บรรณาธิการป๊อปอาร์ตออนไลน์ สร้างงานศิลปะจากภาพถ่ายออนไลน์ วิธีการสร้างงานศิลปะ

รูปแบบการประมวลผลป๊อปอาร์ตไม่สูญเสียความนิยม ใช้สำหรับโปสเตอร์โฆษณา ในการออกแบบนิตยสารและในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นภาพแทนตัวที่น่าสนใจและแบนเนอร์แคมเปญ

ในบทความนี้ เราจะแสดงวิธีการสร้างงานศิลปะใน Photoshop หรือเราจะสร้างภาพศิลปะจากภาพถ่าย และไม่ต้องสงสัย โปรแกรมที่ดีที่สุดเพื่อสร้างงานศิลปะจากภาพถ่าย - นี่คือ Photoshop มีหลายวิธีในการสร้างงานศิลปะ เราจะพิจารณาแรงงานน้อยที่สุดและเร็วที่สุด

สำหรับงานเราต้องการภาพบุคคล เปิดภาพใน Photoshop ทำซ้ำเลเยอร์ภาพ ( Ctrl+J).

ต้องลบพื้นหลังของภาพออก เราได้เขียนไว้ก่อนหน้านี้ในบทความถึงวิธีการแยกวัตถุออกจากพื้นหลัง

หากคุณมีพื้นหลังที่เหมือนกันในรูปภาพ ให้ใช้เครื่องมือนี้ "ไม้กายสิทธิ์"/เครื่องมือไม้กายสิทธิ์หรือ . หากพื้นหลังซับซ้อน คุณต้องมีเครื่องมือ โหมดมาสก์ด่วน.

ในกรณีของเรา คุณสามารถแยกหญิงสาวออกจากพื้นหลังได้ด้วยเครื่องมือ เครื่องมือการเลือกอย่างรวดเร็ว. การทำงานกับภาพที่ซ้ำกัน

เลือกพื้นหลังโดยไม่ต้องสัมผัสตัวแบบ จากนั้นสลับส่วนที่เลือก ( Ctrl+I). ตอนนี้ไม่ได้เลือกพื้นหลัง แต่วัตถุบนพื้นหลังในกรณีของเราคือเด็กผู้หญิง

หลังจากนั้นเพียงกดคีย์ผสม ctrl+c, ctrl+vเพื่อให้ภาพของหญิงสาวที่แยกออกจากพื้นหลังถูกถ่ายโอนไปยังเลเยอร์โปร่งใส

ตอนนี้เราต้องเลือก แกลเลอรีตัวกรองแบบที่เราสามารถขีดเส้นโครงร่างบนภาพถ่ายขาวดำของเราและจัดแสงเงาและไฮไลท์ได้ การทำโปสเตอร์จะแบ่งเฉดสีออกเป็นระดับ ๆ การเปลี่ยนระหว่างสีจะคมชัดมาก ในขั้นตอนนี้ของการสร้างงานศิลปะ ภาพถ่ายแต่ละภาพควรมีฟิลเตอร์ของตัวเองหรือสองฟิลเตอร์หากจำเป็น ตัวกรองที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ: "จังหวะ" / จังหวะแปรง / "จังหวะ" / โครงร่างหมึกและ เน้นขอบ; ร่าง/"ถ่ายเอกสาร" / ถ่ายเอกสาร; . แกลเลอรีตัวกรองตั้งอยู่ที่ "ตัวกรอง" / ตัวกรองเมนูหลักของโปรแกรม สำคัญ! เมื่อเลือกตัวกรอง สีการทำงานหลักควรเป็นขาวดำ

ในกรณีของเรา ตัวกรองพอดีพอดี "เลียนแบบ" / ศิลปะ / "ขอบเค้าร่าง" / ขอบโปสเตอร์. ตัวกรองสามารถปรับแต่งได้ ทางด้านซ้ายในกล่องโต้ตอบ คุณต้องเลื่อนแถบเลื่อนจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ความหนาของขอบถาม 1 , ความเข้มของขอบ - 0 , "โปสเตอร์" / Posterization - 1 . ให้ความสนใจกับวิธีการแบ่งแสงและเงาออกเป็นระดับต่างๆ หลังจากเลือกพารามิเตอร์เสร็จแล้ว ให้คลิก ตกลง.

มันยังคงทำให้ภาพมีสีสัน เลเยอร์การปรับจะช่วยเราในเรื่องนี้ แผนที่ไล่ระดับสี. คุณสามารถเรียกมันได้ในรายการเลเยอร์การปรับแต่งที่ด้านล่างของเลเยอร์เลเยอร์

กล่องโต้ตอบจะเปิดขึ้น ดับเบิลคลิกที่การไล่ระดับสีเพื่อเรียกการตั้งค่า

เราต้องกำหนดจุดสีสี่จุดสำหรับการไล่ระดับสี เราจะย้ายจากซ้ายไปขวา

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Photoshop ในหลักสูตร

มีแถบเลื่อนที่ด้านล่างของการไล่ระดับสี เป็นจุดควบคุม (หยุด) จุดซ้าย - เปิด ตำแหน่ง/สถานที่ 0% ขวา - 100% ด้วยการคลิกเมาส์ด้านล่างเพียงครั้งเดียว คุณสามารถสร้างจุดใหม่ภายใต้การไล่ระดับสีได้ คุณสามารถเลื่อนไปทางซ้ายและขวาได้ สามารถลบคะแนนพิเศษได้โดยการไฮไลท์และคลิก "ลบ" / ลบเราต้องใส่แต้มในตำแหน่ง 25%, 50%, 75% กำหนดสีให้กับแต่ละจุด จุดสองจุดสุดท้ายจะเป็นสีเดียวกัน ใกล้เคียงกับสีผิวของบุคคลนั้นโดยประมาณ

คุณสามารถตั้งค่าสีที่จุดควบคุมได้โดยดับเบิลคลิกที่มัน (บนแถบเลื่อน) จานสีจะเปิดขึ้น ในการไล่ระดับสีทั้งหมด ให้เลื่อนตัวเลื่อนไปที่ สีที่ต้องการและในหน้าต่างการไล่ระดับสีขนาดใหญ่ ให้เลือกโทนสีที่เหมาะสม เราปิดหน้าต่าง

และตอนนี้จุดกลับกัน

ด้วยการเพิ่มของแต่ละคน จุดใหม่ระดับเงาจะเป็นสี

กำหนดจุดที่ตำแหน่ง 25% กำหนดสีเป็นสีแดง

จุดต่อไปจะเป็น สีฟ้า, ตำแหน่ง 50%.

จุดสุดท้ายคือ 75% เลือกสีให้ใกล้เคียงกับสีผิว ที่ด้านล่างมีช่องทำเครื่องหมาย # . คัดลอกรหัสสีจากหน้าต่างนี้ (เลือกและกด ctrl+c).

เรามีจุดสุดท้ายแล้ว ตำแหน่ง 100% เราดับเบิลคลิกที่มันเปิดจานสีในกล่องที่ทำเครื่องหมายไว้ # เลือกคำจารึกและวางรหัสที่เราคัดลอกโดยคลิก ctrl+v. เราปิดหน้าต่าง ปิดแผนที่การไล่ระดับสีโดยคลิก ตกลง.

ต้องแนบเลเยอร์การปรับแผนที่ไล่ระดับสีกับเลเยอร์ของหญิงสาวในขณะที่เราจะทาสี พื้นหลัง. หากต้องการตรึงเลเยอร์การปรับแต่ง ให้วางเมาส์ของคุณระหว่างเลเยอร์นั้นกับเลเยอร์ที่คุณนำไปใช้ กดค้างไว้ อื่น ๆให้คลิกระหว่างเลเยอร์การปรับแต่งและเลเยอร์รูปภาพ เลเยอร์การปรับค่าจะมีลูกศรแสดงว่าติดกับเลเยอร์ด้านล่างแล้ว

สร้างเลเยอร์ใหม่ ( Shift+Ctrl+N) แล้วลากไปใต้เลเยอร์ที่มีรูปภาพของหญิงสาว

อยู่ในเลเยอร์ใหม่ ใช้เครื่องมือ เครื่องมือปะรำสี่เหลี่ยม.

เราวางเคอร์เซอร์ที่มุมซ้ายบนของภาพและกดปุ่มซ้ายของเมาส์ค้างไว้แล้วลากลงมาทางด้านขวาเราติดกับตรงกลางภาพ พื้นที่ประจะปรากฏขึ้น จากนั้นเลือกเครื่องมือ "เท"(สำคัญ ช). สามารถเลือกสีได้โดยการดับเบิลคลิกที่แถบสีหลักซึ่งอยู่ที่ด้านล่างสุดของแถบเครื่องมือ

"ศิลปะ" แปลจากภาษาอังกฤษแปลว่า "ศิลปะ" คำนี้หมายถึงสไตล์สมัยใหม่มากมาย: อาร์ตเดโค ป๊อปอาร์ต เรโทรอาร์ต ฯลฯ ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีถ่ายภาพแนวอาร์ต

วิธีสร้างงานศิลปะจากภาพถ่ายภาพวาดธรรมชาติ

จะได้เอฟเฟกต์ที่ผิดปกติและเฉดสีและรูปทรงที่น่าสนใจ ภาพถ่ายที่สวยงามสถานที่งดงามทางธรรมชาติโบราณ อาคารสถาปัตยกรรมหากคุณทำสิ่งต่อไปนี้ใน Photoshop:

วิธีทำภาพแนวป๊อปอาร์ต

เทคนิคการสร้างภาพบุคคลแนวป๊อปอาร์ตเป็นของ Andy Warhol ช่างภาพชาวอเมริกัน ผลงานของเขาเป็นภาพปะติดของภาพบุคคล 4 ภาพมารวมกันโดยมีเฉดสีต่างกันในภาพ ช่างภาพได้รับการยอมรับในความสามารถที่สมควรได้รับหลังจากที่เขากล้าสร้างและแสดงภาพศิลปะของมาริลีน มอนโรให้โลกเห็น

หลังจากอ่านคำแนะนำแล้ว คุณจะสามารถถ่ายภาพของคุณได้ สไตล์นี้. ในการทำเช่นนี้ ให้เลือกภาพใบหน้า ใกล้ชิดและลำตัวถึงไหล่

หนึ่งใน 4 ภาพพร้อมแล้ว ตอนนี้คุณต้องสร้างพื้นฐานสำหรับภาพตัดปะทั้งหมดเพื่อให้คุณสามารถเพิ่มภาพวาดที่สร้างขึ้นที่นั่นได้

1. ในส่วน "ไฟล์" เลือก "ใหม่"
2. ตั้งค่าพารามิเตอร์ในหน้าต่างที่เปิดอยู่: ความกว้าง - 1440; ความสูง - 1,056; ความละเอียด - 72; สี RGB - 8 บิต; เนื้อหาพื้นหลังเป็นสีขาว
3. เปิดส่วนการเลือกและเลือกทั้งหมด
4. กดแป้น Ctrl + C
5. คัดลอกภาพที่ไฮไลต์ด้วยปุ่มไปที่คลิปบอร์ด
6. เพิ่มภาพที่สร้างขึ้นครั้งแรก

ภาพอื่น ๆ ทั้งหมดทำขึ้นตามรูปแบบหมายเลข 1 ของเราในเฉดสีที่ต่างกันเท่านั้น วิธีนี้คุณจะได้ภาพในสไตล์ป๊อปอาร์ต

การวาดภาพจากภาพถ่ายในรูปแบบศิลปะ

คุณสามารถสร้างภาพวาดสไตล์ศิลปะจากภาพถ่ายได้ดังนี้:

รูปภาพของเราพร้อมแล้ว!

แหล่งข้อมูลออนไลน์

สำหรับผู้ที่มี Adobe Photoshopไม่รองรับฟังก์ชันที่จำเป็นสำหรับการสร้างผลงานในรูปแบบศิลปะ คุณสามารถสร้างภาพตัดปะออนไลน์ได้ฟรีบนแหล่งข้อมูลนี้ และบนเว็บไซต์คุณสามารถอัปโหลดภาพถ่ายและคุณจะได้รับผลลัพธ์ที่เสร็จสมบูรณ์ในรูปแบบของภาพถ่ายสไตล์ศิลปะทันที - คุณสามารถดาวน์โหลดลงในพีซีของคุณได้

ในแหล่งข้อมูลนี้ เสนอให้สร้างรูปแบบกราฟิกออนไลน์ในรูปแบบศิลปะโดยเพียงแค่คลิกเมาส์ที่จุดใดก็ได้บนระนาบที่เสนอ จากนั้นสามารถบันทึกภาพวาดลงในคอมพิวเตอร์ของคุณได้

ในบทช่วยสอนนี้ คุณจะได้เรียนรู้วิธีสร้างภาพวาดดินสอสีที่สวยงามจากภาพถ่าย การใช้เส้นแนวศิลป์ การไล่ระดับสี เอฟเฟกต์เสียงเพื่อเลียนแบบเทคนิคแอร์บรัช และการใช้เครื่องมือมาตรฐานเพื่อสร้างการออกแบบการวาดภาพที่เรียบง่าย หยิบแท็บเล็ตของคุณ เปิด Adobe Photoshop แล้วเริ่มกันเลย

สุดท้ายผลลัพธ์

1. สร้างเอกสารใหม่

ขั้นตอนที่ 1

สร้างเอกสารใหม่ใน โปรแกรมอะโดบี Photoshop (ฉันใช้ CC 2014) กำหนดขนาดเป็น 8 "x 10" ที่ 300 ppi ขนาดของเอกสารนี้เป็นขนาดที่กำหนดเองได้ ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้ขนาดเอกสารการทำงานที่จะพอดีกับภาพถ่ายต้นฉบับหรือการออกแบบของคุณได้

เปิดภาพต้นฉบับของคุณ ในบทช่วยสอนนี้ ฉันใช้รูปภาพที่แสดงในภาพหน้าจอด้านล่าง ซึ่งสามารถซื้อได้จากเว็บไซต์ PhotoDune เลือกรูปภาพทั้งหมด (Ctrl+A) คัดลอก (Ctrl+C) จากนั้นวาง (Ctrl+V) ภาพที่คัดลอกลงบนกระดาษทำงานของเรา ลด ความทึบ(ความทึบ) เลเยอร์กับภาพถ่ายต้นฉบับเป็น 60% แล้วคลิกไอคอน บันทึกทุกอย่าง(ล็อคทั้งหมด) เพื่อล็อคเลเยอร์

ขั้นตอนที่ 2

พู่กันที่เราใช้สร้างเส้นศิลป์นั้นเป็นพู่กันมาตรฐานที่ได้รับการดัดแปลง ไปที่บุ๊กมาร์ก แปรง(แปรง) ในการตั้งค่า เลือกแปรงกลมแข็ง ตั้งมุมและรูปร่างของแปรง ให้วงรีแหลมและมุม 39 °หรืออะไรทำนองนั้น ด้วยพู่กันนี้ เราจะทำให้ลายเส้นของเราดูสวยงาม ในการตั้งค่า ไดนามิกของฟอร์ม(ไดนามิกของรูปร่าง) เลือก ควบคุม(ควบคุม): แรงกดปากกา ความผันผวนของขนาด(กระวนกระวายใจขนาด).

2. ร่างโครงหน้า

ขั้นตอนที่ 1

สร้างเลเยอร์ใหม่และใช้แปรงที่คุณเพิ่งสร้างขึ้นเพื่อเริ่มวาดดวงตาของนางแบบ ใช้สีเข้มแต่ไม่ดำ ฉันเลือกเฉดสีม่วงเข้ม (#362641) ฉันตัดสินใจที่จะเริ่มด้วยการลูบเปลือกตารวมทั้งการลูบที่มุมด้านนอกของขนตา ฉันวาดเส้นอย่างระมัดระวังโดยทำให้บางลงไปที่กึ่งกลางของใบหน้า

อีกครั้ง ไปที่เส้นที่วาดไว้สองสามครั้งเพื่อจัดตำแหน่ง ทำให้หนาขึ้นและสม่ำเสมอกันมากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับรายละเอียดมากมาย เราจะร่างคุณสมบัติของใบหน้าอย่างระมัดระวังดังนั้นรายละเอียดของใบหน้าจะไม่ทำให้การออกแบบทั้งหมดของภาพวาดมากเกินไป

ขั้นตอนที่ 2

ติดตามลักษณะใบหน้าของนางแบบต่อไป วาดเส้นบางๆ แทนดั้งจมูก รูจมูก (ปีกและรูจมูก) และปลายจมูก ในการร่างริมฝีปาก ฉันใช้เส้นบางๆ ที่ริมฝีปากบนและเส้นหนาที่ปลายริมฝีปากและตรงกลางริมฝีปากด้วย หากต้องการจำลองเงา ให้ใช้เส้นหนาขึ้นใต้ริมฝีปากล่าง

ใช้เครื่องมือ ยางลบ(เครื่องมือยางลบ (E) สำหรับเส้นการประมวลผลเพื่อให้เส้นมีความชัดเจนและสม่ำเสมอ นี่คือเหตุผลที่ฉันทำงานกับเอกสารที่มีความละเอียด 300 พิกเซล / นิ้ว: ฉันสามารถซูมเข้าและขยายได้ถึง รายละเอียดที่เล็กที่สุดทำงานสายศิลป์.

ขั้นตอนที่ 3

ในการร่างโครงคิ้ว ฉันเพิ่มเส้นผ่านศูนย์กลางของแปรงในการตั้งค่าแปรง อีกไดนามิกแท็บ (ไดนามิกของรูปร่าง) แปรง(Brush)และยังติดตั้ง ควบคุม(ควบคุม): แรงกดปากกา(แรงกดปากกา) จากเมนูแบบเลื่อนลงด้านล่างตัวเลือก ความผันผวนของขนาด(กระวนกระวายใจขนาด). เริ่มเขียนคิ้วจากกึ่งกลางใบหน้าไปด้านข้างด้วยแปรง 2 จังหวะ ใช้ยางลบเพื่อลดขนาดของแปรงเดิมที่เราเคยใช้

อย่าลืมลักษณะของคิ้วในภาพต้นฉบับ บางทีคุณอาจร่างมันอย่างระมัดระวัง แต่ในความคิดของฉันมันจะดีกว่าถ้าวาดคิ้วด้วยแปรงซึ่งจะทำให้เส้นของคุณมีพลังและน่าสนใจ

3. วาดต่างหู

ขั้นตอนที่ 1

ต่างหูที่นำเสนอในบทเรียนนี้วาดขึ้นโดยใช้รูปทรงที่เรียบง่ายและไม่มีรูปถ่ายต้นฉบับของต่างหูอยู่ในมือ ลองใช้แปรงแล้วทาสีตอนนี้:

1. วาดวงกลมง่ายๆ คุณยังสามารถใช้เครื่องมือ วงรี(เครื่องมือวงรี (U) เพราะฉันรู้ว่าวงกลมไม่สมบูรณ์ได้อย่างไร

2. คัดลอกวงกลมที่วาดแล้ววางบนเลเยอร์ใหม่ ถัดไป พลิกเลเยอร์ที่ซ้ำกันในแนวนอน ไปกันเลย แก้ไข - แปลงร่าง - พลิกแนวนอน(แก้ไข > แปลง > พลิกแนวนอน) ด้วยเครื่องมือ ย้าย(เครื่องมือย้าย (V) เลื่อนเลเยอร์วงกลมที่ซ้ำกันไปทางขวา รวมเลเยอร์วงกลมทั้งสอง (Ctrl + E) จากนั้น วาดเส้นตรงระหว่างวงกลม กดปุ่ม (Shift) ค้างไว้เพื่อให้เส้นตรง

3. วาดเส้นตรงสั้นๆ จากแต่ละด้านของวงกลม แล้วใช้พู่กันวาดเส้นโค้งจากจุดด้านซ้ายของวงกลมไปยังเส้นกึ่งกลาง
4. วาดเส้นโค้งเดียวกันทางด้านขวา

ขั้นตอนที่ 2

วาดต่างหูหัวใจต่อโดยใช้ #ce3681 เป็นสีเส้นสุดท้ายสำหรับเส้น:

1. คัดลอก/วางรูปร่างที่คุณวาดในขั้นตอนก่อนหน้า ลดขนาดเลเยอร์ที่ซ้ำกันประมาณ 50% หรือมากกว่านั้น วางรูปร่างที่ซ้ำกันตรงกลางรูปหัวใจขนาดใหญ่ ผสานทั้งสองเลเยอร์ ด้วยเครื่องมือ ขนนก(เครื่องมือปากกา) ลากเส้นโครงร่างของหัวใจจากจุดกึ่งกลางบนไปยังจุดกึ่งกลางล่าง

2. สร้างเลเยอร์ใหม่ เลือกแปรง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นแปรงปลายแหลมแบบเดียวกับที่เราตั้งค่าไว้ก่อนหน้าในบทช่วยสอนนี้ กำหนดขนาดแปรงเป็น 4 px ไกลออกไป, จังหวะเส้นทาง(เส้นทางเส้นขีด) โดยเลือกแปรงเป็นเครื่องมือเส้นขีด ( หมายเหตุของผู้แปล:นอกจากนี้ผู้เขียนจะสร้างหัวใจทั้งหมดจากครึ่งหนึ่งของรูปร่าง)

3. คัดลอก วาง พลิกแนวนอน ทำซ้ำครึ่งหนึ่งของโครงร่างหัวใจ ปิดการมองเห็นของเลเยอร์ด้วยภาพร่างฐานของต่างหู ถัดไป รวมเลเยอร์ทั้งสองเข้ากับครึ่งหนึ่งของโครงร่างหัวใจเพื่อให้ได้หัวใจทั้งดวงในเลเยอร์ที่แยกจากกัน แก้ไขรูปร่างของหัวใจด้วยเครื่องมือ ยางลบ(เครื่องมือยางลบ) หรือ แปรง(เครื่องมือแปรง).

4. คัดลอก วางโครงร่างของหัวใจลงบนเลเยอร์ใหม่ ลดขนาดเลเยอร์ที่ซ้ำกันเพื่อให้ได้ใจกลางด้านในของหัวใจ ใช้เลเยอร์เดิมที่วาดฐานรูปหัวใจเพื่อจัดตำแหน่งศูนย์กลางของหัวใจ สร้างเลเยอร์ใหม่และใช้แปรงวาดเส้นตรงจากจุดล่างสุดของรูปหัวใจด้านใน ลากเส้นอีกเส้นหนึ่งตั้งฉากกับเส้นแรก โดยชี้ไปทางด้านขวาตามที่แสดงในภาพหน้าจอด้านล่าง

5. วาดเส้นที่สามให้สมบูรณ์

ขั้นตอนที่ 3

สร้างเลเยอร์ใหม่ในเลเยอร์พาเล็ต ถัดไปโดยใช้เครื่องมือ ขนนก(เครื่องมือปากกา), วาด ตัวเลขที่เรียบง่ายเครื่องหมายบวกโดยใช้สี่เหลี่ยมที่คุณวาดในขั้นตอนที่แล้ว ลบเลเยอร์สเก็ตช์ต่างหู/เส้นพื้นฐาน ปรับแต่งการออกแบบต่างหูขั้นสุดท้ายอย่างละเอียด รวมเลเยอร์ทั้งหมดกับชิ้นส่วนของต่างหูที่วาดไว้ในเลเยอร์ที่ผสาน

4. เสร็จสิ้นการติดตามภาพบุคคลของแบบจำลอง

ขั้นตอนที่ 1

ติดตามภาพต้นฉบับของนางแบบต่อไป ใน กรณีนี้ฉันตัดสินใจตั้งแต่ต้นว่าจะใช้ทรงผมแบบเดียวกับในภาพถ่ายต้นฉบับของนางแบบ ณ จุดนี้ของบทช่วยสอน คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้รายละเอียดใดจากภาพต้นฉบับในการออกแบบขั้นสุดท้ายของคุณ อย่าลืมวาดส่วนต่างๆ ของภาพนางแบบ เช่น ผม มือ ฯลฯ บนเลเยอร์ที่แยกจากกัน เพื่อให้สามารถแก้ไขส่วนย่อยเหล่านี้ได้ง่ายในกรณีที่คุณตัดสินใจเปลี่ยนการออกแบบ

ขั้นตอนที่ 2

ย้ายรูปภาพของต่างหูไปยังกระดาษทำงานของเรา โดยวางตำแหน่งต่างหูตามที่แสดงในภาพหน้าจอด้านล่าง ด้วยเครื่องมือ วงรี(เครื่องมือวงรี) วาดวงกลมเล็ก ๆ เหนือต่างหู ต่อไปทำ จังหวะรูปร่าง(สโตรคพาธ).

ขั้นตอนที่ 3

หากคุณตัดสินใจที่จะเปลี่ยนทรงผมของนางแบบให้แตกต่างจากภาพต้นฉบับ ขั้นตอนต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ สร้างเลเยอร์ใหม่และใช้แปรงขนาดเล็ก (แปรงปลายแหลมแบบเดียวกับที่เราใช้ในขั้นตอนก่อนหน้า) เริ่มทาสีลอนผม ฉันเริ่มจากด้านบนสุดของศีรษะ วาดเป็นลอนผมไปจนถึงคิ้วของนางแบบ หากต้องการคุณสามารถใช้รูปภาพอื่นเพื่อร่างทรงผมได้

ขั้นตอนที่ 4

เพื่อให้คุณวาดผมได้ง่ายขึ้น ให้ปิดการมองเห็นของเลเยอร์ต้นแบบดั้งเดิม จากนั้น สร้างเลเยอร์ใหม่แล้วลากเส้นเพื่อกำหนดรูปร่างของศีรษะของนางแบบ โดยคำนึงถึงลักษณะของใบหน้าของนางแบบ ทำให้ได้ทรงผมตามสไตล์ที่ต้องการ ต่อไป ฉันลบเลเยอร์ความช่วยเหลือด้วยภาพร่างของเส้นชั้นความสูง เพราะ ฉันไม่ต้องการเขาอีกต่อไป

ขั้นตอนที่ 5

ฉันได้เสร็จสิ้นการติดตามอิมเมจของโมเดลอย่างสมบูรณ์แล้ว สังเกตว่าเส้นหนาขึ้นใกล้กับโครงร่างด้านนอกของภาพอย่างไร และกลายเป็นแบบไม่มีกฎเกณฑ์มากกว่าเส้นที่วาดภายในโครงร่างของภาพ (โดยเฉพาะเส้นขน) เมื่อคุณวาดเส้นชั้นความสูงเสร็จแล้ว ให้รวมเลเยอร์ทั้งหมด ลบเลเยอร์ตัวช่วยใดๆ ที่มีเส้นขอบร่าง และเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์พู่กัน

5. วาดภาพเหมือนของนางแบบ

ขั้นตอนที่ 1

สีพื้นฐานของฉันสำหรับการออกแบบนี้คือสีชมพูอ่อน #ecd4f6 สร้างเลเยอร์ใหม่ ด้วยเครื่องมือ ขนนก(Pen Tool) ให้วงกลมโครงร่างของภาพนางแบบ เมื่อคุณปิดเส้นทางแล้ว ให้เติมรูปร่างที่เลือกด้วยสีที่ระบุ

ขั้นตอนที่ 2

สร้างเลเยอร์ใหม่ที่ด้านบนของเลเยอร์อื่นๆ ทั้งหมด จากนั้นใช้ การไล่ระดับสี(Gradient Tool (G) แบบไล่ระดับสี เชิงเส้น(เชิงเส้น) ให้ลากการไล่ระดับสีตามแนวทแยงมุม สีไล่ระดับที่ฉันเลือกคือสีเหลือง สีชมพู สีม่วง

เปลี่ยนโหมดการผสมของเลเยอร์ไล่ระดับสีเป็น แสงอ่อน(แสงอ่อน). ฉันปิดการมองเห็นเลเยอร์เติมสีชมพูเพื่อให้คุณเห็นเอฟเฟกต์ของเลเยอร์ไล่ระดับสีในภาพหน้าจอด้านล่าง ผลกระทบนี้จะชัดเจนขึ้นในขั้นต่อไป

ขั้นตอนที่ 3

ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้สีแบบไล่ระดับที่ช่วยเติมเต็มสีฐานที่คุณเลือกสำหรับสีผิวของนางแบบ ในกรณีนี้เรากำลังพูดถึงสีพาสเทล ด้วยเครื่องมือ ย้าย(Move Tool) ให้เลื่อนเลเยอร์เติมสีชมพูลงแล้วไปทางขวาเล็กน้อยเพื่อสร้างค่าชดเชยจากเส้นชั้นความสูง

หมายเหตุของผู้แปล: ย้ายการเติมสีโดยใช้ปุ่มทิศทาง เช่น เลื่อนการเติมด้วยลูกศร

ขั้นตอนที่ 4

สร้างเลเยอร์ใหม่ใต้เลเยอร์ที่มีสี เลือกเครื่องมือ แปรง(เครื่องมือแปรง) ในการตั้งค่าแปรง ให้เลือกแปรงมาตรฐาน ชอล์ก(ชอล์ค) ก็ลด ความทึบ(ความทึบแสง) ลดสูงสุดถึง 60% และยังลด ความดัน(โฟลว์) แปรงได้ถึง 75%

ขั้นตอนที่ 5

ใช้เฉดสีที่อ่อนกว่า เช่น สีเหลือง (#fffdda) วาดเป็นจังหวะรอบๆ โครงร่างของภาพนางแบบ ฉันใช้ขั้นตอนนี้เพื่อเพิ่มการลงสีใหม่ให้กับภาพร่างโดยการเพิ่มพื้นผิวให้กับภาพวาด

6. เพิ่มสีอ่อน

ขั้นตอนที่ 1

สร้างเลเยอร์ใหม่เหนือโครงร่างที่เต็มไปด้วยสีชมพูของภาพนางแบบ และด้านล่างของเลเยอร์ด้วยเส้นชั้นความสูง ใช้พู่กัน เลือกพู่กันชอล์ค ทาสีต่างหู และค่อยๆ ทาสีทับเส้นขอบตาของนางแบบ ต่อไปไปกันเถอะ กรอง - เสียงรบกวน - เพิ่มเสียงรบกวน(ตัวกรอง > เสียงรบกวน > เพิ่มเสียงรบกวน) ใช้การตั้งค่าสำหรับตัวกรองนี้ตามที่คุณต้องการ

ในการตั้งค่าตัวกรอง ฉันตั้งค่าปริมาณสัญญาณรบกวนเป็น 10% เลือกประเภทการกระจายสัญญาณรบกวน ชุดยูนิฟอร์ม(Uniform)และก็ติ๊กช่อง ขาวดำ(เอกรงค์).

ขั้นตอนที่ 2

สร้างเลเยอร์ใหม่ที่ด้านบนของเลเยอร์ที่คุณสร้างในขั้นตอนที่แล้ว เลือกเครื่องมือ การไล่ระดับสี(เครื่องมือไล่โทนสี) ชุด การไล่ระดับสีในแนวรัศมี(Radial Gradient) ไล่ระดับสีจากสี เบื้องหน้าเป็นแบบโปร่งใส โดยที่สีพื้นหน้าเป็นสีขาว

เพิ่มการไล่ระดับสีในแนวรัศมีเล็กน้อยที่ริมฝีปากของนางแบบ ทำเช่นเดียวกันกับดวงตาของนางแบบ โดยทำให้เงาบนดวงตาสว่างขึ้น ใช้เครื่องมือยางลบเพื่อซ่อนเอฟเฟกต์การไล่ระดับสีขาวหลังดวงตาและริมฝีปาก

ขั้นตอนที่ 3

ลองใช้การไล่ระดับสีแบบนุ่มนวลเพื่อจำลองการพ่นสีบนตัวโมเดล

1. สร้างเลเยอร์ใหม่อีกอัน ด้วยเครื่องมือ การไล่ระดับสี(เครื่องมือไล่ระดับสี) เพิ่มการไล่ระดับสีแบบรัศมีอ่อนขนาดเล็ก สีม่วง(#9e57d7) บนไหล่และแขนของนางแบบ

2. ลดความทึบของเครื่องมือหรือเลเยอร์หากคุณพบว่าสีไล่ระดับสีอิ่มตัวเกินไป

3. คลายการไล่ระดับสีบนหน้าอกที่มือสัมผัส

4. การใช้เครื่องมือ ย้าย(Move Tool) เลื่อนการไล่ระดับสีม่วงลงและไปทางขวาเล็กน้อย เช่นเดียวกับที่เราทำในจุดที่ 5 ขั้นตอนที่ 3

ขั้นตอนที่ 4

ในลักษณะเดียวกับที่คุณเพิ่มการไล่ระดับสีขาวบนใบหน้าของนางแบบ เราจะเพิ่มเอฟเฟกต์แบบเดียวกันให้กับเส้นผมด้วย สร้างเลเยอร์ใหม่ที่ด้านบนของเลเยอร์การไล่ระดับสีอื่นๆ ใช้ Radial Gradient ไล่ระดับสีจากสีขาวเป็นสีโปร่งใส วาดการไล่ระดับสีที่นุ่มนวลบนเส้นผมของนางแบบ ซ่อนพื้นที่ของการไล่ระดับสีที่มีสีอยู่บนใบหน้า

7. วาดผีเสื้อ

ขั้นตอนที่ 1

สร้างเลเยอร์ใหม่ จากนั้นใช้การไล่ระดับสีแบบเรเดียล ไล่ระดับสีจากสีพื้นหน้าเป็นสีโปร่งใส ฉันใช้เฉดสีต่างๆ ของสีม่วง สีฟ้า สีฟ้าครามและ สีชมพูเพิ่มเอฟเฟกต์สเปรย์รอบศีรษะของนางแบบ

1. การใช้เครื่องมือ ตัวเลขโดยพลการ(เครื่องมือรูปร่างที่กำหนดเอง) วาดผีเสื้อ ถัดไป บุ๊กมาร์ก รูปทรง(เส้นทาง) และในแถบด้านล่าง ให้คลิกปุ่ม โหลดเส้นทางเป็นการเลือก(โหลดเส้นทางเป็นการเลือก) คัดลอก/วางรูปผีเสื้อที่คัดลอกพร้อมกับการไล่ระดับสี

2. วาดผีเสื้อให้มากขึ้นบนเลเยอร์สีที่เต็มไปด้วยการไล่ระดับสี โหลดผีเสื้อที่วาดไว้ คัดลอก/วางบนเลเยอร์ใหม่ ปรับขนาดของผีเสื้อและตำแหน่งของพวกมันให้หลากหลายตามที่เห็นสมควร

3. ใช้เครื่องมือ ย้าย(เครื่องมือย้าย) เพื่อย้ายผีเสื้อไปรอบๆ ฉาก หมุนผีเสื้อเพื่อสิ่งนี้เราไป แก้ไข - แปลง - หมุน(แก้ไข > แปลง > หมุน) เมื่อคุณพอใจกับตำแหน่งของผีเสื้อแล้ว ให้รวมเลเยอร์ผีเสื้อทั้งหมด แล้วปิดการมองเห็นเลเยอร์สีที่เราสร้างในขั้นตอนที่แล้ว

8. เพิ่มเอฟเฟกต์การพ่นสี

ขั้นตอนที่ 1

สร้างเลเยอร์ใหม่อีกครั้ง เพิ่มการไล่ระดับสีแบบรัศมีรอบรูปร่างของแบบจำลอง เพิ่มการไล่ระดับสีแบบรัศมีสีขาวที่กึ่งกลางของภาพเพื่อกระจายการไล่ระดับสี บน ช่วงเวลานี้ภาพวาดดูเหมือนถูกพ่นสีด้วยแอร์บรัชหลายครั้ง

ขั้นตอนที่ 2

เพิ่มเสียงรบกวนให้กับชั้นสีสเปรย์ใหม่ ตั้งค่าระดับเสียงเป็น 10-15% และเลือกประเภทการกระจาย ตามเกาส์(เสียน). อย่าลืมทำเครื่องหมายในช่อง ขาวดำ(เอกรงค์). คลิกปุ่มตกลงเพื่อใช้การเปลี่ยนแปลง

ขั้นตอนที่ 3

วางเลเยอร์นี้ไว้ใต้เลเยอร์ด้วยการเติมสีชมพูของโครงร่างของรูปภาพของนางแบบ โปรดทราบว่าหลังจากเพิ่มสัญญาณรบกวนแล้ว ภาพวาดจะดูเหมือนถูกพ่นสีแทนที่จะใช้พู่กันพ่นสีลงบนพื้นผิวของภาพวาด

9. เพิ่มรูปแบบมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 1

สร้างเลเยอร์ใหม่ที่ด้านบนของเลเยอร์ที่คุณสร้างในขั้นตอนที่ 8 โดยใช้เครื่องมือ ตัวเลขโดยพลการ(เครื่องมือรูปร่างแบบกำหนดเอง) ให้วาดรูปร่างอื่นที่เลือกไว้ ชุดมาตรฐานตัวเลข ฉันเลือกร่าง ลายดอกไม้2(ดอกไม้ประดับ 2) ในรูปแบบ

วาดลวดลายดอกไม้ที่มุมขวาบนของภาพวาด ทับขอบกระดาษทำงานของคุณ

ขั้นตอนที่ 2

เลือกเครื่องมืออีกครั้ง การไล่ระดับสี(Gradient Tool) ไล่ระดับสีจากสีขาวเป็นสีใส แบบไล่สี เรเดียล(รัศมี). ค่อยๆ ลากการไล่ระดับสีไปยังส่วนที่เลือกทั้งหมด แทบจะมองไม่เห็นลวดลาย ดังนั้นจึงไม่สว่างเท่า และก็ไม่ใช่สีขาวทั้งหมดด้วย

ขั้นตอนที่ 3

ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1-2 ของรายการนี้ เพิ่มลวดลายดอกไม้เพิ่มเติมที่มุมของภาพวาดของคุณ หากต้องการ คุณสามารถเพิ่มลวดลายดอกไม้ที่มุมตรงข้ามของภาพ คัดลอก วาง หมุนลวดลายดอกไม้

ยินดีด้วย! เราจบบทเรียนแล้ว!

บทช่วยสอนที่มีเสน่ห์จาก Designerfreelance ซึ่งดีมาก ด้วยวิธีง่ายๆภาพวาดศิลปะถูกสร้างขึ้นจากภาพถ่ายธรรมดา ขั้นแรกให้เตรียมรูปแบบ Photoshop ที่จำเป็นพร้อมความลาดเอียงของเส้นตกแต่งต่างๆ จากนั้นเราจะใช้ตัวกรอง Treshhold กับ ตัวเลือกต่างๆการตั้งค่าสำหรับเลเยอร์ที่ซ้ำกันที่แตกต่างกัน ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจะสร้างเอฟเฟกต์ที่สวยงามมาก ต่อไป เราต้องการพื้นผิวแบบกรันจ์ที่มีลักษณะการพิมพ์ ซึ่งเราจะนำไปใช้กับ Multiply แล้วประมวลผลเล็กน้อย โดยสรุปเราจะตกแต่งงานด้วยรอยเปื้อนและข้อความ

ขั้นตอนที่ 1.
ลองใช้รูปถ่ายที่เหมาะสมเช่นภาพนี้

ขั้นตอนที่ 2
ทำซ้ำเลเยอร์จากต้นฉบับและใช้ “ตัวกรอง” (ตัวกรอง)> “เบลอ” (เบลอ)> “สมาร์ทเบลอ” (Smart Blur) ด้วยค่าตามภาพด้านล่าง คุณภาพ (คุณภาพ) - สูง (สูง), โหมด (โหมด) - ขอบเท่านั้น (ขอบเท่านั้น)

ขั้นตอนที่ 3
กด Ctrl+I เพื่อกลับภาพ สำหรับตอนนี้ ให้ปิดเลเยอร์นี้ก่อน เราจะต้องใช้มันในภายหลัง และมาทำอีกอย่างหนึ่งกัน สร้างเลเยอร์ใหม่เหนือรูปภาพต้นฉบับและเติมด้วยสีขาว

ขั้นตอนที่ 4
ในเอกสารใหม่ ให้สร้าง เส้นแนวนอน. กด Shift+Ctrl+Alt ค้างไว้แล้วกดลูกศรขวาเพื่อคัดลอกบรรทัด จากนั้นเรารวมเส้นทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วหมุน 45 องศา

ขั้นตอนที่ 5
เลือกสี่เหลี่ยมขนาด 100x100 พิกเซลแล้วครอบตัดภาพวาด หลังจากนั้น เรากำหนดรูปแบบใหม่ “การแก้ไข” (แก้ไข)> “กำหนดรูปแบบ” (กำหนดรูปแบบ)

ขั้นตอนที่ 6
ในทำนองเดียวกัน เราสร้างรูปแบบที่สองโดยมีความชันไปอีกด้านหนึ่ง

ขั้นตอนที่ 7
เรากลับไปที่เอกสารหลักของเรา หลังจากนั้นให้ทำซ้ำเลเยอร์รูปภาพแล้วย้ายไปไว้เหนือเลเยอร์สีขาว ใช้ “Image” (รูปภาพ) > “Corection” (การปรับแต่ง) > “Isohelium” (Threshold) ด้วยการตั้งค่าตามรูปด้านล่าง

ขั้นตอนที่ 8
ใช้สไตล์เลเยอร์ "การซ้อนทับแบบ" โหมดการผสม “การเปลี่ยนแสง” (สว่างขึ้น) เป็นรูปแบบ เลือกรูปแบบแถบแรกที่เราสร้างขึ้น (ขั้นตอนที่ 4-5)

ขั้นตอนที่ 9

เราได้ผลลัพธ์นี้ ตอนนี้มาแปลงเลเยอร์เป็น Smart Object ใหม่ คลิกที่เลเยอร์ด้วยปุ่มเมาส์ขวาและเลือกรายการ "จัดกลุ่มเป็นวัตถุอัจฉริยะใหม่" (แปลงเป็นวัตถุอัจฉริยะ) หลังจากนั้นให้เปลี่ยนโหมดการผสมเลเยอร์เป็น "ทวีคูณ" (ทวีคูณ)

ขั้นตอนที่ 10
สร้างเลเยอร์ต้นฉบับที่ซ้ำกันอีกครั้งและทำซ้ำขั้นตอนที่ 7-9 ด้วยความแตกต่างในขั้นตอนที่ 7 เราใช้ค่า 100 แทน 118 และในขั้นตอนที่ 8 เราใช้รูปแบบที่สองที่เราสร้างขึ้นด้วยความชันของแถบที่แตกต่างกัน

ขั้นตอนที่ 11
หลังจากนั้นคุณควรได้รับผลลัพธ์ต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 12
เปิด ชั้นบนจากบรรทัดที่เราปิดการใช้งานในขั้นตอนที่ 3

ขั้นตอนที่ 13
สร้างเลเยอร์ที่ซ้ำกันจากรูปภาพต้นฉบับ นำไปใช้กับมัน “รูปภาพ” (รูปภาพ)> “การแก้ไข” (การปรับแต่ง)> “Isohelia” (เกณฑ์) เพียงแต่ตอนนี้ต้องตั้งค่าให้ต่ำลงกว่านี้จึงจะได้เอฟเฟ็กต์ตามภาพด้านล่าง หลังจากนั้นให้เปลี่ยนโหมดการผสมเลเยอร์เป็น "ทวีคูณ" (ทวีคูณ)

ขั้นตอนที่ 14
โดยทั่วไปหลังจากการจัดการทั้งหมดควรได้รับผลลัพธ์นี้

ขั้นตอนที่ 15
ลองใช้พื้นผิวที่เหมาะสมเช่นอันนี้

ขั้นตอนที่ 16
วางพื้นผิวลงในเอกสารของเรา เปลี่ยนโหมดการผสมเป็น "ทวีคูณ" (ทวีคูณ)

ขั้นตอนที่ 17
ลดความทึบของเลเยอร์พื้นผิวลงเหลือ 85% จากนั้นเลือกเครื่องมือ "ยางลบ" (เครื่องมือยางลบ) และด้วยแปรงขนนุ่มขนาดเล็กที่มีความโปร่งใส 30% เราวาดพื้นผิวในบริเวณหน้าผากแก้มและคาง

ขั้นตอนที่ 18
ตอนนี้เรามาตกแต่งพื้นหลังด้วยบางอย่างที่มีอยู่

ขั้นตอนที่ 19
สุดท้ายขอเขียนข้อความ

ปล. อารักขา. คุณรู้หรือไม่ว่านางแบบ Adriana Lima นั้นแซ่บมาก สาวสวยซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในธุรกิจโฆษณาและแฟชั่น และเป็นแรงบันดาลใจให้นักออกแบบจำนวนมากด้วยความงามของมัน

ในบรรยากาศของการทดลองและบริโภคนิยมในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 ในอังกฤษและอเมริกา ป๊อปอาร์ตถือกำเนิดขึ้น ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของศิลปินรุ่นใหม่ที่แสวงหาแรงบันดาลใจใน ชีวิตประจำวันสร้างสรรค์งานศิลปะจากของใช้ในบ้าน สินค้าอุปโภค และสื่อต่างๆ

ศิลปะป๊อป: ศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20

ศิลปินป๊อปอาร์ตหรือ ศิลปินยอดนิยมสร้างขึ้นในลักษณะที่ตรงไปตรงมา ใช้สีสว่างสดใส ใช้การพิมพ์สกรีน การพิมพ์ซิลค์สกรีนเพื่อผลิตภาพวาดในปริมาณมากอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็มองข้ามคุณค่าและความพิเศษของงานของศิลปิน ซึ่งทำให้ผลงานของเขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทิศทางในงานศิลปะถูกเรียกว่า " ป็อปอาร์ต" (ย่อมาจาก "popular art" - "popular art").

แนวโน้มนี้ดูเหมือนจะตอบสนองต่องานของนักแสดงออกทางนามธรรมซึ่งการสร้างสรรค์ครอบงำศิลปะอเมริกันในช่วงหลังสงครามและต่อมาโดยรวมเป็นการถ่วงดุล " ศิลปะชั้นสูง". ศิลปินป๊อปชอบที่จะเห็นการกลับสู่ความเป็นจริง ภาพรายวัน ไหวพริบและการประชดประชันในผลงาน

ศิลปินยอดนิยมพยายามผสมผสานประเพณี ทัศนศิลป์ด้วยองค์ประกอบของวัฒนธรรมป๊อปจากโทรทัศน์ ภาพยนตร์ การ์ตูน สิ่งพิมพ์และโฆษณา

ในขณะเดียวกัน งานของพวกเขาก็ท้าทายขอบเขตดั้งเดิมระหว่างสื่อต่างๆ การผสมผสานองค์ประกอบของการวาดภาพและการวาดภาพเข้ากับการถ่ายภาพและการพิมพ์ องค์ประกอบของงานแฮนด์เมดและการผลิตจำนวนมาก ตลอดจนการรวมวัตถุ รูปภาพ และข้อความในบางครั้งเพื่อสร้างความหมายใหม่ แม้ว่าความนิยมสูงสุดของป๊อปอาร์ตจะเกิดขึ้นในศตวรรษที่ผ่านมา แต่เทรนด์นี้ก็ยังมีผู้ติดตามจำนวนมากที่สร้างสรรค์ภาพวาดในสไตล์สมัยใหม่

ผู้ก่อตั้งศิลปะป๊อปคือ Richard Hamilton และ Eduardo Paolozzi แต่ตอนนี้สไตล์นี้เกี่ยวข้องกับชื่อของ Andy Warhol, Roy Lichtenstein, James Rosenquist, Robert Rauschenberg, Claes Oldenburg และศิลปินอื่น ๆ เป็นหลัก

บางทีบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่พวกเขาคือ Andy Warhol - ศิลปินชาวอเมริกันผู้กำกับ ดีไซเนอร์ โปรดิวเซอร์ และหนึ่งในที่สุด บุคลิกที่ขัดแย้งกันในศิลปะของศตวรรษที่ 20 ผลงานของเขาโด่งดังไปทั่วโลก และบางผลงานก็โด่งดังไปทั่วโลก ภาพวาดราคาแพงเคยขาย.

5 อันดับผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Andy Warhol

มาริลีน มอนโร (2505-2510)

รูปนี้ของมาริลีน มอนโร มากที่สุด ภาพที่มีชื่อเสียงในบรรดาผลงานของ Andy Warhol และศิลปะป๊อปทั่วไป

เขาสร้างผลงานชิ้นแรกชื่อ "Golden Marilyn" ในปี 1962 เมื่อนักแสดงหญิงฆ่าตัวตาย ในการทำเช่นนี้ Warhol ใช้ภาพโปรโมตขาวดำสำหรับภาพยนตร์เรื่อง "Niagara" (1953) ที่มีภาพของ Marilyn ทาสีบนผืนผ้าใบด้วยสีทองสีรุ้งและประทับใบหน้าของดาราภาพยนตร์ตรงกลาง องค์ประกอบนี้ ดังนั้น ด้วยการถ่ายภาพซ้ำ Warhol จึงบ่อนทำลายเอกลักษณ์และความเหมือนจริงของลักษณะเฉพาะของภาพบุคคลแบบดั้งเดิม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาพดังกล่าวสามารถทำซ้ำได้อย่างไม่สิ้นสุด

Warhol ใช้ภาพถ่ายเดียวกันเพื่อสร้างภาพทั้งชุด การทำงานกับมาริลีนแต่ละครั้งเป็นการทดลองสีและเงา ด้วยเทคนิคการใช้ภาพด้วยซิลค์สกรีนและความช่วยเหลือจากผู้ช่วยของเขา Warhol สามารถสร้างภาพวาดในสไตล์ดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว ป็อปอาร์ต.

ต่อมาวอร์ฮอลได้สร้างภาพเหมือนของมาริลีน 5 ภาพในสีแดง น้ำเงิน ส้ม เซจ และเทอร์ควอยซ์ ด้วยสี่งานแรกเกิดขึ้น เรื่องราวที่น่าสนใจ: ที่หนึ่งในนิทรรศการ Warhol แขกของศิลปินคนหนึ่งยิงพวกเขาด้วยปืนพก (เธอเพิ่งขออนุญาตศิลปินเพื่อ "คลิก" ภาพวาดและคำว่า "ยิง" ในภาษาอังกฤษหมายถึงไม่เพียง แต่ยิงเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ถ่ายรูป). อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้ความนิยมของภาพวาดเพิ่มขึ้นเท่านั้น: พวกเขาถูกเรียกว่า "Shot by Marilyn" และราคาของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น

ภาพที่ห้าที่ยังหลงเหลืออยู่กลายเป็นภาพ "Turquoise Marilyn" และเป็นภาพจำลองของผลงานชิ้นนี้ที่มีการลอกเลียนแบบมากที่สุดในขณะนี้

กระป๋องซุปแคมป์เบลล์ (2505)

พวกเขาบอกว่ามันเป็นเจ้าของ ห้องแสดงงานศิลปะและนักออกแบบภายใน Muriel Latow ได้เสนอไอเดียสำหรับภาพวาดป๊อปอาร์ตนี้ให้กับ Warhol เมื่อเขากล่าวว่าเขาควรวาดภาพวัตถุที่ผู้คนเห็นรอบตัวเขาทุกวัน

งานนี้เป็นตัวอย่างแรก ๆ ของชุดภาพซ้ำ ๆ ของ Warhol ที่แสดงถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ศิลปินวาดภาพกระป๋องซุปมากกว่าหนึ่งครั้ง: มีรูปภาพที่แสดงกระป๋องในสำเนาเดียว รูปภาพที่แสดงกระป๋องหกกระป๋อง และมีตัวเลือกสำหรับรูปภาพของกระป๋องทั้งแถวที่มีซุปรสชาติต่างๆ กัน: “ ซุปแคมป์เบล 32 กระป๋อง” ซุปแคมป์เบลล์ 100 กระป๋อง และซุปแคมป์เบลล์ 200 กระป๋อง

ธนบัตร 200 ดอลลาร์ (พ.ศ. 2505)

เมื่อวอร์ฮอลถามคนรู้จักว่าอยากเห็นภาพวาดป๊อปอาร์ตแบบไหน เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เขารู้จักถามเขาว่าจริงๆ แล้วเขารักอะไรมากที่สุด ตอนนั้นเองที่วอร์ฮอลมีความคิดที่จะวาดธนบัตรดอลลาร์ ซึ่งเป็นวัตถุที่ได้รับความนิยมและมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุคของเรา ในภาพไม่มีอะไรฟุ่มเฟือย มีเพียงธนบัตรหนึ่งดอลลาร์สองร้อยใบวางเรียงเป็นแถวต่อเนื่องกัน

แปดเอลวิส (2506)

ภาพวาดป๊อปอาร์ตขาวดำขนาด 12 ฟุตนี้มีภาพวาดเอลวิส เพรสลีย์ในชุดคาวบอยที่เหมือนกันและซ้อนทับกันแปดภาพ มันมีเอกลักษณ์ตรงที่มันไม่ได้ผ่านการผลิตจำนวนมากเหมือนงานส่วนใหญ่ของวอร์ฮอล ในปี 2008 "Eight Elvises" ถูกขายไปในราคาหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งยังคงเป็นหนึ่งในภาพวาดที่แพงที่สุดที่เคยขายมา และถือเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ Warhol

กล้วย (2510)

ในปี พ.ศ. 2508 วอร์ฮอลได้เป็นผู้จัดการวงดนตรีร็อคชื่อดังของอเมริกาภายใต้ ชื่อเรื่องว่า Velvet Underground ซึ่งในตอนนั้นยังไม่เป็นที่นิยม โดยความร่วมมือกับ ศิลปินที่มีชื่อเสียงวงออกอัลบั้มเดบิวต์โดยมีภาพประกอบป๊อปอาร์ตรูปกล้วย ลายเซ็นของ Warhol และวลี "ลอกช้าๆ แล้วดู" เป็นหน้าปก

วิธีสร้างภาพบุคคลแนวป๊อปอาร์ตใน Photoshop

สไตล์ป๊อปอาร์ตยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน: ในรูปแบบนี้ไม่เพียง แต่วาดภาพเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปาร์ตี้และวันหยุดที่มีธีมต่างๆ วาดศิลปะบนเรือนร่าง และยังทำให้รูปถ่ายมีสไตล์อีกด้วย หากคุณต้องการถ่ายภาพในสไตล์ป๊อปอาร์ตก็ไม่ใช่เรื่องยาก - คุณต้องใช้ Photoshop และ การถ่ายภาพดิจิตอลที่คุณต้องการแปลง

เพื่อให้ภาพบุคคลแนวป๊อปอาร์ตออกมาดี ควรใช้ภาพถ่ายที่แสดงบุคคลในระยะใกล้หรืออย่างน้อยก็ยาวประบ่า

• เปิดรูปภาพของคุณในเครื่องมือแก้ไข

• ใช้ isohelia หรือ posterization (“ภาพ” - “แก้ไข” - “Posterization”) ในหน้าต่างป๊อปอัป เลือกจำนวนของระดับโปสเตอร์ - 2

• ไปที่ "การเลือก" - "ช่วงสี" คุณจะเห็นหน้าต่างที่คุณจะต้องคลิกที่เมนูแบบเลื่อนลงและเลือกรายการ "ตามตัวอย่าง" เคอร์เซอร์จะกลายเป็นเครื่องมือ eyedropper ซึ่งคุณต้องเลือกสีขาว - เพียงคลิกที่พื้นที่สีขาวของเอกสาร หากรูปภาพของคุณมีพื้นหลังหลายสี ให้ใช้ยางลบหรือแปรงสีขาวในแถบเครื่องมือเพื่อติดตามบุคคลในรูปภาพและระบายสีบนพื้นหลัง

• ค้นหาเครื่องมือเติมในแผงด้านซ้าย เลือกสีที่คุณชอบจากจานสีแล้วคลิกบนพื้นหลังสีขาวด้วยปุ่มซ้ายของเมาส์ ฟิลด์สีขาวที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของภาพถ่ายจะถูกเติมด้วยสีนี้

• เราจึงได้คอลลาจชิ้นแรกในอนาคต แต่เราต้องการภาพมากถึงสี่ภาพในสไตล์ป๊อปอาร์ต ดังนั้นเราจึงสร้างเอกสารใหม่ (“ไฟล์” - “สร้าง”) และกำหนดขนาด พื้นที่ทำงาน. หากต้องการทราบแน่ชัด ให้ตรวจสอบขนาดของรูปภาพแรก - เอกสารใหม่ควรมีความกว้างเป็นสองเท่าและยาวเป็นสองเท่า

• กลับไปที่ภาพแรก ไปที่เมนู "เลือก" แล้วเลือก "ทั้งหมด" ใช้การรวมกันของปุ่ม "Ctrl + C" คัดลอกการเลือกผลลัพธ์ ไปที่เอกสารที่สร้างขึ้นใหม่และวางส่วนที่คัดลอกไว้บนกล่องสีขาว ("Ctrl + V")

• หลังจากนั้น ให้คัดลอกภาพป๊อปอาร์ตแล้วย้ายไปทางขวาของภาพแรก คุณเพียงแค่ต้องคัดลอกรูปภาพอีกครั้ง ใช้การเติมสีและเปลี่ยนสีของส่วนประกอบภาพตัดปะเพื่อให้แตกต่างจากกัน

• เพียงเท่านี้ - คุณจะได้รับภาพตัดปะที่คล้ายกันในสไตล์ ป็อปอาร์ต.

และวิธีสร้างภาพในสไตล์ป๊อปอาร์ตด้วยมือของคุณเองโดยใช้ลายฉลุ กระดาษ และสี คุณจะได้เรียนรู้ในวิดีโอนี้:

เอาไปบอกเพื่อนของคุณ!

อ่านเพิ่มเติมในเว็บไซต์ของเรา:

แสดงมากขึ้น

เพื่อให้การดื่มด่ำกับความเป็นจริงในจินตนาการเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เกม หรือหนังสือ ภาษาประดิษฐ์กำลังถูกสร้างขึ้น เราตัดสินใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับภาษาสมมติที่มีชื่อเสียงที่สุดในวัฒนธรรมป๊อปสมัยใหม่พร้อมทั้งยกตัวอย่างวลีง่ายๆ ในกรณีที่คุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม