะดวกในการค้นพบ - เพื่อทำความเข้าใจตำแหน่งของวัตถุในอวกาศ แผนที่จึง "บอก" เกี่ยวกับโครงสร้างของเปลือกโลก การกระจายของสัตว์ ที่ตั้งของอุตสาหกรรม ดังนั้นจึงเรียกว่าภาษาที่สองของภูมิศาสตร์ ภาษาของแผนที่เข้าใจได้โดยไม่ต้องแปลโดยผู้ที่พูด ภาษาที่แตกต่างกัน. การศึกษาทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่เริ่มต้นด้วยการศึกษาอย่างละเอียดบนแผนที่ นั่นคือเหตุผลที่นักภูมิศาสตร์จำเป็นต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญเท่าเทียมกันสำหรับผู้มีการศึกษาทุกคนในการเรียนรู้วิธีการอ่านแผนที่เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามความต้องการของตนเอง
ค่อนข้างยากที่จะกำหนดแนวคิดของ "แผนที่" โดยหลักแล้วเนื่องจากแผนที่มีความหลากหลายมากในประเภท รูปแบบ และดังนั้นในคุณสมบัติของแผนที่ จัดแสดงวัตถุทุกประเภทและออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย และการนิยามวัตถุนั้นยากพอๆ กับการให้คำจำกัดความว่าหนังสือคืออะไร แม้ว่าทุกคนจะคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในการทำแผนที่สมัยใหม่จะเรียกแผนที่ ภาพสัญลักษณ์ของโลกที่ลดลงและเป็นแบบทั่วไป อื่นๆ เทห์ฟากฟ้าหรือทรงกลมท้องฟ้าที่สร้างขึ้นตามกฎทางคณิตศาสตร์และแสดงตำแหน่ง คุณสมบัติ และความสัมพันธ์ของวัตถุและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ คำจำกัดความดังกล่าวค่อนข้างยุ่งยาก แต่ก็ยังสะดวก เนื่องจากเป็นการรวมการบ่งชี้คุณสมบัติหลักของแผนที่: การฉายภาพ การวางนัยทั่วไป สัญญาณธรรมดา. คำจำกัดความนี้สามารถเสริมด้วยคำอธิบายของวัตถุประสงค์หลักของการ์ดซึ่งบ่งชี้ว่าพวกเขาใช้เป็นเครื่องมือในการรับรู้ กิจกรรมภาคปฏิบัติและการส่งข้อมูล
ในคำจำกัดความของแผนที่ คุณสมบัติหลักสามประการจะถูกบันทึกไว้: ความแน่นอนทางคณิตศาสตร์ การวางนัยทั่วไป และเครื่องหมาย ให้เราวิเคราะห์คุณสมบัติเหล่านี้โดยละเอียดยิ่งขึ้นและพยายามแสดงให้เห็นว่าความสำเร็จใหม่ของการทำแผนที่สมัยใหม่นำมาสู่พวกเขาอย่างไร
กฎทางคณิตศาสตร์ของการก่อสร้าง เป็นวิธีการย้ายจากพื้นผิวทางกายภาพของโลกจริง ซับซ้อน และผิดปกติทางเรขาคณิตไปยังระนาบของแผนที่ ในการทำเช่นนี้ ก่อนอื่นพวกเขาไปที่ตัวเลขทางคณิตศาสตร์ที่ถูกต้องของทรงรีหรือลูกบอล แล้วจึงคลี่ภาพออกเป็นระนาบอีกครั้งโดยใช้การพึ่งพาทางคณิตศาสตร์ที่เข้มงวด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง แต่ละจุดบนโลกที่มีลองจิจูด λ และละติจูด φ จะสอดคล้องกับจุดเดียวบนแผนที่ที่มีพิกัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า xและ ที่

x = ฉ 1 (φ, λ);
ย=ฉ 2 (φ, λ)

ในกรณีนี้ภาพการทำแผนที่จะต้องต่อเนื่องกันนั่นคือไม่มีช่องว่างซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องบีบอัดภาพในบางแห่งและขยายภาพในที่อื่น ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงการบิดเบือน แต่ควรพยายามเพื่อให้แน่ใจว่ามีการแจกจ่ายบนแผนที่ในลักษณะที่เป็นประโยชน์มากที่สุด ตัวอย่างเช่น บนแผนที่ที่จะประมาณขนาดของที่ดิน ไม่ควรมีการบิดเบือนพื้นที่ และบนแผนที่ที่จะวางเส้นทางของเรือหรือเครื่องบิน ทิศทางไม่ควรบิดเบี้ยว ในกรณีอื่น ๆ เป็นที่พึงปรารถนาที่การบิดเบี้ยวให้น้อยที่สุดในส่วนกลางของแผ่นแผนที่ หรือปรับให้เข้ากับโครงร่างของสถานะแผนที่ หรือคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในบางทิศทาง ฯลฯ
ตั้งแต่สมัยโบราณในการพัฒนาเส้นโครงแผนที่พื้นผิวเสริมถูกนำมาใช้เช่นการฉายภาพจากลูกบอลไปยังทรงกระบอกบนกรวยกรวยหลายกรวยบนระนาบ ฯลฯ ดังนั้นชื่อของการฉายภาพ: ทรงกระบอก, กรวย, หลายเหลี่ยม, ราบ แต่เรื่องไม่จบเพียงแค่นั้น มีการสร้างการฉายภาพตามอำเภอใจหลายสิบรายการซึ่งไม่มีอะนาล็อกทางเรขาคณิตที่ชัดเจนเช่นนี้ แต่จำเป็นต่อการตอบสนองความต้องการต่างๆ ของผู้ใช้แผนที่ในแง่ของการมองเห็น การวัด การนำทาง ฯลฯ
ในการทำแผนที่สมัยใหม่ มีการสร้างแผนภาพขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับแผนที่ครอบคลุมพื้นที่ใด ๆ (โลกโดยรวม ทวีปและมหาสมุทร ประเทศ ฯลฯ) เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ (วิทยาศาสตร์ การศึกษา การนำทาง และแผนที่อื่น ๆ) ที่มีขนาดแตกต่างกัน เมื่อรวบรวมแผนที่ใหม่ นักทำแผนที่แทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการคำนวณเส้นโครง มันก็เพียงพอแล้วสำหรับเขาที่จะหันไปใช้แผนที่พิเศษซึ่งมีการนำเสนอตารางการทำแผนที่ของตัวเลือกใดก็ได้ ยังคงมีบางครั้งที่จำเป็นต้องมีการคาดการณ์ใหม่ ตัวอย่างเช่นใน ทศวรรษที่ผ่านมาเมื่อความสนใจในการศึกษามหาสมุทรเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีการฉายภาพพิเศษในบริเวณน้ำที่ไม่บิดเบี้ยวเลยหรือบิดเบี้ยวในระดับที่น้อยมาก
ก่อนหน้านี้ เมื่อนักภูมิศาสตร์มุ่งความสนใจไปที่การศึกษาพื้นที่ การสร้างแผนที่เชิงแผนที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้การบิดเบือนภายในทวีปมีน้อยที่สุด บางครั้งพวกเขาถึงกับเลิกใช้ภาพภายในมหาสมุทรด้วยซ้ำ (รูปที่ 3.1)

ข้าว. 3.1. การฉายภาพแผนที่โลกที่มีภาพแตกในมหาสมุทร

ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว และสิ่งนี้สะท้อนให้เห็นในการพัฒนาเส้นโครงแผนที่ใหม่ บนมะเดื่อ 3.2. มีการยกตัวอย่างการฉายภาพที่ผิดปกติสำหรับแผนที่มหาสมุทรโลก

ข้าว. 3.2. การฉายภาพแผนที่มหาสมุทรโลกพร้อมการแบ่งภาพในทวีปต่างๆ

แสดงพื้นที่น้ำโดยไม่มีการบิดเบี้ยวของพื้นที่ และสะดวกมากสำหรับการวัดขนาดของชั้นวาง แนวสันใต้น้ำ และองค์ประกอบต่างๆ ของพื้นมหาสมุทร แต่เพื่อให้ได้ภาพมหาสมุทรที่เท่าเทียมกัน จำเป็นต้อง "เสียสละ" ความแม่นยำของภาพทวีปต่างๆ โครงร่างของพวกเขาบิดเบี้ยวฉีกขาดอย่างมาก แผนที่มีลักษณะที่ผิดปกติ แต่สะดวกสำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะของธรณีวิทยาทางทะเล ธรณีสัณฐานวิทยา และสมุทรศาสตร์
การค้นหาการฉายภาพใหม่หรือการดัดแปลงเวอร์ชันเก่านั้นดำเนินการวิเคราะห์ด้วยความช่วยเหลือของคอมพิวเตอร์ สร้างขึ้นในปัจจุบัน โปรแกรมพิเศษและอัลกอริธึมที่ช่วยให้คุณสามารถคำนวณตารางการทำแผนที่ด้วยเส้นเมอริเดียนและเส้นขนานที่กำหนดไว้ล่วงหน้าพร้อมการกระจายการบิดเบือนที่ต้องการ ในการทำเช่นนี้ ขั้นแรกให้วาดภาพสเก็ตช์โดยประมาณ จากนั้นมองหาสมการที่อธิบายตารางที่กำหนดทุกประการ เมื่อดีบั๊กอัลกอริทึมสำหรับการฉายภาพประเภทใดๆ แล้ว คุณสามารถสร้างตัวแปรใดๆ ก็ได้ในอนาคต
เกี่ยวกับการสร้างพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของแผนที่ เราสามารถพูดได้ด้วยเหตุผลที่ดีว่าตอนนี้เป็น "เรื่องของเทคโนโลยี" การตัดสินดังกล่าวเป็นจริงมากขึ้นเนื่องจากการวาดตารางการทำแผนที่นั้นดำเนินการโดยเครื่องบันทึกพิกัดอัตโนมัติ - อุปกรณ์วาดภาพพร้อมการควบคุมโปรแกรม
การทำแผนที่ทั่วไป - นี่คือการเลือกบนแผนที่ของหลัก จำเป็น และลักษณะทั่วไปที่มีจุดประสงค์ตามขนาดและวัตถุประสงค์ของแผนที่ ลักษณะทั่วไปเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของแผนที่ ทุกแผนที่แม้แต่ขนาดใหญ่ที่สุดก็มีอยู่เนื่องจากแม้แต่ในขนาดใหญ่ก็เป็นไปไม่ได้ (และแทบไม่จำเป็น) ที่จะแสดงวัตถุพร้อมรายละเอียดและรายละเอียดทั้งหมด เราต้องกำจัดบางส่วนออกไปเพื่อทำให้ง่ายขึ้น แต่การวางลักษณะทั่วไปไม่ได้ลดลงเพียงการทำให้เข้าใจง่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเลือกสิ่งสำคัญอีกด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมแผนที่จึงแตกต่างจากภาพถ่ายอื่นๆ ของพื้นที่ เช่น ภาพถ่าย ภาพถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายอวกาศ
ปัญหาของการสรุปทั่วไปจะกล่าวถึงในรายละเอียดในหัวข้อที่ 8
ความสำคัญของภาพแผนที่ - นี่คือคุณสมบัติที่ทำให้แผนที่แตกต่างจากโมเดลกราฟิกอื่น ๆ เครื่องหมายบนแผนที่เป็นองค์ประกอบที่มองเห็นได้ของภาพ พวกเขาแสดงวัตถุปรากฏการณ์และกระบวนการอย่างมีเงื่อนไขแสดงตำแหน่งลักษณะเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ ชุดของสัญลักษณ์สร้างเป็นภาพแผนที่ และชุดของภาพประกอบกันเป็นภาพแผนที่ที่สมบูรณ์
บทบาทของสัญญาณบนแผนที่นั้นถูกกำหนดโดยสิ่งเหล่านั้น หน้าที่ที่พวกเขาทำประการแรกด้วยความช่วยเหลือของสัญญาณปัญหาจะได้รับการแก้ไข การสื่อสาร, การถ่ายโอนข้อมูลระหว่างกลุ่มคนต่าง ๆ (งานของการสื่อสาร) เครื่องหมายการทำแผนที่ช่วยให้การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานในสาขาต่างๆ ของโลกและสังคมศาสตร์ ผู้รวบรวมและผู้ใช้แผนที่ที่อยู่ในกลุ่มอาชีพต่างๆ ป้ายทำแผนที่เป็นสากล คนที่พูดภาษาต่าง ๆ จะเข้าใจพวกเขาโดยไม่ต้องแปล
วิธีการอย่างเป็นระบบในการแสดงความเป็นจริง - การถ่ายโอนองค์ประกอบและการเชื่อมโยงระหว่างกัน เมื่อวาดแผนที่ทุกครั้ง วัตถุทั้งหมดจะถูกลงจุดตามลำดับจากหลักไปยังรอง จากใหญ่ไปหาเล็กที่สุด
แผนที่ยังมีคุณสมบัติทางปัญญาซึ่งสำคัญที่สุดคือ:
- ทัศนวิสัย - ความสามารถในการตรวจสอบและรับรู้องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเนื้อหาของแผนที่อย่างรวดเร็ว ไม่มีวรรณกรรมหรือ วัสดุกราฟิกไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากเท่าที่สามารถหาได้จากการศึกษาแผนที่ เพื่อให้แผนที่มองเห็นได้ จำเป็นต้องทำการวางองค์ประกอบเนื้อหาโดยรวมอย่างระมัดระวังและเลือกสัญลักษณ์และการออกแบบแผนที่ให้ถูกต้อง
- ความสามารถในการวัด - ให้ความสามารถในการใช้แผนที่เพื่อแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม ทำการคำนวณและการวัด
- ให้ข้อมูล - ความสามารถในการจัดเก็บและส่งข้อมูลที่หลากหลายเกี่ยวกับวัตถุและปรากฏการณ์ไปยังผู้อ่าน บนแผนที่ทั้งหมด ข้อมูลจะถูกส่งโดยใช้ไอคอนและชุดค่าผสม เราอ่านข้อมูลจากการ์ดโดยใช้สัญญาณทั่วไป แต่ยังมีข้อมูลที่ซ่อนอยู่บนแผนที่ที่สามารถดึงออกมาได้โดยใช้เหตุผลอย่างมีเหตุผล ตัวอย่างเช่น เราสามารถระบุได้จากแผนที่ว่าการตั้งถิ่นฐานหนึ่งๆ ตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำ สันเขายาวจากเหนือไปตะวันออก หรือทางลง (ราบ) สูงชันถึงแม่น้ำ ฯลฯ
- ความสามารถในการอ่าน - การมองเห็นรายละเอียดขององค์ประกอบของภาพการทำแผนที่
- ความน่าเชื่อถือ - ความถูกต้องของข้อมูลที่ได้รับจากการ์ดในวันที่กำหนด
- ความแม่นยำ - ระดับที่ตำแหน่งของจุดบนแผนที่สอดคล้องกับตำแหน่งในความเป็นจริง

แผนที่จะอ่านได้เห็นภาพและให้ข้อมูลได้อย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับนักทำแผนที่ที่จะรวบรวมแผนที่นี้ เขาเลือกสัญญาณและวิธีการเป็นตัวแทน ตัดสินใจว่าจะแสดงอะไรและอย่างไรบนแผนที่ กำหนดว่าวัตถุใดมีความสำคัญสำหรับแผนที่นี้ และสิ่งใดสามารถละทิ้งได้ “แผนที่ไม่เหมือนภาพถ่าย ไม่ใช่สำเนาของพื้นที่ แต่เป็นภาพของความเป็นจริงที่ผ่านศีรษะและมือของนักทำแผนที่” (A.M. Berlyant)

นักภูมิศาสตร์-นักทำแผนที่ชาวโซเวียตที่มีชื่อเสียง K.A. Salishchev แยกออก หน้าที่หลัก แผนที่เป็นแบบจำลองของความเป็นจริง: การสื่อสาร การปฏิบัติการ การรู้คิด และการพยากรณ์
การสื่อสาร, เช่น. การถ่ายโอนข้อมูลดำเนินการโดยใช้แผนที่เมื่อใช้เป็นแหล่งข้อมูล แผนที่ยังทำหน้าที่เป็นที่เก็บข้อมูล
การดำเนินงานฟังก์ชั่นของแผนที่แสดงในการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติต่าง ๆ ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขาเช่นในการนำทางเมื่อวางแผนเส้นทางการสื่อสารการพัฒนาแผนสำหรับการพัฒนาดินแดน ฯลฯ
ความรู้ความเข้าใจฟังก์ชั่นของแผนที่ถูกใช้โดยผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ (และกิจกรรมอื่น ๆ ) และโดยนักเรียนเพื่อรับความรู้
คาดการณ์ฟังก์ชั่นของแบบจำลองการทำแผนที่นั้นดำเนินการเพื่อระบุทิศทางของการพัฒนาในอนาคตของปรากฏการณ์ที่พวกเขาศึกษา

การศึกษาปรากฏการณ์ใด ๆ โดยอาศัยการวิเคราะห์และการใช้แผนที่ทางภูมิศาสตร์ เรียกว่า วิธีการวิจัยทางแผนที่ฉัน. การพัฒนาวิธีการนี้เป็นเนื้อหาของส่วนพิเศษของการทำแผนที่ซึ่งศึกษาการใช้แผนที่เพื่อความรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่ปรากฎ ในขณะเดียวกัน นี่เป็นหนึ่งในภารกิจหลักของการทำแผนที่สมัยใหม่

3.2. องค์ประกอบของแผนที่ภูมิศาสตร์

องค์ประกอบของแผนที่เป็นองค์ประกอบซึ่งรวมถึงทางคณิตศาสตร์
ฐาน ภาพแผนที่ อุปกรณ์ช่วย และข้อมูลเพิ่มเติม (รูปที่ 3.3)

ข้าว. 3.3. แผนผังองค์ประกอบของแผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไป

กรอบงานทางคณิตศาสตร์ประกอบด้วยเส้นโครงแผนที่และกริดที่เกี่ยวข้อง มาตราส่วน และจุดอ้างพิกัดทางภูมิศาสตร์
เส้นโครงแผนที่ - วิธีการกำหนดทางคณิตศาสตร์ในการแสดงพื้นผิวของทรงรีบนระนาบ
ตารางแผนที่ - เครือข่ายเส้นขนานและเส้นเมอริเดียนบนแผนที่
มาตราส่วน - ระดับการลดลงของเส้นบนแผนที่เทียบกับตำแหน่งแนวนอนบนพื้น
ฐานแผนที่จีโอเดติก - ชุดข้อมูล geodetic ที่จำเป็นในการสร้างแผนที่ ซึ่งรวมถึงระบบพิกัดและพิกัดของจุดควบคุมที่กำหนดไว้ในระบบนี้
ฐานจีโอเดติก จะได้รับเฉพาะในแผนที่ภูมิประเทศที่มีขนาดไม่เกิน 1:500,000 บนแผนที่ขนาดเล็กและเฉพาะเรื่อง ฐานทางภูมิศาสตร์จะไม่แสดง รูปแบบของแผนที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพื้นฐานทางคณิตศาสตร์
รูปแบบแผนที่ - นี่คือตำแหน่งร่วมกันภายในกรอบของดินแดนที่ปรากฎ ชื่อของแผนที่ ตำนาน แผนที่แทรก และข้อมูลอื่นๆ
ภาพการทำแผนที่ - ส่วนสำคัญแผนที่ทางภูมิศาสตร์ใดๆ ประกอบด้วยการแสดงกายภาพ-ภูมิศาสตร์ (ธรรมชาติ) และปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้น อุทกศาสตร์ พืชพรรณและดิน การบรรเทาทุกข์จึงถูกจัดประเภทเป็นองค์ประกอบทางกายภาพและทางภูมิศาสตร์ (ธรรมชาติ) และทางเศรษฐกิจและสังคม - การตั้งถิ่นฐาน, วิธีการสื่อสาร , พรมแดน องค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้มีอยู่บนแผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไปและเชื่อมโยงถึงกันอย่างใกล้ชิด
บนแผนที่ใจความ องค์ประกอบเหล่านี้ก่อตัวเป็นพื้นฐานทางภูมิศาสตร์ ซึ่งทำหน้าที่วางแผนและเชื่อมโยงองค์ประกอบของเนื้อหาใจความและตัวมันเอง เนื้อหาใจความ(เช่น เศรษฐศาสตร์ สัตว์โลกเป็นต้น) (รูปที่ 3.4)

ข้าว. 3.4. แผนผังขององค์ประกอบแผนที่เฉพาะเรื่อง

อุปกรณ์เสริมแผนที่ ที่จำเป็นสำหรับการใช้แผนที่อย่างสะดวกและรวมถึงกราฟคาร์โตเมตริก วัสดุที่ใช้ แผนผังความรู้ และข้อมูลอ้างอิงต่างๆ บนแผนที่ใด ๆ มีตำนานของสัญญาณทั่วไปพร้อมคำอธิบายที่จำเป็นสำหรับพวกเขา สำหรับแผนที่ภูมิประเทศได้รวบรวมตารางบังคับพิเศษของป้ายทั่วไป บนแผนที่เฉพาะเรื่อง ตำนานจะพิมพ์อยู่บนแผ่นแผนที่เป็นส่วนใหญ่ สามารถจัดรูปแบบเป็นข้อความหรือตารางได้
ข้อมูลเพิ่มเติม อธิบายและเสริมเนื้อหาของแผนที่ ซึ่งรวมถึงแผนที่แทรก แผนภูมิ กราฟ โปรไฟล์ ข้อมูลข้อความ
เครื่องประดับ และผู้ใช้แผนที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเป็นหลัก เนื่องจากช่วยให้อ่านและใช้งานได้ง่ายขึ้น

3.3. การจำแนกประเภทของแผนที่ภูมิศาสตร์

ปัจจุบันมีการ์ดที่แตกต่างกันจำนวนมากซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนการ์ดที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการนำเทคโนโลยีใหม่และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ การแบ่งประเภทของไพ่มี ความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อทำงานเกี่ยวกับการทำแผนที่เช่นเดียวกับเมื่อใช้แผนที่ การจำแนกประเภทแผนที่และแผนที่โดย ป้ายต่างๆที่จำเป็นสำหรับการบัญชี การจัดเก็บ การค้นคืนสารสนเทศ
แผนที่สามารถแบ่งออกได้ตามเกณฑ์หลายประการ: มาตราส่วน เนื้อหา วัตถุประสงค์ ความครอบคลุมของอาณาเขต จำนวนสีและแผ่นงาน ลักษณะการใช้งาน ฯลฯ

3.3.1. การจำแนกแผนที่ตามมาตราส่วน

การแบ่งแผนที่ตามมาตราส่วนขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ที่แมปเป็นประการแรก และมาตราส่วนก็ส่งผลต่อเนื้อหาของแผนที่และรายละเอียดของภาพ มีสี่กลุ่มหลัก:
1) แผน - 1:5000, 1:2000, 1:1000 1:500;
2) ขนาดใหญ่ - 1:10,000, 1:25,000, 1:50,000, 1:100,000 (แผนที่ภูมิประเทศ);
3) ขนาดกลาง - 1:200,000, 1:500,000 และ 1:1,000,000 (ภาพรวมและแผนที่ภูมิประเทศ)
4) สเกลเล็ก - เล็กกว่า 1:1,000,000 (แบบสำรวจ)
ใน ประเทศต่างๆมีแผนกอื่น ๆ สาเหตุหลักมาจากขนาดของประเทศ

3.3.2. การจำแนกประเภทของแผนที่ตามพื้นที่ครอบคลุม

ตามความครอบคลุมของอาณาเขตที่เสนอโดยก.ม. Berlyant ไพ่สามารถแบ่งออกได้:

• ระบบสุริยะ;
• ดาวเคราะห์ (โลก);
• ซีกโลก;
• ทวีปและมหาสมุทร
  
• ประเทศ;
  
• สาธารณรัฐ ภูมิภาค และหน่วยการปกครองอื่นๆ
  
• พื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่เกษตรกรรม
  
• ดินแดน (ท้องถิ่น) แยกต่างหาก (เขตสงวน, พื้นที่รีสอร์ท, ฯลฯ );
  
• การตั้งถิ่นฐาน (เมือง, เมือง);
  
• เขตเมือง เป็นต้น

3.3.3. การจำแนกแผนที่ตามเนื้อหา

การจำแนกประเภทของแผนที่นี้แยกความแตกต่างระหว่างภูมิศาสตร์ทั่วไป เฉพาะเรื่อง และแบบพิเศษ
แผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไป - แผนที่รายละเอียดของพื้นที่ซึ่งแสดงองค์ประกอบหลักของพื้นที่ องค์ประกอบหลักของภูมิประเทศ ได้แก่ ทางกายภาพและทางภูมิศาสตร์ (อุทกศาสตร์ พืชปกคลุมและดิน การบรรเทาทุกข์) และเศรษฐกิจสังคม (การตั้งถิ่นฐาน ถนน และพรมแดน)
คุณลักษณะของเนื้อหาของแผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไปขึ้นอยู่กับขนาดของแผนที่เป็นหลัก ในหมู่พวกเขาคือ แผนที่ภูมิประเทศ- แผนที่โดยละเอียดของพื้นที่ช่วยให้คุณกำหนดตำแหน่งจุดที่วางแผนไว้และระดับความสูง มีการเผยแพร่ในระดับตั้งแต่ 1:10,000 ถึง 1:1,000,000 รวมอยู่ด้วย การ์ดที่มีขนาดใหญ่กว่า 1:5,000 จะถูกเรียก แผนภูมิประเทศ.
แผนที่เฉพาะเรื่อง เนื้อหาหลักที่กำหนดโดยหัวข้อเฉพาะที่แสดง พวกเขาแบ่งย่อย:

• บนการ์ด ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ(กายภาพ-ภูมิศาสตร์): ธรณีวิทยา ภูมิอากาศ สมุทรศาสตร์ สัตววิทยา ดิน ฯลฯ;
• การ์ด ปรากฏการณ์ทางสังคม(เศรษฐกิจและสังคม): แผนที่ประชากร การเมือง เศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม ฯลฯ

บัตรพิเศษ ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหางานบางประเภทหรือออกแบบมาสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม ส่วนใหญ่มักจะเป็นการ์ดทางเทคนิค
แผนที่นำทาง:
- การนำทางในอวกาศ
- การเดินเรือทางทะเล
- นักบิน;
- ถนน, ถนน.
แผนที่ที่ดิน:
- ที่ดินที่ดิน;
- ที่ดินของเมือง
- ที่ดินน้ำ
- ที่ดินป่าไม้ ฯลฯ
การ์ดทางเทคนิค:
- การสื่อสารใต้ดิน
- วิศวกรรมและการก่อสร้าง
การ์ดออกแบบ:
- ปรับปรุง;
- การจัดการป่าไม้
- การจัดการที่ดิน ฯลฯ

3.3.4. การจำแนกประเภทของการ์ดตามวัตถุประสงค์

วัตถุประสงค์ของการ์ดนั้นมีความหลากหลายมากและเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุขอบเขตทั้งหมดของแอปพลิเคชัน ให้เราตั้งชื่อแผนที่ประเภทหลักตามวัตถุประสงค์เท่านั้น: วิทยาศาสตร์และการอ้างอิง การศึกษา ท่องเที่ยว กีฬา โฆษณาชวนเชื่อ เที่ยวบิน ฯลฯ
บัตรอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการอ้างอิง เช่นเดียวกับการศึกษาเชิงลึกและสมบูรณ์เกี่ยวกับคุณลักษณะของดินแดนที่ปรากฎ แผนที่เหล่านี้แสดงความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุและปรากฏการณ์ คุณลักษณะของการจัดวาง จุดประสงค์หลักของการ์ดเหล่านี้คือการดำเนินการ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการแก้ปัญหาในทางปฏิบัติต่างๆ
การ์ดการเรียนรู้ มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษา เนื้อหาจะต้องสอดคล้องกับโปรแกรมและตำราเรียนที่เกี่ยวข้อง แผนที่สำหรับ โรงเรียนประถมศึกษามีเนื้อหาที่เรียบง่ายที่สุด สดใส สีสัน และการออกแบบภาพ การ์ดสำหรับมหาวิทยาลัยมีเนื้อหาใกล้เคียงกับการ์ดอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์ ตามกฎแล้วมีการออกแบบที่เข้มงวดและรัดกุม
การ์ดโฆษณาชวนเชื่อ ออกแบบมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรู้ทางการเมือง วิทยาศาสตร์ เศรษฐกิจ และอื่นๆ และการเพิ่มขึ้น วัฒนธรรมร่วมกันของผู้คน ส่วนใหญ่มักจะทำในรูปแบบของโปสเตอร์หรือไดอะแกรม
บัตรท่องเที่ยว ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยวและตอบสนองความต้องการด้านการท่องเที่ยว พวกเขาแสดงวัตถุต่าง ๆ ที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยว - ที่ตั้งแคมป์, ที่ตั้งแคมป์, อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์,สถานที่จัดเลี้ยง ฯลฯ มีการสำรวจ แผนที่รถยนต์ แผนที่ท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นต้น
บัตรกีฬา ออกแบบมาสำหรับนักกีฬาและตอบสนองความต้องการของพวกเขา นักดูดาวรู้ว่าต้องวิ่งไปที่จุดใดในภูมิประเทศ ขณะที่เขาทำงานกับแผนที่โดยละเอียดของพื้นที่ ตัวอย่างเช่น การค้นหาทิศทางวิทยุกีฬา (“การล่าสุนัขจิ้งจอก”) เป็นประเภทของการแข่งขันที่ประกอบด้วยการตรวจจับการปฏิบัติงานของเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ (“สุนัขจิ้งจอก”) ที่พรางตัวอยู่บนพื้น เพื่อค้นหา "สุนัขจิ้งจอก" แต่ละตัว นักกีฬามีแผนที่ของพื้นที่ค้นหาซึ่งมีการวางแผนจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด
ตามคุณสมบัติรองการ์ดจะถูกแบ่ง: ตามจำนวนสี - เป็นหลายสีและสีเดียวตามจำนวนแผ่นงาน - เป็นหลายแผ่น (ระบุจำนวนแผ่น) และแผ่นเดียวโดยธรรมชาติ การใช้งาน - ติดผนังและตั้งโต๊ะ ฯลฯ

3.4. งานเขียนแผนที่อื่น ๆ

ภาพการทำแผนที่ของโลกยังรวมถึงแผนที่ภูมิประเทศ แผนที่นูน บล็อกไดอะแกรม และลูกโลก พวกเขาแตกต่างจากแผนที่ทางภูมิศาสตร์ตรงที่แทนที่จะใช้เส้นโครงแผนที่ แต่ใช้วิธีอื่นในการสร้างทางคณิตศาสตร์
แผนภูมิประเทศ - ภาพการทำแผนที่บนระนาบในการฉายภาพมุมฉากในพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ จำกัด ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงความโค้งของพื้นผิวเรียบ
เมื่อวาดภาพพื้นที่เล็ก ๆ ของพื้นผิวโลกบนระนาบ ความโค้งของพื้นผิวนี้สามารถละเลยได้ ในกรณีนี้ เส้นทั้งหมดของไซต์จะถูกวัดบนพื้นดิน ลดขนาดลงเป็นขนาดที่ยอมรับได้ และนำไปใช้กับกระดาษโดยไม่ต้องแนะนำการแก้ไขความโค้งของโลก - ภาพวาดดังกล่าวเรียกว่าแผน
แผนที่ - การรวบรวมแผนที่อย่างเป็นระบบตามโปรแกรมทั่วไปเช่น ผลงานทั้งหมด. ใน Atlas แผนที่ทั้งหมดเชื่อมต่อกันตามธีมและเติมเต็มซึ่งกันและกัน นี่ไม่ใช่แค่ชุดการ์ดภายใต้การรวมทั่วไป แต่เป็นระบบของการ์ดที่เชื่อมต่อกันและเสริม นอกจากแผนที่แล้ว แผนที่ยังมีข้อความอธิบาย กราฟิก ภาพถ่าย และข้อมูลอ้างอิง (รูปที่ 3.5)

ข้าว. 3.5. แผนที่โลก

ลูกโลก - แบบจำลองทรงกลมหมุนของโลก ดาวเคราะห์ หรือทรงกลมท้องฟ้าพร้อมพิมพ์ภาพการทำแผนที่ เมื่อเปรียบเทียบกับแผนที่ทางภูมิศาสตร์ ลูกโลกมีข้อดีหลายอย่าง: ขนาด โครงร่าง และตำแหน่งสัมพัทธ์ของเส้นชั้นความสูงจะถูกถ่ายทอดลงบนลูกโลกอย่างถูกต้อง ลูกโลกรักษาอัตราส่วนที่ถูกต้องของพื้นที่ของวัตถุ ลูกโลกแบ่งย่อยตามขนาด หัวเรื่อง (ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ การเมือง) วัตถุประสงค์ (การศึกษา การอ้างอิง การเดินเรือ) ขนาด (สำนักงานขนาดใหญ่ เดสก์ท็อป ขนาดเล็ก และขนาดเล็ก) ลูกโลกสมัยใหม่ทำจากพลาสติกพร้อมไฟส่องสว่างภายใน สามารถถอดออกได้เพื่อการสาธิต โครงสร้างภายในเปลือกโลกตลอดจนความโล่งใจ ส่วนใหญ่แล้วลูกโลกถูกสร้างขึ้นในระดับ 1:30,000,000 - 1:80,000,000 พวกมันถูกใช้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ โสตทัศนูปกรณ์เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา

ข้าว. 3.6. ลูกโลกทางภูมิศาสตร์

การ์ดบรรเทาทุกข์ ให้ภาพสามมิติของพื้นที่ มาตราส่วนแนวตั้งของแผนที่ดังกล่าวมักเกินจริงหลายเท่าเมื่อเทียบกับมาตราส่วนแนวนอนเพื่อความชัดเจน เนื้อหาอื่นๆ ทั้งหมดบนแผนที่นูนจะแสดงด้วยสัญลักษณ์ทั่วไป ใช้เป็นสื่อการสอนสำหรับแก้ปัญหาภาคปฏิบัติต่างๆ

ข้าว. 3.7. แผนที่โล่งอกของยูเครน

ข้าว. 3.8. แผนที่โล่งอกของรัสเซีย

บล็อกไดอะแกรม - ภาพวาดการทำแผนที่แบนสามมิติที่รวมภาพของพื้นผิวใด ๆ ที่มีส่วนแนวตั้งตามยาวและตามขวาง (รูปที่ 3.9, 3.10) บล็อกไดอะแกรมสามารถเป็น: ธรณีวิทยา ธรณีสัณฐานวิทยา ดิน ฯลฯ บล็อกไดอะแกรมอิเล็กทรอนิกส์สามารถหมุนและหมุนบนหน้าจอแสดงผลเพื่อ มุมมองที่ดีที่สุดจากด้านต่างๆ

ข้าว. 3.9. บล็อกไดอะแกรม

ข้าว. 3.10. แบบจำลองดิจิตอล 3 มิติของพื้นผิวโลก

แผนที่ Anaglyph - แผนที่ที่พิมพ์ด้วยสีคู่ตรงข้ามสองสี (เช่น น้ำเงิน-เขียวและแดง) พร้อมการเลื่อนพารัลแลกซ์เพื่อให้ภาพทั้งสองกลายเป็นคู่สเตอริโอ ออกแบบมาสำหรับการรับชมผ่านแว่นตาสเตอริโอพิเศษ ใช้เป็นสื่อการสอน
โฟโต้การ์ด - แผนที่รวมกับภาพถ่าย ภาพถ่ายทางอากาศและอวกาศใช้ในการสร้างแผนที่ภาพถ่าย โฟโต้แมปเป็นพื้นฐานสำหรับการทำแผนที่เฉพาะเรื่อง การวางแนว งานด้านวิศวกรรม มีแผนที่ภาพถ่ายพื้นผิวของดาวเคราะห์ ใช้เป็นสื่อการสอน

ข้าว. 3.10. แผนที่ภาพถ่ายของซีกโลกทั้งสองของดาวอังคาร

การ์ดแบนเนอร์ - แผนที่ที่พิมพ์บนแผ่นฟิล์มใสและมีไว้สำหรับการฉายภาพบนหน้าจอ โดยปกติแล้ว ชุดของสไลด์จะถูกสร้างด้วยเนื้อหาที่แตกต่างกันสำหรับพื้นที่หนึ่งๆ เมื่อทำการสาธิต คุณสามารถรวมการ์ดแบนเนอร์หลายๆ ใบเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ ใช้เป็นภาพ คู่มือการศึกษา.
การ์ดไมโครฟิช - สำเนาขนาดเล็กจากแผนที่หรือแผนที่บนภาพถ่ายและฟิล์ม ไมโครฟิล์มช่วยให้จัดเก็บงานทำแผนที่ต่างๆ จำนวนมากได้ในขนาดกะทัดรัด ข้อมูลจากแผนที่เหล่านี้สามารถป้อนลงในคอมพิวเตอร์เมื่อรวบรวมและวิเคราะห์แผนที่

คำถามและงานสำหรับการควบคุมตนเอง

1. ให้คำจำกัดความของการทำแผนที่และสาขาวิชาทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคหลักของการทำแผนที่
2. สิ่งที่อุตสาหกรรมและสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และเทคนิคทำ การทำแผนที่สมัยใหม่?
3. อธิบายความสัมพันธ์ของการทำแผนที่กับมาตรวิทยาและธรณีศาสตร์
4. การทำแผนที่เกี่ยวข้องกับโฟโตแกรมเมทรีและข้อมูลการสำรวจระยะไกลอย่างไร
5. อธิบายความสัมพันธ์ของการทำแผนที่สมัยใหม่กับวิทยาศาสตร์ทางเศรษฐกิจและสังคม
6. ความสัมพันธ์ระหว่างการทำแผนที่กับภูมิสารสนเทศคืออะไร?
7. การทำแผนที่สมัยใหม่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทางคณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติของการผลิตอย่างไร
8. ประวัติความเป็นมาของไพ่ใบแรกคืออะไร?
9. กำหนดแผนที่ทางภูมิศาสตร์
10. แสดงรายการและแสดงลักษณะเฉพาะของแผนที่ทางภูมิศาสตร์
11. แสดงรายการและกำหนดคุณสมบัติหลักของแผนที่ทางภูมิศาสตร์
12. แผนที่แตกต่างจากแผนอย่างไร
13. ลูกโลกมีคุณสมบัติอย่างไร?
14. อธิบายความแตกต่างระหว่างแผนที่ภูมิศาสตร์ทั่วไปกับแผนที่เฉพาะเรื่อง?
15. แสดงรายการองค์ประกอบของแผนที่ภูมิศาสตร์
16. ตั้งชื่อและกำหนดองค์ประกอบทางคณิตศาสตร์ของแผนที่
17. ทำรายการและอธิบายองค์ประกอบการทำแผนที่ของแผนที่
18. แผนที่ทางภูมิศาสตร์จำแนกตามมาตราส่วนอย่างไร
19. แผนที่จำแนกตามเนื้อหาอย่างไร? ยกตัวอย่าง.
20. แผนที่แบ่งตามพื้นที่อย่างไร? ยกตัวอย่าง.
21. บัตรจำแนกตามวัตถุประสงค์อย่างไร? ยกตัวอย่าง.
22. บัตรพิเศษมีไว้ทำอะไร? ยกตัวอย่าง.

ทุกคนเจอแผนที่ทางภูมิศาสตร์ที่โรงเรียน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่พวกเราทุกคนที่มีความคิดเกี่ยวกับจุดประสงค์และรู้วิธีใช้งาน เยาวชนสมัยใหม่เชื่อว่าพวกเขาไม่ต้องการความรู้นี้เนื่องจากตอนนี้นักเดินเรือกำลังแพร่หลาย

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ของโลกคืออะไร?

แผนที่เป็นภาพย่อของพื้นผิวโลกซึ่งสร้างขึ้นตามกฎหมายบางประการ การมองเห็นและความชัดเจนเป็นคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด

ส่วนประกอบหลักของการ์ดคือ:

• เส้นโครงแผนที่ - กฎทางคณิตศาสตร์ของการสร้างภาพ
• ภาพตัวเอง;
• องค์ประกอบเสริม - คำอธิบายข้อมูลอ้างอิง
• องค์ประกอบเพิ่มเติม - การผูกข้อมูล การทำโปรไฟล์ภูมิประเทศ กราฟ ไดอะแกรม ภาพถ่าย ข้อมูลแบบตาราง ฯลฯ

ประเภทของแผนที่ทางภูมิศาสตร์

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ของความทันสมัย ​​- การรวบรวมความรู้เกี่ยวกับดาวเคราะห์ซึ่งเป็นผลมาจากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์โบราณและถ่ายทอดมาหลายศตวรรษ หากไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎง่ายๆ นักทำแผนที่ก็ไม่สามารถแสดงข้อมูลบนแผนที่ได้อย่างแม่นยำ ทันสมัย แผนที่ทางภูมิศาสตร์โลกสามารถจำแนกตามเกณฑ์สองประการ:

• สเกล - ขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก
• หัวเรื่องหรือเนื้อหาของแผนที่ - ทั่วไปทางภูมิศาสตร์ การเมือง การเดินเรือ เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ และการอ้างอิง ฯลฯ

ธีมของการ์ดสามารถเป็นได้ทุกประเภท ตัวอย่างเช่น แผนที่ทางภูมิศาสตร์ของประเทศต่างๆ ในโลกมีข้อมูลเกี่ยวกับรัฐทั้งหมด แสดงตำแหน่งที่ตั้ง แผนที่ภูมิประเทศมีไว้สำหรับการวิจัยทางวิศวกรรมและทางเทคนิค

พื้นที่ใช้งาน

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ของโลกพบการประยุกต์ใช้ในความรู้ทุกแขนง ด้วยแผนที่ ผู้คนสามารถทำความคุ้นเคยกับพื้นที่โดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง ดังนั้นจึงถูกนำมาใช้ใน คู่มือท่องเที่ยวใช้ในอวกาศ การเดินเรือ การสำรวจทางธรณีวิทยา ทรัพยากรธรรมชาติ, เกษตรกรรมการก่อสร้าง การศึกษา การทหาร และด้านอื่นๆอีกมากมาย

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ของโลกเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่สำคัญที่สุดของมนุษยชาติ แผนที่ใช้ในเกือบทุกด้านของความรู้ คนในบางอาชีพมักจะรู้ว่าพวกเขาต้องการแผนที่ประเภทใดในการทำงาน วิธีการนำทางสมัยใหม่ค่อยๆ แทนที่แผนที่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรอดพ้นจากความล้มเหลวของอุปกรณ์ ดังนั้นความสามารถในการเข้าใจการ์ดจึงเป็นสิ่งจำเป็น

แผนที่ทางภูมิศาสตร์

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ -นี่เป็นภาพสัญลักษณ์ที่ย่อลง ทั่วไป

แผนที่ทางภูมิศาสตร์- ภาพทั่วไปที่ลดลงของพื้นผิวโลกหรือส่วนต่างๆ บนระนาบโดยใช้สัญลักษณ์ทั่วไป

แผนที่ทางภูมิศาสตร์ -ภาพพื้นผิวโลกที่แสดงตำแหน่ง สภาพ และความสัมพันธ์ของธรรมชาติและสังคม การเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา พัฒนาการ และการเคลื่อนตัว

แผนที่ทางภูมิศาสตร์- ภาพที่ลดลงและเป็นภาพรวมของพื้นผิวโลกบนระนาบที่สร้างขึ้นในการฉายภาพการทำแผนที่อย่างใดอย่างหนึ่ง ลักษณะทางภูมิศาสตร์ซึ่งถ่ายทอดด้วยสัญลักษณ์

เส้นโครงแผนที่- วิธีทางคณิตศาสตร์ในการวาดภาพโลกบนระนาบ

การเลือกและการวางลักษณะทั่วไปของปรากฏการณ์ที่ปรากฎบนแผนที่ควรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และขนาดของแผนที่ ตลอดจนลักษณะของพื้นที่

(จากภาษาฝรั่งเศสทั่วไป - ทั่วไป, หลัก) - แสดงถึงการเลือกองค์ประกอบกระบวนการและการเชื่อมต่อที่สำคัญกว่าในดินแดนบางแห่ง

การทำแผนที่ทั่วไป- การเลือกและการกำหนดลักษณะทั่วไปของวัตถุที่ปรากฎบนแผนที่ตามวัตถุประสงค์ มาตราส่วน และลักษณะของพื้นที่ที่ทำแผนที่

ในการพรรณนาวัตถุทางภูมิศาสตร์บนแผนที่ ให้ใช้ สัญญาณธรรมดา: ขนาดใหญ่ (พื้นที่ - ป่าไม้, หนองน้ำ, ทะเลสาบ; เชิงเส้น - แม่น้ำ, ถนน); นอกขนาด (วัตถุที่ไม่ได้คำนึงถึงขนาดของแผนที่); คำอธิบาย (ลูกศร, ภาพวาดของต้นไม้)

รายการเครื่องหมายทั่วไปและคำอธิบายทั้งหมดที่ใช้บนแผนที่มีอยู่ในคำอธิบายแผนที่

ประเภทของบัตร

โดยครอบคลุมพื้นที่แยกแยะความแตกต่างระหว่างแผนที่โลกและซีกโลก ทวีป มหาสมุทรและส่วนต่างๆ รัฐและส่วนต่างๆ

บน แผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไป x วัตถุที่ปรากฎทั้งหมดมีความเท่าเทียมกัน โดยหลักๆ แล้วเป็นภาพนูนต่ำ แม่น้ำ ทะเลสาบ การตั้งถิ่นฐาน ถนน ฯลฯ

ในบนแผนที่ทางภูมิศาสตร์ทั่วไป พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ (การฉายภาพ มาตราส่วน พื้นฐานทางภูมิศาสตร์) และภาพการทำแผนที่โดยตรง (อุทกศาสตร์ ความโล่งใจ พืชพรรณและดิน การตั้งถิ่นฐาน การสื่อสาร โครงสร้างพื้นฐาน ฝ่ายการเมืองและการบริหาร เศรษฐกิจและวัตถุทางวัฒนธรรม) มีความโดดเด่น

แผนที่เฉพาะเรื่ององค์ประกอบที่เฉพาะเจาะจงอย่างน้อยหนึ่งรายการจะได้รับการถ่ายทอดอย่างละเอียดมากขึ้น โดยขึ้นอยู่กับธีมของแผนที่

ตัวอย่างเช่น แผนที่พืชพรรณแสดงถึงการกระจายและองค์ประกอบของพืชโลก ทวีปและประเทศแต่ละแห่ง นอกจากนี้ยังมีแผนที่แร่ แผนที่ป่าไม้ แผนที่บรรเทา แผนที่สังเขป แผนที่อุตสาหกรรมที่แสดง เมืองใหญ่– ศูนย์อุตสาหกรรม, ความเชี่ยวชาญของพวกเขา. แผนที่ทั้งหมดนี้แสดงลักษณะของวัตถุและปรากฏการณ์ทางภูมิศาสตร์ในหัวข้อเฉพาะ: พืชพรรณ การบรรเทาทุกข์ อุตสาหกรรม ในเรื่องนี้พวกเขาเรียกว่าเฉพาะเรื่อง

ในแผนที่เฉพาะเรื่องจัดสรรภาพการทำแผนที่ ( พื้นฐานทางภูมิศาสตร์, เช่น. อุทกศาสตร์ พรมแดน การตั้งถิ่นฐาน เส้นทางคมนาคม เนื้อหาใจความ) และสัญลักษณ์อธิบาย (สัญลักษณ์ ข้อความอธิบาย ตาราง) ไม่มีพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ในแผนที่เฉพาะเรื่อง

ใน เศรษฐกิจและสังคม แผนที่แสดงระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ จำนวน ความหนาแน่นและการกระจายของประชากรตามภูมิภาค ทรัพยากรแรงงาน ฯลฯ

โดยได้รับการแต่งตั้ง: อ้างอิง การศึกษา ท่องเที่ยว เกษตร ฯลฯ

มาตราส่วน:

สเกลใหญ่ (สเกลตั้งแต่ 1:200,000 และใหญ่กว่า);

ขนาดกลาง (ตั้งแต่ 1:200,000 ถึง 1:1,000,000) และ

ขนาดเล็ก (เล็กกว่า 1:1,000,000)

ขนาดใหญ่แผนที่เป็นพื้นฐานเพราะให้ข้อมูลที่จะใช้ในการรวบรวมแผนที่ขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งรวมถึงแผนที่ภูมิประเทศที่มีขนาดใหญ่กว่า 1:250,000 แผนที่แสดงทางหลวง การตั้งถิ่นฐาน พรมแดนทางการเมืองและการปกครอง ชุด ข้อมูลเพิ่มเติม(เช่น การกระจายตัวของป่า หนองน้ำ เทือกเขาทราย เป็นต้น) ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแผนที่และ คุณลักษณะเฉพาะภูมิประเทศ. ความโล่งใจบนแผนที่ขนาดใหญ่มักจะแสดงโดยใช้ไอโซฮิปต์หรือเส้นชั้นความสูง ซึ่งช่วยให้คุณกำหนดมุมเอียง ระดับความสูงสัมพัทธ์ได้

ขนาดกลางมีการเผยแพร่แผนที่สำหรับความต้องการในการวางแผนและการนำทางในระดับภูมิภาค มักจะออกเป็นชุด มาตราส่วนที่พบมากที่สุดคือ 1:1,000,000 เนื้อหาของแผนที่มาตราส่วนขนาดกลางโดยพื้นฐานแล้วจะสอดคล้องกับเนื้อหาของแผนที่ภูมิประเทศ

แผนที่ Atlas ส่วนใหญ่มี ขนาดเล็ก และอาจแตกต่างกันมากในเชิงเนื้อหา มาตราส่วนคือ 1:10,000,000 แสดงพื้นผิวทั้งหมดของโลกหรือส่วนสำคัญของโลก

ตามวัตถุ: ภาคพื้นทวีป ทางทะเล ดาราศาสตร์ ดาวเคราะห์

วิธีการแก้ไขรูปภาพ: ภาคพื้นดิน อวกาศ ใต้น้ำ

รายละเอียดที่สุดคือแผนที่ทางภูมิศาสตร์ อดีตสหภาพโซเวียตสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ในปี 2530 ในระดับ 1: 25,000 นั่นคือมี 250 เมตรในหนึ่งเซนติเมตร "ภาพเหมือน" ที่มีรายละเอียดดังกล่าวของภูมิภาคอันกว้างใหญ่ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก แนวปฏิบัติของโลกไม่ทราบมาตราส่วนดังกล่าวของแผนที่

ยิ่งขนาดของแผนที่มีขนาดเล็กเท่าใด ความบิดเบี้ยวก็ยิ่งมีนัยสำคัญมากขึ้นเท่านั้น

มนุษย์ขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นอยู่เสมอ เมื่อหลายพันปีก่อน ผู้ค้นพบเดินทางไกลขึ้นและไกลออกไปในดินแดนที่ไม่ได้สำรวจ สร้างความคล้ายคลึงกันครั้งแรกของแผนที่ทางภูมิศาสตร์ โดยพยายามทำให้โล่งใจที่พวกเขาเห็นบนแผ่นกระดาษปาปิรุสหรือแผ่นดินเหนียว

ที่เก่าแก่ที่สุดที่พบคือแผนที่จาก พิพิธภัณฑ์อียิปต์ในตูริน ทำด้วยกระดาษปาปิรุสตามคำสั่งของฟาโรห์รามเสสที่ 4 เมื่อ 1160 ปีก่อนคริสตกาล อี แผนที่นี้ถูกใช้โดยคณะสำรวจซึ่งตามคำสั่งของฟาโรห์กำลังมองหาหินสำหรับการก่อสร้าง แผนที่ที่เราคุ้นตาก็ปรากฏขึ้น กรีกโบราณครึ่งพันปีก่อนคริสต์ศักราช Anaximander of Miletus ถือเป็นนักทำแผนที่คนแรกที่สร้างแผนที่ของโลกที่รู้จักกันในเวลานั้น

ต้นฉบับของแผนที่ของเขาไม่ได้รับการเก็บรักษาไว้ แต่หลังจาก 50 ปีพวกเขาได้รับการบูรณะและปรับปรุงโดยนักวิทยาศาสตร์คนอื่นจาก Miletus - Hecataeus นักวิทยาศาสตร์ได้สร้างแผนที่นี้ขึ้นใหม่ตามคำอธิบายของ Hecateus ง่ายต่อการจดจำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและ ทะเลสีดำและที่ดินใกล้เคียง. แต่สามารถกำหนดระยะห่างจากมันได้หรือไม่? สิ่งนี้ต้องใช้มาตราส่วนที่ยังไม่มีในแผนที่โบราณ สำหรับหน่วยความยาว Hecateus ใช้ "วันเดินเรือ" ทางทะเลและ "วันเดินทาง" บนบกซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้เพิ่มความแม่นยำให้กับแผนที่

แผนที่ทางภูมิศาสตร์โบราณมีข้อบกพร่องที่สำคัญอื่นๆ พวกเขาบิดเบือนภาพเนื่องจากไม่สามารถวางพื้นผิวทรงกลมบนระนาบได้โดยไม่ผิดเพี้ยน พยายามเอาเปลือกส้มออกอย่างระมัดระวังแล้วกดลงบนพื้นผิวโต๊ะ: วิธีนี้จะไม่ทำงานหากไม่มีการฉีกขาด นอกจากนี้พวกเขาไม่มีตารางองศาของเส้นขนานและเส้นเมอริเดียนโดยที่ไม่สามารถระบุตำแหน่งของวัตถุได้อย่างแม่นยำ เส้นเมอริเดียนปรากฏครั้งแรกในแผนที่ Eratosthenes ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช e. อย่างไรก็ตาม พวกเขาดำเนินการผ่านระยะทางที่แตกต่างกัน Eratosthenes "บิดาแห่งภูมิศาสตร์" ไม่ได้ถูกเรียกว่านักคณิตศาสตร์ในหมู่นักภูมิศาสตร์โดยไม่มีเหตุผล นักวิทยาศาสตร์ไม่เพียงแค่วัดขนาดของโลกเท่านั้น แต่ยังใช้การฉายภาพทรงกระบอกเพื่อแสดงมันบนแผนที่ด้วย ในการฉายภาพดังกล่าวมีการบิดเบือนน้อยกว่าเนื่องจากภาพถูกถ่ายโอนจากลูกบอลไปยังกระบอกสูบ แผนที่สมัยใหม่ถูกสร้างขึ้นในเส้นโครงที่แตกต่างกัน - ทรงกระบอก, กรวย, แนวราบและอื่น ๆ

การ์ดที่สมบูรณ์แบบที่สุด ยุคโบราณพิจารณาแผนที่ทางภูมิศาสตร์ของปโตเลมีซึ่งอาศัยอยู่ในศตวรรษที่ 2 อี ในเมืองอเล็กซานเดรียของอียิปต์ Claudius Ptolemy เข้าสู่ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ด้วยสองสิ่งนี้ การทำงานที่ดี: "คู่มือดาราศาสตร์" จำนวน 13 เล่ม และ "คู่มือภูมิศาสตร์" จำนวน 8 เล่ม แผนที่ 27 แผนที่ถูกเพิ่มเข้าไปในคู่มือภูมิศาสตร์ ในบรรดาแผนที่โดยละเอียดของโลก ไม่มีใครสร้างสิ่งที่ดีที่สุดก่อนทอเลมีหรือ 12 ศตวรรษหลังจากเขา! แผนที่นี้มีตารางองศาอยู่แล้ว ทอเลมีตั้งใจที่จะสร้างมันขึ้นมา พิกัดทางภูมิศาสตร์(ละติจูดและลองจิจูด) เกือบสี่ร้อยวัตถุ นักวิทยาศาสตร์กำหนดละติจูด (ระยะทางจากเส้นศูนย์สูตรเป็นองศา) โดยความสูงของดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงโดยใช้ gnomon ลองจิจูด (ระยะทางองศาจากเส้นเมริเดียนเริ่มต้น) - โดยความแตกต่างของเวลาในการสังเกตจันทรุปราคาจากที่ต่างกัน คะแนน

ใน ยุโรปยุคกลางลืมงานของนักวิทยาศาสตร์โบราณ แต่พวกเขาถูกเก็บรักษาไว้ใน โลกอาหรับ. ที่นั่น แผนที่ของทอเลมีตีพิมพ์ในศตวรรษที่ 15 และพิมพ์ซ้ำอีกเกือบ 50 ครั้ง! บางทีการ์ดเหล่านี้อาจช่วยโคลัมบัสในการเดินทางอันโด่งดังของเขา อำนาจของปโตเลมีเติบโตขึ้นมากจนแม้แต่ชุดแผนที่ก็ถูกเรียกว่า "ทอเลมี" มาเป็นเวลานาน เฉพาะใน ศตวรรษที่สิบหกหลังจากการตีพิมพ์ Atlas of the World โดย Gerard Mercator บนหน้าปกซึ่ง Atlas ถูกวาดโดยถือโลก ชุดแผนที่ถูกเรียกว่า "atlases"

ใน จีนโบราณพวกเขาทำแผนที่ด้วย ที่น่าสนใจคือ การกล่าวถึงแผนที่ทางภูมิศาสตร์เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกนั้นไม่เกี่ยวข้องกับภูมิศาสตร์ ในศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช อี ราชบัลลังก์จีนถูกยึดครองโดยราชวงศ์ฉิน มกุฎราชกุมารดานซึ่งเป็นคู่แข่งในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจได้ส่งนักฆ่าไปยังผู้ปกครองของราชวงศ์พร้อมแผนที่ดินแดนของเขาที่วาดด้วยผ้าไหม ทหารรับจ้างซ่อนกริชไว้ในม้วนผ้าไหม ประวัติศาสตร์บอกว่าความพยายามล้มเหลว

ในยุคของการค้นพบทางภูมิศาสตร์ครั้งใหญ่ ภาพของอเมริกาและออสเตรเลีย มหาสมุทรแอตแลนติกและ มหาสมุทรแปซิฟิก. ข้อผิดพลาดบนแผนที่มักกลายเป็นโศกนาฏกรรมสำหรับชาวเรือ หลังจากสำรวจชายฝั่งของอลาสก้าแล้ว การเดินทาง Kamchatka ครั้งใหญ่ของ Vitus Bering ในศตวรรษที่ 18 ไม่มีเวลากลับไปที่ Kamchatka ในช่วงเริ่มต้นของพายุฤดูใบไม้ร่วง Bering นักฝันใช้เวลาสามสัปดาห์อันมีค่าเพื่อค้นหา Gama Land ที่แมป แต่ไม่มีอยู่จริง เรือใบของเขา "เซนต์ปีเตอร์" อับปางลงพร้อมกับลูกเรือที่เสียชีวิตด้วยโรคเลือดออกตามไรฟัน ลงจอดบนเกาะร้างซึ่งผู้บัญชาการที่มีชื่อเสียงได้พักผ่อนตลอดไป “เลือดเดือดพล่านในตัวฉันทุกครั้ง” ผู้ช่วยคนหนึ่งของ Bering เขียน “เมื่อฉันนึกถึงการหลอกลวงที่ไร้ยางอายซึ่งเกิดจากความผิดพลาดบนแผนที่”

การทำแผนที่ในปัจจุบันถูกถ่ายโอนไปยังรูปแบบดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ สำหรับการสร้าง แผนที่โดยละเอียดพวกเขาไม่เพียงแต่ใช้เครื่องมือวัดทางภูมิศาสตร์บนภาคพื้นดินเท่านั้น เช่น กล้องสำรวจ ระดับ แต่ยังใช้การสแกนด้วยเลเซอร์ในอากาศ การนำทางด้วยดาวเทียม การถ่ายภาพทางอากาศแบบดิจิทัล

ภาพประกอบ: depositphotos.com | คุซมาโฟโต้

หากคุณพบข้อผิดพลาด โปรดเน้นข้อความและคลิก Ctrl+Enter.