ความคิดสร้างสรรค์ในห้องร้องของ Rachmaninov: ลักษณะทั่วไป International Student Scientific Bulletin เกี่ยวกับงานของ Rachmaninoff

1 เมษายน (20 มีนาคม) พ.ศ. 2416 ที่ดิน Oneg ซึ่งปัจจุบันคือภูมิภาค Novgorod - 28 มีนาคม 2486 เบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ถูกฝังไว้ที่ Volhall ใกล้ New York
นักแต่งเพลง นักเปียโน วาทยกรชาวรัสเซีย

ในปี พ.ศ. 2447-2449 เขาเป็นผู้ควบคุมวงของโรงละครบอลชอย ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2460 เขาอาศัยอยู่ต่างประเทศ (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2461 ในสหรัฐอเมริกา) ธีมของมาตุภูมินั้นรวมอยู่ในงานของ Rachmaninov ด้วยพลังพิเศษ สิ่งที่น่าสมเพชแบบโรแมนติกรวมอยู่ในดนตรีของเขาด้วยอารมณ์ครุ่นคิดโคลงสั้น ๆ ความไพเราะที่ไม่สิ้นสุดความกว้างและอิสระในการหายใจ - ด้วยพลังที่เป็นจังหวะ คอนแชร์โต 4 เพลง "Rhapsody on a Theme of Paganini" (1934) สำหรับเปียโนและวงออเคสตรา โหมโรง etudes - รูปภาพสำหรับเปียโน 3 ซิมโฟนี (1895-1936) แฟนตาซี "Cliff" (1893) บทกวี "Isle of the Dead" (1909), Symphonic Dances (1940) สำหรับวงออเคสตรา, Cantata Spring (1902), บทกวี Bells (1913) สำหรับคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตรา, โอเปร่า Aleko (1892), The Miserly Knight, Francesca da Rimini (ทั้งปี 1904), เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ

ปีของการศึกษา
Rachmaninoff เกิดในตระกูลขุนนางที่มีประเพณีทางดนตรีอันยาวนาน (ปู่ของเขา Arkady Alexandrovich Rachmaninov, 1808-1881 เป็นที่รู้จักในฐานะผู้แต่งเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ในร้านเสริมสวย) เขาเริ่มเรียนดนตรีอย่างเป็นระบบตั้งแต่อายุห้าขวบ ในปี พ.ศ. 2425 เขาเข้าไปในเรือนกระจกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี 1885 เขาย้ายไปมอสโคว์และกลายเป็นนักเรียนที่ Moscow Conservatory ซึ่งเขาเรียนครั้งแรกกับนักเปียโนชื่อดัง N. S. Zverev (ซึ่งเป็นนักเรียนของ Scriabin ด้วย) และตั้งแต่ปี 1888 กับ A. I. Siloti (เปียโน), A. S. Arensky (องค์ประกอบ เครื่องมือวัด, ความกลมกลืน), S. I. Taneyev (ความแตกต่างของการเขียนที่เข้มงวด) ในบรรดาผลงานที่เขียนขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้แก่ Piano Concerto No. 1 (1891, 2nd Edition, 1917), Youth Symphony (1891), บทกวีไพเราะ "Prince Rostislav" (หลังจาก A. K. Tolstoy, 1991) ในปี พ.ศ. 2434 รัคมานินอฟจบการศึกษาจากเรือนกระจกด้วยเหรียญทองขนาดใหญ่ในฐานะนักเปียโน และในปี พ.ศ. 2435 ในฐานะนักแต่งเพลง งานรับปริญญาของรัคมานินอฟคือโอเปร่าเรื่องเดียวเรื่อง Aleko จากบทกวีของพุชกินเรื่อง The Gypsies (พ.ศ. 2435 จัดแสดงใน โรงละครบอลชอยในปี พ.ศ. 2436)

ไชคอฟสกีมีความเห็นสูงเกี่ยวกับพรสวรรค์ของรัคมานินอฟ ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลที่แข็งแกร่งที่สุดในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นักแต่งเพลงหนุ่ม. รัคมานินอฟตอบสนองต่อการเสียชีวิตของไชคอฟสกีด้วย Elegiac Trio "In Memory of a Great Artist" สำหรับเปียโน ไวโอลิน และเชลโล (1893) ท่ามกลางผลงานอื่นๆ ในยุค 1890 ซิมโฟนิกแฟนตาซี "Cliff" (พ.ศ. 2436), ช่วงเวลาดนตรีสำหรับเปียโน (6 ชิ้น, พ.ศ. 2439) และเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ รวมถึงมุกของเนื้อเพลงรัสเซียเช่น "In the Silence of the Secret Night" กับคำพูดของ Fet " อย่าร้องเพลง, สวยงาม, กับฉัน” กับคำพูดของ Pushkin, “Spring Waters” กับคำพูดของ Tyutchev ตั้งแต่วันแรกของการแสดงจนถึงเวลาของเรา Prelude ใน C-sharp minor สำหรับเปียโน (พ.ศ. 2436) ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยเรียงตามลำดับเวลาเป็นเพลงแรกสุดจาก 24 ชิ้นของ Rachmaninov ในประเภทนี้

ในปี 1895 Rachmaninov ได้แต่ง First Symphony ซึ่งเป็นรอบปฐมทัศน์ซึ่งจัดขึ้นในอีกสองปีต่อมาภายใต้การดูแลของ A. K. Glazunov กลายเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ ตามที่คนรุ่นเดียวกันกล่าว เนื่องจากการแสดงที่ประมาทมาก ซิมโฟนีจึงไม่ได้รับการชื่นชมอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม Rachmaninov ถือเอาเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นข้อพิสูจน์ถึงความล้มเหลวในการสร้างสรรค์ของเขาเอง และเป็นเวลาหลายปีที่เลิกจากการแต่งเพลงและมุ่งความสนใจไปที่กิจกรรมการแสดง ในฤดูกาล 1897/98 Rachmaninov ได้ทำการแสดงของ Moscow Private Russian Opera S. I. มามอนโตวา; ในเวลาเดียวกัน อาชีพการแสดงระดับนานาชาติของเขาก็เริ่มขึ้น (การแสดงในต่างประเทศครั้งแรกของ Rakhmaninov จัดขึ้นที่ลอนดอนในปี พ.ศ. 2442) ในปี พ.ศ. 2441-2443 Rachmaninov แสดงร่วมกับ F.I. Chaliapin ซ้ำแล้วซ้ำอีก

1900
ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 Rachmaninov สามารถเอาชนะวิกฤตความคิดสร้างสรรค์ได้ ทศวรรษครึ่งหลังจากนั้นเป็นผลสำเร็จมากที่สุดในชีวประวัติของเขา สไตล์ของ Rachmaninov ฝังรากลึกอยู่ในประเพณีดนตรีรัสเซียในศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวมอสโก ซึ่ง Tchaikovsky เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับ นักแต่งเพลงสไตล์นี้พบการแสดงออกที่สดใสในผลงานหลักชิ้นแรกในยุคนี้ - Second Piano Concerto และ the Sonata for Cello and Piano ที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ทั้งคู่ - 1901)

Cantata "Spring" ในโองการของ Nekrasov (1902) เต็มไปด้วยทัศนคติที่สนุกสนานและเป็นฤดูใบไม้ผลิอย่างแท้จริง บทประพันธ์สำคัญอื่นๆ ของทศวรรษ 1900 - ซิมโฟนีหมายเลข 2 (พ.ศ. 2450) และเปียโนคอนแชร์โตหมายเลข 3 (พ.ศ. 2452) - จบลงด้วยผลลัพธ์ทางอารมณ์ "เชิงบวก" อย่างไม่มีเงื่อนไข เมื่อเทียบกับพื้นหลังนี้บทกวีไพเราะ "Isle of the Dead" (1909) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพวาดชื่อเดียวกันโดยจิตรกรชาวสวิส A. Böcklin ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงเปลี่ยนศตวรรษโดดเด่นด้วยสีที่มืดมน

ในปี 1904-06 Rachmaninoff ทำงานเป็นวาทยกรที่ Bolshoi Theatre ซึ่ง "ความสามารถพิเศษ" ของเขาคือการแสดงโอเปร่าโดยนักแต่งเพลงชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 19 ในเวลาเดียวกันเขาเขียนโอเปร่าสององก์ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางซึ่งแตกต่างจาก Aleko: Francesca da Rimini ถึงบทประพันธ์ของ M. I. Tchaikovsky หลังจาก Dante และ The Miserly Knight หลังจาก Pushkin โอเปร่าทั้งสองจัดแสดงในปี 2449 ที่โรงละครบอลชอยภายใต้การดูแลของผู้แต่ง โอเปร่าที่สามของช่วงเวลานี้ "Monna Vanna" (จากบทละครชื่อเดียวกันโดย M. Maeterlinck) ยังไม่เสร็จ

ในปี 1910 รัคมานินอฟให้ความสนใจอย่างมากกับรูปแบบการร้องเพลงประสานเสียงขนาดใหญ่ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับดนตรีรัสเซียทางจิตวิญญาณคือการแต่งเพลงประกอบพิธีกรรมอันงดงามของเขา - พิธีสวดของนักบุญ John Chrysostom (1910) และ All-Night Vigil (1915) ในปีพ. ศ. 2456 บทกวีที่ยิ่งใหญ่ The Bells ได้เขียนบทกวีโดย E. Poe สำหรับศิลปินเดี่ยว คณะนักร้องประสานเสียง และวงออร์เคสตรา ในสไตล์ของมัน งานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวอย่างของประเภท Cantata-oratorio ของรัสเซียมากนัก

นำเสนออย่างมากมายและหลากหลายในผลงานของช่วงปี 1900-10 และรูปแบบขนาดเล็ก: ความรัก (รวมถึง "ไลแลค" ที่มีชื่อเสียงกับคำพูดของ E. A. Beketova และ "ที่นี่ดี" สำหรับคำพูดของ G. Galina, 1902, "Daisies" สำหรับคำพูดของ I. Severyanin, 1916 และอื่น ๆ อีกมากมาย ) เล่นเปียโน (รวมสมุดบันทึก 2 เล่มของโหมโรง 1903, 1910 และ 2 สมุดบันทึก Etudes-Paintings, 1911, 1916-17) Rachmaninoff ไม่เหมือนกับนักแต่งเพลงนักเปียโนคนอื่นๆ เปียโนโซนาต้า: ไม่มีผลงานสองชิ้นของเขาในประเภทนี้ (พ.ศ. 2450, พ.ศ. 2456) ที่ประสบความสำเร็จทางศิลปะจำนวนมาก

การย้ายถิ่นฐาน

ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2460 Rachmaninov ออกทัวร์สแกนดิเนเวียซึ่งเขาไม่เคยกลับไปรัสเซียเลย ในปี 1918 เขาและครอบครัวตั้งรกรากอยู่ในสหรัฐอเมริกา ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา รัคมานินอฟเป็นผู้นำชีวิตของนักเปียโนฝีมือเยี่ยม ความรุ่งเรืองของรัคมานินอฟในฐานะนักเปียโนซึ่งค่อนข้างจะยิ่งใหญ่ก่อนปี 1917 ในไม่ช้าก็กลายเป็นตำนานอย่างแท้จริง ความสำเร็จพิเศษใช้การตีความดนตรีของเขาเองและผลงานของนักแต่งเพลงโรแมนติก - Chopin, Schumann, Liszt การบันทึกแผ่นเสียงของการเล่นของ Rachmaninov ให้แนวคิดเกี่ยวกับเทคนิคที่น่าอัศจรรย์ ความรู้สึกต่อรูปแบบ และทัศนคติที่มีความรับผิดชอบต่อรายละเอียดเป็นพิเศษ นักเปียโนของ Rachmaninov มีอิทธิพลต่อการแสดงเปียโนระดับปรมาจารย์ที่โดดเด่นเช่น V. V. Sofronitsky, V. S. Horowitz, S. T. Richter, E. G. Gilels

การแสดงคอนเสิร์ตหลายครั้งไม่ได้ทำให้รัคมานินอฟมีกำลังและเวลาในการแต่งเพลง การพลัดพรากจากบ้านเกิดหลายปีของนักแต่งเพลงก็มีบทบาทในการลดลงของกิจกรรมสร้างสรรค์ ในช่วงเก้าปีแรกของการย้ายถิ่นฐาน รัคมานินอฟไม่ได้เขียนงานใหม่แม้แต่ชิ้นเดียว จากนั้นเปียโนคอนแชร์โตหมายเลข 4 ก็มาถึง (เริ่มในรัสเซียในช่วงกลางทศวรรษ 1910 เสร็จสิ้นในปี 2469), เพลงรัสเซียสามเพลงสำหรับคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตรา (2469), การเปลี่ยนแปลงในธีมของ Corelli สำหรับเปียโน (2474) , แรปโซดีบน ธีมของ Paganini สำหรับเปียโนและวงออเคสตรา (พ.ศ. 2477), ซิมโฟนีหมายเลข 3 (พ.ศ. 2478-36) และ "ซิมโฟนิกแดนซ์" สำหรับวงออเคสตรา (พ.ศ. 2483) ในผลงานสองชิ้นล่าสุด ธีมของความปรารถนาที่จะสูญเสียรัสเซียฟังดูมีพลังเป็นพิเศษ

และฉันมีแผ่นดินเกิด
เขาวิเศษมาก!
A. Pleshcheev (จาก G. Heine)

Rachmaninov ถูกสร้างขึ้นจากเหล็กกล้าและทองคำ
เหล็กอยู่ในมือ ทองอยู่ในใจ
I. ฮอฟแมน

"ฉันเป็นนักแต่งเพลงชาวรัสเซีย และบ้านเกิดของฉันได้ทิ้งร่องรอยไว้บนตัวฉันและมุมมองของฉัน" คำเหล่านี้เป็นของ S. Rachmaninov นักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ นักเปียโนที่ยอดเยี่ยมและตัวนำ ทั้งหมด เหตุการณ์สำคัญสาธารณะรัสเซียและ ชีวิตทางศิลปะสะท้อนอยู่ในตัวเขา โชคชะตาที่สร้างสรรค์ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออก การก่อตัวและความเฟื่องฟูของงานของ Rachmaninov เกิดขึ้นในช่วงปี 1890-1900 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กระบวนการที่ซับซ้อนที่สุดในวัฒนธรรมรัสเซีย ชีพจรทางจิตวิญญาณเต้นแรงอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจ ความรู้สึกโคลงสั้น ๆ อย่างรุนแรงของยุคที่มีอยู่ใน Rachmaninov นั้นเชื่อมโยงกับภาพลักษณ์ของมาตุภูมิอันเป็นที่รักของเขาเสมอ ด้วยขอบเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล พลังและความรุนแรงของพลังธาตุ ความเปราะบางอ่อนโยนของธรรมชาติในฤดูใบไม้ผลิที่ผลิบาน

พรสวรรค์ของ Rachmaninov แสดงออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ และสดใส แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงความกระตือรือร้นในการเรียนดนตรีอย่างเป็นระบบจนกระทั่งอายุสิบสองปี เขาเริ่มเรียนรู้การเล่นเปียโนตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ในปี พ.ศ. 2425 เขาเข้าเรียนที่ St. Petersburg Conservatory ซึ่งปล่อยให้อยู่กับอุปกรณ์ของตัวเอง เขาค่อนข้างยุ่งเหยิง และในปี พ.ศ. 2428 เขาถูกย้ายไปที่ Moscow Conservatory ที่นี่ Rachmaninoff เรียนเปียโนกับ N. Zverev จากนั้น A. Siloti; โดย วิชาทฤษฎีและการแต่งเพลง - โดย S. Taneyev และ A. Arensky อาศัยอยู่ในหอพักกับ Zverev (พ.ศ. 2428-2422) เขาผ่านโรงเรียนที่มีระเบียบวินัยด้านแรงงานที่รุนแรง แต่สมเหตุสมผลมากซึ่งทำให้เขาเปลี่ยนจากคนขี้เกียจและซุกซนที่สิ้นหวังให้กลายเป็นคนเก็บตัวและเข้มแข็งเป็นพิเศษ "สิ่งที่ดีที่สุดในตัวฉัน ฉันเป็นหนี้เขา" - ดังนั้น Rachmaninov จึงพูดถึง Zverev ในภายหลัง ที่เรือนกระจก Rachmaninoff ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากบุคลิกของ P. Tchaikovsky ซึ่งตามพัฒนาการของ Serezha ที่เขาชื่นชอบ และหลังจากจบการศึกษาจากเรือนกระจก เขาก็ช่วยแสดงโอเปร่า Aleko ที่ Bolshoi Theatre โดยรู้จากตัวเขาเอง ประสบการณ์ที่น่าเศร้าว่านักดนตรีมือใหม่นั้นยากเพียงใดในการวางแนวทางของคุณเอง

Rachmaninov จบการศึกษาจาก Conservatory ในสาขาเปียโน (พ.ศ. 2434) และการประพันธ์เพลง (พ.ศ. 2435) ด้วยเหรียญทองระดับแกรนด์ มาถึงตอนนี้ เขาได้ประพันธ์เพลงประกอบหลายเพลงแล้ว ซึ่งได้แก่ Prelude in C-sharp minor ที่มีชื่อเสียง, เรื่องโรแมนติก “In the Silence of the Secret Night”, First Piano Concerto, โอเปร่า “Aleko” ซึ่งเขียนเป็น งานรับปริญญาแค่ 17 วัน! ชิ้นส่วนแฟนตาซีที่ตามมา op 3 (พ.ศ. 2435), Elegiac Trio "ในความทรงจำของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่" (พ.ศ. 2436), ห้องสวีทสำหรับเปียโน 2 ตัว (พ.ศ. 2436), ช่วงเวลาแห่งดนตรี op. 16 (พ.ศ. 2439), ความรัก, งานไพเราะ - "Cliff" (พ.ศ. 2436), Capriccio ในธีมยิปซี (พ.ศ. 2437) - ยืนยันความคิดเห็นของ Rachmaninov ว่าเป็นพรสวรรค์ดั้งเดิมที่แข็งแกร่งและลึกซึ้ง ลักษณะภาพและอารมณ์ของรัคมานินอฟปรากฏในงานเหล่านี้ในหลากหลายแนว ตั้งแต่ความเศร้าโศกของเพลง "Musical Moment" ใน B minor ไปจนถึงเพลงสรรเสริญพระบารมีของเพลงรัก "Spring Waters" จากแรงกดดันที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่รุนแรงของรัคมานินอฟ "ช่วงเวลาแห่งดนตรี" ใน E minor ไปจนถึงสีน้ำที่ดีที่สุดของความโรแมนติก "Island"

ชีวิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นเรื่องยาก รัคมานินอฟเป็นคนเด็ดขาดและมีอำนาจในการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ โดยธรรมชาติแล้วเป็นคนอ่อนแอ มักประสบกับความสงสัยในตนเอง ติดขัดเรื่องวัตถุ วุ่นวายทางโลก หลงอยู่ในมุมแปลกๆ และแม้ว่าเขาจะได้รับการสนับสนุนจากคนใกล้ชิด โดยเฉพาะครอบครัว Satin แต่เขาก็รู้สึกเหงา ความตกใจอย่างมากที่เกิดจากความล้มเหลวของซิมโฟนีเครื่องแรกของเขาซึ่งแสดงที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2440 นำไปสู่วิกฤตการณ์ที่สร้างสรรค์ เป็นเวลาหลายปีที่รัคมานินอฟไม่ได้แต่งเพลงอะไรเลย แต่กิจกรรมการแสดงของเขาในฐานะนักเปียโนก็เข้มข้นขึ้น และเขาได้เปิดตัวในฐานะวาทยกรที่ Moscow Private Opera (1897) ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาได้พบกับ L. Tolstoy, A. Chekhov ศิลปินของ Art Theatre ได้เริ่มต้นมิตรภาพกับ Fyodor Chaliapin ซึ่ง Rachmaninov ถือว่าเป็นหนึ่งใน ในปี พ.ศ. 2442 รัคมานินอฟได้แสดงในต่างประเทศเป็นครั้งแรก (ในลอนดอน) ในปี พ.ศ. 2443 เขาได้ไปเยือนอิตาลีซึ่งมีภาพร่างของโอเปร่า Francesca da Rimini ในอนาคตปรากฏขึ้น เหตุการณ์ที่สนุกสนานคือการแสดงโอเปร่า Aleko ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีของ A. Pushkin โดยมี Chaliapin เป็น Aleko ดังนั้น จึงมีการเตรียมจุดเปลี่ยนภายในอย่างค่อยเป็นค่อยไป และในช่วงต้นทศวรรษ 1900 มีการกลับมาสู่ความคิดสร้างสรรค์ ยุคใหม่เริ่มด้วยเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สอง ซึ่งฟังเหมือนสัญญาณเตือนภัยอันทรงพลัง ผู้ร่วมสมัยได้ยินเสียงของเวลาในตัวเขาด้วยความตึงเครียด การระเบิด และความรู้สึกของการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น ตอนนี้ประเภทของคอนเสิร์ตกำลังกลายเป็นแนวหน้า แต่แนวคิดหลักนั้นรวมอยู่ในความสมบูรณ์และความครอบคลุมที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เวทีใหม่เริ่มต้นขึ้นในชีวิตของรัคมานินอฟ

การยอมรับทั่วไปในรัสเซียและต่างประเทศได้รับกิจกรรมของนักเปียโนและผู้ควบคุมวง 2 ปี (พ.ศ. 2447-2549) Rachmaninov ทำงานเป็นวาทยกรที่ Bolshoi Theatre โดยทิ้งความทรงจำเกี่ยวกับการผลิตโอเปร่ารัสเซียที่ยอดเยี่ยมไว้ในประวัติศาสตร์ ในปี 1907 เขาเข้าร่วม Russian Historical Concerts ซึ่งจัดโดย S. Diaghilev ในปารีส และในปี 1909 เขาได้แสดงเป็นครั้งแรกในอเมริกา โดยเขาเล่นเปียโนคอนแชร์โต้ครั้งที่ 3 ซึ่งบรรเลงโดย G. Mahler กิจกรรมคอนเสิร์ตที่เข้มข้นในเมืองของรัสเซียและต่างประเทศถูกรวมเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ที่เข้มข้นไม่น้อยไปกว่ากันและในดนตรีของทศวรรษนี้ (ใน Cantata "Spring" - 1902 ในบทนำ op. 23 ในรอบชิงชนะเลิศของ Second Symphony และ การประสานเสียงครั้งที่สาม) มีความกระตือรือร้นและความกระตือรือร้นอย่างมาก และในองค์ประกอบเช่นความรัก "Lilac", "" ในบทนำใน D major และ G major "ดนตรีของพลังแห่งการร้องเพลงแห่งธรรมชาติ" ฟังด้วยการเจาะที่น่าทึ่ง

แต่ในปีเดียวกันก็รู้สึกถึงอารมณ์อื่นเช่นกัน ความคิดที่น่าเศร้าเกี่ยวกับมาตุภูมิและชะตากรรมในอนาคต การไตร่ตรองเชิงปรัชญาเกี่ยวกับชีวิตและความตายก่อให้เกิด ภาพที่น่าสลดใจเปียโนโซนาตาตัวแรกที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก "เฟาสท์" ของ เจ. ดับเบิลยู. เกอเธ่ บทกวีไพเราะ"Isle of the Dead" สร้างจากภาพวาดของศิลปินชาวสวิส A. Böcklin (1909), Third Concerto, Romances op. 26 . การเปลี่ยนแปลงภายในเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษหลังปี 1910 หากในคอนแชร์โตครั้งที่ 3 โศกนาฏกรรมถูกเอาชนะในที่สุดและคอนแชร์โตจบลงด้วยการกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณที่รื่นเริง จากนั้นในงานที่ตามมา โศกนาฏกรรมจะลึกซึ้งยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาพที่ก้าวร้าว ไม่เป็นมิตร มืดมน อารมณ์หดหู่ . เริ่มซับซ้อนขึ้น ภาษาดนตรีการหายใจที่ไพเราะกว้างซึ่งมีลักษณะเฉพาะของ Rachmaninov หายไป นี่คือบทกวีเสียงไพเราะ "The Bells" (บน St. E. Poe แปลโดย K. Balmont - 1913); โรแมนติก op. 34 (พ.ศ. 2455) และ op. 38 (พ.ศ. 2459); Etudes-ภาพวาดบน 39 (พ.ศ. 2460). อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เองที่รัคมานินอฟได้สร้างสรรค์ผลงานที่เต็มไปด้วยความหมายทางจริยธรรมสูง ซึ่งกลายเป็นตัวตนของความงามทางจิตวิญญาณที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นสุดยอดของท่วงทำนองของรัคมานินอฟ - "Vocalise" และ "All-Night Vigil" สำหรับนักร้องประสานเสียงอะแคปเปลลา (1915) “ตั้งแต่เด็ก ฉันรู้สึกทึ่งกับท่วงทำนองอันงดงามของ Oktoikh ฉันรู้สึกอย่างนั้นเสมอสำหรับพวกเขา การจัดร้องเพลงพิเศษเป็นสิ่งจำเป็น สไตล์พิเศษและสำหรับฉันแล้ว ฉันพบมันที่สายัณห์ ฉันอดไม่ได้ที่จะสารภาพ การแสดงครั้งแรกโดยคณะนักร้องประสานเสียง Synodal ของมอสโกทำให้ฉันมีความสุขที่สุดเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง” Rachmaninov เล่า

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2460 Rachmaninov และครอบครัวของเขาออกจากรัสเซียตลอดไป เป็นเวลากว่าหนึ่งในสี่ของศตวรรษที่เขาอาศัยอยู่ในต่างแดนในสหรัฐอเมริกา และช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยกิจกรรมคอนเสิร์ตที่เหนื่อยล้า ภายใต้กฎหมายที่โหดร้ายของธุรกิจดนตรี Rachmaninov ใช้ส่วนสำคัญของค่าธรรมเนียมของเขาเพื่อให้การสนับสนุนด้านวัตถุแก่เพื่อนร่วมชาติของเขาในต่างประเทศและในรัสเซีย ดังนั้นคอลเลกชันทั้งหมดของการแสดงในเดือนเมษายน พ.ศ. 2465 จึงถูกโอนไปยังผู้อดอยากในรัสเซียและในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2484 รัคมานินอฟได้ส่งเงินมากกว่าสี่พันดอลลาร์ไปยังกองทุนช่วยเหลือกองทัพแดง

ในต่างประเทศ รัคมานินอฟใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว โดยจำกัดกลุ่มเพื่อนไว้เฉพาะผู้อพยพจากรัสเซียเท่านั้น มีข้อยกเว้นเฉพาะสำหรับครอบครัวของ F. Steinway หัวหน้าบริษัทเปียโนซึ่ง Rachmaninov มีความสัมพันธ์ฉันมิตร

ปีแรกของการอยู่ต่างประเทศ Rachmaninov ไม่ได้ละทิ้งความคิดเรื่องการสูญเสียแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ “หลังจากออกจากรัสเซีย ฉันหมดความปรารถนาที่จะแต่งเพลง สูญเสียบ้านเกิดของฉัน ฉันสูญเสียตัวเอง” เพียง 8 ปีหลังจากออกเดินทางไปต่างประเทศ Rachmaninov กลับมาสู่ความคิดสร้างสรรค์ สร้าง Piano Concerto ครั้งที่ 4 (1926), Three Russian Songs for Choir and Orchestra (1926), "" สำหรับเปียโน (1931), "" (1934), Third Symphony (1936) ), "ซิมโฟนิกแดนซ์" (2483). ผลงานเหล่านี้เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของรัคมานินอฟ ความรู้สึกโศกเศร้าของการสูญเสียที่ไม่อาจแก้ไขได้ ความปรารถนาอันแรงกล้าที่มีต่อรัสเซียก่อให้เกิดศิลปะแห่งพลังอันน่าสลดใจอันมหาศาล ถึงจุดสุดยอดใน Symphonic Dances และใน Third Symphony ที่ยอดเยี่ยมของ Rachmaninov ครั้งสุดท้ายรวบรวมธีมหลักของงานของเขา - ภาพลักษณ์ของมาตุภูมิ ความคิดที่เข้มข้นและเคร่งขรึมของศิลปินปลุกเร้าเขาจากส่วนลึกของศตวรรษ เขาเกิดขึ้นในฐานะความทรงจำอันเป็นที่รักไม่รู้จบ ในการผสมผสานที่ซับซ้อนของธีมที่หลากหลาย ตอนต่างๆ มุมมองที่กว้างปรากฏขึ้น มหากาพย์ดราม่าเกี่ยวกับชะตากรรมของมาตุภูมิถูกสร้างขึ้นใหม่ จบลงด้วยการยืนยันชีวิตแห่งชัยชนะ ดังนั้นผลงานทั้งหมดของ Rachmaninoff เขาจึงยึดถือหลักการทางจริยธรรมที่ล่วงละเมิดไม่ได้ จิตวิญญาณอันสูงส่ง ความซื่อสัตย์ และความรักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อมาตุภูมิ ซึ่งเป็นตัวตนของงานศิลปะของเขา

อ. อเวราโนวา

ลักษณะของความคิดสร้างสรรค์

Sergei Vasilyevich Rachmaninoff และ Scriabin เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในวงการเพลงรัสเซียในช่วงปี 1900 ผลงานของนักแต่งเพลงสองคนนี้ดึงดูดใจเป็นพิเศษ ความสนใจอย่างใกล้ชิดร่วมสมัย มีการถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน มีการถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนเกี่ยวกับผลงานแต่ละชิ้นของพวกเขา แม้จะมีความแตกต่างกันในรูปลักษณ์ของแต่ละบุคคลและโครงสร้างโดยนัยของดนตรีของ Rachmaninov และ Scriabin แต่ชื่อของพวกเขามักจะปรากฏเคียงข้างกันในข้อพิพาทเหล่านี้และถูกเปรียบเทียบกัน มีเหตุผลภายนอกอย่างหมดจดสำหรับการเปรียบเทียบดังกล่าว: ทั้งคู่เป็นนักเรียนของ Moscow Conservatory ซึ่งจบการศึกษาเกือบจะในเวลาเดียวกันและเรียนกับครูคนเดียวกัน ทั้งคู่โดดเด่นในหมู่เพื่อนทันทีด้วยความแข็งแกร่งและความสดใสของความสามารถ ได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่ในฐานะนักแต่งเพลงที่มีพรสวรรค์สูง แต่ยังเป็นนักเปียโนที่โดดเด่นอีกด้วย

แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่แยกพวกเขาออกจากกันและบางครั้งก็ทำให้พวกเขาอยู่คนละด้านของชีวิตดนตรี Scriabin นักประดิษฐ์ผู้กล้าได้กล้าเสียผู้ซึ่งเปิดโลกดนตรีใหม่ๆ ต่อต้าน Rachmaninov ในฐานะศิลปินที่มีความคิดแบบดั้งเดิมมากกว่า ซึ่งอาศัยผลงานของเขาบนรากฐานที่มั่นคงของรัสเซีย มรดกคลาสสิก. "จี Rachmaninoff - เขียนโดยนักวิจารณ์คนหนึ่ง - เป็นเสาหลักที่จัดกลุ่มตัวแทนของทิศทางที่แท้จริงทั้งหมดทุกคนที่ยึดมั่นในรากฐานที่ Mussorgsky, Borodin, Rimsky-Korsakov และ Tchaikovsky วางไว้

อย่างไรก็ตาม ด้วยความแตกต่างทั้งหมดในตำแหน่งของ Rachmaninov และ Scriabin ในความเป็นจริงทางดนตรีร่วมสมัยของพวกเขา พวกเขาไม่เพียงถูกดึงมารวมกันโดยเงื่อนไขทั่วไปของการศึกษาและการเติบโตเท่านั้น บุคลิกภาพที่สร้างสรรค์ในวัยหนุ่มของพวกเขา แต่ยังรวมถึงความธรรมดาที่ลึกซึ้งกว่านั้นด้วย "พรสวรรค์ที่ดื้อรั้นและกระสับกระส่าย" - นี่คือลักษณะที่ครั้งหนึ่ง Rakhmaninov ปรากฏตัวในสื่อ ความหุนหันพลันแล่นกระสับกระส่ายความตื่นเต้นของน้ำเสียงอารมณ์ลักษณะงานของนักแต่งเพลงทั้งสองซึ่งทำให้เป็นที่รักและใกล้ชิดกับสังคมรัสเซียในวงกว้างเป็นพิเศษในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 ด้วยความคาดหวังแรงบันดาลใจและความหวัง .

"Scriabin และ Rachmaninov - "ผู้ปกครองทางความคิดทางดนตรี" สองคนของโลกดนตรีรัสเซียสมัยใหม่<...>ตอนนี้พวกเขาแบ่งปันความเป็นเจ้าโลกในโลกดนตรี” แอล. แอล. ซาบาเนฟยอมรับ หนึ่งในผู้ขอโทษที่กระตือรือร้นที่สุดสำหรับคนแรกและคู่ต่อสู้ที่ดื้อรั้นพอ ๆ กันและผู้ว่าคนที่สอง นักวิจารณ์อีกคนหนึ่งเขียนบทความที่อุทิศให้กับ ลักษณะเปรียบเทียบตัวแทนที่โดดเด่นสามคนของมอสโก โรงเรียนดนตรี Taneyev, Rachmaninov และ Scriabin: “หากดนตรีของ Taneyev ดูเหมือนจะหลีกหนีจากความทันสมัยและต้องการเป็นแค่ดนตรี ในงานของ Rachmaninov และ Scriabin เราจะสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงที่สั่นไหวของชีวิตสมัยใหม่ที่เข้มข้นและเร่าร้อน ทั้งคู่เป็นความหวังที่ดีที่สุดของรัสเซียยุคใหม่”

เป็นเวลานานแล้วที่มุมมองของรัคมานินอฟในฐานะทายาทที่ใกล้ชิดที่สุดคนหนึ่งและผู้สืบทอดของไชคอฟสกีครอบงำ อิทธิพลของผู้เขียน ราชินีโพดำ" มีบทบาทสำคัญในการก่อตัวและพัฒนางานของเขาอย่างไม่ต้องสงสัยซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจาก Moscow Conservatory ซึ่งเป็นนักเรียนของ A. S. Arensky และ S. I. Taneyev ในเวลาเดียวกันเขายังรับรู้ถึงคุณสมบัติบางอย่างของโรงเรียนนักแต่งเพลง "ปีเตอร์สเบิร์ก": บทกวีที่ตื่นเต้นของไชคอฟสกีรวมอยู่ใน Rachmaninov กับความยิ่งใหญ่ของมหากาพย์อันโหดร้ายของ Borodin การเจาะลึกของ Mussorgsky ในระบบของรัสเซียโบราณ ความคิดทางดนตรีและการรับรู้ทางกวี ธรรมชาติพื้นเมืองริมสกี้-คอร์ซาคอฟ. อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งที่เรียนรู้จากครูผู้สอนและผู้แต่งเพลงรุ่นก่อนได้รับการคิดทบทวนอย่างลึกซึ้งโดยนักแต่งเพลง ปฏิบัติตามเจตจำนงสร้างสรรค์ที่แข็งแกร่งของเขา และได้รับบุคลิกใหม่ที่เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ สไตล์ดั้งเดิมของ Rachmaninov มีความสมบูรณ์ภายในและความเป็นธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม

หากคุณมองหาความคล้ายคลึงกับเขาในภาษารัสเซีย วัฒนธรรมทางศิลปะช่วงเปลี่ยนศตวรรษนี่คือประการแรกคือแนว Chekhov-Bunin ในวรรณคดีแนวโคลงสั้น ๆ ของ Levitan, Nesterov, Ostroukhov ในการวาดภาพ ความคล้ายคลึงกันเหล่านี้ได้รับการกล่าวถึงซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยผู้เขียนหลายคนและเกือบจะตายตัว เป็นที่ทราบกันดีว่าความรักและความเคารพอย่างกระตือรือร้นที่รัคมานินอฟปฏิบัติต่องานและบุคลิกภาพของเชคอฟนั้นเป็นอย่างไร เข้าแล้ว ปีต่อมาชีวิตอ่านจดหมายของนักเขียนเขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้พบเขาอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในเวลาของเขา นักแต่งเพลงมีความเกี่ยวข้องกับ Bunin เป็นเวลาหลายปีด้วยความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันและมุมมองทางศิลปะร่วมกัน พวกเขาถูกนำมารวมกันและเชื่อมโยงกันด้วยความรักอันแรงกล้าที่มีต่อธรรมชาติของชาวรัสเซียโดยกำเนิด สำหรับสัญญาณของชีวิตที่เรียบง่ายซึ่งกำลังจะจากไปในบริเวณใกล้เคียงของบุคคลต่อโลกรอบตัวเขา ทัศนคติเชิงกวีของโลก แต่งแต้มด้วยความลึก ความกระหายในการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณและการปลดปล่อยจากโซ่ตรวนที่จำกัดเสรีภาพของมนุษย์

แหล่งที่มาของแรงบันดาลใจสำหรับ Rachmaninov คือแรงกระตุ้นต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากชีวิตจริง ความงามของธรรมชาติ ภาพวรรณกรรมและภาพวาด "... ฉันพบ - เขากล่าวว่า - ความคิดทางดนตรีนั้นเกิดในตัวฉันได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นภายใต้อิทธิพลของความประทับใจทางดนตรีพิเศษบางอย่าง" แต่ในขณะเดียวกัน Rachmaninov ก็พยายามไม่มากนักที่จะสะท้อนปรากฏการณ์บางอย่างของความเป็นจริงโดยตรงผ่านดนตรีเพื่อ "วาดภาพในเสียง" แต่สำหรับการแสดงออกของปฏิกิริยาทางอารมณ์ความรู้สึกและประสบการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้อิทธิพลของสิ่งต่างๆ ความประทับใจที่ได้รับจากภายนอก ในแง่นี้ใคร ๆ ก็สามารถพูดถึงเขาในฐานะหนึ่งในผู้สว่างที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุด ตัวแทนทั่วไปความสมจริงของบทกวีในยุค 900 ซึ่งเป็นแนวโน้มหลักที่ V. G. Korolenko กำหนดขึ้นอย่างประสบความสำเร็จ:“ เราไม่เพียงแค่สะท้อนปรากฏการณ์ตามที่เป็นอยู่และไม่สร้างภาพลวงตาของโลกที่ไม่มีอยู่จริงด้วยความตั้งใจ เราสร้างหรือแสดงความสัมพันธ์ใหม่ของจิตวิญญาณมนุษย์กับโลกรอบข้างที่เกิดในตัวเรา

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของดนตรีของ Rachmaninov ซึ่งดึงดูดความสนใจเป็นอันดับแรกเมื่อทำความคุ้นเคยกับมันคือท่วงทำนองที่แสดงออกมากที่สุด ในบรรดาผู้ร่วมสมัยของเขา เขาโดดเด่นในด้านความสามารถในการสร้างท่วงทำนองที่แผ่กว้างและยาวของการหายใจที่ยอดเยี่ยม ผสมผสานความงามและความเป็นพลาสติกของภาพวาดเข้ากับการแสดงออกที่สดใสและเข้มข้น ความไพเราะความไพเราะเป็นคุณสมบัติหลักของสไตล์ของ Rachmaninov ซึ่งส่วนใหญ่กำหนดธรรมชาติของการคิดประสานเสียงของนักแต่งเพลงและเนื้อสัมผัสของผลงานของเขา ตามกฎแล้วอิ่มตัวด้วยเสียงอิสระไม่ว่าจะเคลื่อนไหวไปข้างหน้าหรือหายไปในความหนาแน่นหนาแน่น ผ้ากันเสียง.

รัคมานินอฟสร้างท่วงทำนองพิเศษของตัวเองโดยอิงจากการผสมผสานเทคนิคเฉพาะของไชคอฟสกี - การพัฒนาท่วงทำนองที่มีไดนามิกอย่างเข้มข้นด้วยวิธีการเปลี่ยนแปลงแบบแปรผันดำเนินไปอย่างราบรื่นและสงบมากขึ้น หลังจากออกตัวอย่างรวดเร็วหรือขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างเข้มข้น ท่วงทำนองก็จะหยุดที่ระดับที่ทำได้ กลับไปเป็นเสียงที่ร้องยาวหนึ่งเสียงอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างช้าๆ พร้อมขอบที่ลอยขึ้น กลับสู่ความสูงเดิม ความสัมพันธ์แบบย้อนกลับก็เป็นไปได้เช่นกัน เมื่อการอยู่อย่างยาวนานมากขึ้นหรือน้อยลงในเขตความสูงจำกัดหนึ่งๆ จู่ๆ จังหวะของท่วงทำนองก็ขาดช่วงไปชั่วขณะ ทำให้ได้อารมณ์ของการแสดงโคลงสั้น ๆ ที่เฉียบคม

ในการแทรกซึมของไดนามิกและสถิตศาสตร์ดังกล่าว แอล. เอ. มาเซลมองเห็นคุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดประการหนึ่งของท่วงทำนองของรัคมานินอฟ นักวิจัยอีกคนหนึ่งให้ความหมายกว้างกว่ากับอัตราส่วนของหลักการเหล่านี้ในงานของ Rachmaninov โดยชี้ไปที่การสลับกันของช่วงเวลา "เบรก" และ "การทะลุผ่าน" ซึ่งเป็นรากฐานของงานหลายชิ้นของเขา (V. P. Bobrovsky แสดงแนวคิดที่คล้ายกัน โดยสังเกตว่า "ความมหัศจรรย์ของความเป็นปัจเจกบุคคลของ Rachmaninoff อยู่ที่ความเป็นเอกภาพทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใครของสองแนวโน้มที่มุ่งตรงข้ามกันและการสังเคราะห์ของพวกเขาซึ่งมีอยู่ในตัวเขาเท่านั้น" - ความทะเยอทะยานที่แข็งขันและแนวโน้มที่จะ สำเร็จ”). ความหลงใหลในบทเพลงครุ่นคิด การหมกมุ่นอยู่กับสภาวะจิตใจบางอย่างเป็นเวลานาน ราวกับว่าผู้แต่งเพลงต้องการหยุดเวลาที่หายวับไป เขาผสมผสานกับพลังงานมหาศาลที่หลั่งไหลออกมาภายนอก ความกระหายที่จะยืนยันตนเองอย่างแข็งขัน ดังนั้นความแข็งแกร่งและความเฉียบคมของความแตกต่างในดนตรีของเขา เขาพยายามที่จะนำทุกความรู้สึก ทุกสภาวะของจิตใจมาสู่การแสดงออกในระดับสูงสุด

ในท่วงทำนองที่เป็นโคลงสั้น ๆ ของ Rachmaninov อย่างอิสระ ด้วยลมหายใจที่ยาวและต่อเนื่อง คนเรามักจะได้ยินบางสิ่งที่คล้ายกับความกว้างที่ "หลีกเลี่ยงไม่ได้" ของเพลงพื้นบ้านรัสเซียที่เอ้อระเหย ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมโยงระหว่างความคิดสร้างสรรค์ของ Rachmaninov และการแต่งเพลงพื้นบ้านนั้นมีลักษณะทางอ้อมอย่างมาก เฉพาะในกรณีที่หายากและโดดเดี่ยวเท่านั้นที่นักแต่งเพลงหันมาใช้เพลงพื้นบ้านของแท้ เขาไม่ได้พยายามให้ท่วงทำนองของตัวเองมีความคล้ายคลึงกันโดยตรงกับเพลงพื้นบ้าน “อิน รัคมานินอฟ” ผู้แต่งผลงานพิเศษเกี่ยวกับเมโลดิกส์ของเขาอย่างถูกต้อง “ไม่ค่อยมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับแนวเพลงบางแนว ศิลปท้องถิ่น. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวเพลงมักดูเหมือนจะละลายหายไปใน "ความรู้สึก" ทั่วไปของเพลงพื้นบ้าน และไม่ได้เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการสร้างและกลายเป็น ภาพดนตรี". ได้รับความสนใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลักษณะเฉพาะท่วงทำนองของ Rachmaninov นำมาซึ่งความใกล้ชิดกับเพลงพื้นบ้านของรัสเซีย เช่น ความนุ่มนวลของการเคลื่อนไหวโดยเน้นการเคลื่อนไหวแบบขั้นบันได การออกเสียงแบบไดอะโทนิก การเลี้ยวแบบ Phrygian ที่มีอยู่มากมาย ฯลฯ คุณสมบัติเหล่านี้กลายเป็นส่วนสำคัญของนักแต่งเพลง สไตล์ของผู้แต่งแต่ละคนโดยได้รับสีพิเศษเฉพาะสำหรับเขาเท่านั้น

อีกด้านของสไตล์นี้ที่น่าประทับใจอย่างไม่อาจต้านทานได้พอๆ กับความไพเราะของดนตรีของรัคมานินอฟ คือจังหวะที่มีพลังอย่างผิดปกติ เอาชนะอย่างเด็ดเดี่ยว และในขณะเดียวกันก็มีความยืดหยุ่น ทั้งผู้ร่วมสมัยของนักแต่งเพลงและนักวิจัยรุ่นหลังเขียนมากมายเกี่ยวกับจังหวะ Rachmaninoff โดยเฉพาะซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้ฟังโดยไม่สมัครใจ มักจะเป็นจังหวะที่กำหนดเสียงหลักของเพลง A. V. Ossovsky ตั้งข้อสังเกตในปี 1904 เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายของ Second Suite for Two Pianos ว่า Rachmaninov ในนั้น "ไม่กลัวที่จะเพิ่มความสนใจในจังหวะของ Tarantella ให้กับวิญญาณที่อยู่ไม่สุขและมืดมน ครั้ง”

จังหวะปรากฏใน Rachmaninov ในฐานะผู้ให้บริการของหลักการ volitional ที่มีประสิทธิภาพซึ่งขับเคลื่อนโครงสร้างดนตรีและแนะนำ "ความรู้สึกที่ท่วมท้น" ซึ่งเป็นโคลงสั้น ๆ เข้าสู่กระแสหลักของภาพรวมที่สมบูรณ์ทางสถาปัตยกรรมที่กลมกลืนกัน B. V. Asafiev เปรียบเทียบบทบาทของหลักจังหวะในงานของ Rachmaninoff และ Tchaikovsky เขียนว่า: "อย่างไรก็ตาม ในระยะหลัง ลักษณะพื้นฐานของซิมโฟนี "กระสับกระส่าย" ของเขาแสดงออกมาด้วยพลังพิเศษในการปะทะกันของธีมเอง ในดนตรีของรัคมานินอฟ การผสมผสานที่หลงใหลในคลังสินค้าแห่งความรู้สึกเชิงโคลงสั้น ๆ และการครุ่นคิดอย่างสร้างสรรค์ด้วยคลังสินค้าที่มีเจตจำนงอันแข็งแกร่งของผู้แต่งเพลงที่แสดงเพลง "I" กลายเป็น "ขอบเขตส่วนบุคคล" ของการไตร่ตรองส่วนตัวซึ่งถูกควบคุมโดย จังหวะในแง่ของปัจจัย volitional ... ". รูปแบบจังหวะของ Rakhmaninov นั้นชัดเจนเสมอไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่เรียบง่ายแม้กระทั่งเช่นจังหวะหนักที่วัดได้ของระฆังขนาดใหญ่หรือซับซ้อนซับซ้อน ดอกไม้เป็นที่รักของนักแต่งเพลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลงานในปี 1910 จังหวะ ostinato ให้จังหวะไม่เพียง แต่เป็นรูปเป็นร่างเท่านั้น แต่ในบางกรณีก็มีความสำคัญตามธีมด้วย

ในด้านความปรองดอง รัคมานินอฟไม่ได้ไปไกลกว่าระบบเมเจอร์-ไมเนอร์คลาสสิกในรูปแบบที่ได้มาจากงานของนักแต่งเพลงแนวโรแมนติกชาวยุโรป ไชคอฟสกี และตัวแทนของ Mighty Handful ดนตรีของเขามีการกำหนดโทนเสียงที่ชัดเจนและมั่นคงเสมอ แต่ด้วยการใช้โทนเสียงที่กลมกลืนแบบคลาสสิก-โรแมนติก เขามีลักษณะเด่นบางประการซึ่งทำให้ไม่ยากที่จะกำหนดผู้ประพันธ์ขององค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง ในบรรดาสัญลักษณ์พิเศษเฉพาะของ Rachmaninov ภาษาฮาร์มอนิกรวมถึงตัวอย่างเช่นความช้าของการเคลื่อนไหวตามหน้าที่แนวโน้มที่จะอยู่ในปุ่มเดียวเป็นเวลานานและบางครั้งแรงโน้มถ่วงที่อ่อนลง ความสนใจถูกดึงดูดไปที่รูปแบบ multi-tert ที่ซับซ้อนมากมาย แถวของคอร์ดที่ไม่ใช่และทศนิยม มักมีสีสันมากกว่า phonic มากกว่าความหมายเชิงหน้าที่ การเชื่อมต่อของฮาร์โมนีที่ซับซ้อนประเภทนี้ส่วนใหญ่ดำเนินการโดยใช้การเชื่อมต่อที่ไพเราะ ความโดดเด่นของหลักการเพลงไพเราะในดนตรีของ Rachmaninov เป็นตัวกำหนด ระดับสูงความอิ่มตัวของโพลีโฟนิกของเนื้อผ้าเสียง: คอมเพล็กซ์ฮาร์มอนิกแต่ละอันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากการเคลื่อนไหวอย่างอิสระของเสียง "ร้องเพลง" ที่เป็นอิสระมากหรือน้อย

มีฮาร์มอนิกเทิร์นหนึ่งที่รัคมานินอฟชื่นชอบ ซึ่งเขาใช้บ่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประพันธ์เพลงในยุคแรกๆ จนเขาได้รับสมญานามว่า การหมุนเวียนนี้ขึ้นอยู่กับคอร์ดที่เจ็ดเบื้องต้นที่ลดลงของฮาร์มอนิกไมเนอร์ โดยปกติจะใช้ในรูปแบบของคอร์ดไตรมาสที่สามโดยแทนที่ II องศา III และความละเอียดเป็นโทนิคทรีแอดในตำแหน่งที่สามที่ไพเราะ

ในฐานะหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของดนตรีของรัคมานินอฟ นักวิจัยและผู้สังเกตการณ์จำนวนหนึ่งสังเกตเห็นสีรองลงมาที่เด่นของมัน เปียโนคอนแชร์โตทั้งสี่ของเขา ซิมโฟนีสามชิ้น เปียโนโซนาตาทั้งสอง อิมเมจส่วนใหญ่ของอีตูเดสและการประพันธ์เพลงอื่นๆ อีกมากมายถูกเขียนด้วยภาษารอง แม้แต่เพลงหลักก็มักจะได้รับสีรองลงมาเนื่องจากการดัดแปลงที่ลดลง การเบี่ยงเบนของโทนสี และการใช้บันไดข้างเล็กน้อยอย่างแพร่หลาย แต่มีนักแต่งเพลงเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จในความแตกต่างและระดับความเข้มข้นของการแสดงออกในการใช้คีย์รอง ข้อสังเกตของ L. E. Gakkel ใน etudes-paintings op. 39 "เมื่อพิจารณาถึงสีสันเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งมีชีวิต เฉดสีเล็กๆ ของความรู้สึกชีวิต" สามารถขยายไปถึงส่วนสำคัญของงานทั้งหมดของรัคมานินอฟ นักวิจารณ์อย่างซาบานีฟซึ่งมีอคติต่อรัคมานินอฟเรียกเขาว่า "คนขี้ขลาดที่ชาญฉลาด" ซึ่งเพลงของเขาสะท้อนถึง ในขณะเดียวกัน ผู้เยาว์ "มืด" ที่หนาแน่นของ Rachmaninov มักจะฟังดูกล้าหาญ ประท้วง และเต็มไปด้วยความตึงเครียดทางจิตใจอย่างมาก "ความเศร้าโศกอันสูงส่ง" ของศิลปินผู้รักชาติที่ "เสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับดินแดนพื้นเมือง" ซึ่ง M. Gorky ได้ยินในผลงานของ Bunin เช่นเดียวกับนักเขียนคนนี้ที่ใกล้ชิดกับเขา Rachmaninov ในคำพูดของ Gorky "คิดถึงรัสเซียโดยรวม" เสียใจกับการสูญเสียของเธอและประสบกับความวิตกกังวลต่อชะตากรรมในอนาคต

ภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์ของ Rachmaninov ในองค์ประกอบหลักยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญและมั่นคงตลอดการเดินทางครึ่งศตวรรษของนักแต่งเพลง โดยปราศจากการแตกหักและการเปลี่ยนแปลงที่แหลมคม หลักสุนทรียศาสตร์และโวหารที่เรียนรู้ในวัยเยาว์ เขาซื่อสัตย์จนถึงปีสุดท้ายของชีวิต อย่างไรก็ตามเราสามารถสังเกตเห็นวิวัฒนาการบางอย่างในงานของเขาซึ่งแสดงให้เห็นไม่เพียง แต่ในด้านการเติบโตของทักษะการเพิ่มสีสันของจานเสียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อโครงสร้างที่เป็นรูปเป็นร่างและการแสดงออกของดนตรีอีกด้วย บนเส้นทางนี้ สามขนาดใหญ่แม้ว่าจะไม่เท่ากันทั้งในด้านระยะเวลาและในแง่ของระดับของผลผลิต แต่ระยะเวลาก็ระบุไว้อย่างชัดเจน พวกเขาถูกแยกออกจากกันด้วย caesuras ชั่วคราวที่มีความยาวมากหรือน้อย แถบแห่งความสงสัย การไตร่ตรอง และความลังเลใจ เมื่อไม่มีผลงานที่เสร็จสมบูรณ์สักชิ้นเดียวออกมาจากปลายปากกาของนักแต่งเพลง ช่วงแรกซึ่งตรงกับช่วงทศวรรษที่ 90 ของศตวรรษที่ 19 สามารถเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และการบ่มเพาะความสามารถ ซึ่งดำเนินไปตามเส้นทางของตนผ่านการเอาชนะอิทธิพลทางธรรมชาติตั้งแต่อายุยังน้อย งานในยุคนี้มักยังไม่เป็นอิสระเพียงพอ ไม่สมบูรณ์ทั้งรูปแบบและเนื้อสัมผัส (บางเพลง (First Piano Concerto, Elegiac Trio, ชิ้นเปียโน: Melody, Serenade, Humoresque) ต่อมาผู้แต่งได้ปรับปรุงและปรับปรุงเนื้อสัมผัส)แม้ว่าจะมีหลายหน้าก็ตาม ( ช่วงเวลาที่ดีที่สุดโอเปร่าเยาวชน "Aleko", Elegiac Trio ในความทรงจำของ P. I. Tchaikovsky, โหมโรงที่มีชื่อเสียงใน C-sharp minor, ช่วงเวลาทางดนตรีและความรักบางช่วง) บุคลิกลักษณะของนักแต่งเพลงได้รับการเปิดเผยอย่างชัดเจนเพียงพอแล้ว

การหยุดชั่วคราวโดยไม่คาดคิดเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2440 หลังจากการแสดง First Symphony ของ Rachmaninov ไม่ประสบความสำเร็จ - งานที่นักแต่งเพลงลงทุนกับงานและพลังงานทางจิตวิญญาณจำนวนมากซึ่งนักดนตรีส่วนใหญ่เข้าใจผิดและเกือบจะเป็นเอกฉันท์ในหน้าของสื่อ ของนักวิจารณ์ ความล้มเหลวของซิมโฟนีทำให้เกิดความบอบช้ำทางจิตใจอย่างลึกซึ้งในรัคมานินอฟ ตามคำสารภาพของเขาเอง เขา "เหมือนคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองและสูญเสียทั้งศีรษะและมือไปเป็นเวลานาน" สามปีถัดไปเป็นปีแห่งความเงียบที่สร้างสรรค์เกือบสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็รวมสมาธิในการไตร่ตรอง การประเมินเชิงวิพากษ์ของทุกสิ่งที่ทำไปก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ของการทำงานภายในที่เข้มข้นของนักแต่งเพลงที่มีต่อตัวเขาเองคือการเพิ่มขึ้นของความคิดสร้างสรรค์ที่เข้มข้นและสดใสอย่างผิดปกติในตอนต้นของศตวรรษใหม่

ในช่วงสามหรือสี่ปีแรกของศตวรรษที่ 20 รัคมานินอฟได้สร้างผลงานประเภทต่าง ๆ มากมาย โดดเด่นด้วยกวีนิพนธ์ที่ลุ่มลึก ความสดใหม่ และแรงบันดาลใจอันฉับไว ซึ่งความร่ำรวยของจินตนาการสร้างสรรค์และความคิดริเริ่มของ "ลายมือ" ของผู้แต่ง ผสมผสานกับงานฝีมือชั้นสูง ในหมู่พวกเขา ได้แก่ เปียโนคอนแชร์โต้ชุดที่สอง, ชุดที่สองสำหรับเปียโนสองเครื่อง, โซนาต้าสำหรับเชลโลและเปียโน, แคนทาทา "ฤดูใบไม้ผลิ", สิบโหมโรง op. 23 โอเปร่า "Francesca da Rimini" ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดของเนื้อเพลงเสียงของ Rachmaninov ("Lilac", "Excerpt from A. Musset") ผลงานชุดนี้ทำให้ Rachmaninoff เป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงชาวรัสเซียที่ใหญ่ที่สุดและน่าสนใจที่สุด ในยุคของเราทำให้เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในแวดวงปัญญาชนทางศิลปะและในหมู่ผู้ฟังจำนวนมาก

ช่วงเวลาค่อนข้างสั้นระหว่างปี 1901 ถึง 1917 เป็นช่วงที่เกิดผลดีที่สุดในงานของเขา: ในช่วงทศวรรษครึ่งนี้ งานเขียนของ Rachmaninov ที่โตเต็มที่และเป็นอิสระส่วนใหญ่ถูกเขียนขึ้น ซึ่งกลายเป็นส่วนสำคัญของดนตรีคลาสสิกระดับชาติ เกือบทุกปีมีบทประพันธ์ใหม่ ๆ ปรากฏขึ้นซึ่งกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตดนตรี ด้วยกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ไม่หยุดหย่อนของ Rachmaninoff งานของเขาจึงไม่เปลี่ยนแปลงในช่วงเวลานี้: ในช่วงเปลี่ยนของสองทศวรรษแรก อาการของการเปลี่ยนแปลงการผลิตเบียร์จะสังเกตเห็นได้ชัดเจน โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติ "ทั่วไป" ทั่วไป โทนเสียงจะรุนแรงขึ้น อารมณ์ที่รบกวนรุนแรงขึ้น ในขณะที่ความรู้สึกโคลงสั้น ๆ ที่ไหลออกมาโดยตรงดูเหมือนจะช้าลง สีโปร่งใสอ่อน ๆ ปรากฏบนแผงเสียงของผู้แต่งน้อยลง สีสันโดยรวมของดนตรี เข้มขึ้นและข้นขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถสังเกตได้ในชุดเปียโนโหมโรงชุดที่สอง op. 32 ภาพวาดสองรอบของ Etudes และโดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ประกอบขนาดใหญ่เช่น "The Bells" และ "All-Night Vigil" ซึ่งนำเสนอคำถามพื้นฐานที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการดำรงอยู่ของมนุษย์และจุดประสงค์ในชีวิตของบุคคล

วิวัฒนาการที่ Rachmaninov ประสบนั้นไม่ได้หลีกหนีจากความสนใจของคนรุ่นราวคราวเดียวกัน นักวิจารณ์คนหนึ่งเขียนเกี่ยวกับ The Bells: "ดูเหมือน Rakhmaninov กำลังมองหาอารมณ์ใหม่ๆ วิธีใหม่ในการแสดงความคิดของเขา ... คุณรู้สึกว่าที่นี่ สไตล์ใหม่ Rachmaninoff ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกันกับสไตล์ของ Tchaikovsky

หลังจากปี 1917 การหยุดงานครั้งใหม่ของ Rachmaninov เริ่มต้นขึ้น คราวนี้นานกว่าครั้งก่อนมาก หลังจากผ่านไปหนึ่งทศวรรษนักแต่งเพลงก็กลับไปแต่งเพลงโดยจัดเพลงพื้นบ้านรัสเซียสามเพลงสำหรับนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตราและจบเปียโนคอนแชร์โต้ครั้งที่สี่ซึ่งเริ่มขึ้นในวันก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เขาเขียน (ยกเว้นการถอดเทปคอนเสิร์ตสองสามรายการสำหรับเปียโน) อย่างไรก็ตาม มีเพียงสี่เรื่องเท่านั้นที่มีนัยสำคัญในแง่ของแนวคิดของผลงานชิ้นสำคัญ

ในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน ภารกิจมักขัดแย้งกัน การดิ้นรนหาทิศทางที่เฉียบคมและตึงเครียด การหยุดพักในรูปแบบปกติของจิตสำนึกทางศิลปะที่เป็นลักษณะของการพัฒนา ศิลปะดนตรีในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 Rachmaninoff ยังคงซื่อสัตย์ต่อประเพณีคลาสสิกที่ยิ่งใหญ่ของดนตรีรัสเซียตั้งแต่ Glinka ถึง Borodin, Mussorgsky, Tchaikovsky, Rimsky-Korsakov แต่เขาไม่ได้ จำกัด ตัวเองอยู่เพียงบทบาทของผู้พิทักษ์ประเพณีเหล่านี้ แต่รับรู้อย่างแข็งขันสร้างสรรค์ยืนยันการใช้ชีวิตพลังที่ไม่สิ้นสุดความสามารถในการพัฒนาและการตกแต่งเพิ่มเติม Rachmaninov ศิลปินที่ละเอียดอ่อนและน่าประทับใจแม้ว่าเขาจะยึดมั่นในหลักการของคลาสสิก แต่ก็ไม่ได้หูหนวกต่อการเรียกร้องของความทันสมัย ในทัศนคติของเขาต่อแนวโน้มโวหารใหม่ของศตวรรษที่ 20 มีช่วงเวลาหนึ่งที่ไม่เพียงแต่เป็นการเผชิญหน้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงปฏิสัมพันธ์บางอย่างด้วย

กว่าครึ่งศตวรรษ ผลงานของ Rachmaninov ได้ผ่านวิวัฒนาการที่สำคัญ และผลงานในช่วงทศวรรษที่ 1930 ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงช่วงทศวรรษที่ 1910 ยังมีความแตกต่างกันอย่างมากทั้งในด้านโครงสร้างเชิงอุปมาอุปไมยและภาษา วิธีการแสดงออกทางดนตรีตั้งแต่ต้น บทประพันธ์ที่เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ในตอนท้ายของศตวรรษก่อนหน้า ในบางส่วนของพวกเขา นักแต่งเพลงสัมผัสกับอิมเพรสชันนิสม์ สัญลักษณ์ นีโอคลาสสิก แม้ว่าเขาจะรับรู้ถึงองค์ประกอบของเทรนด์เหล่านี้ในลักษณะที่แปลกประหลาดอย่างลึกซึ้ง ภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์ของ Rachmaninov ยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญภายใน โดยยังคงไว้ซึ่งคุณสมบัติพื้นฐานเหล่านั้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กำหนดว่าเพลงของเขาได้รับความนิยมจากผู้ฟังที่หลากหลายที่สุด: ความหลงใหล บทกวีที่น่าหลงใหล ความจริงใจและความจริงใจในการแสดงออก วิสัยทัศน์เชิงกวีของโลก .

วาย. เคลดิช

ตัวนำ Rachmaninoff

Rachmaninov เข้าสู่ประวัติศาสตร์ไม่เพียง แต่ในฐานะนักแต่งเพลงและนักเปียโนเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ควบคุมวงที่โดดเด่นในยุคของเราด้วย แม้ว่ากิจกรรมด้านนี้ของเขาจะไม่ยาวนานและเข้มข้นนัก

Rachmaninov เปิดตัวในฐานะวาทยกรในฤดูใบไม้ร่วงปี 1897 ที่ Mamontov Private Opera ในมอสโกว ก่อนหน้านั้นเขาไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำวงออเคสตราและเรียนการแสดง แต่ความสามารถอันยอดเยี่ยมของนักดนตรีช่วยให้รัคมานินอฟเรียนรู้ความลับของความเชี่ยวชาญได้อย่างรวดเร็ว พอจะนึกออกว่าเขาแทบจะไม่สามารถจัดการซ้อมครั้งแรกได้สำเร็จ เขาไม่รู้ว่านักร้องจำเป็นต้องระบุการแนะนำตัว และไม่กี่วันต่อมา รัคมานินอฟก็ทำงานของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยแสดงโอเปร่าเรื่อง Samson and Delilah ของ Saint-Saens

“ปีที่ฉันอยู่ที่โรงละครโอเปร่า Mamontov มีความสำคัญกับฉันมาก” เขาเขียน - ที่นั่น ฉันได้รับเทคนิคของวาทยกรที่แท้จริง ซึ่งต่อมาได้ช่วยฉันอย่างมาก ในช่วงฤดูกาลของการทำงานในฐานะผู้ควบคุมวงคนที่สองของโรงละคร Rachmaninov ได้แสดงโอเปร่าเก้ารายการยี่สิบห้าครั้ง: "Samson and Delilah", "Mermaid", "Carmen", "Orpheus" โดย Gluck, "Rogneda" โดย Serov, " Mignon" โดย Tom, "Askold's Grave", "The Enemy Strength", "May night" สื่อมวลชนสังเกตเห็นความชัดเจนของสไตล์วาทยกรของเขา ความเป็นธรรมชาติ การขาดการวางตัว ความรู้สึกของจังหวะที่ถ่ายทอดไปยังนักแสดง รสนิยมที่ละเอียดอ่อน และความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมของสีสันของวงออเคสตรา ด้วยการสั่งสมประสบการณ์ คุณสมบัติเหล่านี้ของรัคมานินอฟในฐานะนักดนตรีเริ่มแสดงออกอย่างเต็มที่ เสริมด้วยความมั่นใจและอำนาจในการทำงานกับศิลปินเดี่ยว นักร้องประสานเสียง และวงออร์เคสตรา

ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า รัคมานินอฟซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการแต่งเพลงและกิจกรรมเปียโน ดำเนินการเป็นครั้งคราวเท่านั้น ความมั่งคั่งของความสามารถในการดำเนินการของเขาอยู่ในช่วง พ.ศ. 2447-2458 เป็นเวลาสองฤดูกาลที่เขาทำงานที่โรงละคร Bolshoi ซึ่งการตีความโอเปร่ารัสเซียของเขาประสบความสำเร็จเป็นพิเศษ เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในชีวิตของนักวิจารณ์ละครเรียกการแสดงครบรอบปีของ "Ivan Susanin" ซึ่งเขาแสดงเพื่อเป็นเกียรติแก่การครบรอบหนึ่งร้อยปีของการเกิดของ Glinka และ "Tchaikovsky's Week" ในระหว่างนั้นภายใต้กระบองของ Rachmaninoff "ราชินีแห่ง Spades", "Eugene Onegin", "Oprichnik" และบัลเล่ต์

1

บทความนี้พิจารณาถึงอิทธิพลของภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบต่อผลงานของนักแต่งเพลง SV Rakhmaninov เขาสร้างสไตล์ของตัวเองซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อทั้งดนตรีรัสเซียและดนตรีโลกในศตวรรษที่ยี่สิบ ธรรมชาติของที่ดิน Ivanovka ในจังหวัด Tambov เป็นแรงบันดาลใจของเขา ที่นี่เขาทำงาน พักผ่อน และมีกำลังสำหรับการท่องเที่ยวของเขา เกือบทุกอย่างที่เขียนโดย Rachmaninov ในรัสเซียถูกสร้างขึ้นใน Ivanovka ในช่วงฤดูร้อนใน Ivanovka Sergei Vasilievich ปฏิเสธข้อเสนอทัวร์ที่ให้ผลกำไรสูงสุด Rachmaninov อธิบายถึงสาเหตุของวิกฤตความคิดสร้างสรรค์ของเขาหลังจากเดินทางไปต่างประเทศว่าหลังจากออกจากรัสเซียแล้ว เขาสูญเสียตัวเอง "นักดนตรีที่สูญเสียรากเหง้าทางดนตรี ประเพณี และดินพื้นเมืองไม่มีความปรารถนาที่จะสร้างผลงาน"

นักแต่งเพลง

ภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบ

1. Anichkina N.V. อิทธิพลของลักษณะภูมิปิดล้อมต่อการละเล่นพื้นบ้าน. /ปัญหาของการศึกษาต่อเนื่อง: การออกแบบ การจัดการ การทำงาน: การดำเนินการของการประชุมทางวิทยาศาสตร์และการปฏิบัติระดับนานาชาติ VIII (21-22 พฤษภาคม 2553 Lipetsk): เวลา 3 นาฬิกา - Lipetsk: LGPU, 2553 ส่วนที่ 1 - หน้า 165-168.

2. Gumilyov L.N. Ethnogenesis และชีวมณฑลของโลก -M.: รอล์ฟ, 2545. - 560 น.

3. การอ้างอิงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับโบสถ์คาซานในหมู่บ้าน Staraya Kazinka เขต Michurinsky ภูมิภาค Tambov [ทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์] / URL: http://starkazinka.prihod.ru/history (เข้าถึง 10.01.2016)

4. ที่ดินพิพิธภัณฑ์ของ S.V. รัชมานินอฟ. [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / URL: https://ru.wikipedia.org/wiki (เข้าถึงเมื่อ 10/01/2559)

5. Rachmaninov Sergei Vasilievich (ความทรงจำเกี่ยวกับเขา) [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / URL: http://chtoby-pommili.com/page.php?id=1136 (เข้าถึงเมื่อ 10/01/2559)

6. Rachmaninov, Sergey Vasilievich https: [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / URL: https: //ru.wikipedi a.org/wiki/ (เข้าถึง 10.01.2016)

7. Frayonova O.V. Rachmaninov // บอลชายา สารานุกรมรัสเซีย. เล่มที่ 28 - มอสโก 2558 - หน้า 267-270.

วิญญาณพยายามแสวงหาแสงสว่างและความเข้าใจ
เตรียมบินสู่ชีวิตใหม่
Ivanovka เต็มไปด้วยไลแลค
จากความสุขหัวใจร้องเพลงอย่างมีความสุข
คริสตัลพลังงานสีม่วง
ความรักสากลถูกตัดขาดโดยกระแส
เซอร์จิอุสลั่นระฆังสวรรค์ให้เรา
และกระแสเพลงขั้นเทพ!

อ.ก. ลูกิน

ภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบเป็นหนึ่งในแนวคิดพื้นฐานในระบบประวัติศาสตร์สังคม-ธรรมชาติ ซึ่งศึกษาปฏิสัมพันธ์ของธรรมชาติและสังคมที่เกิดขึ้นและพัฒนาขึ้นในดินแดนที่แยกจากกันและในช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์บางช่วงเวลา

Rachmaninov Sergei Vasilyevich (พ.ศ. 2416-2486) - นักแต่งเพลงชาวรัสเซียนักเปียโนอัจฉริยะผู้ควบคุมวง สังเคราะห์หลักการของโรงเรียนนักแต่งเพลงในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโก (รวมถึงประเพณีของดนตรียุโรปตะวันตก) ในงานของเขาและสร้างสไตล์ดั้งเดิมของเขาเองซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อทั้งดนตรีรัสเซียและโลกในศตวรรษที่ยี่สิบ

Sergei Vasilyevich Rachmaninov เกิดในตระกูลขุนนาง พ่อของนักแต่งเพลง Vasily Arkadyevich (พ.ศ. 2384-2459) มาจากขุนนางของจังหวัดแทมบอฟ หมู่บ้าน Staraya Kazinka เป็นรังของครอบครัวขุนนาง Rachmaninoff หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในเขต Michurinsky ซึ่งภูมิภาค Tambov มีพรมแดนติดกับภูมิภาค Lipetsk

บรรพบุรุษของสาขา Tambov ของ Rachmaninovs คือสจ๊วตของราชวงศ์ Ievliy Kuzmich Rachmaninov ซึ่งตั้งรกรากอยู่ใน Staraya Kazinka ในปี 1727 ตัวแทนของตระกูล Rachmaninov ซึ่งมาจาก Staraya Kazinka เป็นนักการศึกษาที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 นักแปลและนักประชาสัมพันธ์ Ivan Gerasimovich Rachmaninov (1753-1807) นักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย ศาสตราจารย์และอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเคียฟ Ivan Ivanovich Rachmaninov (1826-1897) ) นักดนตรีและนักแต่งเพลงชื่อดัง Sergei Vasilievich Rachmaninov (พ.ศ. 2416-2486)

ในตอนท้ายของปี 1889 Rachmaninov มาเยี่ยม Varvara และ Alexander Satin ที่ดิน Ivanovka ของพวกเขาในจังหวัด Tambov กลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่เขาโปรดปรานและเป็นห้องทดลองสร้างสรรค์ที่ดีที่สุดของเขา Ivanovka กลายเป็นสถานที่ที่เขา Ivanovka ในชีวิตของ Rachmaninov เป็นสถานที่พิเศษ “ฉันคิดว่ามันเป็นของฉันเอง” S. Rachmaninov เขียนในจดหมายฉบับหนึ่งของเขาถึง M. Shaginyan “เพราะฉันอยู่ที่นี่มา 23 ปีแล้ว ที่นี่เป็นเวลานานเมื่อฉันยังเด็กฉันทำงานได้ดี” (8 พฤษภาคม 2455, Ivanovka)

ที่นี่เองที่รัคมานินอฟสร้างเขาขึ้นมา ผลงานที่ดีที่สุดที่นี่เขาถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในฐานะบุคลิกภาพในฐานะนักแต่งเพลง ใน Ivanovka Sergei Rachmaninoff ได้พบกับพี่น้อง Skalon สามคนซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Vera หญิงสาวตกหลุมรักนักดนตรีหนุ่มและเขาก็ตอบสนองเธอ Rachmaninov อุทิศให้กับความรักของเธอ "In the Silence of the Secret Night" ซึ่งสร้างขึ้นใน Ivanovka ซึ่งเขียนโดยเขาในบทของ Alexander Fet หลังจากออกเดินทางไปมอสโคว์ เขาเขียนจดหมายที่น่าประทับใจและน่าประทับใจมากกว่าร้อยฉบับถึงเธอ เซอร์เก รัคมานินอฟได้อุทิศบทเพลงโรแมนติกให้กับเชลโลและเปียโน และท่วงทำนองที่สองของ First Piano Concerto ให้กับ Vera Skalon เมื่ออายุ 19 ปี Rachmaninoff จบการศึกษาจากเรือนกระจก งานสำเร็จการศึกษาของเขาคือโอเปร่า "Aleko" จากผลงานของ A. S. Pushkin "Gypsies" นอกจากนี้ยังมีการประพันธ์เปียโนคอนแชร์โตชุดแรก ความโรแมนติกหลายชิ้น ท่อนสำหรับเปียโน รวมถึงโหมโรงใน C-sharp minor ซึ่งกลายเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของรัคมานินอฟ ในช่วงปี พ.ศ. 2433 ถึง พ.ศ. 2460 เขาใช้เวลาเกือบทุกฤดูใบไม้ผลิฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงใน Ivanovka ในปี 1902 เขาแต่งงานกับลูกสาวของ Satins และลูกพี่ลูกน้องของเขา Natalya Alexandrovna (พ.ศ. 2420-2494) ลูกสาวทั้งสองของ Sergei Vasilyevich และ Natalya Alexandrovna, Irina (1903) และ Tatyana (1907) เกิดที่ Ivanovka ที่นี่ท่ามกลางที่ราบกว้างใหญ่ที่ความสามารถของนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่เฟื่องฟู ที่นี่เขาทำงานหนักและมีผล คอนเสิร์ตเปียโน, ช่วงเวลาดนตรี, ภาพวาด etudes, ความรัก, งานซิมโฟนิก "Gypsy Capriccio", "Cliff" และอื่น ๆ อีกมากมายปรากฏใน Ivanovka ในช่วงปี พ.ศ. 2433 ถึง พ.ศ. 2460 S.V. Rakhmaninov ใช้ชีวิตตามตารางเวลาต่อไปนี้: ฤดูใบไม้ร่วง, ฤดูหนาว - ทัวร์รัสเซีย, ยุโรป, อเมริกา; ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน - ชีวิตใน Ivanovka ในช่วงฤดูร้อนใน Ivanovka Sergei Vasilievich ปฏิเสธข้อเสนอทัวร์ที่ให้ผลกำไรสูงสุด Ivanovka เป็นคำพูดของเขาเองสำหรับเขา "อารามอันเป็นที่รักของหัวใจและจิตวิญญาณ" Rachmaninov ชอบสวน Ivanovo สวนสาธารณะร่มรื่นขนาดใหญ่ สระน้ำ อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมของทุ่งนาและทุ่งหญ้าที่อยู่ติดกับที่ดิน การตกแต่งและความภาคภูมิใจของสวน Ivanovo ในเวลานั้นคือสีม่วง มีการปลูกพุ่มไลแลคแยกต่างหากแม้ระหว่างไม้ผลในสวน Sergei Rachmaninov ชอบดอกไลแลคที่กำลังบานมาก เธอเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงาน หนึ่งในความรักของเขาเรียกว่าไลแลค สถานที่และเวลาของการสร้าง - Ivanovka, เมษายน 1902 ผู้เขียนบทกวี - E. Beketova ลูกสาวคนโตของศาสตราจารย์ A. N. Beketov อธิการบดีมหาวิทยาลัยมอสโก

ในตอนเช้าตรู่

บนพื้นหญ้าที่ชุ่มฉ่ำ

ฉันจะไปสดชื่นในตอนเช้าเพื่อหายใจ

และในร่มที่มีกลิ่นหอม

ที่ซึ่งฝูงไลแลค

ฉันจะมองหาความสุขของฉัน...

ความสุขในชีวิตมีเพียงหนึ่งเดียว

ฉันถูกกำหนดให้ค้นหา

และความสุขนั้นอยู่ในไลแลค

บนกิ่งไม้สีเขียว

บนแปรงที่มีกลิ่นหอม

ความสุขที่น่าสงสารของฉันผลิบาน

หนึ่งในนักแสดงโรแมนติกคนแรกคือ A. Nezhdanova ซึ่งมีรากฐานมาจากภูมิภาค Tambov เช่นกัน ในบันทึกของเธอ เธอเขียนว่า: "ในฐานะศิลปินของ Bolshoi Theatre และแสดงในคอนเสิร์ต ฉันมักจะรวมความรักของ Rachmaninov ไว้ในรายการของฉัน: ฉันแสดงความรักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทุกคนที่ชื่นชอบ "Lilac", "ที่นี่ดี", "ที่หน้าต่างของฉัน" , “เกาะ” และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่งดงามในความหมาย บทกวี และความงามของท่วงทำนองของงาน

ส.เอ. ซาตินา ลูกพี่ลูกน้องนักแต่งเพลงเขียนว่า: "หมู่บ้านเล็ก ๆ ของ Ivanovka มีประมาณ 100 ครัวเรือนติดกับที่ดินของเรา ท้องทุ่งกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาล้อมรอบเราผสานกับท้องฟ้าที่เส้นขอบฟ้า ในระยะไกล ทางทิศตะวันตกใคร ๆ ก็มองเห็นหอระฆังของตำบลของเรา โบสถ์ซึ่งอยู่ห่างจาก Ivanovka ห้าไมล์ กังหันลมของใครบางคนไปทางทิศตะวันออก - ไม่มีอะไรนอกจากทุ่งนาและทางใต้ - ป่าแอสเพนของเราสำหรับหลายไมล์รอบ ๆ Ivanovka แอสเพนเหล่านี้และสวนของเราใกล้บ้านเป็นต้นไม้เพียงต้นเดียวท่ามกลางทุ่งนา ดังนั้นต้นแอสเพนนี้จึงเป็นที่หลบภัยของกระต่าย จิ้งจอก และแม้แต่หมาป่าในบางครั้งที่วิ่งมาจากที่ใดที่หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกที่สร้างรังที่นั่นและส่งเสียงเจี๊ยก ๆ อยู่ในอากาศ

เกือบทุกอย่างที่เขียนโดย Rachmaninov ในรัสเซียผ่าน Ivanovka ใน Ivanovka Rachmaninov ทำงานในบทละครไพเราะ The Cliff, The Island of the Dead, The Gypsy Capriccio, ซิมโฟนีที่หนึ่งและสอง, โอเปร่า Monna Vanna, The Miserly Knight และ Francesca da Rimini, The Liturgy of St. John Chrysostom , บทกวี "The Bells" เปียโนคอนแชร์โตที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ใน Ivanovka Sergei Vasilyevich เขียนบทนำ 24 ภาพ, ภาพวาด etudes 9 ภาพ, โซนาตา 2 เรื่อง, ความรัก 49 เรื่อง วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 รัคมานินอฟอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา เขาไม่เคยอยู่ในรัสเซียอีกเลย ในการเชื่อมต่อกับการจากไปของเขา เขาเริ่มวิกฤตที่สร้างสรรค์ เขาหยุดเขียนเพลง เพียงแปดปีต่อมาเขากลับไปแต่งเพลง รัคมานินอฟเริ่มทำงานและสร้างผลงานหกชิ้น รวมถึง Fourth Concerto และ Three Russian Songs Rachmaninov อธิบายเหตุผลที่เขาเงียบไปหลังจากเดินทางไปต่างประเทศว่าหลังจากออกจากรัสเซียแล้ว เขาสูญเสียตัวเองไปว่า "นักดนตรีที่สูญเสียรากเหง้าทางดนตรี ประเพณี และดินพื้นเมืองไม่มีความปรารถนาที่จะสร้าง เมื่อตระหนักว่าเขาไม่สามารถกลับไปที่ Ivanovka ได้ เขาจึงพยายามสร้างความคล้ายคลึงกับธรรมชาติของ Ivanovka ขึ้นมาใหม่ในระหว่างการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่ปี 2473 ถึง 2483 กลับไปสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2484 เขาสำเร็จการศึกษา งานสุดท้าย"ซิมโฟนิกแดนซ์". ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัคมานินอฟได้จัดคอนเสิร์ตหลายครั้งในสหรัฐอเมริกาเพื่อสนับสนุนกองทัพแดง เงินสดเขาถ่ายทอดด้วยคำพูด: "จากชาวรัสเซียคนหนึ่งความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ทั้งหมดแก่ชาวรัสเซียในการต่อสู้กับศัตรู ฉันอยากจะเชื่อ ฉันเชื่อในชัยชนะที่สมบูรณ์ ด้วยเงินของนักแต่งเพลง เครื่องบินรบถูกสร้างขึ้นสำหรับกองทัพ Rachmaninov ต้องการกลับบ้านจริงๆ ตามบันทึกของหลานชายของอเล็กซานเดอร์ Rachmaninov "รักรัสเซียบ้านเกิดของเขาอย่างสุดซึ้งและจริงใจ แต่เขาไม่สามารถทนต่อระบบโซเวียตและผู้นำได้" จนถึงสิ้นวันเขาเก็บความทรงจำอันสดใสของ "บ้านเกิดของเขา" Ivanovka ไว้ในความทรงจำของเขาและพยายามไปที่นั่น เพลงรัสเซียสามเพลงที่เขียนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซิมโฟนีที่สาม การเต้นรำซิมโฟนิก - นี่คือความรักที่เขามีต่อรัสเซีย ต่อดินแดนบ้านเกิดของเขา ซึ่งเขาจูบเมื่อเขาไปต่างประเทศ และกลับมา หลังจากการเสียชีวิตของเขา เลขานุการพบรายชื่อ ซึ่งมีที่อยู่หลายร้อยรายการ ซึ่งให้ความช่วยเหลือในนามของรัคมานินอฟ เขาช่วยเหลือชาวรัสเซียและรัสเซียเสมอ

สถานที่ขนาดใหญ่ในผลงานของ S. V. Rakhmaninov ถูกครอบครองโดยภาพธรรมชาติของรัสเซีย Ivanovka มีบทบาทสำคัญในการเกิดขึ้นของภาพดนตรีรัสเซียโดยทั่วไปของเขา "ทิวทัศน์" ที่งดงามของ Rachmaninoff สร้างขึ้นใน Ivanovka หรือภายใต้อิทธิพลของเธอ มีความโดดเด่นตรงที่ไม่เพียงสื่อถึงภาพของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาวะทางอารมณ์ของเขาด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับการรับรู้ทางภาพและการได้ยินของธรรมชาติโดยนักแต่งเพลงแล้ว พวกมันสะท้อนทุกสิ่ง ที่รวมอยู่ในความคิดของเขาเกี่ยวกับมาตุภูมิ - จิตวิญญาณของคนรัสเซีย, ความรักที่เขามีต่อดินแดนของเขา, ความคิดของเขา, เพลงของเขา ในที่ดิน Ivanovo ความชอบอื่น ๆ ของ S.V. Rachmaninoff ก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน เขาเป็นคนรัสเซีย และชาวรัสเซียในฐานะประเทศหนึ่งได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เกษตรกรรม การปลูกบางอย่างอยู่ในสายเลือดของชาวรัสเซีย แม้ตอนนี้แม้จะมีอาหารมากมายในร้านค้า แต่ชาวรัสเซียที่ร่ำรวยมากก็ยังปลูกพืชเกษตรใกล้บ้านได้อย่างแน่นอน Rachmaninov ก็ทำงานเช่นกัน เกษตรกรรม: พยายามปรับปรุงพันธุ์ปศุสัตว์ ซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ ทันสมัย ​​สนใจงานภาคสนาม ด้วยภูมิประเทศแบบรัสเซีย งานของ Rachmaninoff เชื่อมโยงกันด้วยแกนกลางของมัน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวภายในสุดของจิตวิญญาณ ซึ่งก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ Rachmaninov กล่าวว่า: "ฉันเป็นนักแต่งเพลงชาวรัสเซีย และบ้านเกิดเมืองนอนของฉันได้ทิ้งร่องรอยไว้บนตัวละครและมุมมองของฉัน" ดนตรีของ Sergei Vasilyevich Rachmaninov ผสมผสานอย่างลงตัวกับบทกวีของ Fyodor Ivanovich Tyutchev นักแต่งเพลงเขียนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ สี่เรื่องตามบทกวีของ Tyutchev ในงานของเขา Rachmaninov หันมาใช้เนื้อเพลงของ Tyutchev เป็นครั้งแรกในปี 1906 เมื่อเขาเขียนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ สองเรื่อง: เรื่องที่น่าเศร้า: "เขาพรากทุกอย่างไปจากฉัน" และเนื้อเพลง "Fountain" พวกเขาเขียนขึ้นในฤดูร้อนใน Ivanovka แต่หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของผลงานการร้องของห้องแชมเบอร์ของรัคมานินอฟคือบทโรแมนติก "Spring Waters" ต่อบทของ F. I. Tyutchev ราวกับว่ามันถูกน้ำท่วมด้วยกระแสแห่งดวงอาทิตย์และความปีติยินดีกำลังพลุ่งพล่านอยู่ในนั้น "ผู้ส่งสารรุ่นเยาว์" ของฤดูใบไม้ผลิปลุกทุกคนรอบตัวอย่างมีความสุขและแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการต่ออายุที่จะเกิดขึ้นเพราะธรรมชาติรอคอยมันมาก พลังแห่งดนตรีเน้นย้ำถึงพลังแห่งแรงบันดาลใจของการเปลี่ยนแปลงอันลึกลับนี้ ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี แต่หลังจากฤดูหนาวอันยาวนาน ทั้งธรรมชาติและมนุษย์ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอการร่วงหล่นของฤดูใบไม้ผลิ ดนตรีของรัคมานินอฟใน "Spring Waters" ย้อนกลับไปยังตำนานสลาฟโบราณและความรู้สึกแห่งการรอคอยความรัก ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่ออายุโลก ซึ่งอยู่ในจิตใต้สำนึกและตื่นขึ้นมาด้วยพละกำลังที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกฤดูใบไม้ผลิ

หิมะยังคงขาวโพลนในทุ่งและน้ำก็เกิดสนิมแล้วในฤดูใบไม้ผลิ - พวกเขาวิ่งและปลุกชายฝั่งที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นพวกเขาวิ่งและส่องแสงและพวกเขาพูดว่า ... พวกเขาพูดจนจบ: "ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาฤดูใบไม้ผลิ กำลังจะมา เราเป็นผู้ส่งสารของฤดูใบไม้ผลิอ่อน เธอส่งเราไปข้างหน้า ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมา ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมา และวันที่เงียบสงบและอบอุ่นของเดือนพฤษภาคม การเต้นรำรอบแดงก่ำที่สดใส ฝูงชนสนุกสนานอยู่ข้างหลังเธอ! .. "

เพลงของ Rachmaninov ถ่ายทอดความปีติยินดีของชีวิต มันไหลราวกับเป็นท่วงทำนองที่กว้างยาวไม่มีที่สิ้นสุด (Second Concerto) จากนั้นก็เดือดราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิที่ไหลเชี่ยวกราก (แนวโรแมนติก "Spring Waters") Rachmaninov พูดถึงช่วงเวลาที่คน ๆ หนึ่งเพลิดเพลินกับความสงบของธรรมชาติหรือชื่นชมยินดีในความงามของทุ่งหญ้าสเตปป์ ป่าไม้ ทะเลสาบ - และดนตรีจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ เบาบาง โปร่งใสและเปราะบาง (โรแมนติก "ที่นี่ดี", " เกาะ", "ไลแลค") ใน "ภูมิทัศน์ดนตรี" ของ Rachmaninov เสน่ห์ของธรรมชาติของรัสเซียได้รับการถ่ายทอดอย่างละเอียดและลึกซึ้ง: กว้าง, กว้างขวาง, ใจกว้างและบทกวี

รัคมานินอฟทำให้ดนตรีรัสเซียสมบูรณ์ด้วยความสำเร็จของศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในผู้ที่นำประเพณีของชาติไปสู่เวทีใหม่ รัคมานินอฟได้เพิ่มพูนคุณค่าทางวรรณยุกต์ของดนตรีรัสเซียและโลกด้วยโทนเสียงของบทสวด Znamenny ของรัสเซียโบราณ Rachmaninov นำเพลงเปียโนของรัสเซียในศตวรรษที่ 20 ไปสู่ระดับโลก และกลายเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงชาวรัสเซียกลุ่มแรกที่มีผลงานเปียโนรวมอยู่ในละครของนักเปียโนทุกคนในโลก

งานของ Rachmaninov แบ่งออกเป็นสามหรือสี่ช่วงตามอัตภาพ: ต้น (พ.ศ. 2432-2440) สุกงอม (บางครั้งก็แบ่งออกเป็นสองช่วง: 2443-2452 และ 2453-2460) และปลาย (พ.ศ. 2461-2484) และเราเห็นว่าช่วงเวลาที่มีประสิทธิผลมากที่สุดของเขาคือตอนที่เขาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของรัสเซีย ซึ่งหล่อเลี้ยงเขา ให้กำลังและแรงบันดาลใจแก่เขา รัสเซียยังไม่ลืมลูกชาย ในปี 1968 มีการสร้างพิพิธภัณฑ์และตั้งแต่ปี 1987 - Museum-Estate of S.V. Rachmaninov ในหมู่บ้าน Ivanovka เขต Uvarovsky ภูมิภาค Tambov ตั้งแต่ปี 1982 เทศกาลดนตรีนานาชาติได้รับการตั้งชื่อตาม S.V. รัชมานินอฟ. นอกจากนี้ ภายในกรอบของ International Rachmaninov Music Festival คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นตามประเพณีใน Kazinka

นักแต่งเพลง Rachmaninoff มักกล่าวกันว่าเป็น "นักแต่งเพลงชาวรัสเซียส่วนใหญ่" รัคมานินอฟได้มีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในการพัฒนาดนตรีศักดิ์สิทธิ์ของรัสเซีย (พิธีสวดของนักบุญจอห์น ไครซอสทอม, 1910; Vespers, 1916) Rachmaninov เป็นผลิตภัณฑ์ของมาตุภูมิและธรรมชาติของรัสเซีย เขาเป็นศูนย์รวมของสุภาษิตรัสเซียเช่นสุภาษิตนี้: "คนรัสเซียประเภทไหนที่ไม่ชอบขับรถเร็ว" Sergei Vasilievich ชอบขี่ม้า ขับเรือยนต์ และนั่งรถ รัคมานินอฟเขียนงานซึ่งเขาแสดงความรู้สึกแห่งความสุขที่ผู้คนได้สัมผัสท่ามกลางท้องทุ่ง ป่าไม้ ทุ่งหญ้า และท้องทุ่ง Maxim Gorky พูดเกี่ยวกับเขาว่า: "เขาได้ยินความเงียบได้ดีแค่ไหน" Rachmaninov สังเคราะห์แนวโน้มที่หลากหลายในศิลปะดนตรีประจำชาติและรวมเข้ากับสไตล์ประจำชาติของรัสเซีย Rachmaninov ชอบสวน Ivanovo สวนสาธารณะร่มรื่นขนาดใหญ่ สระน้ำ อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมของทุ่งนาและทุ่งหญ้าที่อยู่ติดกับที่ดิน Ivanovka เป็นส่วนหนึ่งของมาตุภูมิที่ยิ่งใหญ่ ธรรมชาติของมันมีส่วนทำให้รุนแรงขึ้น เอกลักษณ์ประจำชาตินักแต่งเพลงและปลุกความรักชาติ และนี่ ความรักที่ยิ่งใหญ่เราได้ยินเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของรัสเซียที่ล้อมรอบในผลงานทั้งหมดของเขา

ลิงค์บรรณานุกรม

Pushilin N.O. ความคิดสร้างสรรค์ของ SERGEY VASILIEVICH RACHMANINOV เป็นภาพสะท้อนของภูมิประเทศที่มี // นักศึกษาต่างชาติ แถลงการณ์ทางวิทยาศาสตร์. – 2016. – № 2.;
URL: http://eduherald.ru/ru/article/view?id=14334 (วันที่เข้าถึง: 18/06/2019) เราขอนำเสนอนิตยสารที่คุณสนใจซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ "Academy of Natural History" Sergei Vasilyevich Rachmaninov เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2416 ในตระกูลขุนนางในที่ดิน Oneg ซึ่งเป็นของแม่ของเขาใกล้กับ Novgorod วัยเด็กของนักแต่งเพลงในอนาคตผ่านไปที่นี่ ในวัยเด็กและวัยรุ่นความผูกพันกับธรรมชาติของบทกวีของรัสเซียเกิดขึ้นจากภาพที่เขาหันมาทำงานของเขามากกว่าหนึ่งครั้ง ในปีเดียวกันนั้น Rachmaninov มีโอกาสฟังชาวรัสเซียบ่อยครั้ง เพลงพื้นบ้านที่รักเขามากตลอดชีวิตของเขา เยี่ยมชมอาราม Novgorod กับคุณยายของเขา Sergei Vasilievich ฟังเสียงระฆัง Novgorod ที่มีชื่อเสียงและท่วงทำนองพิธีกรรมของรัสเซียโบราณซึ่งเขามักจะสังเกตเห็นต้นกำเนิดของชาติ ในอนาคตสิ่งนี้จะสะท้อนให้เห็นในผลงานของเขา (บทกวี Cantata "The Bells", "All-Night Vigil")

Rachmaninoff เติบโตในครอบครัวนักดนตรี Arkady Alexandrovich ปู่ของเขาซึ่งเรียนภายใต้ John Field เป็นนักเปียโนและนักแต่งเพลงสมัครเล่น งานเขียนหลายชิ้นของเขาได้รับการตีพิมพ์ในศตวรรษที่ 18 พ่อของนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ Vasily Arkadyevich Rachmaninov เป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีเป็นพิเศษ แม่ของเขาเป็นครูสอนเปียโนคนแรกของเขา แม้ว่าตามบันทึกของผู้แต่งเอง บทเรียนเหล่านี้ทำให้เขา "ไม่พอใจอย่างยิ่ง" แต่เมื่ออายุสี่ขวบ เขาสามารถเล่นสี่มือกับคุณปู่ได้แล้ว

เมื่อนักแต่งเพลงในอนาคตอายุ 8 ขวบ ครอบครัวของเขาย้ายไปปีเตอร์สเบิร์ก โดยในขณะนั้นเอง ความสามารถทางดนตรีเห็นได้ชัดเจนและในปี พ.ศ. 2425 เขาเข้าเรียนที่ St. Petersburg Conservatory ในชั้นเรียนเปียโนจูเนียร์ของ V. V. Demyansky ในปีพ. ศ. 2428 ในเวลานั้นนักดนตรีที่อายุน้อยมาก Siloti เชื่อมั่นในความสามารถของลูกพี่ลูกน้องของเขา Siloti พาเขาไปที่ Moscow Conservatory ไปที่ชั้นเรียนของ Nikolai Sergeevich Zverev หลังจากเรียนกับ Zverev แล้วกับ Siloti (เพราะ Zverev เรียนกับเด็กเท่านั้น) ที่แผนกอาวุโสของเรือนกระจก Rachmaninov เริ่มศึกษาองค์ประกอบภายใต้การแนะนำของ S. I. Taneyev และ A. S. Arensky ที่นี่ Sergei Rachmaninov พบ P. I. Tchaikovsky เป็นครั้งแรก นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงฉันสังเกตเห็นนักเรียนที่มีความสามารถคนหนึ่งและติดตามความก้าวหน้าของเขาอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นไม่นาน P.I. Tchaikovsky กล่าวว่า: "ฉันทำนายอนาคตที่ดีสำหรับเขา"

มาพร้อมกับความพิเศษ หูสำหรับเพลงและความทรงจำ รัคมานินอฟเรียนเปียโนเก่งจนอายุได้ 18 ปี และอีกหนึ่งปีต่อมา ในปี พ.ศ. 2435 เมื่อเขาสำเร็จการศึกษาจาก Moscow Conservatory ในชั้นเรียนการประพันธ์เพลง เขาได้รับรางวัลเหรียญทองขนาดใหญ่จากผลงานการแสดงและการแต่งเพลงที่โดดเด่น ร่วมกับเขา Scriabin จบการศึกษาจากเรือนกระจกซึ่งได้รับเหรียญทองเล็กน้อยเพราะ รางวัลใหญ่มอบให้กับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากเรือนกระจกในสองสาขาพิเศษเท่านั้น (Scriabin จบการศึกษาในฐานะนักเปียโน) สำหรับการสอบปลายภาค รัคมานินอฟได้แสดงโอเปร่าเรื่องเดียวเรื่อง Aleko (อิงจากบทกวีเรื่อง The Gypsies ของพุชกิน) ซึ่งเขาเขียนในเวลาเพียง 17 วัน! สำหรับเธอ ไชคอฟสกีซึ่งเข้าร่วมการสอบได้มอบ "หลานชายด้านดนตรี" ของเขา (รัคมานินอฟเรียนกับทาเนเยฟ นักเรียนคนโปรดของปีเตอร์ อิลยิช) ห้าคนพร้อมข้อดีสามข้อ หนึ่งปีต่อมา โอเปร่าของนักแต่งเพลงอายุ 19 ปีได้แสดงที่โรงละครบอลชอย ดนตรีของโอเปร่าที่ดึงดูดใจด้วยความหลงใหลในวัยเยาว์ พลังที่น่าทึ่ง ความมีชีวิตชีวา และท่วงทำนองที่สื่ออารมณ์ได้ ได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากนักดนตรี นักวิจารณ์ และผู้ฟังรายใหญ่ที่สุด โลกดนตรีถือว่า "Aleko" ไม่ใช่งานของโรงเรียน แต่เป็นการสร้างปรมาจารย์สูงสุด P. I. Tchaikovsky ชื่นชมโอเปร่าเป็นพิเศษ: "ฉันชอบงานชิ้นนี้มาก" เขาเขียนถึงพี่ชายของเขา ใน ปีที่แล้วชีวิตของไชคอฟสกี Rachmaninoff มักจะสื่อสารกับเขา เขาชื่นชมผู้สร้าง The Queen of Spades อย่างสูง ได้รับการสนับสนุนจากความสำเร็จครั้งแรกและการสนับสนุนทางศีลธรรมของไชคอฟสกี รัคมานินอฟ หลังจากจบการศึกษาจากเรือนกระจก ได้แต่งผลงานหลายชิ้น ในหมู่พวกเขา ได้แก่ ซิมโฟนิกแฟนตาซี "Cliff" ซึ่งเป็นชุดแรกสำหรับเปียโน 2 ตัว "Musical Moments" โหมโรง C-sharp รองลงมา ความรัก: "อย่าร้องเพลง งาม กับฉัน" "ในความเงียบงันของคืนที่เป็นความลับ "," เกาะ "," น้ำสปริง ด้วยความประทับใจในการมรณกรรมของไชคอฟสกีในปี พ.ศ. 2436 Ellegiac Trio จึงถูกสร้างขึ้น

ความสามารถที่หลากหลายของ Rachmaninov แสดงออกมาในบทบาทของวาทยกร นักแต่งเพลง นักแสดง แม้ว่าตัวนักแต่งเพลงเองมักจะพูดว่ากลัวที่จะไม่พบตัวเอง และในบั้นปลายชีวิตของเขา เขาเขียนว่า:

“…ฉันหาตัวเองไม่เจอ…”

นักแต่งเพลงคนนี้เรียกได้ว่าเป็นนักแต่งเพลงที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง ตัวเขาเองกล่าวว่า:

"ฉันอยากจะร้องเพลงธีมบนเปียโนในแบบที่นักร้องจะร้อง"

V. Bryantseva จดบันทึกการผสมผสานที่เป็นธรรมชาติในท่วงทำนองของเขาของคำพังเพยที่ก่อตัวขึ้นแล้วโดยมีเพียงความกว้างของการหายใจที่เกิดขึ้นใหม่ กระบวนการ ซึ่งรวบรวมคุณลักษณะของมหากาพย์เมโลดั้งเดิมของรัสเซีย นี่คือลักษณะที่ "ท่วงทำนอง dali" ดั้งเดิมของ Rachmaninov (B. Asafiev) ถือกำเนิดขึ้นด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของหลักการแต่งเพลงแต่ละเพลงและบทเพลงทั่วไป

นี่คือท่วงทำนองบทกวีมหากาพย์ประเภทใหม่ซึ่งมีศักยภาพที่น่าทึ่งซึ่งธรรมชาติอยู่ในอัตราส่วนพิเศษและการสลับวิธีการพัฒนาแบบคงที่และไดนามิกร่วมกันอย่างรวดเร็ว (L. Mazel)

ท่วงทำนองของ Rachmaninoff มักเกี่ยวข้องกับ ต้นกำเนิดพื้นบ้าน, ธีมของมาตุภูมิ, ระฆังแห่งรัสเซีย

จากมรดกอันยาวนานซึ่งครอบคลุมประเภทและหัวข้อที่หลากหลาย เราจะมุ่งเน้นไปที่ผลงานของนักแต่งเพลงเพียงไม่กี่คน:

ผลงานเปียโนของ S. V. Rachmaninov

ในงานของปรมาจารย์ งานเปียโนถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่เขียนในรัสเซีย ภาพของเปียโนที่มีเสียงซึ่งเขาสร้างขึ้น ทำหน้าที่ถ่ายทอดความลึกของการเป็นตัวของตัวเอง เมื่อนำภาพของระฆังซึ่งมีความหมายเชิงปรัชญาและอุดมการณ์ ผู้แต่งจึงยืนยันในวัฒนธรรมดนตรีเปียโนว่าเป็นธีมนิรันดร์

บทละครแฟนตาซี (บทที่ 3, พ.ศ. 2435) ได้แก่บทละคร: "Elegy", "Prelude", "Melody", "Polishinelle", "Serenade" วัฏจักรนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นเอกเทศของภาษา Rachmaninov และความเชื่อมโยงกับภาษารุ่นก่อน ใน "Elegy" - คุณสมบัติของท่วงทำนองของ Chopin, เพลงของ Schubert; การเสียดสีและแปลกประหลาดของ Liszt - ใน "Polishinelle"

"Six Musical Moments" (1896) เป็นแนวคิดของ Rachmaninoff ในการสร้างจุดเริ่มต้นในแง่ดี ในตอนแรกพวกเขาถูกสร้างขึ้นเป็นงานที่แยกจากกันจากนั้นจึงรวมเข้าด้วยกันเป็นวัฏจักรตามหลักการของการพัฒนาภาพจากความมืดสู่ความสว่าง จุดสูงสุดของความมืดและโศกนาฏกรรมคือลำดับที่ 3; จากนั้นเส้นทางของการพัฒนาภาพลักษณ์ก็ผ่านความตื่นเต้นเร้าใจในอันดับที่ 4 - ไปสู่เนื้อเพลงในอันดับที่ 5 โดยมีจุดสุดยอด (ชัยชนะของแสง) ในอันดับที่ 6

ภาพสเก็ตช์ (ภาพสเก็ตช์หกภาพ op.33, 1911; เก้าภาพสเก็ตช์ op.39, 1916-1917) โดยพื้นฐานแล้วเป็น "ภาพสเก็ตช์" ซึ่งมีความสัมพันธ์แบบมีเงื่อนไขกับประเภทภาพร่างเช่นนี้

โหมโรงโดย Rachmaninoff

ตามธรรมเนียมแล้วโหมโรงถูกนำเสนอโดยเกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่สองทาง:

• เป็นบทนำสู่ความทรงจำ (ในวัฏจักร เช่น J.S. Bach);
• จิ๋ว (ในผลงานของ Chopin, Lyadov)

ในผลงานของ Rachmaninov ทิศทางที่สามปรากฏขึ้นในชีวิตของประเภท:

— แกรนด์เพลย์อิสระ

ในวงจรของโหมโรงมีหลักสามประการรวมกัน คือ บทร้อง กาพย์ และบทละคร พวกเขาครอบคลุม วงกลมกว้างภาพ, โดดเด่นด้วยความสามารถพิเศษ, ความฉลาด, การพัฒนารูปแบบ, ความยิ่งใหญ่; ไม่มีชื่อโปรแกรม

การเปรียบเทียบวงจรของโหมโรง (โหมโรงสิบบท 23, 2446 และสิบสามโหมโรง 32, 2453) แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของรูปทรงกลมและอารมณ์ในดนตรี: อารมณ์ของเนื้อเพลงบทกวีเบา ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะของวงจรก่อนหน้าถูกแทนที่ ในภายหลังโดยการเพิ่มบทบาทของการรบกวน, น่าทึ่ง, ถึงแก่ชีวิต; นอกจากนี้ - มหากาพย์คู่บารมีและการเพิ่มความสว่างของสีประจำชาติ สิ่งนี้ส่งผลต่อรูปแบบการเขียนเปียโน: ความยิ่งใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ความมีชีวิตชีวาของสีทำให้คุณลักษณะของวงออเคสตรา

โซนาทัส

แนวเพลงเปียโนโซนาตาโดยรวมไม่ใช่ลักษณะเฉพาะของนักแต่งเพลงคนนี้ ตรงกันข้ามกับคนรุ่นราวคราวเดียวกัน Snata No. 1 in d-moll (op. 28, 1907) (เช่นเดียวกับ No. 2 in b-moll, op. 36, 1913) สร้างความประทับใจให้กับความลึก แม้ว่าจะไม่ใช่ผลงานที่มีการแสดงและเป็นที่นิยมมากที่สุด

คอนแชร์โตสำหรับเปียโนและวงออร์เคสตรา

ก่อน Rachmaninoff ประเภทของเปียโนคอนแชร์โตได้รับการรับรู้ในผลงานของ Balakirev, Rubinstein แต่ไม่มีใครเด็ดขาด สำหรับนักแต่งเพลงประเภทนี้ แนวเพลงประเภทนี้ได้กลายเป็นแนวเพลงที่สำคัญที่สุดแนวหนึ่ง โดยได้ซึมซับโลกทั้งใบของผลงานของเขา หนึ่งใน คุณสมบัติหลักเป็นเอกภาพของหลักการสามประการในคอนแชร์โตของเขา (เช่นเดียวกับในโหมโรง): โคลงสั้น ๆ มหากาพย์ และละคร

เปียโนคอนแชร์โตของ SV Rachmaninov สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานของเขา: พวกเขาสรุปสิ่งที่นักแต่งเพลงสะสมไว้ในโหมโรง, ซิมโฟนี ฯลฯ นี่คือส่วนใหญ่ -

• ความยิ่งใหญ่,
• คอนเสิร์ต,
• ความสามารถพิเศษ

เขาบรรเลงเพลงประสานเสียง 4 เพลงเพื่อเฉลิมฉลอง เหตุการณ์สำคัญความคิดสร้างสรรค์ รับเอาประเพณีนี้มาจากไชคอฟสกี

หมายเลข 1 (fis-moll, 2434)- สำเร็จการศึกษาจากเรือนกระจก เปียโนคอนแชร์โตชุดแรกที่มีเนื้อร้องที่จริงใจและตื่นเต้น ได้รับความสำเร็จ

เปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สอง (c-moll, 1901)เฉลิมฉลองทางออกจากวิกฤตและเปิด ระยะเวลาครบกำหนดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณนักแต่งเพลงอุทิศให้กับ V. Dahl นักจิตอายุรเวทและนักสะกดจิตที่สามารถโน้มน้าวให้เขาประสบความสำเร็จที่ขาดไม่ได้ของงาน

เปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สาม (d-moll, 1909)หมายถึงจุดสูงสุดของผลงานทั้งหมดของนักแต่งเพลง ความหมายที่แท้จริงของมันจะเข้าใจได้ในเวลาเท่านั้น (จากนั้นจะถูกนับในหมู่ ผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรัสเซีย เพลงเปียโนศตวรรษที่ XX);

ฉบับที่ 4 (g-moll, 2469),อุทิศให้กับ N. Medtner สร้างขึ้นมานานกว่าหนึ่งปีโดยสรุปการค้นหาที่สร้างสรรค์

บ่อยครั้ง Rhapsody on a Theme of Paganini (a-moll, 1934) ก็รวมอยู่ในคอนแชร์โตด้วย ซึ่งคุณภาพของคอนเสิร์ตโดยธรรมชาติทำให้งานนั้น

ซิมโฟนีโดย Rachmaninoff

(ฉบับที่ 1, d-moll, 1895, ฉบับที่ 2, e-moll, 1906-1907, ฉบับที่ 3, a-moll, 1935-1936)

ซิมโฟนีชุดแรกโดย S. V. Rachmaninoffไม่ได้รับการยอมรับจากคนรุ่นเดียวกันซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในงานของอาจารย์: การแสดงของเธอล้มเหลว ผลงานนี้เป็นผลงานชิ้นเอก ย้อนไปถึงท่วงทำนองเพลงประกอบละครของไชคอฟสกี จินตภาพ และความซับซ้อนของดนตรีและวิธีการแสดงออกของผู้แต่ง (ร่วมกับคุณลักษณะของสไตล์ส่วนตัวของผู้แต่ง) ความล้มเหลวกลายเป็นแรงระเบิดสำหรับผู้แต่งเพลงทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าเป็นเวลานาน ผู้แต่งเขียนว่า:

“หลังจากซิมโฟนีนี้ ฉันไม่ได้แต่งเพลงอะไรเลยประมาณสามปี เขาเหมือนคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองและศีรษะและมือของเขาก็ถูกพรากไปเป็นเวลานาน ... "

เพลงของซิมโฟนีที่สองเผยให้เห็นภาพลักษณ์ที่น่าเศร้าของมาตุภูมิ ความยิ่งใหญ่และความกว้างของมหากาพย์ผสมผสานกับความลึกซึ้งของเนื้อเพลง

อารมณ์ ซิมโฟนีที่สามแสดงถึงโศกนาฏกรรมและการเสียชีวิต พวกเขาเต็มไปด้วยความโหยหาต่อผู้สูญเสีย (เช่นใน Symphonic Dances ธีมของซีเควนซ์ในยุคกลาง "Dies irae" ("Day of Wrath") ฟังที่นี่ ซึ่งได้เข้าสู่จิตสำนึกทางดนตรีอย่างแน่นหนาในฐานะสัญลักษณ์ แห่งความตายหิน

"ซิมโฟนิกแดนซ์"- งานชิ้นสุดท้ายของนักแต่งเพลงที่เขียนขึ้นในปี 2483 เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองได้สัมผัสกับยุโรปแล้ว

ความคิดสร้างสรรค์ในการร้องและการขับร้องประสานเสียง

งานด้านเสียงของ SV Rachmaninov โดยรวมนั้นมีแนวโน้มในการเสริมสร้างบทบาทของการเริ่มต้นการเปิดเผยอย่างค่อยเป็นค่อยไป (วัฏจักรแห่งความรัก op. 26, 1906; ในรอบต่อมา op. 34 และ 38 แนวโน้มนี้จะแสดงออกด้วยซ้ำ สว่างขึ้น).

ผลงานทางปรัชญาที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของนักแต่งเพลงคือบทกวี "The Bells" สำหรับวงออเคสตรา คณะนักร้องประสานเสียง และศิลปินเดี่ยว Edgar Poe ในการเล่าเรื่องฟรีของ Balmont (1913) งานนี้ - ตัวอย่างแนวเพลงผสมที่ผสมผสานคุณลักษณะของซิมโฟนีและออราทอริโอ

อีกด้านหนึ่งของแรงบันดาลใจทางอุดมการณ์ของผู้ประพันธ์ใน "เฝ้าทั้งคืน"(พ.ศ. 2458 สำหรับคณะนักร้องประสานเสียงอะแคปเปลลา) กับข้อความพิธีกรรมที่บัญญัติให้เป็นนักบุญ คุณลักษณะที่สำคัญที่สุดคือความเป็นชาติที่ลึกซึ้งของโครงสร้างที่เป็นรูปเป็นร่างและเนื้อหาที่เป็นน้ำเสียง ที่นี่นักแต่งเพลงใช้ท่วงทำนองของ Znamenny และบทสวดโบราณอื่น ๆ โดยตระหนักถึงสิ่งที่ค้นพบในด้านการนำเสนอการร้องเพลงประสานเสียงแบบโพลีโฟนิก การประสานกันของเนื้อหาดนตรี ธรรมชาติของน้ำเสียง

โอเปร่าผลงานของรัคมานินอฟ

โอเปร่าเรื่อง The Miserly Knight (พ.ศ. 2448 อิงจากเนื้อหาของโศกนาฏกรรมของอ. พุชกิน) และฟรานเชสกา ดา ริมินี (พ.ศ. 2448 ต่อจากดันเต บทประพันธ์โดยไชคอฟสกี) ที่มีสัญลักษณ์ของประเภทโอเปร่าขนาดเล็กมีพื้นฐานมาจากโศกนาฏกรรม นอกจากนี้ในปี 1906 นักแต่งเพลงได้สร้างโอเปร่า "Salambo" (บทเพลงของ M. Slonov ซึ่งปัจจุบันสูญหายไป) และตั้งแต่ปี 1907 ทำงานในโอเปร่า "Mona Vanna" (หลังจาก Maeterlinck) แต่ปล่อยให้มันยังไม่เสร็จโดยไม่ได้หันไปหาแนวโอเปร่าในงานของเขาอีกต่อไป

บำรุงรักษาตลอด วิธีที่สร้างสรรค์นักแต่งเพลง S.V. Rakhmaninov เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับประเพณีได้พัฒนาปรับปรุงและคิดใหม่ในงานของเขา เกณฑ์การประเมินสูงสุดสำหรับเขาคือความฉับไวและความจริงใจของถ้อยแถลง ซึ่งเมื่อรวมกับความงามที่ไม่ธรรมดา ความลุ่มลึก และพลังของผลกระทบจากดนตรีของเขา ทำให้มันอมตะและมีความเกี่ยวข้อง ทำให้อยู่เหนือเวลาที่กำหนด

ในหัวข้อนี้ เราได้เตรียมคำไขว้ออนไลน์เกี่ยวกับดนตรีของนายคนนี้ -

คุณชอบมันไหม? อย่าซ่อนความสุขของคุณจากโลก - แบ่งปัน