พวกเขาให้คำอธิบายความคงอยู่ของความทรงจำ "ความคงอยู่ของความทรงจำ", Salvador Dali: คำอธิบายของภาพวาด

ลัทธิเหนือจริงคือเสรีภาพที่สมบูรณ์ของมนุษย์และสิทธิในการฝัน ฉันไม่ใช่ลัทธิเหนือจริง ฉันเป็นลัทธิเหนือจริง - S. Dali

การก่อตัวของทักษะทางศิลปะของ Dali เกิดขึ้นในยุคของสมัยใหม่ตอนต้น เมื่อผู้ร่วมสมัยของเขาส่วนใหญ่เป็นตัวแทนของการเคลื่อนไหวทางศิลปะใหม่ เช่น การแสดงออกทางศิลปะและลัทธิเขียนภาพแบบเหลี่ยม

ในปี 1929 ศิลปินหนุ่มเข้าร่วม Surrealists ปีนี้เป็นปีแห่งจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาเมื่อซัลวาดอร์ ดาลีได้พบกับกาลา เธอกลายเป็นนายหญิง ภรรยา รำพึง นางแบบ และแรงบันดาลใจหลักของเขา

เนื่องจากเขาเป็นช่างเขียนแบบและนักลงสีที่เก่งกาจ Dali จึงได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากปรมาจารย์รุ่นเก่า แต่เขาใช้รูปแบบที่ฟุ่มเฟือยและวิธีที่สร้างสรรค์ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยและแปลกใหม่ ภาพวาดของเขาโดดเด่นด้วยการใช้ภาพซ้อน ฉากแดกดัน ภาพลวงตาทิวทัศน์ในฝันและสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้ง

ตลอดทั้ง ชีวิตที่สร้างสรรค์ต้าหลี่ไม่เคยจำกัดทิศทางเดียว เขาทำงานร่วมกับ สีน้ำมันและสีน้ำสร้างภาพวาดและประติมากรรม ภาพยนตร์และภาพถ่าย แม้แต่รูปแบบของการแสดงที่หลากหลายก็ไม่แปลกสำหรับศิลปินรวมถึงการสร้างสรรค์ เครื่องประดับและผลงานอื่นๆ ศิลปะประยุกต์. ในฐานะผู้เขียนบท Dali ร่วมมือกับผู้กำกับชื่อดัง Luis Buñuel ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง The Golden Age และ The Andalusian Dog พวกเขาแสดงฉากที่ไม่สมจริง ชวนให้นึกถึงภาพวาดที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาของนักเซอร์เรียลลิสต์

อาจารย์ที่อุดมสมบูรณ์และมีพรสวรรค์อย่างยิ่งได้ทิ้งมรดกอันยิ่งใหญ่ให้กับศิลปินและผู้รักศิลปะรุ่นต่อๆ ไป Gala-Salvador Dali Foundation เปิดตัวโครงการออนไลน์ แคตตาล็อก Raisonné ของ Salvador Daliสำหรับการจัดทำรายการทางวิทยาศาสตร์ที่สมบูรณ์ของภาพวาดที่สร้างสรรค์โดย Salvador Dali ระหว่างปี 1910 และ 1983 แคตตาล็อกประกอบด้วยห้าส่วนแบ่งตามไทม์ไลน์ มันถูกสร้างขึ้นไม่เพียง แต่เพื่อให้ข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลงานของศิลปิน แต่ยังกำหนดผู้ประพันธ์ผลงานด้วย เนื่องจาก Salvador Dali เป็นหนึ่งในจิตรกรที่ปลอมแปลงมากที่สุด

ตัวอย่างภาพวาดเหนือจริงทั้ง 17 ภาพเหล่านี้เป็นพยานถึงพรสวรรค์ จินตนาการ และทักษะอันน่าทึ่งของซัลวาดอร์ ดาลีผู้แปลกประหลาด

1. "Ghost of Vermeer of Delft ซึ่งสามารถใช้เป็นโต๊ะได้" 2477

นี้ รูปภาพขนาดเล็กด้วยเวลาค่อนข้างนาน ชื่อเดิมแสดงให้เห็นถึงความชื่นชมของ Dali ที่มีต่อ Jan Vermeer ปรมาจารย์ชาวเฟลมิชผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 17 ภาพตัวเองของ Vermeer ดำเนินการโดยคำนึงถึงวิสัยทัศน์เหนือจริงของ Dali

2. "ผู้สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองที่ยิ่งใหญ่", 2472

ภาพวาดแสดงถึงการต่อสู้ภายในของความรู้สึกที่เกิดจากทัศนคติต่อการมีเพศสัมพันธ์ การรับรู้ของศิลปินนี้เกิดขึ้นจากความทรงจำในวัยเด็กที่ตื่นขึ้นเมื่อเขาเห็นหนังสือที่พ่อของเขาทิ้งไว้ เปิดหน้าหนึ่งซึ่งแสดงภาพอวัยวะเพศที่ได้รับผลกระทบจากโรคกามโรค

3. "ยีราฟไฟ", 2480

ศิลปินทำงานนี้เสร็จก่อนที่จะย้ายไปสหรัฐอเมริกาในปี 2483 แม้ว่าปรมาจารย์จะอ้างว่าภาพวาดนั้นไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ก็เหมือนกับภาพอื่นๆ อีกหลายภาพ ที่สะท้อนถึงความรู้สึกไม่สบายใจและสยองขวัญที่ลึกซึ้งและไม่มั่นคงที่ Dali ต้องประสบในช่วงเวลาที่ปั่นป่วนระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง บางส่วนสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้ภายในของเขาเกี่ยวกับ สงครามกลางเมืองในสเปนและยังอ้างถึงวิธีการวิเคราะห์ทางจิตวิทยาของฟรอยด์

4. "โฉมหน้าของสงคราม", 2483

ความทุกข์ทรมานของสงครามยังสะท้อนให้เห็นในงานของ Dali เขาเชื่อว่าภาพวาดของเขาควรมีลางบอกเหตุของสงครามซึ่งเราเห็นในหัวที่เต็มไปด้วยกะโหลกศีรษะ

5. "การนอนหลับ", 2480

มันแสดงให้เห็นหนึ่งในปรากฏการณ์เหนือจริง - ความฝัน นี่คือความเป็นจริงที่เปราะบางและไม่มั่นคงในโลกของจิตใต้สำนึก

6. ลักษณะใบหน้าและชามผลไม้ที่ชายทะเล พ.ศ. 2481

ภาพวาดที่ยอดเยี่ยมนี้น่าสนใจเป็นพิเศษเนื่องจากผู้แต่งใช้ภาพซ้อนในนั้นทำให้ภาพมีความหมายหลายระดับ การเปลี่ยนแปลง การเทียบเคียงที่น่าทึ่งของวัตถุ และองค์ประกอบที่ซ่อนอยู่ทำให้ภาพวาดเหนือจริงของ Dali โดดเด่น

7. ความคงอยู่ของความทรงจำ 2474

นี่อาจเป็นภาพวาดแนวเซอร์เรียลลิสม์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดโดยซัลวาดอร์ ดาลี ซึ่งแสดงถึงความนุ่มนวลและความแข็ง เป็นสัญลักษณ์ของสัมพัทธภาพของอวกาศและเวลา ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับทฤษฎีสัมพัทธภาพของ Einstein แม้ว่า Dali กล่าวว่าแนวคิดสำหรับภาพนี้เกิดจากการมองเห็นชีส Camembert ที่ละลายในดวงอาทิตย์

8. สฟิงซ์ทั้งสามแห่งเกาะบิกินี 2490

ภาพเหนือจริงของเกาะบิกินี่ กระตุ้นความทรงจำของสงคราม มีสฟิงซ์สัญลักษณ์สามตัวครอบครอง แผนการที่แตกต่างกัน: หัวมนุษย์ต้นไม้แยกและเห็ดของระเบิดนิวเคลียร์ พูดถึงความน่าสะพรึงกลัวของสงคราม ภาพวาดสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างสามเรื่อง

9. "Galatea กับทรงกลม", 2495

ภาพเหมือนของภรรยาของ Dali ถูกนำเสนอผ่านรูปทรงทรงกลม Gala เป็นเหมือนภาพเหมือนของมาดอนน่า ศิลปินผู้นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากวิทยาศาสตร์ ได้ยกระดับ Galatea ให้อยู่เหนือโลกที่จับต้องได้ไปจนถึงชั้นอีเทอร์ด้านบน

10. นาฬิกาละลาย 2497

การพรรณนาถึงวัตถุที่ใช้บอกเวลาอีกรูปแบบหนึ่งทำให้มีความนุ่มนวลราวกับไม่มีตัวตน ซึ่งไม่ใช่นาฬิกาพกแบบแข็งทั่วไป

11. “ ภรรยาที่เปลือยเปล่าของฉันกำลังพิจารณาเนื้อหนังของตัวเองซึ่งกลายเป็นบันไดเป็นกระดูกสันหลังสามเสาขึ้นไปบนท้องฟ้าและสู่สถาปัตยกรรม”, 2488

กาล่าจากด้านหลัง นี้ ภาพที่ยอดเยี่ยมกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่ผสมผสานมากที่สุดของ Dali ที่ผสมผสานความคลาสสิกและเหนือจริง ความสงบ และความแปลกประหลาดเข้าด้วยกัน

12. "การก่อสร้างแบบอ่อนกับถั่วต้ม", 2479

ชื่อที่สองของภาพคือ "ลางสังหรณ์ของสงครามกลางเมือง" มันแสดงให้เห็นถึงความน่าสะพรึงกลัวที่ถูกกล่าวหาของสงครามกลางเมืองสเปน ในขณะที่ศิลปินวาดภาพนี้เมื่อหกเดือนก่อนที่ความขัดแย้งจะเริ่มต้นขึ้น นี่เป็นหนึ่งในลางสังหรณ์ของซัลวาดอร์ ดาลี

13. "การกำเนิดของความปรารถนาของเหลว", 2474-32

เราเห็นตัวอย่างหนึ่งของวิธีการวิพากษ์ศิลปะแบบหวาดระแวง ภาพของพ่อและแม่อาจปะปนกับภาพที่แปลกประหลาดและไม่จริงของกระเทยที่อยู่ตรงกลาง รูปภาพเต็มไปด้วยสัญลักษณ์

14. "ปริศนาแห่งความปรารถนา: แม่ของฉัน แม่ของฉัน แม่ของฉัน" 2472

งานนี้สร้างขึ้นตามหลักการของฟรอยด์ กลายเป็นตัวอย่างความสัมพันธ์ของดาลีกับแม่ของเขาซึ่งมีร่างบิดเบี้ยวปรากฏอยู่ในทะเลทรายดาลิเนีย

15. ไม่มีชื่อ - การออกแบบจิตรกรรมปูนเปียกสำหรับเฮเลนา รูบินสไตน์ ปี 1942

ภาพถูกสร้างขึ้นสำหรับการตกแต่งภายในของสถานที่ตามคำสั่งของเฮเลนารูบินสไตน์ นี่คือภาพที่เหนือจริงจากโลกแห่งจินตนาการและความฝัน ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานคลาสสิก

16. "ความพอใจในตนเองของโสโดมของหญิงสาวผู้บริสุทธิ์", 2497

รูปภาพแสดง รูปผู้หญิงและพื้นหลังที่เป็นนามธรรม ศิลปินสำรวจประเด็นเรื่องเพศที่ถูกเก็บกดซึ่งตามมาจากชื่อผลงานและรูปแบบลึงค์ที่มักปรากฏในงานของ Dali

17. เด็กภูมิรัฐศาสตร์เฝ้าดูการเกิดของคนใหม่ 2486

ศิลปินแสดงความสงสัยด้วยการวาดภาพนี้ในขณะที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา รูปร่างของลูกบอลดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของชาย "ใหม่" ชายแห่ง "โลกใหม่"

ปีที่วาด: 2474 ขนาด: 33 ซม. x 24 ซม.

The Persistence of Memory วาดโดย Salvador Dali จิตรกรเซอร์เรียลลิสม์ชาวสเปน และเป็นหนึ่งในภาพวาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ผลงานที่มีชื่อเสียง. ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ศิลปะร่วมสมัยในนิวยอร์ค ต้องขอบคุณแฟน ๆ จำนวนมากของภาพวาดนี้และผู้ติดตามของจิตรกร ผืนผ้าใบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและในปัจจุบันมักถูกกล่าวถึงในวัฒนธรรมสมัยนิยมสมัยใหม่

“ความมืดบอดของคนที่มักจะทำสิ่งเดิม ๆ เป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ฉันแปลกใจว่าทำไมพนักงานธนาคารไม่กินเช็ค ฉันแปลกใจว่าศิลปินคนอื่น ๆ ก่อนหน้าฉันไม่คิดที่จะวาด " ดูอ่อน"..." - ซัลวาดอร์ ดาลี เขียน

"ความคงอยู่ของความทรงจำ" คือ ภาพวาดเหนือจริง. Surrealism เป็นการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1920 งานศิลปะเหนือจริงนำเสนอองค์ประกอบของความประหลาดใจ การเปรียบเทียบที่คาดไม่ถึง และอารมณ์ขันที่เกินจริง บางครั้ง ศิลปะก็เป็นการแสดงออกอย่างอิสระของจินตนาการในปัจจุบันของศิลปิน ซึ่งอาจตีความได้ยาก และ The Persistence of Memory ก็ไม่มีข้อยกเว้น ที่นี่ศิลปินวาดภาพวัตถุแข็งให้เป็นวัตถุที่อ่อนนุ่ม

ภาพวาดแสดงให้เห็นนาฬิกาพกที่ค่อยๆ ละลายโดยแยกออกจากสายโซ่ ทะเลและชายหาดร้างในอ่าวที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาเป็นฉากหลัง (ศิลปินได้รับแรงบันดาลใจจากหน้าผาของ Cape Creus) บางส่วนของภาพได้รับแสงสว่างจากแสงแดด และบางส่วนถูกบดบังด้วยเงา ถ้ามองใกล้ๆ จะเห็นหินก้อนเล็กๆ

“ภูมิทัศน์คือสภาวะของจิตใจ” Dali กล่าว

Dali มักใช้ปรัชญาของความแข็งและความนุ่มนวลในภาพวาดของเขา ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่านาฬิกาที่หลอมละลายบ่งบอกถึงความลื่นไหลของเวลา หินแข็งคือความเป็นจริงของชีวิต และทะเลเป็นตัวแทนของความใหญ่โตของโลก นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาสีส้มแดงที่ปกคลุมไปด้วยมดในภาพวาด ซึ่งคาดว่าเป็นสัญลักษณ์ของความทรมานของการรอคอย ความสนใจยังถูกดึงดูดด้วยรูปร่างแปลก ๆ ตรงกลางซึ่งคล้ายกับหัวที่หลอมละลายด้วยจมูกขนาดใหญ่ลิ้นที่ยื่นออกมาและดวงตาที่ปิดด้วยขนตายาว คอของเธอดูเหมือนจะจางหายไปในเงามืด บางคนตีความว่ามันเป็นเรื่องตลก หัวของคนที่จ้องมองและแช่แข็งด้วยความมึนงง ผู้ดูภาพนี้ในอนาคต คนอื่นเชื่อว่านี่คือหัวของ Dali เองในระหว่างการโจมตีไมเกรน บางคนกล่าวว่าศีรษะมีรูปร่างเช่นนี้เพราะปราศจากอคติใด ๆ หรือเพียงแค่ตาย หรือศิลปินเชื่อว่าความตายคืออิสรภาพ เพราะเขากล่าวว่า: "เสรีภาพ - ถ้าคุณให้คำจำกัดความของหมวดหมู่สุนทรียะ - คือศูนย์รวมของความไร้รูปแบบ มันไม่เป็นรูปเป็นร่าง”, “ความตายตรึงใจฉันชั่วนิรันดร์”

การวิเคราะห์การคงอยู่ของความทรงจำมีหลายเวอร์ชัน นักวิจารณ์ นักประวัติศาสตร์ศิลป์ ดอว์น อาเดส เขียนว่า "นาฬิกาอ่อนเป็นสัญลักษณ์โดยไม่รู้ตัวของสัมพัทธภาพของอวกาศและเวลา" เมื่อ Dali ถูกถามว่าจริงหรือไม่ที่เป็นการพาดพิงถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพของ Einstein เขาตอบค่อนข้างตรงไปตรงมาว่ามันเป็นเพียงภาพเหนือจริงของชีส Camembert ที่ละลายในดวงอาทิตย์

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าแนวคิดของฟรอยด์อาจมีอิทธิพลต่อความหมายของงาน เนื่องจากภาพวาดถูกวาดขึ้นในช่วงหลายปีที่ดาลีสนใจงานของฟรอยด์

“เมื่อฉันเขียน ฉันเองไม่เข้าใจความหมายของภาพของฉัน แต่อย่าคิดว่ามันไร้ความหมาย! เพียงแต่ว่ามันลึกซึ้งและซับซ้อน สบายๆ และแปลกใหม่จนหลีกหนีการรับรู้มาตรฐานเชิงตรรกะ” Dali กล่าว

ภาพวาดดึงดูดความสนใจของผู้รักศิลปะมาหลายสิบปี ในช่วงเวลานี้รูปภาพได้รับคำวิจารณ์และคำชมมากมาย สำหรับผู้ที่ชอบงานศิลปะแนวเหนือจริง นี่คือผลงานชิ้นเอก สำหรับคนอื่นมันเป็นแค่ขยะหรือใน กรณีที่ดีที่สุด, ภาพคนบ้า. อาจเป็นไปได้ว่านี่เป็นหนึ่งในงานศิลปะที่จะไม่ถูกลบออกจากความทรงจำของผู้คนเป็นเวลานานและจะกระตุ้นให้เกิดข้อโต้แย้งและการตีความใหม่

ในต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2472 ดาลีหนุ่มได้พบกับเขา ภรรยาในอนาคตและรำพึงกาล่า สหภาพของพวกเขากลายเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จอันเหลือเชื่อของศิลปินซึ่งส่งผลต่อผลงานที่ตามมาทั้งหมดของเขารวมถึงภาพวาด "The Persistence of Memory"

Salvador Dali และ Gala ใน Cadaques 2473 รูปถ่าย: ได้รับความอนุเคราะห์จากพิพิธภัณฑ์พุชกิน เช่น. พุชกิน

ประวัติการสร้าง

พวกเขาบอกว่า Dali เสียสติไปเล็กน้อย ใช่ เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากความหวาดระแวง แต่ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ก็จะไม่มีดาลีในฐานะศิลปิน เขามีอาการเพ้อเล็กน้อยโดยแสดงออกมาในความคิดของภาพความฝันที่ศิลปินสามารถถ่ายทอดลงบนผืนผ้าใบได้ ความคิดที่มาเยือน Dali ในระหว่างการสร้างภาพวาดนั้นแปลกประหลาดอยู่เสมอ (ไม่ใช่เพื่ออะไรที่เขาชอบจิตวิเคราะห์) และตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องนี้คือเรื่องราวของการปรากฏตัวของผลงานที่โด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา The Persistence of ความทรงจำ (นิวยอร์ก, พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่)

ฤดูร้อนปี 1931 ในปารีส เมื่อ Dali กำลังเตรียมงานนิทรรศการเดี่ยว มีการใช้จ่าย ภรรยาของพลเรือน Galu กับเพื่อน ๆ ที่โรงภาพยนตร์ "ฉัน" Dali เขียนในบันทึกความทรงจำของเขา "กลับไปที่โต๊ะ (เราทานอาหารเย็นกับ Camembert ที่ยอดเยี่ยม) และจมดิ่งลงไปในความคิดเกี่ยวกับเยื่อกระดาษ ชีสโผล่เข้ามาในตาของฉัน ฉันลุกขึ้นและไปที่สตูดิโอตามปกติ - เพื่อดูรูปภาพที่ฉันวาดก่อนเข้านอน มันเป็นภูมิทัศน์ของ Port Lligat ในแสงพระอาทิตย์ตกที่ใสและเศร้า เบื้องหน้าคือโครงกระดูกเปลือยของต้นมะกอกที่มีกิ่งหัก

ฉันรู้สึกว่าในภาพนี้ฉันสามารถสร้างบรรยากาศที่สอดคล้องกับภาพที่สำคัญบางอย่าง - แต่อะไรนะ? ฉันไม่มีความคิดที่คลุมเครือ ฉันต้องการภาพที่น่าอัศจรรย์ แต่ไม่พบ ฉันเดินไปปิดไฟ และเมื่อฉันออกไป ฉันเห็นทางออกอย่างแท้จริง: นาฬิกานุ่มๆ สองคู่ แขวนไว้อย่างโศกเศร้าจากกิ่งมะกอก แม้จะมีอาการไมเกรน ฉันก็เตรียมจานสีและเริ่มทำงาน สองชั่วโมงต่อมา เมื่อถึงเวลาที่ Gala กลับมา ภาพวาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของฉันก็เสร็จสิ้น

(1) นาฬิกาที่นุ่มนวล- สัญลักษณ์ของเวลาที่ไม่ใช่เชิงเส้น, เวลาส่วนตัว, การไหลโดยพลการและการเติมช่องว่างที่ไม่สม่ำเสมอ นาฬิกาสามเรือนในภาพคืออดีต ปัจจุบัน และอนาคต “คุณถามฉัน” Dali เขียนถึงนักฟิสิกส์ Ilya Prigogine “ฉันคิดถึง Einstein หรือเปล่าตอนที่ฉันวาดนาฬิกาสีอ่อน ( ฉันหมายถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพ - ประมาณ เอ็ด). ฉันตอบคุณในแง่ลบความจริงก็คือความเชื่อมโยงระหว่างอวกาศและเวลานั้นชัดเจนสำหรับฉันมาเป็นเวลานานดังนั้นจึงไม่มีอะไรพิเศษสำหรับฉันในภาพนี้มันก็เหมือนกับที่อื่น ๆ ... สำหรับสิ่งนี้ ฉันสามารถเพิ่มได้ว่าฉันคิดถึงเฮราคลิตุส นักปรัชญาชาวกรีกโบราณที่เชื่อว่าเวลาวัดจากการไหลของความคิด - ประมาณ เอ็ด). นั่นคือเหตุผลที่ภาพวาดของฉันถูกเรียกว่า The Persistence of Memory ความทรงจำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพื้นที่และเวลา

(2) วัตถุเบลอที่มีขนตานี่คือภาพตัวเองของ Dali ที่กำลังหลับใหล โลกในภาพคือความฝันของเขา ความตายของโลกแห่งความเป็นจริง ชัยชนะของจิตไร้สำนึก “ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับ ความรัก และความตายนั้นชัดเจน” ศิลปินเขียนไว้ในอัตชีวประวัติของเขา “การหลับใหลคือความตาย หรืออย่างน้อยก็เป็นการปลีกตัวออกจากความเป็นจริง หรือยิ่งกว่านั้นคือความตายของความเป็นจริง ซึ่งตายในลักษณะเดียวกันระหว่างการแสดงความรัก” ตาม Dali การนอนหลับทำให้จิตใต้สำนึกเป็นอิสระดังนั้นหัวของศิลปินจึงพร่ามัวเหมือนหอย - นี่คือหลักฐานของการไม่มีที่พึ่งของเขา มีเพียง Gala เท่านั้นที่เขาจะพูดหลังจากการตายของภรรยาของเขาว่า "เมื่อรู้ว่าฉันไม่มีที่พึ่งจึงซ่อนเนื้อหอยนางรมฤาษีของฉันไว้ในเปลือกหอยป้อมปราการและช่วยชีวิตมันไว้"

(3) นาฬิกาแข็ง- นอนทางซ้ายโดยหมุนปุ่มลง - สัญลักษณ์ของเวลาเป้าหมาย

(4) มด- สัญลักษณ์ของการสลายตัวและการสลายตัว ตามที่ Nina Getashvili ศาสตราจารย์ สถาบันการศึกษาของรัสเซียจิตรกรรม ประติมากรรม และสถาปัตยกรรม ความประทับใจของทารกจาก ค้างคาวสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งเต็มไปด้วยมด ตลอดจนความทรงจำของศิลปินเองเกี่ยวกับทารกที่อาบน้ำโดยมีมดอยู่ในทวารหนักตลอดชีวิตทำให้ศิลปินมีแมลงชนิดนี้อยู่ในภาพวาดของเขา ( “ฉันชอบหวนคิดถึงการกระทำนี้ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ได้เกิดขึ้น” ศิลปินเขียนไว้ใน “ชีวิตลับของซัลวาดอร์ ดาลี ที่เล่าด้วยตัวเอง” - ประมาณ เอ็ด). บนนาฬิกาทางด้านซ้ายซึ่งเป็นนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่ยังคงความแข็งไว้ ​​มดยังสร้างโครงสร้างแบบวงกลมที่ชัดเจน เป็นไปตามการแบ่งส่วนของโครโนมิเตอร์ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้บดบังความหมายที่ว่าการปรากฏตัวของมดยังคงเป็นสัญญาณของการสลายตัว” ตามที่ Dali กล่าวว่าเวลาเชิงเส้นกลืนกินตัวเอง

(5) บินตามที่ Nina Getashvili กล่าวว่า "ศิลปินเรียกพวกเขาว่านางฟ้าแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใน The Diary of a Genius Dali เขียนว่า: "พวกเขาสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักปรัชญาชาวกรีกที่ใช้ชีวิตภายใต้ดวงอาทิตย์ซึ่งปกคลุมไปด้วยแมลงวัน"

(6) โอลิวาสำหรับศิลปินนี่เป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาโบราณซึ่งน่าเสียดายที่จมลงสู่การลืมเลือนไปแล้ว (ดังนั้นต้นไม้จึงแห้ง)

(7) เคป ครูสแหลมนี้อยู่บนชายฝั่ง Catalan ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้กับเมือง Figueres ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Dali ศิลปินมักจะพรรณนาเขาในภาพวาด "ที่นี่" เขาเขียน "หลักการที่สำคัญที่สุดของทฤษฎีการเปลี่ยนแปลงแบบหวาดระแวงของฉันนั้นรวมอยู่ในหินแกรนิตหิน ( การไหลของภาพลวงตาหนึ่งไปสู่อีกภาพหนึ่ง - ประมาณ เอ็ด)... นี่คือเมฆเยือกแข็งที่ก่อตัวขึ้นจากการระเบิดในชาติที่นับไม่ถ้วนทั้งหมดใหม่และใหม่ทั้งหมด - คุณเพียงแค่ต้องเปลี่ยนมุมมองเล็กน้อย

(8) ทะเลสำหรับ Dali นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะและความเป็นนิรันดร์ ศิลปินคิดว่ามันเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเดินทางโดยที่เวลาไม่ไหลด้วยความเร็วตามวัตถุประสงค์ แต่เป็นไปตามจังหวะภายในของจิตสำนึกของนักเดินทาง

(9) ไข่จากข้อมูลของ Nina Getashvili ไข่โลกในงานของ Dali เป็นสัญลักษณ์ของชีวิต ศิลปินยืมภาพของเขามาจาก Orphics ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับของกรีกโบราณ ตามตำนานออร์ฟิก ฟานส์เทพกะเทยองค์แรกเกิดจากไข่โลก ผู้สร้างมนุษย์ และสวรรค์และโลกถูกสร้างขึ้นจากเปลือกทั้งสองซีก

(10) กระจกเงานอนในแนวนอนไปทางซ้าย เป็นสัญลักษณ์ของความแปรปรวนและความไม่แน่นอน สะท้อนทั้งโลกที่เป็นอัตวิสัยและปรนัยอย่างเชื่อฟัง

ศิลปิน

ซัลวาดอร์ ดาลี

Salvador Filipe Jacinto Dali i Domenech ศิลปินชาวสเปนผู้ยิ่งใหญ่ เกิดในฤดูใบไม้ผลิปี 1904 ในวันที่ 11 พฤษภาคม เวลา 08:45 น.

บันทึกชีวประวัติสั้น ๆ

1904 Salvador Dali Domanech เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่เมือง Figueres, Catalonia ประเทศสเปน
1910 Dali เริ่มมาเยือน โรงเรียนประถม"ปฏิสนธินิรมล" พี่น้องคริสเตียน
2459 พักร้อนกับครอบครัวพิชิต ต้าหลี่ได้พบกับภาพวาดสมัยใหม่เป็นครั้งแรก
1917 ศิลปินชาวสเปนนูเนซสอนเทคนิคการแกะสลักแบบดั้งเดิมให้กับดาลี
พ.ศ. 2462 จัดแสดงครั้งแรกแบบกลุ่มใน โรงละครเทศบาลในฟิกเกเรส ดาลีอายุ 15 ปี
พ.ศ. 2464 แม่เสียชีวิต
1922 Dali ผ่านการสอบเข้า Accademia de San Fernando ในกรุงมาดริด
พ.ศ. 2466 ถูกไล่ออกจากโรงเรียนชั่วคราว
1925 นิทรรศการเดี่ยวระดับมืออาชีพครั้งแรกที่ Dalmau Gallery ในบาร์เซโลนา
1926 เดินทางไปปารีสและบรัสเซลส์เป็นครั้งแรก พบกับปิกัสโซ ไล่ออกจาก Academy ครั้งสุดท้าย

เลดา อะตอมิกา 1949

ความฝันที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการบินของผึ้ง 2486

อาหารค่ำมื้อสุดท้าย 2498

การล่อลวงของนักบุญแอนโธนี 2489

1929 ร่วมกับ Louis Buñuel ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Andalusian dog พบกับ Gala Eluard นิทรรศการครั้งแรกในปารีส
1930 Dalí อาศัยอยู่กับ Gala ในเมือง Port Ligat ประเทศสเปน
2474 ภาพวาด "ความคงอยู่ของความทรงจำ"
พ.ศ. 2477 ภาพวาด "The Riddle of William Tell" Dali ทะเลาะกับกลุ่มนักเหนือจริง การแต่งงานกับกาล่า การเดินทางไปนิวยอร์ก Albert Schira เผยแพร่ภาพแกะสลัก Dalí ต้นฉบับ 42 ชิ้น
2479 นิทรรศการที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์ก ภาพวาด "ฤดูใบไม้ร่วงแห่งการกินเนื้อคน", "ชั่วโมงนุ่มนวล", "คำเตือนสงครามกลางเมือง"
พ.ศ. 2481 สนทนากับซิกมันด์ ฟรอยด์ ผู้ป่วยในลอนดอน Dali มีส่วนร่วมใน นิทรรศการระดับนานาชาตินักเซอร์เรียลิสต์ในปารีส
1939 ถูกไล่ออกจากกลุ่ม Surrealist เนื่องจาก Dalí ไม่เต็มใจที่จะสนับสนุนแรงจูงใจทางการเมืองของพวกเขา
1940 Dali และ Gala อพยพไปอเมริกาโดยที่พวกเขาอาศัยอยู่เป็นเวลาแปดปี ครั้งแรกในเวอร์จิเนีย จากนั้นในแคลิฟอร์เนียและนิวยอร์ก
2484 นิทรรศการย้อนหลังกับ Miro ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์ก
พ.ศ. 2485 ตีพิมพ์อัตชีวประวัติ" ชีวิตลับซัลวาดอร์ ดาลี เล่าด้วยตัวเอง
พ.ศ. 2489 เข้าร่วมในโครงการภาพยนตร์เรื่อง "Destino" โดย Walt Disney การมีส่วนร่วมในโครงการภาพยนตร์ Alfred Hitchcock ภาพวาด "สิ่งล่อใจของเซนต์แอนโทนี่"
2492 ภาพวาด "Leda Atomica" และ Madonna Port - Ligat "(รุ่น 1) กลับไปยุโรป
พ.ศ. 2500 การตีพิมพ์ภาพพิมพ์ต้นฉบับสิบสองภาพโดยดาลี หัวข้อ "หน้าของภารกิจเพื่อดอนกิโฆเต้แห่งลามันชา"
งานแต่งงานของ Gala และ Dali ในปี 1958 ในเมือง Girona ประเทศสเปน
2502 ภาพวาด "การค้นพบอเมริกาโดยโคลัมบัส"
1962 Dalí ทำข้อตกลง 10 ปีกับผู้จัดพิมพ์ Pierre Argille เพื่อเผยแพร่ภาพประกอบ/>
1965 Dali เซ็นสัญญากับ Sidney Lucas, New York
1967 ซื้อปราสาท Pubol ใน Girona และสร้างใหม่
พ.ศ. 2512 พิธีย้ายเข้าสู่ปราสาทพูโบล
1971 พิพิธภัณฑ์ Salvador Dalí เปิดขึ้นในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ
1974 Dali เริ่มกังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ
พ.ศ. 2525 เปิดพิพิธภัณฑ์ Dali ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัฐฟลอริดา Death Gala ที่ปราสาท Pubol
พ.ศ. 2526 นิทรรศการผลงานของ Dali ในสเปน มาดริด และบาร์เซโลนา เสร็จสิ้นการเรียนการวาดภาพ รูปสุดท้าย"หางนกนางแอ่น".
23 มกราคม พ.ศ. 2532 ต้าหลี่เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เขาถูกฝังอยู่ในห้องใต้ดินของพิพิธภัณฑ์ Tatro ในเมือง Figueres ประเทศสเปน

ศิลปิน: ซัลวาดอร์ ดาลี

ภาพวาด: 2474
ผ้าแคนวาส พรมทำมือ
ขนาด : 24×33 ซม

คำอธิบายของภาพวาด "ความคงอยู่ของความทรงจำ" S. Dali

ศิลปิน: ซัลวาดอร์ ดาลี
ชื่อภาพ “ความคงอยู่ของความทรงจำ”
ภาพวาด: 2474
ผ้าแคนวาส พรมทำมือ
ขนาด : 24×33 ซม

ทุกอย่างพูดและเขียนเกี่ยวกับ Salvador Dali ตัวอย่างเช่น เขาหวาดระแวง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้หญิงจริงๆ ก่อนงาน Gala และภาพวาดของเขาไม่สามารถเข้าใจได้ โดยหลักการแล้วทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง แต่ข้อเท็จจริงหรือเรื่องแต่งทั้งหมดจากชีวประวัติของเขาเกี่ยวข้องโดยตรงกับผลงานของอัจฉริยะ (การเรียก Dali ว่าเป็นศิลปินนั้นค่อนข้างมีปัญหาและไม่คุ้มค่า)

ดาลีกำลังหลับใหลอย่างบ้าคลั่งและย้ายทั้งหมดนี้ไปยังผืนผ้าใบ เพิ่มเข้าไปในความคิดที่สับสนของเขา ความหลงใหลในการวิเคราะห์ทางจิต และคุณจะได้ภาพรวมที่ทำให้จิตใจประหลาดใจ หนึ่งในนั้นคือ "การคงอยู่ของหน่วยความจำ" ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "Soft Hours", "Memory Hardness" และ "Memory Persistence"

ประวัติความเป็นมาของผืนผ้าใบนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับชีวประวัติของศิลปิน จนถึงปี 1929 ในชีวิตของเขาไม่มีงานอดิเรกสำหรับผู้หญิงไม่นับ ภาพวาดที่ไม่จริงหรือผู้ที่มาถึงต้าหลี่ในความฝัน จากนั้นผู้อพยพชาวรัสเซีย Elena Dyakonova หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Gala

ในตอนแรกเธอเป็นที่รู้จักในฐานะภรรยาของนักเขียน Paul Eluard และนายหญิงของ Max Ernst ประติมากรทั้งสองในเวลาเดียวกัน ทรินิตี้ทั้งหมดอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน (คู่ขนานโดยตรงกับบริคและมายาคอฟสกี้) ร่วมเตียงและเซ็กส์กันสามคน และดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้จะเหมาะสมกับทั้งผู้ชายและกาล่า ใช่ ผู้หญิงคนนี้ชอบเรื่องหลอกลวง เช่นเดียวกับการทดลองทางเพศ แต่ถึงกระนั้น ศิลปินและนักเขียนแนวเซอร์เรียลิสต์ก็ฟังเธอ ซึ่งหายากมาก Gala ต้องการอัจฉริยะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Salvador Dali ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมา 53 ปี และศิลปินระบุว่าเขารักเธอมากกว่าแม่ เงิน และปิกัสโซ

ชอบหรือไม่เราจะไม่รู้ แต่ต่อไปนี้เป็นที่รู้จักกันดีเกี่ยวกับภาพวาด "Memory Space" ซึ่ง Dyakonova เป็นแรงบันดาลใจให้นักเขียน ภูมิทัศน์ของ Port Ligat เกือบจะทาสีแล้ว แต่มีบางอย่างขาดหายไป งานกาล่าไปดูหนังในเย็นวันนั้น และซัลวาดอร์ก็นั่งลงที่ขาตั้ง ภายในสองชั่วโมงภาพนี้ถือกำเนิดขึ้น เมื่อรำพึงของศิลปินเห็นภาพวาด เธอทำนายว่าคนที่เห็นอย่างน้อยหนึ่งครั้งจะไม่มีวันลืมมัน

ที่นิทรรศการในนิวยอร์กศิลปินอุกอาจอธิบายแนวคิดของภาพวาดในแบบของเขา - โดยธรรมชาติของชีส Camembert ที่ละลายรวมกับคำสอนของ Heraclitus เกี่ยวกับการวัดเวลาโดยการไหลของความคิด

ส่วนหลักของภาพคือภูมิทัศน์สีแดงสดของ Port Ligat ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาอาศัยอยู่ ชายฝั่งร้างและอธิบายความว่างเปล่า ความสงบภายในศิลปิน. ในระยะไกลคุณสามารถเห็นน้ำสีฟ้าและต่อไป เบื้องหน้า- ไม้แห้ง. โดยหลักการแล้วสิ่งนี้และทั้งหมดที่ชัดเจนในแวบแรก ภาพที่เหลือในการสร้างสรรค์ของ Dali เป็นสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งและควรพิจารณาในบริบทนี้เท่านั้น

สามนาฬิกาอ่อน สีฟ้า, แขวนอย่างเงียบ ๆ บนกิ่งไม้ของต้นไม้, ผู้ชายและลูกบาศก์เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่ไหลไม่เป็นเส้นตรงและโดยพลการ มันเติมพื้นที่ส่วนตัวในลักษณะเดียวกัน จำนวนชั่วโมงหมายถึงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีสัมพัทธภาพ Dali เองกล่าวว่าเขาวาดนาฬิกาสีอ่อนๆ เพราะเขาไม่คิดว่าความเชื่อมโยงระหว่างเวลากับอวกาศเป็นสิ่งที่โดดเด่น และ "มันก็เหมือนกับอย่างอื่น"

วัตถุที่พร่ามัวและมีขนตาบ่งบอกถึงความกลัวของตัวศิลปินเอง อย่างที่คุณทราบเขาใช้ภาพวาดในฝันซึ่งเขาเรียกว่าความตายของโลกแห่งความเป็นจริง ตามพื้นฐานของจิตวิเคราะห์และความเชื่อของ Dali การนอนหลับจะปลดปล่อยสิ่งที่ผู้คนซ่อนเร้นอยู่ภายใน ดังนั้น วัตถุที่มีรูปร่างคล้ายหอยจึงเป็นภาพเหมือนตนเองของซัลวาดอร์ ดาลี ซึ่งกำลังนอนหลับ เขาเปรียบเทียบตัวเองกับหอยนางรมฤาษีและบอกว่า Gala สามารถช่วยเธอจากโลกทั้งใบได้

นาฬิกาทึบในภาพเป็นสัญลักษณ์ของเวลาเป้าหมายที่ตรงข้ามกับเรา เพราะมันคว่ำหน้าลง

เป็นที่น่าสังเกตว่าเวลาที่บันทึกในแต่ละนาฬิกานั้นแตกต่างกัน นั่นคือ ลูกตุ้มแต่ละอันจะสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของมนุษย์ อย่างไรก็ตามนาฬิกากำลังเดินและเปลี่ยนหัว กล่าวคือ หน่วยความจำสามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ได้

มดในภาพวาดเป็นสัญลักษณ์ของความเสื่อมโทรมที่เกี่ยวข้องกับวัยเด็กของศิลปินเอง เขาเห็นซากศพของค้างคาวที่เต็มไปด้วยแมลงเหล่านี้ และตั้งแต่นั้นมาการปรากฏตัวของพวกมันก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนของความคิดสร้างสรรค์ทั้งหมด มดคลานไปทั่วนาฬิกาแข็งเหมือนเข็มชั่วโมงและเข็มนาที ดังนั้นเวลาจริงจะฆ่าตัวมันเอง

Dali เรียกแมลงวันว่า "นางฟ้าเมดิเตอร์เรเนียน" และถือว่าแมลงเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้นักปรัชญาชาวกรีกเขียนบทความของพวกเขา เฮลลาสโบราณเกี่ยวข้องโดยตรงกับมะกอกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาสมัยโบราณซึ่งไม่มีอยู่อีกต่อไป ด้วยเหตุนี้มะกอกจึงแห้ง

ภาพวาดยังแสดงให้เห็น Cape Creus ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ บ้านเกิดต้าหลี่ นักสถิตยศาสตร์คิดว่าเขาเป็นที่มาของปรัชญาของการเปลี่ยนแปลงที่หวาดระแวง บนผืนผ้าใบมีรูปแบบของหมอกควันสีฟ้าของท้องฟ้าในระยะไกลและหินสีน้ำตาล

ตามที่ศิลปินกล่าวว่าทะเลเป็นสัญลักษณ์นิรันดร์ของความไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งเป็นระนาบที่เหมาะสำหรับการเดินทาง เวลาที่นั่นไหลอย่างช้าๆและเป็นกลาง เชื่อฟังชีวิตภายในของมัน

ด้านหลังใกล้กับโขดหินมีไข่อยู่ นี่เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่ยืมมาจากตัวแทนกรีกโบราณของโรงเรียนลึกลับ พวกเขาตีความว่า World Egg เป็นบรรพบุรุษของมนุษยชาติ จากมันปรากฏผีกะเทยที่สร้างคนและเปลือกครึ่งหนึ่งให้สวรรค์และโลกแก่พวกเขา

อีกภาพในพื้นหลังของภาพวาดคือกระจกที่วางในแนวนอน เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของความแปรปรวนและความไม่เที่ยง ซึ่งรวมเอาโลกที่เป็นอัตวิสัยและปรวิสัยเข้าไว้ด้วยกัน

ความฟุ่มเฟือยและความเกินต้านทานของ Dali คือผลงานชิ้นเอกที่แท้จริงของเขาไม่ใช่ภาพวาด แต่เป็นความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น ศิลปินปกป้องสิทธิเสรีภาพในการสร้างสรรค์ ความเชื่อมโยงระหว่างศิลปะกับปรัชญา ประวัติศาสตร์ และวิทยาศาสตร์อื่นๆ

… นักฟิสิกส์สมัยใหม่กำลังพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเวลาเป็นหนึ่งในมิติของอวกาศ กล่าวคือ โลกที่อยู่รอบตัวเราไม่ได้ประกอบด้วยสามมิติ แต่เป็นสี่มิติ ที่ไหนสักแห่งในระดับจิตใต้สำนึกของเรา คนๆ หนึ่งสร้างแนวคิดที่เข้าใจได้ง่ายเกี่ยวกับความรู้สึกของเวลา แต่เป็นการยากที่จะจินตนาการถึงมัน Salvador Dali เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จเพราะเขาสามารถตีความปรากฏการณ์ที่ไม่มีใครเปิดเผยและสร้างใหม่ต่อหน้าเขาได้

ความหมายลับของภาพวาด "ความคงอยู่ของความทรงจำ" โดย Salvador Dali

Dali ได้รับความทุกข์ทรมานจากความหวาดระแวง แต่ถ้าไม่มีเขา Dali ก็จะไม่มีตัวตนในฐานะศิลปิน Dali มีอาการเพ้อเล็กน้อยซึ่งเขาสามารถถ่ายโอนไปยังผืนผ้าใบได้ ความคิดที่มาเยือน Dali ในระหว่างการสร้างภาพวาดนั้นแปลกประหลาดมาโดยตลอด ประวัติความเป็นมาของผลงานที่โด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา The Persistence of Memory เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของเรื่องนี้

(1) นาฬิกาที่นุ่มนวล- สัญลักษณ์ของเวลาที่ไม่ใช่เชิงเส้น, เวลาส่วนตัว, การไหลโดยพลการและการเติมช่องว่างที่ไม่สม่ำเสมอ นาฬิกาสามเรือนในภาพคืออดีต ปัจจุบัน และอนาคต "คุณถามฉัน" Dali เขียนถึงนักฟิสิกส์ Ilya Prigogine "ไม่ว่าฉันจะคิดถึง Einstein เมื่อฉันวาดนาฬิกาที่นุ่มนวล (หมายถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพ) หรือไม่ ฉันตอบคุณในแง่ลบความจริงก็คือความเชื่อมโยงระหว่างอวกาศและเวลานั้นชัดเจนสำหรับฉันมาเป็นเวลานานดังนั้นจึงไม่มีอะไรพิเศษสำหรับฉันในภาพนี้มันก็เหมือนกับที่อื่น ๆ ... สำหรับสิ่งนี้ ฉันสามารถเพิ่มได้ว่าฉันนึกถึงเฮราคลีตุส (นักปรัชญากรีกโบราณที่เชื่อว่าเวลาวัดจากการไหลของความคิด) นั่นคือเหตุผลที่ภาพวาดของฉันถูกเรียกว่า The Persistence of Memory ความทรงจำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพื้นที่และเวลา

(2) วัตถุเบลอที่มีขนตา นี่คือภาพตัวเองของ Dali ที่กำลังหลับใหล โลกในภาพคือความฝันของเขา ความตายของโลกแห่งความเป็นจริง ชัยชนะของจิตไร้สำนึก “ความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับ ความรัก และความตายนั้นชัดเจน” ศิลปินเขียนไว้ในอัตชีวประวัติของเขา “การหลับใหลคือความตาย หรืออย่างน้อยก็เป็นการปลีกตัวออกจากความเป็นจริง หรือยิ่งกว่านั้นคือความตายของความเป็นจริง ซึ่งตายในลักษณะเดียวกันระหว่างการแสดงความรัก” ตาม Dali การนอนหลับทำให้จิตใต้สำนึกเป็นอิสระดังนั้นหัวของศิลปินจึงพร่ามัวเหมือนหอย - นี่คือหลักฐานของการไม่มีที่พึ่งของเขา มีเพียง Gala เท่านั้นที่เขาจะพูดหลังจากการตายของภรรยาของเขาว่า "เมื่อรู้ว่าฉันไม่มีที่พึ่งจึงซ่อนเนื้อหอยนางรมฤาษีของฉันไว้ในเปลือกหอยป้อมปราการและช่วยชีวิตมันไว้"

(3) นาฬิกาแข็งนอนทางซ้ายโดยหมุนปุ่มลง - นี่เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่มีวัตถุประสงค์

(4) มด- สัญลักษณ์ของการสลายตัวและการสลายตัว Nina Getashvili ศาสตราจารย์แห่ง Russian Academy of Painting, Sculpture and Architecture กล่าวว่า "ความประทับใจในวัยเด็กของค้างคาวที่บาดเจ็บซึ่งมีมดอาศัยอยู่เต็มไปหมด เช่นเดียวกับความทรงจำของศิลปินเองเกี่ยวกับทารกที่กำลังอาบน้ำโดยมีมดอยู่ในทวารหนัก มอบให้กับศิลปิน ด้วยความหลงใหลในแมลงชนิดนี้ในภาพวาดของเขามาตลอดชีวิต

บนนาฬิกาทางด้านซ้ายซึ่งเป็นนาฬิกาเพียงเรือนเดียวที่ยังคงความแข็งไว้ ​​มดยังสร้างโครงสร้างแบบวงกลมที่ชัดเจน เป็นไปตามการแบ่งส่วนของโครโนมิเตอร์ อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ไม่ได้บดบังความหมายที่ว่าการปรากฏตัวของมดยังคงเป็นสัญญาณของการสลายตัว” ตามที่ Dali กล่าวว่าเวลาเชิงเส้นกลืนกินตัวเอง

(5) บินตามที่ Nina Getashvili กล่าวว่า "ศิลปินเรียกพวกเขาว่านางฟ้าแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใน The Diary of a Genius Dali เขียนว่า: "พวกเขาสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักปรัชญาชาวกรีกที่ใช้ชีวิตภายใต้ดวงอาทิตย์ซึ่งปกคลุมไปด้วยแมลงวัน"

(6) โอลิวาสำหรับศิลปินนี่เป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาโบราณซึ่งน่าเสียดายที่จมลงสู่การลืมเลือนไปแล้วดังนั้นต้นไม้จึงแห้ง

(7) เคป ครูสแหลมนี้อยู่บนชายฝั่ง Catalan ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้กับเมือง Figueres ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ Dali ศิลปินมักจะพรรณนาเขาในภาพวาด "ที่นี่" เขาเขียน "หลักการที่สำคัญที่สุดในทฤษฎีของฉันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแบบหวาดระแวง (การไหลของภาพลวงตาหนึ่งไปสู่อีกภาพหนึ่ง) นั้นรวมอยู่ในหินแกรนิต เหล่านี้คือเมฆเยือกแข็งที่ก่อตัวขึ้นจากการระเบิดในภพชาติที่นับไม่ถ้วน ทั้งใหม่และใหม่ คุณเพียงแค่ต้องเปลี่ยนมุมรับภาพเล็กน้อย

(8) ทะเลสำหรับ Dali นั้นเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะและความเป็นนิรันดร์ ศิลปินคิดว่ามันเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเดินทางโดยที่เวลาไม่ไหลด้วยความเร็วตามวัตถุประสงค์ แต่เป็นไปตามจังหวะภายในของจิตสำนึกของนักเดินทาง

(9) ไข่จากข้อมูลของ Nina Getashvili ไข่โลกในงานของ Dali เป็นสัญลักษณ์ของชีวิต ศิลปินยืมภาพของเขามาจาก Orphics ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับของกรีกโบราณ ตามตำนานออร์ฟิก ฟานส์เทพกะเทยองค์แรกเกิดจากไข่โลก ผู้สร้างมนุษย์ และสวรรค์และโลกถูกสร้างขึ้นจากเปลือกทั้งสองซีก

(10) กระจกเงานอนในแนวนอนไปทางซ้าย เป็นสัญลักษณ์ของความแปรปรวนและความไม่แน่นอน สะท้อนทั้งโลกที่เป็นอัตวิสัยและปรนัยอย่างเชื่อฟัง