สหภาพโซเวียตเป็นรัฐทาส คนโรคเรื้อนอาศัยอยู่ในสหภาพโซเวียตอย่างไร

เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2465 การจัดตั้งสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตได้รับการอนุมัติในการประชุมสมัชชาสหภาพโซเวียตครั้งแรก

ในเดือนธันวาคม สหภาพ ในเดือนกรกฎาคม - รัฐบาล

ข้อตกลงเกี่ยวกับการก่อตัวของสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตลงนามเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2465 ในการประชุมคณะผู้แทนจากรัฐสภาของโซเวียตแห่ง RSFSR, SSR ยูเครน, BSSR และ ZSFSR และได้รับการอนุมัติจากสภาสหภาพทั้งหมดแห่งแรกของโซเวียต . วันที่ 30 ธันวาคมถือเป็น วันที่เป็นทางการการก่อตัวของสหภาพโซเวียตแม้ว่ารัฐบาลของสหภาพโซเวียตและกระทรวงพันธมิตรจะถูกสร้างขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2466 เท่านั้น

ตั้งแต่ 4 ถึง 16

ใน ปีที่แตกต่างกันจำนวนสาธารณรัฐสหภาพภายในสหภาพโซเวียตมีตั้งแต่ 4 ถึง 16 แต่เป็นเวลานานที่สุดที่สหภาพโซเวียตประกอบด้วย 15 สาธารณรัฐ - RSFSR, SSR ยูเครน, SSR Byelorussian, SSR มอลโดเวียน, SSR อาร์เมเนีย, SSR จอร์เจีย SSR อาเซอร์ไบจาน, SSR คาซัค, SSR อุซเบก, SSR คีร์กีซ, SSR เติร์กเมนิสถาน, SSR ทาจิกิสถาน, SSR ลัตเวีย, SSR ลิทัวเนีย และ SSR เอสโตเนีย

รัฐธรรมนูญ 3 ฉบับในปี 69

ตลอดระยะเวลาเกือบ 69 ปีของการดำรงอยู่ สหภาพโซเวียตได้เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับ ซึ่งประกาศใช้ในปี 2467 2479 และ 2520 ตามข้อแรก สภาสหภาพทั้งหมดแห่งโซเวียตเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศ ตามข้อที่สอง สภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตที่มีสองสภา รัฐธรรมนูญฉบับที่ 3 เดิมมีรัฐสภาสองสภา ซึ่งในฉบับปี 1988 ได้เปิดทางให้รัฐสภา เจ้าหน้าที่ของประชาชนสหภาพโซเวียต

Kalinin เป็นผู้นำสหภาพโซเวียตที่ยาวนานที่สุด

ตามกฎหมายแล้วประมุขแห่งรัฐในสหภาพโซเวียตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถือเป็นประธานรัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตประธานรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตประธานสหภาพโซเวียตสูงสุดแห่งสหภาพโซเวียต สหภาพโซเวียตและประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต หัวหน้าที่ยาวที่สุดของสหภาพโซเวียตอย่างเป็นทางการคือมิคาอิลอิวาโนวิชคาลินินซึ่งดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตเป็นเวลา 16 ปีจากนั้นดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาสูงสุดของสหภาพโซเวียตเป็นเวลาแปดปี สหภาพโซเวียต

ธงได้รับการอนุมัติช้ากว่ารัฐธรรมนูญ

ในสนธิสัญญาว่าด้วยการก่อตัวของสหภาพโซเวียตระบุว่ารัฐใหม่มีธงของตนเอง แต่ไม่ได้รับคำอธิบายที่ชัดเจน ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2467 รัฐธรรมนูญฉบับแรกของสหภาพโซเวียตได้รับการอนุมัติ แต่ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าธงมีลักษณะอย่างไร ประเทศใหม่. และเฉพาะในเดือนเมษายน พ.ศ. 2467 รัฐสภาของคณะกรรมการบริหารกลางของสหภาพโซเวียตได้อนุมัติผ้าสีแดงที่มีธงสีแดงเป็นธง ดาวห้าแฉกค้อนและเคียว

ในอเมริกา - ดาวในสหภาพโซเวียต - คำขวัญ

ในปีพ. ศ. 2466 เสื้อคลุมแขนของสหภาพโซเวียตได้รับการอนุมัติ - รูปเคียวและค้อนกับพื้นหลังของโลกท่ามกลางแสงแดดและล้อมรอบด้วยรวงข้าวโพดพร้อมคำจารึกในภาษาต่างๆ ของสหภาพสาธารณรัฐ "Proletarians of all nations, unite!". จำนวนจารึกขึ้นอยู่กับจำนวนสาธารณรัฐในสหภาพโซเวียต เช่นเดียวกับจำนวนดาวบนธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับจำนวนรัฐ

เพลงสากล

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2465 ถึง พ.ศ. 2486 เพลงของสหภาพโซเวียตคือเพลง "The Internationale" ซึ่งเป็นเพลงภาษาฝรั่งเศสที่มีดนตรีโดยปิแอร์ เดกีย์เตอร์ และเนื้อร้องโดยยูจีน พอตตีเยร์ แปลโดยอาร์คาดี คอตส์ ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2486 เพลงชาติใหม่ถูกสร้างขึ้นและรับรองเนื้อร้องโดย Sergei Mikhalkov และ Gabriel El-Registan และดนตรีโดย Alexander Alexandrov เพลงของ Alexandrov พร้อมข้อความดัดแปลงโดย Mikhalkov ปัจจุบันเป็นเพลงชาติของรัสเซีย

ประเทศขนาดเท่าแผ่นดินใหญ่

สหภาพโซเวียตครอบครองพื้นที่ 22,400,000 ตารางกิโลเมตรซึ่งมากที่สุด ประเทศใหญ่บนโลกใบนี้ ขนาดของสหภาพโซเวียตเทียบได้กับขนาด อเมริกาเหนือรวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก

ขอบเขตคือหนึ่งเส้นศูนย์สูตรครึ่ง

สหภาพโซเวียตมีพรมแดนที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 60,000 กิโลเมตร และมีพรมแดนติดกับ 14 รัฐ อยากรู้อยากเห็นความยาวของเส้นขอบ รัสเซียสมัยใหม่เกือบจะเหมือนกัน - ประมาณ 60,900 กม. ในเวลาเดียวกัน รัสเซียมีพรมแดนติดกับ 18 รัฐ - 16 รัฐเป็นที่รู้จักและ 2 แห่งได้รับการยอมรับบางส่วน

จุดสูงสุดของสหภาพ

ที่สุด คะแนนสูงสหภาพโซเวียตเป็นภูเขาใน Tajik SSR ที่มีความสูง 7,495 เมตรซึ่งในปีต่างๆเรียกว่า Stalin Peak และ Communism Peak ในปี 1998 ทางการทาจิกิสถานได้ตั้งชื่อที่สามว่า Samani Peak เพื่อเป็นเกียรติแก่เอมีร์ผู้ก่อตั้งรัฐทาจิกิสถานแห่งแรก

เมืองหลวงที่ไม่เหมือนใคร

แม้จะมีประเพณีที่มีอยู่ในสหภาพโซเวียตในการเปลี่ยนชื่อเมืองเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้มีชื่อเสียง ผู้นำโซเวียตกระบวนการนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเมืองหลวงของสหภาพสาธารณรัฐอย่างแท้จริง ข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือเมืองหลวงของ Kirghiz SSR ซึ่งเป็นเมือง Frunze ซึ่งเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ Mikhail Frunze ผู้บัญชาการโซเวียตซึ่งเป็นชนพื้นเมืองในท้องถิ่น ในเวลาเดียวกันเมืองนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นครั้งแรกและกลายเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐแห่งสหภาพ ในปี 1991 Frunze ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Bishkek

สหภาพโซเวียตในช่วงกลางทศวรรษที่ 1950 - ต้นทศวรรษที่ 1960 ได้สร้าง "แฮตทริกทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิค" ชนิดหนึ่ง - ในปี 1954 ได้สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของโลก ในปี 1957 ได้ปล่อยดาวเทียมประดิษฐ์ดวงแรกของโลกขึ้นสู่วงโคจร และในปี 1961 เปิดตัวยานอวกาศที่มีมนุษย์ลำแรกของโลก เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นตามลำดับ 9, 12 และ 15 ปีหลังจากการสิ้นสุดของ Great สงครามรักชาติซึ่งสหภาพโซเวียตได้รับความเสียหายทางวัตถุและมนุษย์มากที่สุดจากประเทศที่เข้าร่วม

สหภาพโซเวียตไม่แพ้สงคราม

ในช่วงที่ดำรงอยู่ สหภาพโซเวียตเข้าร่วมอย่างเป็นทางการ สามสงคราม- สงครามโซเวียต-ฟินแลนด์ พ.ศ. 2482-2483 มหาสงครามแห่งความรักชาติ พ.ศ. 2484-2488 และสงครามโซเวียต-ญี่ปุ่น พ.ศ. 2488 ทั้งหมดนี้ ความขัดแย้งทางอาวุธจบลงด้วยชัยชนะของสหภาพโซเวียต

1204 เหรียญโอลิมปิก

ในช่วงที่สหภาพโซเวียตดำรงอยู่ นักกีฬาของสหภาพโซเวียตเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 18 ครั้ง (ฤดูร้อน 9 ครั้ง และฤดูหนาว 9 ครั้ง) โดยได้รับ 1204 เหรียญ (473 เหรียญทอง 376 เหรียญเงิน และ 355 เหรียญทองแดง) ตามตัวบ่งชี้นี้สหภาพโซเวียตอยู่ในอันดับที่สองจนถึงทุกวันนี้รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น สำหรับการเปรียบเทียบ บริเตนใหญ่อันดับสามได้รับรางวัลโอลิมปิก 806 รางวัลโดยมีส่วนร่วม 49 ครั้ง กีฬาโอลิมปิก. สำหรับรัสเซียยุคใหม่ได้อันดับที่ 9 - 521 เหรียญหลังจาก 11 โอลิมปิก

การลงประชามติครั้งแรกและครั้งสุดท้าย

ในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของการดำรงอยู่ของสหภาพโซเวียตมีการลงประชามติเพียงครั้งเดียวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2534 มันทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการดำรงอยู่ในอนาคตของสหภาพโซเวียต ผู้เข้าร่วมการลงประชามติมากกว่าร้อยละ 77 โหวตให้คงสหภาพโซเวียตไว้ ในเดือนธันวาคมของปีเดียวกัน หัวหน้า RSFSR ของยูเครน SSR และ Byelorussian SSR ประกาศยุติการมีอยู่ของประเทศเดียว

สวัสดีปีใหม่ 2017 ถึงผู้ใช้เว็บไซต์ USSR ทุกคน ฉันขอให้คุณและครอบครัวและเพื่อน ๆ ของคุณมีความสุขและเจริญรุ่งเรือง ขอให้ปีใหม่นำพาแต่สิ่งดี ใจดี นิรันดร์!

อาจเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะโต้เถียงกันมานานกว่าหนึ่งทศวรรษและอาจมากกว่าหนึ่งศตวรรษ หากในปีแรก ๆ หลังจากการล่มสลายของโซเวียตทั้งหมดหลายคนพยายามที่จะกำจัดทุกอย่างโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เมื่อเร็ว ๆ นี้มีแนวโน้มที่ตรงกันข้าม ผู้ที่ห่วงใยสหภาพโซเวียตกำลังพยายามรักษาสิ่งที่เหลืออยู่ ตัวอย่างเช่น แต้มสนามหรือนกพิราบ Rodion Marinichev ผู้สื่อข่าวของช่อง MIR 24 TV เล่าว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในประเทศที่ไม่มีอยู่อีกต่อไปได้อย่างไร

นักสะสมในวันนี้พร้อมที่จะให้เงินมากกว่าหนึ่งพันรูเบิล แม้ว่าหนึ่งในสี่ของศตวรรษที่ผ่านมาจะเป็นวิธีการชำระเงินทั่วไป รูเบิลของสหภาพโซเวียตเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานหลักของประเทศที่ไม่มีอยู่แล้ว หลายคนยังจำราคาได้ด้วยใจเพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมานานหลายทศวรรษ “ค่าโดยสาร 20 โกเป็ก บุหรี่พรีมา 14 โกเป็ก ชิ้นส่วนห้าสิบ kopeck มีค่าสำหรับมื้อกลางวันและคุณยังมีเงินเหลืออีก 20-30 kopeck สำหรับโรงหนัง” Vladimir Kazakov ผู้เชี่ยวชาญด้านเหรียญกษาปณ์ของกระทรวงวัฒนธรรมแห่งสหพันธรัฐรัสเซียเล่า

เงินเดือนเฉลี่ยในสหภาพโซเวียตในช่วงเวลาของ "สังคมนิยมที่พัฒนาแล้ว" คือ 130 รูเบิล ผู้ที่พยายามประหยัดเก็บเงินไว้ในขวดโหล หนังสือ ชุดชั้นในและจากนั้นเมื่อใกล้ถึงทศวรรษที่ 1970 ผู้คนก็เริ่มใช้สมุดบัญชีเงินฝากมากขึ้น

ในภาพยนตร์เรื่อง "Love and Pigeons" ชีวิตและวิถีชีวิตของสหภาพโซเวียตแสดงให้เห็นตามความเป็นจริงจนผู้คนมักพูดถึงภาพนี้: นั่นคือสิ่งที่เป็นในสหภาพโซเวียต ตัวละครหลัก Vasily Kuzyakin ถูกตัดออกจาก คนจริง, - งานอดิเรกยอดนิยม: นกพิราบ

ประเทศเริ่มมีส่วนร่วมในการเพาะพันธุ์นกพิราบไม่นานหลังจากมหาสงครามแห่งความรักชาติ นกพิราบเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ งานอดิเรกกลายเป็นเรื่องจริงจังจนนกพิราบเริ่มปรากฏตัวในเกือบทุกสนาม นกพิราบตัวเล็กถูกสร้างขึ้นตามแบบมาตรฐาน คนรักนกพิราบตัวยงสร้างคฤหาสน์จริงสำหรับพวกเขา

ในเขต Nagatino ของมอสโกที่หลับใหล วันนี้นกพิราบที่เป็นแบบอย่างของลุง Kolya เกือบจะแปลกใหม่ เขาเริ่มการก่อสร้างในปี 1970 เมื่อเขากลับมาจากกองทัพ เขาบอกว่าในวัยหนุ่มของเขาไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายที่จะประหยัดเงินสำหรับนกเหล่านี้ คุณไม่ทานอาหารกลางวันสองสามครั้ง - และคุณซื้อนกพิราบ จากนั้นคุณจะต้องแข่งขันกับสนามหญ้าข้างเคียง: นกพิราบของใครฉลาดกว่ากัน “ก่อนหน้านี้ ถ้าคุณเห็นว่าปาร์ตี้กำลังบิน ก็แค่นั้น คุณต้องเลี้ยงเอง ไม่อย่างนั้นคนอื่นบิน! และนากาติโนทั้งหมดในนกพิราบ” นิโคไลเล่า

มีงานอดิเรกในสวนเพียงพอในสหภาพโซเวียต นอกจากนี้ยังมีหมากรุก แบ็คแกมมอน และโดมิโน คนรักสนับมือในปัจจุบันถือว่างานอดิเรกของพวกเขาเป็นกีฬาอาชีพ แม้แต่ตารางพิเศษสำหรับการแข่งขันดังกล่าวก็จัดขึ้น อเล็กซานเดอร์จำได้ว่าในสหภาพโซเวียตทุกอย่างง่ายกว่ามาก สนามแข่งขันสามารถใช้เป็นกระเป๋าเอกสาร กล่อง หรือแผ่นไม้อัด “เล่นในสวนสาธารณะบนม้านั่ง” กรรมการบริหารกล่าว สหพันธรัฐรัสเซียโดมิโน อเล็กซานเดอร์ เทเรนเทียฟ

Patriarch's Ponds เคยเป็นสถานที่โปรดของผู้เล่นโดมิโน เช่นเดียวกับสวนสาธารณะในเมืองส่วนใหญ่ โดมิโนเข้ามาในชีวิตอย่างแน่นหนาจนพวกเขานั่งลงได้ทุกเมื่อที่มีเวลาว่าง ตัวอย่างเช่น ในเวลาอาหารกลางวัน "ใน เวลางานพบผู้คนจากเวิร์กช็อปอื่นมา - แชมป์ของรัสเซียในโดมิโนในปี 2558 Alexander Vinogradov กล่าว

ฉันต้องใช้เวลามากมายใน บริษัท ของใครบางคนและไม่ได้ตั้งใจ ในช่วงกลางศตวรรษที่ผ่านมาประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ส่วนกลาง การสร้างชีวิตร่วมกันบางครั้งก็ยาก นักเขียน Vladimir Berezin จำได้ว่าตอนเป็นเด็กเขาแทบไม่เคยอาบน้ำในอพาร์ตเมนต์เลย

"ในขนาดเล็ก อพาร์ตเมนต์สองห้องสองครอบครัวอาศัยอยู่ ในห้องน้ำ แม่บ้านของครอบครัวที่สองกำลังนอนหลับอยู่บนเรือ ฉันพบวัฒนธรรมโรงอาบน้ำที่หลอมรวมผู้คนที่มีต้นกำเนิดทางสังคมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง” เบเรซินกล่าว

สำหรับพลเมืองโซเวียตส่วนใหญ่ - เกือบจะเป็นบ้านหลังที่สอง อย่างน้อยก็จนถึงปลายทศวรรษที่ 1960 - ยุคของ Khrushchev และแม้ว่าจะเป็นอพาร์ทเมนต์ขนาดเล็ก แต่แยกกันพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมด หลายคนไปอาบน้ำพร้อมชามและสบู่ของตัวเอง ภายใต้ไอน้ำใน บริษัท เดียวกันมักพบคนงานและแพทย์ด้านวิทยาศาสตร์

Takhir Yanov ผู้ดูแลโรงอาบน้ำที่มีประสบการณ์ 30 ปีจำได้ดีถึงคิวยาวเหยียดที่ Sanduny ที่มีชื่อเสียง ทุกอย่างได้รับการเก็บรักษาไว้ที่นั่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คู่รักคู่แรกยังคงมาในตอนเช้าเหมือนในยุคโซเวียต

คิวเป็นปรากฏการณ์พิเศษของโซเวียต พวกมันเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1920 จากนั้นก็ยาวขึ้น สั้นลง แล้วก็ยาวขึ้นอีกครั้ง

ตามข้อมูลของคณะกรรมการสถิติแห่งรัฐของสหภาพโซเวียตในปี 1985 ผู้ชายใช้เวลาประมาณ 16 นาทีในวันทำงาน ผู้หญิง - 46 นาทีในการซื้อสินค้าหรือบริการ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ มากยิ่งขึ้น: ผู้ชาย - เกือบหนึ่งชั่วโมง (58 นาที) ผู้หญิง - หนึ่งครึ่ง (85 นาที) พวกเขาพบกันในคิวแก้ไขคดีและบางครั้งก็ตกหลุมรักและแยกย้ายกันไป

“มีคู่รักอยู่ข้างหน้าฉัน: ผู้ชายกับผู้หญิง พวกเขาประกาศความรักของพวกเขามากจนฉันเบื่อที่จะฟัง ในที่สุดก็ถึงตาของพวกเขา พวกเขาให้บางอย่างเพียงหนึ่งกิโลกรัมหรือชิ้นเดียว หญิงสาวรับไปและชายหนุ่มรับไป และเธอก็พูดว่า: "กระต่าย ขอเงินฉันหน่อย" เขาควักเงินในกระเป๋าครั้งหนึ่งและกลายเป็นว่าเขาลืมเงินไว้ในโฮสเทล! และกระต่ายตัวนี้ก็กลายเป็น "ไอ้สารเลว" นักร้อง Lyubov Uspenskaya เล่า

นักร้อง Lyubov Uspenskaya จำทั้งวัยเด็กที่หิวโหยและ คำโซเวียต"แบลต". เธอสามารถพุ่งเข้าสู่ความอุดมสมบูรณ์ได้เฉพาะในปี 1970 เมื่อเธอเดินทางไปทางตะวันตก แต่ในที่สุดฉันก็รู้ว่า: ฉันไม่ได้สัมผัสกับความสุขเช่นนี้จากที่อื่นเหมือนในสหภาพโซเวียต

"บน ปีใหม่คุณได้รับต้นคริสต์มาส บางชนิดที่เรียบง่ายและน่าเกลียดที่สุด และช่างน่ายินดีที่ได้ตกแต่งมัน และตอนนี้เราทำเหมือนเครื่องจักรอัตโนมัติ” นักร้องกล่าว

การอำลาชีวิตโซเวียตอย่างรวดเร็วเริ่มต้นขึ้นในปี 1990 แต่หลายคนยังไม่เลิกราจนถึงตอนนี้ วันนี้มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ที่ทุกคนไม่อยากสูญเสีย

พวกเขาบอกฉันว่าเรากลายเป็นคนห่วยๆ อาศัยอยู่ในสหภาพโซเวียตได้อย่างไร มันแย่แค่ไหน เหมือนไม่มีอะไรในร้านค้า เนื่องจากระบอบการปกครองไม่อนุญาตให้ใช้ชีวิตตามปกติ คนร้ายคนไหนเป็นผู้นำ เป็นต้น

เสียงทั้งหมดนี้จากหน้าจอทีวีและในอากาศของวิทยุ คืบคลานเข้ามาในสมองจากหน้าหนังสือพิมพ์และหน้านิตยสาร โดยทั่วไปจะลอยอยู่ในอากาศ แต่มีบางอย่างในตัวฉันที่ต่อต้านตำนานนี้ ตรรกะทางโลกที่เรียบง่ายนำไปสู่ข้อสรุปที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

ลองทำลายมันทั้งหมดลง

ฉันเกิดในยุค 60 สม่ำเสมอ ทั้งปีสามารถอยู่ภายใต้ Khrushchev ฉันไม่รู้สึกถึง "Khrushchev thaw" ที่มีชื่อเสียงและพ่อแม่ของฉันพูดคุยเกี่ยวกับ cornmeal, hominy, "แม่ของ Kuzkin" สำหรับอเมริกาและความสุขอื่น ๆ ของเวลาที่ "ซบเซา" ฉันไม่สามารถพูดอะไรเกี่ยวกับมัน ฉันไม่ได้ตระหนักแล้วเพราะ

อนุบาล

เมื่อถึงเวลาพวกเขาส่งฉันไปโรงเรียนอนุบาล ช่างเป็นโรงเรียนอนุบาลที่ดี และพวกเขาให้อาหารอย่างเอร็ดอร่อย - ผักและผลไม้สดในอาหารและพาพวกเขาไปที่ทะเลในฤดูร้อนและมีของเล่นมากมาย สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกอย่างฟรีสำหรับผู้ปกครอง

แต่ส่วนหนึ่งของวัยเด็กที่ยาวนานก็จบลงเช่นกัน

โรงเรียน

โรงเรียนกว้างขวางและสว่างไสว ต่อมามีการเพิ่มอาคารใหม่เข้าไปในอาคารหลังสงคราม รวมทั้งโรงยิมและหอประชุม เงื่อนไขทั้งหมดโดยทั่วไป ฉันจำนมฟรีสำหรับนักเรียนประถมในช่วงพักแรกและอาหารเช้า 15 kopecks ในช่วงพักที่สอง เด็กที่มาจากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวขนาดใหญ่และพ่อแม่มีค่าจ้างต่ำได้กินฟรี ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายของสหภาพแรงงานต่าง ๆ หรือด้วยวิธีอื่น มีบริการอาหารเช้าและอาหารกลางวัน

ที่โรงเรียนมีวงกลมหลายประเภทที่ซึ่งผู้ที่ต้องการได้รับแรงผลักดันอย่างแท้จริง ตามที่คุณเข้าใจแล้ว ทั้งหมดนี้ฟรี

ฉันจำได้ว่าบางครั้งคณะกรรมการผู้ปกครองเก็บเงินจากผู้ปกครอง - สำหรับผ้าม่านใหม่ในห้องเรียน และการซ่อมแซมทั้งหมดได้ดำเนินการโดยรัฐเป็นผู้รับผิดชอบ

พักร้อน

ในชั้นเรียนอาวุโสในฤดูร้อน เราถูกพาไปที่ฟาร์มรวม ไปที่ค่ายแรงงานและนันทนาการ (LTO) ตอนนี้พวกเขาสามารถพูดได้ว่า: การแสวงประโยชน์จากแรงงานเด็ก และเราชอบมันมาก พวกเขาเก็บเกี่ยวเมื่อเชอร์รี่เมื่อหัวบีทหรือมะเขือเทศ หรือกำจัดวัชพืชบางอย่าง อาหารกลางวันที่ค่ายภาคสนาม - สุดโรแมนติก! และหลังอาหารเย็น - เกมกีฬาเที่ยวคันทรีคลับ กีตาร์ และความสุขอื่นๆ สำหรับเราและพ่อแม่ ทุกอย่างฟรี และฟาร์มส่วนรวมยังจ่ายเงินพิเศษให้กับโรงเรียนด้วย เราได้รับอนุญาตให้นำเชอร์รี่จากไร่ "ไปใช้ส่วนตัว" ได้มากถึงครึ่งถังทุกวันหรือมะเขือเทศหนึ่งถัง เช่นเดียวกับเงินเดือนอย่างกะทันหัน

สองครั้งที่ฉันโชคดีได้ไปเยี่ยมชมค่ายไพโอเนียร์ ค่ายยังเป็นค่ายโรงงานและโรงงานมีความสำคัญต่อสหภาพทั้งหมด ดังนั้นเด็ก ๆ ในนั้นจึงมาจากทั่วสหภาพโซเวียต เพื่อนใหม่มากมาย! เราติดต่อกับใครในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

เด็กนักเรียนที่ดีที่สุดได้รับรางวัลบัตรกำนัลแก่ Artek (Gurzuf) หรือ Young Guard (Odessa)

กีฬาและการพักผ่อน

สำหรับสิ่งนี้มีโรงเรียนกีฬาของแผนกและรัฐ บ้านแห่งวัฒนธรรม และแน่นอน Palace of Pioneers ใดๆ ส่วนกีฬาแก้วน้ำ วัฒนธรรมและดนตรีทุกประเภท และอย่าบอกว่ามันฟรีทั้งหมด โค้ชและผู้นำในแวดวงมาที่โรงเรียนเป็นระยะเพื่อ "รับสมัคร" - ล่อลวงพวกเขาให้เข้าสู่ส่วนเหล่านี้

ฉันไปเล่นกีฬาด้วย ประเภทต่างๆจนกว่าจะเลือกสิ่งที่ชอบ ในส่วนกีฬาทั้งหมดจะมีการออกชุดกีฬาสำหรับชั้นเรียน ไม่มีใครเรียกร้องให้มาเป็นวงกลมด้วยหมากรุก พู่กันสี และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับชั้นเรียน

สำหรับนักกีฬาในฤดูร้อนมีค่ายกีฬา ดูเหมือนผู้บุกเบิกออกกำลังกายเพียง 3 ครั้งต่อวันบนชายหาด เราไปแข่งขันทุกเดือน บางครั้ง 2-3 ครั้งต่อเดือน การเดินทาง ที่พัก อาหาร - ค่าใช้จ่ายของรัฐ

ความหลงใหลในดนตรีของฉันทำให้ฉันสร้างวงดนตรีที่ใช้เสียงและเครื่องดนตรี (VIA) ที่โรงเรียน มีเครื่องดนตรีบางอย่างที่โรงเรียน และโรงเรียนได้ซื้อสิ่งที่เราขาด พวกเขาซ้อมอย่างที่ควรจะเป็น "ในตู้เสื้อผ้าหลังห้องประชุม" บางครั้งก็แข่งขันกัน จริงอยู่ฉันต้องร้องเพลงในการแข่งขันไม่ใช่เพลงที่ฉันชอบ แต่เป็นเพลงรักชาติหรือคมโสม

มหาวิทยาลัย

ฉันจะไม่พูดซ้ำ แต่การศึกษาในมหาวิทยาลัยใด ๆ นั้นฟรี หลังจากจบมัธยมปลายทุกคนก็รองานทำ นอกจากนี้จำเป็นต้องทำงานเป็นเวลา 3 ปี นักเรียนที่ยอดเยี่ยมที่มีประกาศนียบัตรสีแดงได้รับสิ่งที่เรียกว่า "ประกาศนียบัตรฟรี" นั่นคือสิทธิ์ในการเลือกสถานที่ทำงาน ในมหาวิทยาลัยเช่นเดียวกับที่โรงเรียน กีฬาและการพักผ่อนทางวัฒนธรรมก็มีให้อย่างเต็มที่เช่นกัน รวมถึงโฮสเทลสำหรับผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่

ทบ

เพราะฉันเข้ามา โรงเรียนเตรียมทหารฉันรู้โดยตรงเกี่ยวกับกองทัพ กองทัพคือสิ่งที่เราต้องการ มันมีทั้งพลังและความแข็งแกร่ง และอาวุธที่ทันสมัยที่สุด และความพร้อมรบ ตอนนี้มันยากที่จะเชื่อด้วยซ้ำว่าหลังจากตื่นนอนทุกคืน หน่วยทั้งหมดจะไปที่พื้นที่ว่างหรือพื้นที่ออกกำลังกายโดยไม่มีปัญหาใดๆ บางครั้งก็ห่างออกไปหลายร้อยหรือหลายพันกิโลเมตร ต่อมาเมื่อเข้าประจำการในกองทัพยูเครน การฝึกก็เริ่มดำเนินการ "บนแผนที่" - พวกเขา (การฝึก) เรียกว่าคำสั่งและเจ้าหน้าที่ หรือแม้แต่ในคอมพิวเตอร์ จินตนาการวาดนายพลด้วยจอยสติ๊กในมือ แต่จะทำอย่างไรเมื่อพวกเขาไม่ให้เงินสำหรับการฝึกรบเต็มรูปแบบ การยิง การบิน แคมเปญทางทหาร ฯลฯ เงินเดือน (ในกองทัพเรียกว่าเบี้ยเลี้ยงเงินสด) นั้นดีมากและบริการเองก็มีเกียรติมาก เจ้าหน้าที่ได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพอย่างสูงในสังคม

ที่อยู่อาศัย

คำถามนี้มีมาก่อนพลเมืองเสมอ เนื่องจากประชากรมีแนวโน้มที่จะเติบโต สร้างครอบครัวใหม่ - เซลล์ของสังคมที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยใหม่ ด้วยสิ่งนี้ในสหภาพโซเวียตจึงเป็นเรื่องง่าย คุณทำงานหรือรับใช้ คุณยืนอยู่ในทะเบียนอพาร์ทเมนท์ (ในคิวสำหรับที่อยู่อาศัย) และไม่ช้าก็เร็ว คุณจะได้อพาร์ทเมนท์ ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกในครอบครัว เป็นไปได้ที่จะยืนเข้าแถวเป็นเวลาสามปีสิบปี โรงงานหลายแห่งสร้างที่อยู่อาศัยสำหรับคนงาน - ทั้งหมู่บ้านหรืออำเภอ และมีโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด: โรงเรียน โรงเรียนอนุบาล ร้านค้า ถนน

งาน

มาตรฐานการครองชีพ ร้านค้า ราคา

สหภาพโซเวียตมักจะแสดงด้วยชั้นวางของที่ว่างเปล่า สิ่งนี้ไม่ควรเห็น สินค้าทั้งหมดไม่สามารถหาซื้อได้ง่าย เรียกว่า "บกพร่อง" สินค้านำเข้ามีมูลค่าสูง ยิ่งไปกว่านั้น ไม่สำคัญว่ามาจากประเทศไหน นายทุนหรือสังคมนิยม สิ่งสำคัญคือมันไม่เหมือนของเรา

สำหรับอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน พ่อแม่ของฉันซึ่งเป็นคนงานธรรมดาๆ ซื้อสินค้าจำนวนมาก - ทีวี ตู้เย็น เฟอร์นิเจอร์ - จัดทำด้วยเครดิต ซื้อรถ - นั่นคือปัญหา! และราคาไม่สามารถบรรลุได้ และคิวพิเศษ โควต้า ฯลฯ

สินค้าคุณภาพ

สิ่งนี้ควรค่าแก่การพูดถึงแยกกัน เรายังคงใช้สินค้าจำนวนมากที่ผลิตในสหภาพโซเวียต ทำอุตุ ตั้งมั่น คิด มีสติสัมปชัญญะ. ก็มีของชำรุดเช่นกันแต่ไม่มากนัก แต่อุตสาหกรรมเบาของเราล้าหลังแฟชั่นอยู่ตลอดเวลา ประการแรกเพราะรูปแบบนี้ไม่ใช่สมาชิกสภานิติบัญญัติ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทำงานสาย และเรากำลังไล่ตามเสื้อผ้านำเข้า ซื้อของ "แบรนด์" ในราคาที่สูงเกินไปจากนักการตลาดมืด

ยา

คุณภาพของยาโซเวียตยังคงถูกถกเถียงกันอยู่ ในหลายอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญของเราเก่งที่สุดในโลก สิ่งนี้ใช้กับจักษุวิทยา, การผ่าตัดหัวใจ ใช่ เราเข้ารับการบำบัด ในทางใดทางหนึ่งล้าหลัง ไม่ใช่โดยปราศจากสิ่งนั้น ไม่ว่าในกรณีใด ยาในยูเครนยังไม่ดีขึ้น แต่คุณต้องจ่ายทุกอย่าง แต่ยาป้องกัน, การสอบวิชาชีพสำหรับประชาชนประเภทต่างๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็ก - ดังนั้นที่นี่สหภาพโซเวียตจึงนำหน้าส่วนที่เหลือ

อุตสาหกรรม

หลักคำสอนของสหภาพโซเวียตในการแยกตัวออกจากส่วนอื่นๆ ของโลกนั้นต้องการความพอเพียงอย่างสมบูรณ์ในทุกอุตสาหกรรม ดังนั้นอุตสาหกรรมหนัก วิศวกรรมขนาดกลาง (การสร้างจรวด) จึงถูกสร้างขึ้นและนำเสนอต่อผู้นำระดับโลก และแน่นอนว่าจุดแข็งของระบบทั้งหมดคืออุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ สถาบันวิจัยหลายร้อยแห่ง (NII) ภายใต้ชื่อ "หมายเลขตู้จดหมายดังกล่าวและดังกล่าว" ทำงานให้กับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ที่นั่นเงินเดือนสูงกว่าและมีสวัสดิการมากกว่า

อุตสาหกรรมเบา, การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค, ในสถานการณ์นี้มักจะอยู่ในหาง. ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณของสินค้าที่ประชากรต้องการ

อุดมการณ์

อุดมการณ์แผ่ซ่านไปทั้งชีวิต คนโซเวียต. ใน โรงเรียนอนุบาล- บทกวีเกี่ยวกับเลนิน ที่โรงเรียน - Octobrists จากนั้น Pioneer และ Komsomol ในตอนแรกทุกอย่างเป็นเรื่องจริงและเต็มไปด้วยความเร่าร้อนในวัยเยาว์จากนั้นในยุค 80 ด้วยพิธีการของ Komsomol และการประชุมปาร์ตี้ หัวข้อที่อนุญาตและไม่อนุญาตสำหรับการสนทนา การสนทนาในครัวเฉพาะกับญาติสนิทของ "หัวข้อทางการเมือง" และความกลัวของ KGB ซึ่งฉันไม่เคยต้องเผชิญ ภาพยนตร์ที่ห้ามดู บันทึกของวงร็อค และหนังสือ "samizdat"

เป็นการยากที่จะเข้าใจว่าทั้งหมดนี้บดบังเสรีภาพในการพูด ไม่มีจุดอ้างอิงอื่น ไม่มีตัวอย่างสำหรับเปรียบเทียบ ดังนั้นการแสดงออกของความเป็นจริงของโซเวียตจึงถูกมองว่าเป็นกฎของเกม เรารู้กฎและเล่นโดยพวกเขา บางครั้งก็เสแสร้ง บางครั้งก็จริงจัง

ผุ

หลังจากการเปเรสทรอยก้าของ Gorbachev การเร่งความเร็วและการก้าวกระโดดทางการเมืองและเศรษฐกิจอื่น ๆ การล่มสลายของสหภาพโซเวียตก็มาถึง และในปี 1991 ที่การลงประชามติของยูเครนทั้งหมด ฉันก็เหมือนกับพลเมืองหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนของสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตยูเครน ลงคะแนนเสียงให้ยูเครนเป็นอิสระ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องขอบคุณข่าวลือที่เปิดตัวอย่างเชี่ยวชาญ เราทุกคนเชื่ออย่างแน่วแน่ว่าครึ่งหนึ่งของสหภาพกำลังให้อาหารแก่ยูเครน และหลังจากการแยกกันเราจะขี่เหมือนเนยแข็งในเนย แยกกันไปใช้ชีวิตของตัวเอง

หากเราไม่นึกถึงช่วงเวลาของยุค 90 ที่มีชีวิตชีวา เมื่อลัทธิทุนนิยมป่ากำลังเดือดดาล การรกร้างของรัฐ ทรัพย์สินสาธารณะเจริญรุ่งเรือง ภาวะเงินเฟ้อและภาวะซึมเศร้าทางสังคมกำลังอาละวาด บัดนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบลงแล้ว ทุกสิ่งถูกปล้น แบ่ง ชำระ และนำส่วนหารที่ไม่ยุติธรรมมาให้นายทุน

เราได้อะไร?

เรามอบเด็ก ๆ ให้กับโรงเรียนอนุบาลเพียงไม่กี่แห่งที่รอดชีวิตจากการสร้างแบบจำลองซึ่งสร้างขึ้นในสหภาพโซเวียต และเราจ่าย เราจ่าย เราจ่าย... ตลอดเวลาแห่งความเป็นอิสระ มีการสร้างโรงเรียนอนุบาลหลายสิบแห่ง

จากนั้นโรงเรียนและใบเบิก ใบขอ ใบขอ คุณภาพการศึกษาแย่และครูสอนพิเศษที่ต้องเสียเงิน วงการศึกษาเพื่อเงิน กีฬาเพื่อเงิน ถ้าเราสามารถจ่ายได้ และถ้าไม่เป็นเช่นนั้น เด็ก ๆ จะถูกเลี้ยงดูมาข้างถนนพร้อมกับการติดยาและการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน โดยวิธีการที่หลายโรงเรียนได้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ได้รับเอกราชที่จะมีหลายนิ้วในมือเดียว

ถ้าโชคดีลูกเข้ามหาวิทยาลัยแบบประหยัด ถ้าไม่มี ก็เข้าเอกชน สถาบันการศึกษา. อย่างใดเขาจะได้รับความสามารถพิเศษ แต่ไม่น่าเป็นไปได้ที่เขาจะได้งานทำ และผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์จะไปค้าขายในตลาดหรือทำงานเป็นแมลงในสำนักงาน หรือเป็นโปรโมเตอร์ พ่อค้าขายสินค้า และคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้า

และในร้อยละ 90 ของกรณี ครอบครัวเล็กๆ จะหาอพาร์ตเมนต์ได้นั้นไม่ใช่เรื่องจริง พวกเขาจะรอจนกว่า "คุณย่าจะปล่อยพื้นที่ว่าง"

โรงงานในยูเครนถูกปล้น ทำลาย หรือตกไปอยู่ในมือของเอกชน และทำงานให้กับ "ลุง" ไม่ใช่เพื่อเงินของประชาชน ดังนั้น โครงการเพื่อสังคม การสร้างที่อยู่อาศัยและสถานพยาบาลสำหรับคนงานและลูกจ้างจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

สถิติที่เป็นกลางแสดงให้เห็นว่าน้อยกว่าห้าสิบกิโลเมตรถูกสร้างขึ้นในยูเครนใน 20 ปี ทางรถไฟ. ต่อต้านทางรถไฟหลายพันกิโลเมตรในยูเครน SSR ในสมัยสหภาพโซเวียต

ในทางกลับกัน อุดมการณ์ ตอนนี้เรามีสิ่งที่ไม่มีอิสระมากที่สุด และคุณสามารถพูดอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ เพราะทุกคนต่างก็ "ระแวง" ลึก ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูดและวิธีพูด เสรีภาพในการพูดที่ดีที่สุด และตอนนี้เรามีงานปาร์ตี้เช่นสุนัขเจียระไนสำหรับทุกรสนิยม แต่ความสนใจ คนทั่วไปไม่มีใครจะปกป้อง

และเก๋ไก๋ขนาดไหนในร้านของเรา สินค้าจำนวนมาก: เสื้อผ้านำเข้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จากยุโรปและเอเชีย สินค้า GMOs และสารเคมีอื่นๆ จากทั่วทุกมุมโลก!

ข้อสรุป

ดังนั้นปรากฎว่าเราได้มาเนื่องจากความเป็นอิสระ เสรีภาพในการพูดและเสื้อผ้ามากมาย แน่นอนว่าสิ่งแรกคือการได้มาซึ่งคุณค่า ทุกวันนี้เราไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเสรีภาพในการพูด คุณคุ้นเคยกับมันอย่างรวดเร็ว แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะชินกับมัน

ฝ่ายตรงข้ามอาจพูดว่ายูเครนจะยังคงลุกขึ้นจากหัวเข่าพัฒนาเศรษฐกิจและอื่น ๆ สำหรับฉันมันฟังดูเหมือนเทพนิยายเพราะอายุไม่ใช่พวกที่จะเชื่อในเทพนิยายอีกต่อไป

สิ่งสำคัญที่เราสูญเสียไปคือการคุ้มครองทางสังคม การคุ้มครองของรัฐ ความห่วงใยที่รัฐมีต่อประชาชน รูปแบบทางสังคมของรัฐ เมื่อรัฐให้การศึกษาที่เหมาะสมแก่ประชาชน ยารักษาโรค เงินบำนาญ โปรแกรมทางสังคม ถูกแทนที่ด้วยรูปแบบเสรีนิยม Liberal มาจากคำว่า liber ("ฟรี") พลเมืองได้รับอิสรภาพ - ทำทุกอย่างที่คุณต้องการภายใต้กฎหมาย แต่รัฐยังดูแลประชาชนด้วย ปลดปล่อย ใช้ชีวิตตามที่คุณต้องการ เรียนรู้ว่าคุณต้องการอะไร รับการรักษา ใช้ชีวิตในที่ที่คุณต้องการหรือไม่อยู่เลย

ดังนั้นฉันจึงมีชีวิตอยู่ในสมัยของสหภาพโซเวียต ??? ได้โปรดทำให้ฉันมั่นใจอีกครั้ง ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่อย่างยากจน ไม่เป็นโรคซึมเศร้า และไม่บ่นเกี่ยวกับชีวิต แต่ฉันไม่อยากเชื่อคำโกหกนี้ สหภาพโซเวียตไม่สามารถกลับมาได้ แต่จะโทษทำไม? ราวกับว่ามันช่วยให้ใครบางคนง่ายขึ้น

เรายังคงใช้ทุกอย่างที่สร้างขึ้นสร้างและผลิตในสหภาพโซเวียต เราเหมือนเสื้อผ้าเก่า โรงงาน ถนน โรงเรียน และโรงพยาบาล เราร่อยหรอไปโดยไม่ได้อะไรตอบแทน ยังพอมีอีกนานไหม?

5 (100%) 1 โหวต

“เราโชคดีที่วัยเด็กและวัยหนุ่มสาวของเราจบลงก่อนที่รัฐบาลจะซื้อ FREEDOM จากคนหนุ่มสาวเพื่อแลกกับโรลเลอร์สเก็ต โทรศัพท์มือถือ โรงงานสตาร์ และแครกเกอร์สุดเจ๋ง (ยังไงก็ตาม ด้วยเหตุผลบางประการ) ... ด้วยความยินยอมของเธอเอง . ..เพื่อตัวเธอเอง (ที่ดูเหมือนจะ) ดี…” เป็นข้อความส่วนหนึ่งจากข้อความที่เรียกว่า “รุ่น 76-82” ผู้ที่ตอนนี้อยู่ในวัยสามสิบพิมพ์ซ้ำด้วยความยินดีอย่างยิ่งบนหน้าไดอารี่ทางอินเทอร์เน็ตของพวกเขา เขากลายเป็นประกาศของรุ่น

ทัศนคติต่อชีวิตในสหภาพโซเวียตเปลี่ยนจากเชิงลบอย่างรวดเร็วเป็นเชิงบวกอย่างมาก ด้านหลัง ครั้งล่าสุดมีแหล่งข้อมูลมากมายบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับ ชีวิตประจำวันในสหภาพโซเวียต

ไม่น่าเชื่อแต่จริง: ทางเท้ามีทางลาดยางสำหรับรถเข็น แม้ตอนนี้คุณไม่ค่อยเห็นสิ่งนี้ในมอสโกว

ในเวลานั้น (เท่าที่ภาพถ่ายและภาพยนตร์สามารถบอกได้) เด็กผู้หญิงทุกคนสวมกระโปรงยาวถึงเข่า และไม่มีพวกนิสัยเสียเลย สิ่งที่น่าอัศจรรย์

ป้ายรถเมล์ที่ยอดเยี่ยม และรูปสัญลักษณ์ของรถเข็นก็เหมือนกันในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีป้ายรถราง - ตัวอักษร "T" ในวงกลม

ทั่วโลกมีการบริโภคเครื่องดื่มยี่ห้อต่างๆ เพิ่มขึ้น และเรามีทุกอย่างตั้งแต่หม้อต้ม อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ได้เลวร้ายนัก และเป็นไปได้มากว่ามนุษยชาติจะกลับมาอีกครั้ง การเคลื่อนไหวซ้ายพิเศษและสีเขียวจากต่างประเทศทั้งหมดจะยินดีที่ได้รู้ว่าในสหภาพโซเวียตคุณต้องไปหาครีมเปรี้ยวด้วยกระป๋องของคุณเอง สามารถส่งขวดอะไรก็ได้ ไส้กรอกถูกห่อด้วยกระดาษ และพวกเขาไปที่ร้านพร้อมกับถุงเชือก ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก ณ จุดชำระเงินเสนอให้เลือกระหว่างถุงกระดาษหรือถุงพลาสติก มีความรับผิดชอบสูงสุด สิ่งแวดล้อมชั้นเรียนกำลังส่งคืนหม้อโยเกิร์ตไปที่ร้าน

และก่อนหน้านี้ไม่มีนิสัยที่จะขายตู้คอนเทนเนอร์กับผลิตภัณฑ์เลย

คาร์คอฟ 2467 ห้องน้ำชา. เขาดื่มและจากไป ไม่มีลิปตันบรรจุขวด

มอสโก 2502 ครุชชอฟและนิกสัน (จากนั้นเป็นรองประธานาธิบดี) ที่เป๊ปซี่ยืนหยัดต่อสู้กับชาวอเมริกัน นิทรรศการระดับชาติในโซโกลนิกิ ในวันเดียวกันนั้นมีการโต้เถียงกันในครัว ในอเมริกา ข้อพิพาทนี้ได้รับการคุ้มครองอย่างกว้างขวาง แต่เราไม่ได้รับ Nixon พูดถึงความเจ๋งของการมีเครื่องล้างจาน สิ่งของในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีมากแค่ไหน

ทั้งหมดนี้ถ่ายทำด้วยวิดีโอเทปสี (เทคโนโลยีขั้นสูงในขณะนั้น) เป็นที่เชื่อกันว่า Nixon ทำได้ดีมากในการประชุมครั้งนี้ที่ช่วยให้เขากลายเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ปีหน้า(และหลังจากนั้น 10 ปีและประธานาธิบดี)

ในยุค 60 ปืนกลได้รับความนิยมอย่างมาก คนทั้งโลกใฝ่ฝันถึงหุ่นยนต์ เราฝันถึงการซื้อขายอัตโนมัติ ในแง่หนึ่งแนวคิดนี้ล้มเหลวเนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงของสหภาพโซเวียต พูดว่า เมื่อตู้ขายมันฝรั่งเทมันฝรั่งเน่าๆ ให้คุณ ไม่มีใครอยากใช้มันหรอก ถึงกระนั้น เมื่อมีโอกาสที่จะคุ้ยภาชนะดินเพื่อหาผักที่ค่อนข้างแข็งแรง ไม่เพียงแต่มีความหวังสำหรับมื้อกลางวันแสนอร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นการฝึกทักษะการต่อสู้อีกด้วย เครื่องจักรเพียงเครื่องเดียวที่รอดชีวิตมาได้คือเครื่องจักรที่จ่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเท่ากันสำหรับการขายโซดา บางครั้งยังมีตู้จำหน่ายน้ำมันดอกทานตะวัน มีเพียงโซดาเท่านั้นที่รอดชีวิต

พ.ศ. 2504 วีดีเอ็นเอช. ถึงกระนั้นก่อนที่จะเริ่มต่อสู้กับส่วนเกินเราไม่ได้ล้าหลังเลยในด้านกราฟิกและ การพัฒนาความงามจากตะวันตก

ในปี พ.ศ. 2515 บริษัทเป๊ปซี่ตกลงกับรัฐบาลโซเวียตว่าจะบรรจุเป๊ปซี่ "จากสารสกัดเข้มข้นและใช้เทคโนโลยีของเป๊ปซี่โค" และในทางกลับกัน สหภาพโซเวียตจะสามารถส่งออกวอดก้า Stolichnaya ได้

พ.ศ. 2517 หอพักสำหรับชาวต่างชาติ ลายจุด "ลูกโลก" บนขวา ฉันยังมีเหยือกที่ยังไม่เปิด - ฉันคิดอยู่เรื่อย ๆ ว่ามันจะระเบิดหรือไม่? ในกรณีที่ฉันเก็บมันไว้ในถุงห่างจากหนังสือ การเปิดก็น่ากลัวเช่นกัน - ถ้าฉันหายใจไม่ออกล่ะ

จากขอบด้านขวาสุด ข้างตาชั่ง คุณจะเห็นกรวยสำหรับขายน้ำผลไม้ ว่างจริงๆ ในสหภาพโซเวียตไม่มีนิสัยที่จะดื่มน้ำผลไม้จากตู้เย็นไม่มีใครเก๋ไก๋ แม่ค้าเปิด ขวดสามลิตรเทลงในกรวย และจากนั้น - ในแก้ว ตอนเป็นเด็กฉันยังพบกรวยดังกล่าวในร้านขายผักของเราที่ Shokalsky Drive เมื่อฉันดื่มน้ำแอปเปิ้ลแก้วโปรดจากกรวยแบบนี้ โจรบางคนขโมยจักรยาน Kama ของฉันจากห้องแต่งตัวของร้าน ฉันจะไม่มีวันลืมเลย

2525 การเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในตู้เสบียงของรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ด้วยเหตุผลบางประการ ชาวต่างชาติจำนวนมากจึงมีความคิดที่แน่วแน่ที่จะเดินทางไปตามเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย เห็นได้ชัดว่าความคิดที่ว่าคุณไม่สามารถออกจากรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์นั้นดูเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับพวกเขา

โปรดทราบว่าความอุดมสมบูรณ์นั้นชัดเจน ไม่มีไวน์แดงแห้งที่สวยงามซึ่งทุกวันนี้ขายอย่างน้อย 50 ชนิดแม้ในเต็นท์ธรรมดา ไม่มี XO และ VSOP อย่างไรก็ตาม แม้สิบปีหลังจากภาพนี้ถูกถ่าย ผู้เขียนก็พอใจกับพอร์ตไวน์ของอักดัมมากทีเดียว

2526 หนอนแห่งการบริโภคนิยมได้ตั้งรกรากอยู่ในจิตวิญญาณที่ไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ของชาวรัสเซีย จริงอยู่ ชายหนุ่มต้องคืนขวดให้คนที่นางบอก ข้าพเจ้าดื่มกินอุ่นคืนภาชนะ พวกเขาจะพาเธอกลับไปที่โรงงาน

ในร้านค้ามักจะขาย Pinocchio หรือ Bell "ไบคาล" หรือ "Tarhun" ก็ไม่ได้ขายเสมอไป และเมื่อมีการจัดแสดงเป๊ปซี่ในซุปเปอร์มาร์เก็ตบางแห่ง ก็ถูกนำไปเป็นของสำรอง เช่น สำหรับวันเกิด เพื่อนำไปจัดแสดงในภายหลัง

พ.ศ. 2530 ป้าขายผักสดในหน้าต่างร้านขายนม มองเห็นแคชเชียร์หลังกระจก สิ่งที่ต้องเตรียมมาอย่างดี - รู้ราคาทั้งหมด ปริมาณสินค้า และหมายเลขแผนก

พ.ศ. 2530 โวลโกกราด ในเอกสารสำคัญของอเมริกา ภาพนี้มาพร้อมกับความคิดเห็นแห่งศตวรรษ: "ผู้หญิงคนหนึ่งบนถนนในโวลโกกราดขายของเหลวบางอย่างให้กับผู้ที่ไม่ถูกต้องในมหาสงครามแห่งความรักชาติ (ชื่อโซเวียตสำหรับสงครามโลกครั้งที่สอง)" เห็นได้ชัดว่าในเวลาเดียวกันในปี 87 พวกเขาแปลคำจารึกจากถังเมื่อไม่มีใครถามว่า WWII ที่ไม่ถูกต้องถูกเสิร์ฟโดยไม่หันกลับมา โดยวิธีการที่จารึกเหล่านี้เป็นเพียงการรับรู้สารคดีที่มีคิวในสหภาพโซเวียต

อย่างไรก็ตาม ในสมัยนั้นไม่มีการต่อสู้ระหว่างผู้ค้า ไม่มีวัสดุ POS ไม่มีใครแขวนตัวโยกเยกบนชั้นวาง คงไม่มีใครคิดจะแจกตัวอย่างฟรี หากร้านค้าได้รับลูกบอลชายหาดที่มีโลโก้เป๊ปซี่ เขาถือว่าเป็นเกียรติ และแสดงในหน้าต่างด้วยความจริงใจและเพื่ออะไร

พ.ศ. 2533 ตู้ขายเป๊ปซี่ในรถไฟใต้ดิน สำเนาหายาก นี่คือเครื่องจักรที่อยู่ทางขวาซึ่งพบได้ทุกที่ในศูนย์ - พวกเขาขายหนังสือพิมพ์ Pravda, Izvestia, Moskovskiye Novosti อย่างไรก็ตาม เครื่องโซดาทุกเครื่อง (และเครื่องสล็อตด้วย) จะมีข้อความว่า “ได้โปรด! อย่าละเว้นเหรียญที่ระลึกและเหรียญงอ เป็นที่เข้าใจได้ด้วยเหรียญที่โค้งงอ แต่ไม่สามารถละเว้นเหรียญที่ระลึกได้เนื่องจากแตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ ที่มีน้ำหนักและขนาดในบางครั้ง

พ.ศ. 2534 ทหารผ่านศึกดื่มโซดากับน้ำเชื่อม มีคนเคยขูดโลโก้ Depeche Moda ที่เครื่องตรงกลางมาแล้ว มีการแบ่งปันแว่นตาเสมอ คุณขึ้นมาล้างในเครื่องแล้ววางไว้ใต้หัวฉีด สุนทรียศาสตร์ที่พิถีพิถันถือแว่นตาแบบพับได้ซึ่งมีลักษณะเฉพาะของการพับในกระบวนการ ภาพถ่ายนั้นดีเพราะรายละเอียดทั้งหมดมีลักษณะเฉพาะและเป็นที่จดจำได้ และกล่องครึ่งตู้โทรศัพท์สาธารณะและไฟหน้า Zaporozhets

จนถึงปี 1991 ช่างภาพชาวอเมริกันก็เดินตามเส้นทางเดียวกัน สามารถระบุภาพถ่ายได้เกือบทุกรูป - นี่คือใน Tverskaya นี่คือใน Herzen นี่คือเรื่องเกี่ยวกับ โรงละครบอลชอยนี่คือจากโรงแรมมอสโก แล้วทุกอย่างก็เป็นไปได้

ประวัติล่าสุด

2535 ใกล้เมืองเคียฟ นี่ไม่ใช่สหภาพโซเวียตอีกต่อไป เหมือนกับที่ฉันต้องทำ เพื่อนคนหนึ่งโพสท่าให้ช่างภาพชาวอเมริกัน โหวตด้วยขวดวอดก้าเพื่อแลกกับน้ำมัน สำหรับฉันแล้วดูเหมือนว่าช่างภาพเป็นคนออกขวดเอง อย่างไรก็ตามวอดก้าหนึ่งขวด เป็นเวลานานเป็นสกุลเงินชนิดหนึ่ง แต่ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 ช่างประปาทุกคนหยุดจ่ายขวดทันทีเพราะไม่มีคนโง่เหลืออยู่ - วอดก้ามีขายทุกที่และคุณรู้ว่าราคาเท่าไหร่ ดังนั้นทุกอย่างจึงกลายเป็นเงิน วันนี้ขวดมอบให้กับแพทย์และครูเท่านั้นและแม้กระทั่งกับคอนญัก

ด้วยอาหารในช่วงปลายสหภาพโซเวียตทุกอย่างแย่มาก โอกาสที่จะซื้อของอร่อยๆ ในร้านค้าทั่วไปนั้นแทบจะเป็นศูนย์ ต่อคิวรอของอร่อย สามารถให้อาหารอร่อย "ตามลำดับ" - มีทั้งระบบ "โต๊ะสั่งซื้อ" ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับพวกเขาเอง ในตารางการสั่งซื้อเขาสามารถไว้วางใจของอร่อย: ทหารผ่านศึก (ปานกลาง), นักเขียน (ไม่เลว), พนักงานปาร์ตี้ (ไม่เลวเช่นกัน)

ผู้อยู่อาศัยในเมืองปิดโดยทั่วไปตามมาตรฐานของสหภาพโซเวียตกลิ้งไปรอบ ๆ เหมือนเนยแข็งในเนยในอกของพระคริสต์ แต่พวกเขาเบื่อมากในเมืองและพวกเขาถูกจำกัดให้เดินทางไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตามเกือบทั้งหมดถูกจำกัดให้เดินทางไปต่างประเทศ

ชีวิตดีสำหรับผู้ที่สามารถช่วยได้บ้าง สมมติว่าผู้อำนวยการร้าน Wanda เป็นคนที่เคารพนับถือมาก Super VIP ตามมาตรฐานล่าสุด และคนขายเนื้อได้รับความเคารพ และหัวหน้าหน่วยงานใน โลกของเด็ก» เคารพ และแม้แต่แคชเชียร์ที่สถานีรถไฟ Leningradsky พวกเขาทั้งหมดสามารถ "ได้รับ" บางสิ่งบางอย่าง ความคุ้นเคยกับพวกเขาเรียกว่า "สายสัมพันธ์" และ "ความสัมพันธ์" ผู้อำนวยการร้านขายของชำมีความมั่นใจพอสมควรว่าลูก ๆ ของเขาจะได้เข้ามหาวิทยาลัยที่ดี

พ.ศ. 2518 เบเกอรี่. ฉันรู้สึกว่าการตัดขนมปังทำด้วยมือ (ตอนนี้หุ่นยนต์กำลังเลื่อยแล้ว)

พ.ศ. 2518 เชเรเมเตียโว-1. อย่างไรก็ตามที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ในร้านกาแฟคุณสามารถหาช็อคโกแลต เบียร์ ไส้กรอกกับถั่ว ไม่มีแซนวิช อาจมีแซนวิชซึ่งเป็นชิ้นส่วน ขนมปังขาวที่ปลายด้านหนึ่งมีคาเวียร์สีแดงหนึ่งช้อนและอีกม้วนหนึ่ง เนยซึ่งทุกคนผลักและเหยียบย่ำด้วยส้อมใต้น่องอย่างสุดความสามารถ

ร้านขนมปังมีสองประเภท อันแรกมีเคาน์เตอร์ ด้านหลังหญิงขายบริการมีขนมปังและขนมปังอยู่ในภาชนะ ความสดของขนมปังถูกกำหนดโดยกระบวนการสอบถามผู้ที่ซื้อขนมปังไปแล้วหรือในการสนทนากับพนักงานขาย:

- สำหรับก้อนสด 25 ก้อน?

- ปกติ.

หรือถ้าผู้ซื้อไม่ได้ทำให้เกิดการปฏิเสธ:

- ส่งตอนกลางคืน.

เบเกอรี่ประเภทที่สองเป็นแบบบริการตนเอง ที่นี่รถตักรีดตู้คอนเทนเนอร์ไปยังช่องเปิดพิเศษซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ห้องช้อปปิ้ง. ไม่มีพนักงานขาย มีแต่แคชเชียร์ มันเจ๋งเพราะคุณสามารถจิ้มขนมปังด้วยนิ้วของคุณ แน่นอนว่าไม่อนุญาตให้สัมผัสขนมปังด้วยเหตุนี้จึงแขวนส้อมหรือช้อนพิเศษไว้บนเชือกที่ไม่สม่ำเสมอ ช้อนยังคงกลับไปกลับมา และการใช้ส้อมตัดสินความสดนั้นไม่สมจริง ดังนั้นแต่ละคนจึงถืออุปกรณ์หน้าซื่อใจคดในมือแล้วหมุนนิ้วเบา ๆ เพื่อตรวจดูตามปกติว่ากดได้ดีเพียงใด ผ่านช้อนไม่ใส

โชคดีที่ไม่มีบรรจุภัณฑ์ของขนมปังแต่ละชิ้น

ขนมปังที่คนใช้นิ้วแตะเบาๆ ดีกว่า gutta-percha รสจืด ใช่ และหลังจากตรวจสอบความนุ่มด้วยมือแล้ว ก็เป็นไปได้เสมอที่จะหยิบขนมปังจากแถวหลังที่ยังไม่มีใครเอื้อมถึง

พ.ศ. 2534 ในไม่ช้าจะมีการคุ้มครองผู้บริโภคซึ่งจะฆ่ารสชาติ เตรียมครึ่งและไตรมาสด้วย ด้านเทคนิค. บางครั้งก็เป็นไปได้ที่จะเกลี้ยกล่อมให้ตัดสีขาวออกครึ่งหนึ่ง:

ใครจะซื้ออันที่สอง? - ถามผู้ซื้อจากห้องด้านหลัง

ไม่มีใครให้แพ็คเกจที่จุดชำระเงิน - ทุกคนมาด้วยตัวเอง หรือกับกระเป๋าร้อยเชือก. หรือมากกว่านั้นถืออยู่ในมือ

คุณยายกำลังถือถุง kefir และนม (1990) จากนั้นยังไม่มี Tetrapac มี Elopak บางชนิด บนบรรจุภัณฑ์เขียนว่า "Elopak. จดสิทธิบัตรแล้ว” สามเหลี่ยมสีน้ำเงินหมายถึงด้านที่ต้องเปิดกระเป๋า เมื่อเราซื้อสายบรรจุภัณฑ์ครั้งแรก มันมาพร้อมกับถังกาวที่เหมาะสม ฉันพบว่าเวลานั้นเมื่อแพ็คเกจเปิดในตำแหน่งที่ถูกต้องโดยไม่ทรมาน จากนั้นกาวหมดจำเป็นต้องเปิดจากทั้งสองด้านแล้วพับกลับด้านหนึ่ง สามเหลี่ยมสีน้ำเงินยังคงอยู่ แต่ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครซื้อกาว มีคนงี่เง่าไม่กี่คน

อย่างไรก็ตามในเวลานั้นไม่มีบรรจุภัณฑ์อาหาร ข้อมูลเพิ่มเติม- ไม่มีที่อยู่ ไม่มีหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ผลิต GOST เท่านั้น และไม่มีแบรนด์ นมเรียกว่านม แต่มีปริมาณไขมันต่างกัน สิ่งที่ฉันชอบอยู่ในถุงสีแดง 5 เปอร์เซ็นต์

ผลิตภัณฑ์นมขายในขวดด้วย เนื้อหาแตกต่างกันในสีของฟอยล์: นม - เงิน, แอซิโดฟิลัส - น้ำเงิน, คีเฟอร์ - เขียว, นมอบหมัก - ราสเบอร์รี่ ฯลฯ

ต่อคิวรอไข่อย่างสนุกสนาน อาจยังมีน้ำมัน Krestyanskoye บนตู้โชว์ตู้เย็น - ถูกตัดด้วยลวดแล้วใช้มีดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ห่อทันที กระดาษน้ำมัน. ในคิวทุกคนยืนพร้อมเช็ค - ก่อนหน้านั้นพวกเขายืนอยู่ในแถวที่แคชเชียร์ ต้องบอกพนักงานขายว่าจะให้อะไร เธอดูที่ตัวเลข นับทุกอย่างในหัวหรือในบัญชี และหากมันมาบรรจบกัน เธอก็ให้การซื้อ ("ปล่อย") เช็คถูกร้อยด้วยเข็ม (ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของเคาน์เตอร์)

ตามทฤษฎีแล้วพวกเขาจำเป็นต้องขายไข่แม้แต่ฟองเดียว แต่การซื้อไข่หนึ่งฟองถือเป็นการดูถูกพนักงานขายอย่างมาก - เธอสามารถตอบโต้ผู้ซื้อได้

ผู้ที่รับสามโหลได้รับพาเลทกระดาษแข็งโดยไม่มีคำถาม ใครก็ตามที่เป็นโหลไม่ควรมีพาเลทเขาใส่ทุกอย่างลงในกระเป๋า (มีกรงลวดพิเศษสำหรับสุนทรียภาพด้วย)

นี่คือภาพถ่ายเย็น (1991) ที่นี่ พื้นหลังคุณสามารถดูวิดีโอเทป

เนื้อดีสามารถหาได้จากคนรู้จักหรือซื้อในตลาด แต่ทุกอย่างในตลาดมีราคาแพงกว่าในร้านค้าถึงสองเท่า ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนที่ไปที่นั่น "เนื้อตลาด" หรือ "มันฝรั่งตลาด" เป็นคำชมสูงสุดสำหรับผลิตภัณฑ์

ไก่โซเวียตถือว่ามีคุณภาพต่ำ นี่คือไก่ฮังการี - มันเจ๋ง แต่ขาดตลาดมาโดยตลอด คำว่า "เย็น" ยังไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย (นั่นคือมันเป็น แต่เกี่ยวข้องกับหิน)

จนถึงปี 1990 เป็นไปไม่ได้เลยที่จะจินตนาการว่าช่างภาพข่าวต่างประเทศจะได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพในร้านค้าของโซเวียต (โดยเฉพาะอีกด้านของเคาน์เตอร์) ทุกอย่างเป็นไปได้ในปี 1990

ในขณะเดียวกันกลางแจ้ง สีของเนื้อสัตว์ก็เป็นธรรมชาติมากขึ้น

มีไก่สองตัวอยู่บนเคาน์เตอร์ - นำเข้าและโซเวียต นำเข้า พูดว่า:

- ดูคุณสิ ฟ้าใส ไม่ดึง ผอม!

“แต่ข้าพเจ้าตายโดยธรรมชาติ

สหภาพโซเวียตเป็นประเทศข้ามชาติที่มีหลักการแห่งมิตรภาพที่ประกาศไว้ในหมู่ประชาชน และมิตรภาพนี้ไม่ใช่แค่การประกาศเสมอไป มิฉะนั้น ในประเทศที่มีประชากรมากกว่า 100 ประเทศอาศัยอยู่ มันเป็นไปไม่ได้ ความเท่าเทียมกันของทุกชนชาติในกรณีที่ไม่มีประเทศที่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ - นี่คือพื้นฐานสำหรับตำนานการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับ "ชุมชนประวัติศาสตร์เดียว - คนโซเวียต"
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนทั้งหมดของชุมชนประวัติศาสตร์แห่งเดียวจำเป็นต้องมีหนังสือเดินทาง ซึ่งมี "คอลัมน์ที่ห้า" ฉาวโฉ่เพื่อระบุสัญชาติของพลเมืองในเอกสาร สัญชาติถูกกำหนดอย่างไรในสหภาพโซเวียต?

ตามหนังสือเดินทาง

การทำหนังสือเดินทางของประชากรในประเทศเริ่มขึ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1930 และสิ้นสุดก่อนสงครามไม่นาน หนังสือเดินทางแต่ละเล่มจำเป็นต้องระบุสถานะทางสังคม สถานที่พำนัก (การลงทะเบียน) และสัญชาติ ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนสงคราม ตามคำสั่งลับของ NKVD สัญชาติไม่ได้ถูกกำหนดโดยการตัดสินใจด้วยตนเองของพลเมือง แต่ขึ้นอยู่กับที่มาของผู้ปกครอง ตำรวจมีคำสั่งให้ตรวจสอบทุกกรณีของความแตกต่างระหว่างนามสกุลและสัญชาติที่พลเมืองแจ้ง นักสถิติและนักชาติพันธุ์วิทยารวบรวมรายชื่อ 200 สัญชาติ และเมื่อได้รับหนังสือเดินทาง บุคคลหนึ่งจะได้รับหนึ่งในสัญชาติจากรายการนี้ บนพื้นฐานของข้อมูลหนังสือเดินทางเหล่านี้เองที่ดำเนินการเนรเทศผู้คนจำนวนมากในช่วงทศวรรษที่ 1930 และหลังจากนั้น ตามการประมาณการของนักประวัติศาสตร์ ตัวแทนของ 10 สัญชาติถูกเนรเทศทั้งหมดในสหภาพโซเวียต: เกาหลี, เยอรมัน, Ingrian Finns, Karachays, Kalmyks, Chechens, Ingush, Balkars, พวกตาตาร์ไครเมียและเมสเคเทียนเติร์ก นอกจากนี้ยังมีการต่อต้านชาวยิวโดยปริยาย แต่ค่อนข้างชัดเจน และการปราบปรามตัวแทนของชนชาติอื่น ๆ เช่น ชาวโปแลนด์ ชาวเคิร์ด ชาวเติร์ก เป็นต้น ตั้งแต่ปีพ. ศ. 2517 สัญชาติในหนังสือเดินทางได้รับการระบุตามใบสมัครของบุคคลนั้น มีเรื่องตลกดังนี้: "พ่อเป็นอาร์เมเนีย แม่เป็นยิว ใครจะเป็นลูกชายของพวกเขา? แน่นอน รัสเซีย! อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ ผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งยังคงระบุสัญชาติ

โดยพ่อกับแม่

ในกรณีส่วนใหญ่ พลเมืองกำหนดสัญชาติของตนตามสัญชาติของบิดา ในสหภาพโซเวียตประเพณีของปรมาจารย์ค่อนข้างแข็งแกร่งตามที่พ่อกำหนดทั้งนามสกุลและสัญชาติของเด็ก อย่างไรก็ตาม มีตัวเลือกอื่นเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องเลือกระหว่าง "ยิว" กับ "รัสเซีย" หลายคนเลือก "รัสเซีย" แม้ว่าแม่ของพวกเขาจะเป็นคนรัสเซียก็ตาม สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก "คอลัมน์ที่ห้า" ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเลือกปฏิบัติต่อตัวแทนของชนกลุ่มน้อยบางชาติรวมถึงชาวยิว อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวยิวได้รับอนุญาตให้เดินทางไปอิสราเอลในปี 2511 บางครั้งก็สังเกตเห็นสถานการณ์ตรงกันข้าม ชาวรัสเซียบางคนมองหาชาวยิวในหมู่ญาติของพวกเขาและใช้ความพยายามอย่างไม่น่าเชื่อเพื่อเปลี่ยนคำจารึกใน "คอลัมน์ที่ห้า" สัญชาติและในช่วงเวลาของการระบุตัวตนของชาติฟรีนี้ถูกกำหนดตามรายชื่อของคนที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการซึ่งอาศัยอยู่ในสหภาพโซเวียต ในปี 1959 มี 126 ชื่อในรายการในปี 1979 - 123 และในปี 1989 - 128 ในเวลาเดียวกันบางคนเช่นชาวอัสซีเรียไม่ได้อยู่ในรายชื่อเหล่านี้ในขณะที่สหภาพโซเวียตมีคนที่ กำหนดสัญชาติด้วยวิธีนี้

โดยใบหน้า

มีเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าเศร้าเกี่ยวกับการสังหารหมู่ชาวยิว พวกเขาทุบตีชาวยิวคนหนึ่งและเพื่อนบ้านบอกเขาว่า: "เป็นอย่างไรบ้างคุณซื้อหนังสือเดินทางให้ตัวเองพร้อมกับ "คอลัมน์ที่ห้า" ที่เขียนเป็นภาษารัสเซีย!" ซึ่งเขาตอบกลับอย่างเศร้าใจว่า “ใช่ แต่พวกเขาไม่ได้ทุบตีฉันด้วยหนังสือเดินทางแต่ตบหน้าฉัน!” อันที่จริง เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยนี้แสดงให้เห็นได้อย่างแม่นยำถึงสถานการณ์ในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่พวกเขาสอนให้ระบุสัญชาติด้วยวิธีนี้: ไม่ใช่โดย หนังสือเดินทาง แต่โดยใบหน้า . และถ้าโดยทั่วไปแล้ว การแยกแยะยิปซีกับยาคุตเป็นเรื่องง่าย การเข้าใจว่ายาคุตอยู่ที่ไหนและบูรียาตอยู่ที่ไหนก็จะค่อนข้างยากขึ้น แต่จะเข้าใจได้อย่างไรว่ารัสเซียอยู่ที่ไหนและลัตเวียหรือเบลารุสอยู่ที่ไหน มีตารางทั้งหมดที่มีใบหน้าประเภทชาติพันธุ์ที่ช่วยให้ตำรวจ เจ้าหน้าที่ KGB และหน่วยงานอื่นๆ สามารถแยกแยะผู้คนได้อย่างถูกต้อง "ไม่ใช่ตามหนังสือเดินทาง" แน่นอนว่าสิ่งนี้ต้องใช้ความจำที่ดีเกี่ยวกับใบหน้าและการสังเกต แต่ใครบอกว่าการเข้าใจสัญชาติของผู้คนในประเทศที่มีประชากรมากกว่า 100 คนจะเป็นเรื่องง่าย

ตามคำสั่งของหัวใจ

เสาที่ห้าถูกยกเลิกในปี 1991 ตอนนี้ในหนังสือเดินทางและเอกสารอื่น ๆ ไม่ได้ระบุหรือระบุสัญชาติในใบแทรกพิเศษ และตอนนี้ไม่มีรายชื่อสัญชาติที่พลเมืองต้องเลือกเช่นกัน การยกเลิกข้อ จำกัด ในการระบุตัวตนของชาตินำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าสนใจ ในระหว่างการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2553 พลเมืองบางคนระบุว่าพวกเขาเป็นชนชาติเช่น "คอซแซค", "โปมอร์", "ไซเธียน" และแม้แต่ "เอลฟ์"