บ้าน › แสงและกระจก › ชีวประวัติ ประวัติศาสตร์ ข้อเท็จจริง ภาพถ่าย John Ruskin เลือกความคิดโดย John Ruskin ข้อความที่ตัดตอนมาจากจิตรกรร่วมสมัย

ชีวประวัติ ประวัติศาสตร์ ข้อเท็จจริง ภาพถ่าย John Ruskin เลือกความคิดโดย John Ruskin ข้อความที่ตัดตอนมาจากจิตรกรร่วมสมัย

นักทฤษฎีและนักประวัติศาสตร์ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนักปรัชญาชาวอังกฤษและนักลัทธิวัฒนธรรมแห่งศตวรรษที่ 19 จอห์นรัสกิน (1819-1900) - นักเทศน์ที่กระตือรือร้น ความคิดสร้างสรรค์ทางศิลปะ"ในนามของผลประโยชน์ ความดี และความยุติธรรม" และในขณะเดียวกันก็มีความงามที่ละเอียดอ่อน นักเลงโบราณและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ผู้ค้นพบ Turner และนักทฤษฎีของ Pre-Raphaelites

เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2362 ในครอบครัวของพ่อค้าเชอร์รี่ชาวสก็อตผู้มั่งคั่ง D. J. Ruskin บรรยากาศของความนับถือศาสนาครอบงำในครอบครัวซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่อมุมมองที่ตามมาของนักเขียน

John Ruskin - นักทฤษฎีและนักประวัติศาสตร์ศิลปะ

จอห์น รัสกินมีอิทธิพลอย่างมากต่อพัฒนาการของประวัติศาสตร์ศิลปะ สุนทรียศาสตร์ ปรัชญาตะวันตก และอุดมการณ์ของการอนุรักษ์สัตว์ป่า เขาได้รับเลือกให้เป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านศิลปะคนแรกที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เขาสอนที่อ็อกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ เขาเขียนหนังสือห้าสิบเล่ม บทความและปาฐกถาเจ็ดร้อยเรื่อง

ในรัสเซีย งานหลักของ J. Ruskin ที่แปลเป็นภาษารัสเซียได้รับการตีพิมพ์ใน รอบ XIX-XXศตวรรษ. อย่างไรก็ตามในช่วงต้นทศวรรษที่ 1920 ตามหนังสือเวียนของรองผู้บังคับการการศึกษา N. Krupskaya หนังสือของ J. Reskin และอื่น ๆ ถูกห้ามไม่ให้ยืมในห้องสมุด ในช่วงยุคโซเวียตไม่มีการแปลหรือจัดพิมพ์

บน Eschatos มีโอกาสที่จะอ่านหนังสือของ Ruskin - ทั้งฉบับก่อนการปฏิวัติและฉบับสะกดสมัยใหม่

John Ruskin ศิลปินสมัยใหม่

หลักการทั่วไปและความจริงในงานศิลปะ

แปลจากฉบับภาษาอังกฤษครั้งที่สอง

ป.ล. โคแกน

สมาคมโรงพิมพ์เอ.ไอ. มามอนโตวา

จอห์น รัสกิน ใบไม้ชนบท

ข้อความที่ตัดตอนมาจาก "จิตรกรสมัยใหม่"

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

มอสโก.

John Reskin จริยธรรมของฝุ่นละออง

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

มอสโก

ฉบับของ V.N. Lind และ I.A. บาลานดินา

จอห์น รัสกิน รังนกอินทรี

10 การบรรยายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของวิทยาศาสตร์ธรรมชาติกับศิลปะ

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

มอสโก

ฉบับของร้านหนังสือ

จอห์น รัสกิน งาและลิลลี่

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

มอสโก

จอห์น รัสกิน ครั้งสุดท้ายและครั้งแรก

สี่บทความเกี่ยวกับหลักการพื้นฐานของเศรษฐกิจการเมือง

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

มอสโก

ฉบับของร้านหนังสือ “ธุรกิจหนังสือและ I.A. บาลานดินา”

เกี่ยวกับ: การแต่งกาย การเลี้ยงดู การแต่งงาน ขอบเขตของกิจกรรม อิทธิพล งาน สิทธิ ฯลฯ

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

ฉบับของร้านหนังสือ “ธุรกิจหนังสือและ I.A. บาลานดินา”

พวงหรีดมะกอกของจอห์น รัสกิน

สี่การบรรยายเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมและสงคราม

แปลโดย L.P. นิกิฟอโรวา

ฉบับของร้านหนังสือ “ธุรกิจหนังสือและ I.A. บาลานดินา”

1900

หน้าเด่น

แปลโดย O.M. โซโลวีวา

มอสโก 2443

การพิมพ์ซ้ำหนังสือสมัยใหม่โดย John Ruskin

ต่อ. จากอังกฤษ. M. Kurennoy, N. Lebedeva, S. Sukharev - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: Azbuka-klassika, 2550. - 320 น. + แทรก (64 หน้า)
ไอ 978-5-352-02208-5

แปลตามสิ่งพิมพ์: Ruskin J. Seven Lamps of Architecture ลอนดอน พ.ศ. 2392

เขาไม่ได้จัดการกับปัญหาของสถาปัตยกรรมในฐานะการก่อสร้าง เขาไม่ได้แตะต้ององค์ประกอบทางกายภาพของกระบวนการนี้ ภูมิหลังทางวัตถุ John Ruskin พิจารณาเฉพาะทางปรัชญาและ หลักศีลธรรมซึ่งในความเห็นของเขาควรได้รับคำแนะนำจากสถาปนิกในฐานะผู้สร้างที่อยู่อาศัย พื้นที่ทางกายและทางใจบางส่วน และแม้แต่วัด

หลักการหรือแสงสว่างเหล่านี้ตามที่ผู้เขียนเรียกตัวเองว่า: ความงาม, ความแข็งแกร่ง, ชีวิต, ความจริง, ความทรงจำ, การเชื่อฟัง, การเสียสละ หนังสือเล่มนี้เจาะลึกถึงสาเหตุพื้นฐานเหล่านี้และสิ่งที่พวกเขานำมาสู่สถาปัตยกรรม

ต่อ. จากอังกฤษ. A. V. Glebovskaya, L. N. Zhitkova - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก: กลุ่มสำนักพิมพ์"ABC Classics", 2552. - 352 น. + แทรก (16 วินาที)

ไอ 978-5-9985-0415-0

ฉบับย่อจัดทำขึ้นตามสิ่งพิมพ์: Ruskin J. เดอะสโตนส์เวนิส // สมบูรณ์ผลงานของจอห์น รัสกิน นิวยอร์ก 2448 ฉบับ 7-9.

The Stones of Venice หนึ่งในผลงานที่สำคัญที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดของนักประวัติศาสตร์และนักทฤษฎีศิลปะชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียง นักเขียนร้อยแก้ว กวี ศิลปิน นักวิจารณ์วรรณกรรมและศิลปะ John Ruskin ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2394-2396

ตรวจสอบความรุ่งเรืองของสถาปัตยกรรมเวนิสอายุหลายศตวรรษจาก ยุคกลางตอนต้นไปจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาตอนปลายและให้การวิเคราะห์รูปแบบสถาปัตยกรรมหลักที่ยอดเยี่ยม

นอกเหนือจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์โดยละเอียดและการใช้เหตุผลทางทฤษฎีแล้ว ผู้เขียนได้รวมเอางานของเขาฉบับสมบูรณ์จำนวน 3 เล่มไว้อย่างละเอียดถี่ถ้วน วัสดุอ้างอิงเกี่ยวกับบุคคล อาคาร ข้อกำหนด ฯลฯ

ทันทีที่ตีพิมพ์ หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้อ่านทั่วไปด้วย กลายเป็นคู่มือที่ขาดไม่ได้สำหรับเมืองนี้

สำนักพิมพ์พบว่าเป็นไปได้ที่จะออก Stones of Venice ฉบับย่อในซีรีส์ "The Artist and the Connoisseur" โดยเน้นที่คำอธิบาย อนุสรณ์สถานทางสถาปัตยกรรมและพวกเขา คุณสมบัติโวหาร. ใช้ภาพวาดและสีน้ำของผู้เขียนในข้อความ ส่วนแทรกแสดงภาพถ่ายสีและการทำสำเนา

ต่อ. จากอังกฤษ. - SPb.: Azbuka-classika, 2007. - 248 p.: ป่วย ไอ 978-5-352-02183-5

หมายเหตุเกี่ยวกับศิลปะคริสเตียนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ

หนังสือเล่มนี้อาจทำให้คุณประหลาดใจในระดับหนึ่ง เพราะนี่ไม่ใช่แนวทางง่ายๆ ที่เราคุ้นเคยกันในทุกวันนี้ มันถูกเขียนขึ้นโดยนักประวัติศาสตร์และนักทฤษฎีศิลปะชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียง นักลัทธิวัฒนธรรมในสมัยของเขา กวีและนักเขียนร้อยแก้ว วรรณกรรมและ นักวิจารณ์ศิลปะจอห์น รัสกิน.

และเวลาที่เขียนคือ 1874! แน่นอนว่าชื่อและชื่อของ Ruskin ทั้งหมดนี้มีอิทธิพลต่อคุณภาพและสไตล์ของงานที่นำเสนอให้คุณ

มันมีเนื้อหาทางประวัติศาสตร์และประวัติศาสตร์ศิลปะที่น่าสนใจที่สุดที่บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติของการสร้างอนุสาวรีย์เช่นโบสถ์ Santa Croce, Santa Maria Novella และอื่น ๆ อีกมากมาย

แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือคู่มือนำเสนอการสนทนาเกี่ยวกับจริยธรรม ศีลธรรม และ ปัญหาสังคมฟลอเรนซ์ในสมัยนั้นซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเขาศึกษาประวัติศาสตร์ยุโรป

ต่อ. จากอังกฤษ. / ภายใต้การนำของ P. Nikiforov เอ็ด อันดับ 3 ม.: บ้านหนังสือ "LIBROKOM", 2554. - 152 น. (จากมรดกความคิดทางปรัชญาโลก: สุนทรียศาสตร์.)

หนังสือเล่มนี้เขียนโดยนักทฤษฎีศิลปะชาวอังกฤษที่โดดเด่น J. Reskin จัดทำขึ้นเพื่อ ศิลปกรรม. ผู้เขียนซึ่งครั้งหนึ่งเคยเดินทางไปอิตาลีบ่อยครั้งได้กำหนดหลักการของการวาดภาพที่ก่อตั้งโดย Florentine Giotto ผู้ยิ่งใหญ่

หลักการเหล่านี้ - กฎที่แท้จริงของความงาม - แตกต่างจากวิธีการ โรงเรียนคลาสสิกซึ่งถือว่าเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป และตามที่ผู้เขียนมีข้อผิดพลาดและข้อบกพร่องร้ายแรง หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเทคนิคการปฏิบัติและแบบฝึกหัดที่แนะนำสำหรับคนหนุ่มสาวที่ชอบวาดภาพรวมถึงคำพังเพยของ J. Ruskin ผู้เชี่ยวชาญด้านวรรณกรรมประเภทนี้

หนังสือเล่มนี้จะเป็นที่สนใจของนักปรัชญาสุนทรียศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ศิลปะ ตลอดจนผู้ชื่นชอบการวาดภาพทุกคน

ต่อ. จากอังกฤษ. เอ็ด ประการที่ 2 โปรเฟสเซอร์ - ม.: คมกนิกา, 2550. - 144 น. (จากมรดกความคิดทางปรัชญาโลก: สุนทรียศาสตร์.)

ผู้อ่านได้รับเชิญให้อ่านหนังสือของนักประวัติศาสตร์ศิลปะชาวอังกฤษที่โดดเด่นและนักปฏิรูปสังคม เจ. รัสกิน (1819-1900) ซึ่งเขียนขึ้นจากการบรรยายที่เขาบรรยายในแมนเชสเตอร์ในปี 1857

ผู้เขียนกำหนดขึ้นเอง งานที่ยาก- เพื่อแนะนำศีลธรรมและสุนทรียศาสตร์ในเศรษฐศาสตร์การเมือง ส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหานี้คือความปรารถนาที่จะแนะนำองค์ประกอบของความงามในชีวิตประจำวันของบุคคลในงานและการผลิตของเขา

เจ. รัสคินแสดงความเป็น ความคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานที่และบทบาทของรัฐ การค้นพบและการประยุกต์ใช้ความสามารถของมนุษย์ การสะสมและการกระจายผลงาน ฯลฯ

หนังสือเล่มนี้จะเป็นที่สนใจของนักปรัชญา นักวิจารณ์ศิลปะ และผู้เชี่ยวชาญในสาขาประวัติศาสตร์ความคิดทางเศรษฐกิจ ตลอดจนผู้อ่านที่สนใจทุกคน

การบรรยายศิลปะของจอห์น รัสกิน

ต่อ. จากอังกฤษ. พี. โคแกน, เอ็ด. อี. โคโนเนนโก. - M.: B.S.G.-Press, 2011. - 319 p., ภาพประกอบ - (อาร์ส ลองกา.)
ไอ 978-5-93381-294-4

กว่าหนึ่งศตวรรษต่อมา ผู้อ่านกลับมา หนังสือที่มีชื่อเสียงนักทฤษฎีศิลปะที่โดดเด่น นักวิจารณ์ศิลปะ และนักประชาสัมพันธ์ จอห์น รัสกิน ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของความคิดของปัญญาชนชาวอังกฤษในยุควิกตอเรียน และมีผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาประวัติศาสตร์ศิลปะและสุนทรียศาสตร์ในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่สิบเก้าและต้นศตวรรษที่ 20

ในการบรรยายที่มอบให้กับนักศึกษาอ็อกซ์ฟอร์ด ผู้เขียนเสนอการจัดประเภทของเขาเอง โรงเรียนสอนศิลปะวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของศิลปะกับศาสนา ศีลธรรม ผลประโยชน์ กำหนดวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ สถานะของศิลปะในปัจจุบัน และงานของศิลปะ

ดูการพิมพ์ซ้ำสมัยใหม่ของหนังสือของ John Ruskin ในหน้าต่างๆ ของเว็บไซต์

เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2362 ที่ลอนดอน พ่อแม่ของ Ruskin คือ D. J. Reskin หนึ่งในเจ้าของร่วมของบริษัทนำเข้าเชอร์รี่ และ Margaret Cock ลูกพี่ลูกน้อง. ยอห์นเติบโตมาในบรรยากาศแห่งการประกาศข่าวประเสริฐ อย่างไรก็ตาม พ่อของเขาชอบศิลปะ และเมื่อเด็กชายอายุได้ 13 ปี ครอบครัวของเขาก็เดินทางไปทั่วฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี และโดยเฉพาะสวิตเซอร์แลนด์ รัสกินเรียนการวาดภาพกับศิลปินชาวอังกฤษ Copley Fielding และ J.D. Harding และกลายเป็นช่างเขียนแบบที่มีฝีมือ เขาวาดภาพวัตถุทางสถาปัตยกรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชื่นชมสถาปัตยกรรมแบบกอธิค

ในปี 1836 Ruskin เข้าเรียนที่ Christ Church College, Oxford University ซึ่งเขาได้ศึกษาธรณีวิทยากับ W. Buckland เมื่ออายุได้ 21 ปี บิดาของเขาให้เงินจำนวนมากแก่เขา และทั้งคู่ก็เริ่มสะสมภาพวาดของ เจ. เทอร์เนอร์ (พ.ศ. 2318–2394) ในปี พ.ศ. 2382 รัสกินได้รับรางวัล Newdigate Prize for บทกวีที่ดีที่สุดบน ภาษาอังกฤษอย่างไรก็ตาม ในฤดูใบไม้ผลิปี ค.ศ. 1840 การศึกษาต่อของเขาที่อ็อกซ์ฟอร์ดต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากอาการป่วย เขาเริ่มมีเลือดออกซึ่งแพทย์เห็นว่าเป็นอาการของโรควัณโรค

ในปี พ.ศ. 2384 รัสกินเริ่มเสริมบทความที่เขาเขียนเมื่ออายุสิบเจ็ดปีเพื่อป้องกันภาพวาดของเทอร์เนอร์ ผลที่ได้คืองานห้าเล่ม ศิลปินร่วมสมัย(จิตรกรสมัยใหม่) เล่มแรกที่ปรากฏในปี พ.ศ. 2386

ในฤดูใบไม้ผลิปี 1845 เขาเดินทางผ่านสวิตเซอร์แลนด์ไปยังเมืองลุกกา ปิซา ฟลอเรนซ์ และเวนิส ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาเดินทางโดยไม่มีพ่อแม่ พร้อมด้วยลูกสมุนและมัคคุเทศก์เก่าแก่จากชาโมนิกซ์ เขาเกือบจะปลดปล่อยตัวเองจากอคติของนิกายโปรเตสแตนต์และสัมผัสความสุขอย่างไร้ขอบเขตในการวาดภาพเกี่ยวกับศาสนาตั้งแต่ Fra Angelico ไปจนถึง J. Tintoretto เขาแสดงความชื่นชมในเล่มที่สองของ Modern Artists (1846)

โดยเน้นที่สถาปัตยกรรมแบบกอธิค รัสกินตีพิมพ์ The Seven Lamps of Architecture ในปี 1849 ความเข้มงวดทางศีลธรรมที่มีลักษณะเฉพาะของรัสกินสอดคล้องกับจิตวิญญาณ วิคตอเรียนอังกฤษแนวคิดของเขาเกี่ยวกับ "ความซื่อสัตย์ทางสถาปัตยกรรม" และที่มาของการประดับประดาจากรูปแบบธรรมชาติยังคงมีอิทธิพลมามากกว่าหนึ่งชั่วอายุคน

จากนั้นรัสกินก็หันไปศึกษาสถาปัตยกรรมแบบเวนิส ร่วมกับภรรยาของเขา เขาใช้เวลาสองฤดูหนาวในเวนิส รวบรวมเนื้อหาสำหรับหนังสือ Stones of Venice (Stones of Venice) ซึ่งเขาตั้งใจที่จะให้เหตุผลที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นสำหรับแนวคิดที่กำหนดไว้ใน Seven Lamps โดยหลักแล้วคือศีลธรรมและ ด้านการเมือง หนังสือเล่มนี้ปรากฏที่จุดสูงสุดของ "Battle of Styles" ที่โหมกระหน่ำในลอนดอน เนื่องจากความสุขของคนทำงานได้รับการประกาศในหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของความงามแบบกอธิค มันจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของผู้สนับสนุนการฟื้นฟูแบบกอธิค นำโดย W. Morris

กลับไปอังกฤษ Ruskin ปกป้อง Pre-Raphaelites ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการที่ Academy ในปี 1851 ด้วยความเกลียดชัง รัสกินเป็นเพื่อนกับดี. อี. มิลส์ พรีราฟาเอลไลท์ที่อายุน้อยที่สุดและเก่งที่สุด ในไม่ช้าเอฟฟีภรรยาของมิลส์และรัสกินก็ตกหลุมรักกันและในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2397 หลังจากยกเลิกการแต่งงานกับรัสกินได้สำเร็จเอฟฟีก็แต่งงานกับมิลส์

บางครั้งรัสกินสอนการวาดภาพที่วิทยาลัยคนงานในลอนดอน ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของที. คาร์ไลล์ รัสกินยังคงทำงานต่อไปในเล่มที่สามและสี่ของ Modern Artists ในปี พ.ศ. 2400 เขาได้บรรยายหลักสูตรในแมนเชสเตอร์เรื่อง The Political Economy of Art ซึ่งต่อมาได้รับการตีพิมพ์ภายใต้หัวข้อ A Joy for Ever จากขอบเขตของการวิจารณ์ศิลปะ ความสนใจของเขาได้ย้ายไปที่ด้านการเปลี่ยนแปลงทางสังคมเป็นส่วนใหญ่ ชุดรูปแบบนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมในหนังสือ The Last, the First (Unto This Last, 1860) ซึ่งแสดงถึงวุฒิภาวะของมุมมองทางการเมืองและเศรษฐกิจของรัสกิน เขาสนับสนุนการปฏิรูปด้านการศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านงานฝีมือ เพื่อการจ้างงานทั่วๆ ไป และการช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้พิการ ในหนังสือ สิ่งสุดท้ายที่แสดงออกถึงสิ่งแรก วิกฤตทางจิตวิญญาณเรซิ่น เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2403 เขาได้รับความทุกข์ทรมานจากภาวะซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2412 เขาได้รับเลือกให้เป็นศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านศิลปะคนแรกที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ที่อ็อกซ์ฟอร์ด เขาทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมคอลเลกชันผลงานศิลปะทั้งต้นฉบับและถอดแบบสำหรับนักศึกษา ในปี พ.ศ. 2414 รัสกินเริ่มผลิต ฉบับรายเดือน"Fors Clavigera" จ่าหน้าถึงคนงานและกรรมกรของบริเตนใหญ่ ในนั้นเขาประกาศจัดตั้ง บริษัท เซนต์ จอร์จ ซึ่งมีหน้าที่สร้างเวิร์กช็อปบนพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งจะใช้แรงงานคนเท่านั้น ตลอดจนเปิดความสวยงามของการผลิตงานฝีมือให้กับคนงานจากสถานที่ต่างๆ เช่น เชฟฟิลด์ และค่อยๆ ลบล้างผลร้ายของการปฏิวัติอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 18 และ 19 ศตวรรษ.

ในตอนท้ายของปี พ.ศ. 2416 สภาพจิตใจของรัสกินเริ่มส่งผลกระทบต่อการบรรยายของเขา ในปี พ.ศ. 2421 เขาพิการด้วยอาการป่วยทางจิตที่รุนแรงและยาวนาน อย่างไรก็ตาม ความทรงจำของเขาไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง และหนังสือเล่มสุดท้ายของเขา อัตชีวประวัติของอดีต (Praeterita, 1885-1889) ก็กลายเป็นงานที่น่าสนใจที่สุดของเขา รัสกินเสียชีวิตใน Brantwood (North Lancashire) เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2443

กวีและนักวิจารณ์วรรณกรรม. John Ruskin เป็นคนหลายแง่มุม งานของเขาได้รับอิทธิพล การพัฒนาต่อไปประวัติศาสตร์ศิลปะที่สอง ครึ่งหนึ่งของ XIXศตวรรษ.

จอห์น รัสกิน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2362 ที่ลอนดอน ยอห์นเติบโตขึ้นและถูกเลี้ยงดูมาในกรอบของความเลื่อมใสในการประกาศข่าวประเสริฐ พ่อของจอห์นรักและมักจะเดินทางกับครอบครัวไปยังหลายประเทศ (ฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์) รัสกินเรียนการวาดภาพครูของเขาคือ ศิลปินอังกฤษ C. Fielding และ J. D. Harding John Ruskin วาดภาพวัตถุทางสถาปัตยกรรมเป็นส่วนใหญ่ชื่นชมสถาปัตยกรรมแบบกอธิคอย่างมากซึ่งเขาวาดด้วย

ในปี พ.ศ. 2379 จอห์น รัสกินเข้าเรียนที่วิทยาลัยไครสต์เชิร์ช มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ศึกษาธรณีวิทยากับ W. Buckland เมื่อจอห์นอายุ 21 ปี พ่อของเขาได้ให้เงินช่วยเหลือแก่เขาอย่างมากมาย ดังนั้นเขาทั้งสองจึงสามารถรวบรวมภาพวาดที่เขียนโดย J. Turner (1775-1851) John Ruskin ได้รับรางวัล Newdigate Prize สำหรับการเขียนบทกวีภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด (1839) แต่ในฤดูใบไม้ผลิ ปีหน้าการเรียนในมหาวิทยาลัยของเขาต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากอาการป่วย แพทย์จำอาการของโรควัณโรคได้

รัสกินยังคงเขียนมากเสริมเรียงความที่เขาปกป้องเทอร์เนอร์ซึ่งเขียนโดยเขาเมื่ออายุสิบเจ็ดปี ผลที่ได้คือคอลเลกชันห้าเล่ม - "Modern Artists" (พิมพ์เล่มแรกในปี พ.ศ. 2386)

การศึกษารากฐานของสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างใกล้ชิด ในปี 1849 จอห์น รัสกินได้ตีพิมพ์บทความของเขาเรื่อง The Seven Lamps of Architecture ไม่ใช่รุ่นเดียวที่ใช้ความคิดของเขาเกี่ยวกับ "ความซื่อสัตย์ทางสถาปัตยกรรม" และการเกิดขึ้นของการตกแต่งจากรูปแบบธรรมชาติธรรมดา

เมื่อเวลาผ่านไป จอห์น รัสกินเริ่มพิจารณาสถาปัตยกรรมแบบเวนิส เขาไปเวนิสพร้อมกับภรรยาของเขาซึ่งเขารวบรวมเนื้อหาสำหรับหนังสือ ใน "The Stones of Venice" เขาตั้งใจที่จะเปิดเผยแนวคิดที่กำหนดไว้ใน "Seven Lamps" ให้มากขึ้น หนังสือเล่มนี้ออกมาท่ามกลางการต่อสู้ของสไตล์และกลายเป็นส่วนสำคัญของโครงการของผู้สนับสนุนการฟื้นฟูกอธิค (นำโดย W. Morris)

ในปี พ.ศ. 2412 จอห์น รัสกินได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์ด้านศิลปะคนแรกที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในอ็อกซ์ฟอร์ดนักเขียนทำงานหนักสามารถเตรียมงานศิลปะที่น่าทึ่งสำหรับนักเรียนได้ ในปี พ.ศ. 2421 เขาได้รับความเจ็บป่วยทางจิตขั้นรุนแรง แต่เขาก็สามารถเขียนเรื่องสุดท้ายและมากที่สุดได้ หนังสือที่น่าสนใจ- อัตชีวประวัติ "อดีต" (2428-2432) นักเขียนเสียชีวิตใน Brantwood เมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2443

จอห์น รัสกิน

ความคิดที่เลือกโดย John Ruskin

การศึกษาใบไม้โดย John Ruskin

* * *

คำนำ

“จอห์น รัสกินเป็นหนึ่งใน คนที่ยอดเยี่ยมไม่เพียงแต่ในอังกฤษและในยุคของเราเท่านั้น แต่ในทุกประเทศและทุกยุคสมัย เขาเป็นหนึ่งในนั้น คนที่หายากที่คิดด้วยหัวใจของเขาจึงคิดและพูดในสิ่งที่ตัวเองเห็นและรู้สึกและสิ่งที่ทุกคนจะคิดและพูดในอนาคต ดังนั้นเขาจึงเขียนเกี่ยวกับนักประวัติศาสตร์ศิลป์ชาวอังกฤษ นักปรัชญา บุคคลสาธารณะจอห์น รัสกิน ลีโอ นิโคเลวิช ตอลสตอย Yasnaya Polenets ที่มีชื่อเสียงที่พบในผลงานของ Ruskin สอดคล้องกับมุมมองของเขาและในความเป็นจริงกลายเป็นหนึ่งในผู้นิยมของเขาในรัสเซีย

บุคลิกของนักวิจารณ์ชาวอังกฤษคนนี้ไม่เพียง แต่ได้รับความชื่นชมจากชาวรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ร่วมสมัยและนักคิดรุ่นต่อ ๆ ไปอีกด้วย การบรรยายของ Ruskin ที่ Oxford ดึงดูดผู้ฟังจำนวนมากจนไม่มีที่พอสำหรับทุกคนแม้แต่ในหอประชุมมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุด ในบรรดาผู้ชื่นชมในเวลาต่อมา ได้แก่ Marcel Proust, Oscar Wilde, Mahatma Gandhi กิจกรรมของ Ruskin พบความคล้ายคลึงกันในบทความของ Vladimir Stasov และ Bernard Shaw

รัสกินเป็นที่รู้จักในฐานะนักวิจารณ์และนักประวัติศาสตร์ศิลปะเป็นหลัก แต่เขายังชื่นชอบธรณีวิทยาอย่างมืออาชีพ ให้ความสนใจอย่างมากกับสถาปัตยกรรม จัดการกับปัญหาของโครงสร้างทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของสังคม ภาพร่างสถาปัตยกรรม ความสนใจที่หลากหลายดังกล่าวทำให้รัสกินเกี่ยวข้องกับตัวเลขของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาและยุคใหม่ตอนต้นแม้ว่าข้อเท็จจริงที่ว่าเขามักจะวิพากษ์วิจารณ์และปฏิเสธช่วงเวลานี้ในประวัติศาสตร์ศิลปะโดยเลือกยุคกลางมากกว่า

รัสกินสืบทอดความรักในศิลปะและธรรมชาติมาจากพ่อของเขา จอห์น เจมส์ รัสกิน พ่อค้าไวน์ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งครอบครัวของเขาเกิดในอนาคตในปี 2362 นักวิจารณ์ที่ดี. Ruskin Sr. ส่งต่อลูกชายของเขาไม่เพียง แต่งานอดิเรกของเขาเท่านั้น แต่ยังมีทัศนคติที่เคร่งศาสนาต่อพระคัมภีร์และความรักในวรรณกรรมที่จริงจัง (Homer, Shakespeare, Walter Scott เป็นที่นับถือในบ้านของพวกเขา) และกับพวกเขา - โชคมหาศาลที่ทำให้รัสกินรุ่นเยาว์ได้รับการศึกษาที่ยอดเยี่ยมที่อ็อกซ์ฟอร์ดและมีชีวิตที่สะดวกสบาย รัสกินเขียนในภายหลัง:“ งานของพ่อคือการพัฒนาจิตใจของลูกและงานของแม่คือการให้ความรู้แก่เจตจำนงของเขา ... การศึกษาทางศีลธรรมเป็นการส่งเสริมการพัฒนาปัญญาแห่งความสุข ความหวัง ความรัก เขาได้รับทั้งหมดนี้ในบ้านของเขาเอง

รัสกินเริ่มเขียนตั้งแต่อายุยังน้อย - เมื่ออายุยี่สิบปีเขาได้ตีพิมพ์ครั้งแรกเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม จากนั้นเขาก็พบและสนใจงานของ William Turner และเขียนหนังสือเล่มเล็กทั้งเล่มเพื่อป้องกันจิตรกรซึ่งในเวลานั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ความชื่นชมของเขาที่มีต่อ Turner นั้นยิ่งใหญ่จนทุกวันนี้ Ruskin ถูกเรียกว่าไม่มีใครนอกจากผู้บุกเบิกสำหรับสาธารณชนทั่วไปของศิลปินคนนี้ ในเวลานั้นเทอร์เนอร์อายุเกือบเจ็ดสิบ เขาเป็นสมาชิกและศาสตราจารย์ที่เกี่ยวข้องของราชบัณฑิตยสถาน อย่างไรก็ตามการสนับสนุนของรัสกินรุ่นเยาว์ทำให้ศิลปินสามารถทนต่อแรงกดดันจากทัศนคติของชาววิกตอเรียในการวาดภาพและศิลปะได้

สิ่งพิมพ์ของเขามีความสำคัญยิ่งขึ้นสำหรับกลุ่มศิลปินยุคก่อนราฟาเอล รัสกินทำให้มุมมองที่แตกต่างกันของจิตรกรรุ่นเยาว์และกล้าหาญ นำโดยวิลเลียม โฮลแมน ฮันต์, จอห์น เอเวิร์ต มิลส์ และดันเต กาเบรียล รอสเซ็ตติ กลายเป็นทฤษฎีที่สอดคล้องกัน งานวิพากษ์ของ Ruskin และสิ่งพิมพ์จำนวนหนึ่งของเขาสำหรับ The Times ช่วยให้ศิลปินมีความแข็งแกร่งในตำแหน่งของพวกเขา และนักวิจารณ์เองก็ได้รับการประกาศให้เป็นนักทฤษฎีก่อนราฟาเอลไลท์ ที่ปรึกษาและเพื่อนของพวกเขา ผลการวิจัยของเขาในสาขาศิลปะไม่ได้เป็นเพียงบทความและการบรรยายส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบทความ "Modern Artists" จำนวน 5 เล่มด้วย

การวิจารณ์ศิลปะของ Ruskin มักจะเป็นการวิจารณ์เรื่องรสนิยมเสมอ สิ่งพิมพ์และการบรรยายของเขาพยายามที่จะปรับปรุงและให้ความรู้เรื่องรสนิยมนี้ “รสชาติไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งหรือดัชนีของศีลธรรมเท่านั้น” รัสกินเขียน “แต่ยังมีคุณธรรมทั้งหมดอยู่ด้วย บอกฉันว่าคุณชอบอะไร แล้วฉันจะบอกคุณว่าคุณเป็นคนแบบไหน” ความงามที่ละเอียดอ่อนของ Ruskin การสนทนาโดยตรงกับสาธารณชน เขาได้หยิบยกขึ้นมาไม่เพียงแต่และไม่ใช่คำถามมากมายเกี่ยวกับธรรมชาติของมืออาชีพเท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจจากความอ่อนไหวของมนุษย์ ความเป็นกลางธรรมดา ยืนหยัดเพื่อศิลปะที่สามารถทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ศิลปะที่สร้างขึ้นในนามของผลประโยชน์ ความดี ความยุติธรรม. บางครั้งสุนทรพจน์ของเขาฟังดูเป็นการสอนและการจัดหมวดหมู่มากเกินไป แต่รัสกินเป็นคนในยุควิกตอเรียของเขา เติบโตมากับศีลธรรมอันเคร่งครัดของนิกายโปรเตสแตนต์ และคุ้นเคยกับการเรียกร้องสูงทั้งต่อตัวเขาเองและคนรอบข้าง

ต่อมาความสนใจของรัสกินได้ย้ายจากสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะไปสู่สาขาความรู้ทางสังคม เช่นเดียวกับนักคิดผู้ยิ่งใหญ่ เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อความอยุติธรรมและความไม่สมบูรณ์ของโครงสร้างสังคมร่วมสมัยได้ วันนี้เขามักถูกเรียกว่าผู้ก่อตั้งสังคมนิยมอังกฤษ ในสิ่งพิมพ์ของเขา Ruskin เรียกร้องให้มีการปฏิรูปต่าง ๆ รวมถึงในด้านการศึกษารวมถึงการเปลี่ยนแปลงในบทบาทปรมาจารย์ของผู้หญิงซึ่งจะทำให้เธอตระหนักว่าตัวเองอยู่ในที่สาธารณะแทนที่จะเป็นแม่บ้านที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ที่สำคัญที่สุด Ruskin วิพากษ์วิจารณ์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีซึ่งตามที่นักคิดได้ทำลายธรรมชาติที่เขารักทำลายอนุสาวรีย์ศิลปะและส่งผลเสีย จิตวิญญาณของมนุษย์. บางครั้งความคิดของเขาทำให้เกิดการเยาะเย้ย และศาสตราจารย์อ็อกซ์ฟอร์ดเองก็ดูเหมือนเป็นคนนอกรีต ตัวอย่างเช่น เขาสั่งเสื้อสำหรับตัวเองเท่านั้นจากผ้าลินินทอมือ หรือยืนกรานว่าหนังสือของเขาจะพิมพ์ด้วยเครื่องจักรด้วยตนเอง และไม่ว่าในกรณีใดจะต้องขนส่งทางรถไฟ

รัสกินพยายามฟื้นฟูการใช้แรงงานคนและงานฝีมือ โดยเชื่อว่าการผลิตเครื่องจักรทำให้ทั้งแรงงานและตัวบุคคลเสียบุคลิก แนวคิดหลักของเขาถูกกำหนดไว้ในงาน "The Political Economy of Art" ซึ่งเขียนขึ้นจากการบรรยายที่ Ruskin มอบให้ในแมนเชสเตอร์ในปี พ.ศ. 2400 เช่นเดียวกับในหนังสือ "Last as First" นอกจากนี้เขายังตีพิมพ์ฉบับพิเศษที่ได้รับความนิยม ผู้ชมหลักคือคนงานและช่างฝีมือชาวอังกฤษ “ไม่มีใครสามารถสอนสิ่งที่ควรค่าแก่การเรียนรู้ได้ นอกจากการลงมือทำ” รัสกินเขียน เขายังก่อตั้งกิลด์เซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นชุมชนที่มีภารกิจหลักคือการกลับคืนสู่ผืนดินและใช้แรงงาน เช่นเดียวกับการก่อตัวของยูโทเปียใดๆ กิลด์นั้นอยู่ได้ไม่นาน แต่มีอิทธิพลต่อการเกิดขึ้นต่อไปของชุมชนดังกล่าว ในเวลาเดียวกัน ลัทธิยูโทเปียที่ขัดแย้งกันของรัสกินประกอบด้วยข้อเท็จจริงที่ว่าเขาไม่ได้เขียนยูโทเปียทางวรรณกรรม แต่ยังคงอยู่ในด้านการวิจารณ์ศิลปะ สถาปัตยกรรม และระเบียบสังคม ใน ในแง่หนึ่งรัสกินทำหน้าที่เป็นหัวรุนแรงทางอุดมการณ์ในยุคของเขา ผู้ร่วมสมัยเรียกผลงานหลายชิ้นของเขาว่าเป็นตัวหนา

ทั้งหมดนี้เพื่อคุณ อายุยืน(เขามีอายุแปดสิบเอ็ดปี) จอห์น รัสกินเขียนงานหลายโหลและการบรรยายหลายร้อยรายการ - รวมประมาณสามสิบเล่ม อย่างไรก็ตาม มีเพียงส่วนเล็ก ๆ ของมรดกของเขาเท่านั้นที่เป็นที่รู้จักในรัสเซีย การแปลครั้งแรกปรากฏขึ้นเมื่อสิ้นสุดชีวิตของรัสกิน (เขาเสียชีวิตในปี 2443) ผลงาน “การศึกษา. หนังสือ. Woman” (ด้วยคำนำของ Tolstoy), “The Olive Wreath”, “To the Last and the First”, “Eagle's Nest” เล่มแรกของบทความ “Modern Artists”

ในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 และ 21 ผลงานของ Ruskin บางชิ้นได้รับการตีพิมพ์ซ้ำในรัสเซีย ในขณะที่ผลงานชิ้นอื่นๆ ได้รับการแปลเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นเพียงแค่ หน้าเด่นของผลงานของเขา โดยหลักแล้วคืองานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ (ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้น ปีที่แล้วความสนใจในกิจกรรมของศิลปินยุคก่อนราฟาเอล) หนึ่งศตวรรษต่อมา การบรรยายเกี่ยวกับศิลปะของรัสกินได้รับการตีพิมพ์ซ้ำสำหรับนักเรียนอ็อกซ์ฟอร์ด สำหรับผู้อ่านในปัจจุบัน การบรรยายเหล่านี้ไม่ได้ให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับ ชีวิตทางศิลปะอังกฤษไม่มีทั้งระบบหรือฐานทางวิทยาศาสตร์ที่มีโครงสร้าง อย่างไรก็ตามในพวกเขานักวิจารณ์สอนให้ผู้ฟังได้รับความรู้และทักษะจากงานของพวกเขาเองสอนการรับรู้ศิลปะอย่างลึกซึ้งเพราะสำหรับศาสตราจารย์รัสกินการรู้สึกถึงงานนั้นสำคัญกว่าการอธิบายอย่างถูกต้อง

ในบรรดาหนังสือประวัติศาสตร์ศิลปะเล่มอื่นๆ Walks in Florence ฉบับเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวเคยนำติดตัวไปเมื่อไปเมืองแห่งศิลปะอันยิ่งใหญ่ ได้เห็นแสงสว่างอีกครั้ง เมื่อรวมกับเธอแล้ว "กฎของ Fiesolo" ก็ออกมาอีกครั้งโดยบอกเล่า หลักการทางศิลปะจิออตโต้ผู้ยิ่งใหญ่ หนังสือ Stones of Venice ได้รับการตีพิมพ์เป็นครั้งแรกในภาษารัสเซียในรูปแบบย่อซึ่ง Ruskin ให้ภาพเหมือนของเมืองในน้ำและเหนือสิ่งอื่นใดคือรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิคที่เขานับถือ เมื่อไม่นานมานี้มีการแปลบทความทางสถาปัตยกรรมและเชิงทฤษฎี "Seven Lights of Architecture" ซึ่ง Ruskin ไม่ได้สนใจในประวัติศาสตร์ของรูปแบบไม่ใช่ในเชิงสร้างสรรค์และ ด้านเทคนิคสถาปัตยกรรม แต่ความหมายทางจริยธรรม ศีลธรรม และสังคมของสถาปัตยกรรม หนังสือ "Dust Ethics" ได้รับการตีพิมพ์เป็นภาษารัสเซียอย่างเป็นทางการ อุทิศตนเพื่อธรรมชาติแร่ธาตุ แต่เป็นการอธิบายความคิดทางปรัชญาของผู้เขียนเป็นหลัก แนวคิดของเขาเกี่ยวกับความจริงในพระคัมภีร์ไบเบิล วรรณกรรม ศิลปะ

John Ruskin (หรือ Ruskin) มีความโดดเด่นด้วยความสามารถมากมาย เขาเป็นนักทฤษฎีศิลปะที่โดดเด่น เป็นศิลปิน นักวิจารณ์วรรณกรรมกวีและนักเขียนที่แม้แต่ Marcel Proust ก็ตกหลุมรัก โดยรวมแล้วรัสกินเขียนหนังสือห้าสิบเล่มและบทความและการบรรยายเจ็ดร้อยเรื่องซึ่งส่วนใหญ่อุทิศให้กับงานศิลปะโดยทั่วไปและสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะ

จอห์น รัสกิน เกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2362 ที่ลอนดอน ปู่ของเขาเป็นพ่อค้าผ้าลาย และพ่อของเขาซึ่งเป็นเจ้าของร่วมของบริษัทนำเข้าเชอร์รี่ก็ขายผลิตภัณฑ์นี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จ แม้จะมีอาชีพทางโลก แต่พ่อของจอห์นก็รักงานศิลปะซึ่งมีอิทธิพลต่อลูกชายของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับการเลี้ยงดูทางศาสนาที่เข้มงวด ต้องขอบคุณที่จอห์นได้พัฒนาความเข้าใจทางศาสนาและจริยธรรมของชีวิต

เมื่อจอห์นอายุได้ 13 ปี ครอบครัวได้เริ่มท่องเที่ยวอย่างกว้างขวางในฝรั่งเศส เบลเยียม เยอรมนี และสวิตเซอร์แลนด์ ในระหว่างการเดินทาง Ruskin เก็บบันทึกการเดินทางซึ่งเขาจำเป็นต้องอธิบายถึงการก่อตัวทางธรณีวิทยาในประเทศที่เขาไปเยือน ต่อมาหลังจากได้เป็นวิทยากรที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดซึ่งเขาศึกษาอยู่ เขายืนยันว่าจิตรกรภูมิทัศน์ในอนาคตจะต้องศึกษาชีววิทยาและธรณีวิทยา ตลอดจนฝึกฝนการวาดภาพทางวิทยาศาสตร์: “ ในวันที่อากาศดี ฉันอุทิศเวลาเล็กน้อยให้กับการศึกษาธรรมชาติอย่างอุตสาหะ ในสภาพอากาศเลวร้ายฉันใช้ใบไม้หรือต้นไม้เป็นพื้นฐานแล้ววาดมัน สิ่งนี้ทำให้ฉันค้นหาชื่อพฤกษศาสตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้».

รัสกินเองศึกษาการวาดภาพกับศิลปิน Copley Fielding และ Harding และภายใต้คำแนะนำของพวกเขาก็กลายเป็นช่างเขียนแบบที่มีฝีมือ อย่างไรก็ตาม เขาหลงใหลในสถาปัตยกรรมเป็นหลัก โดยเฉพาะโกธิค สำหรับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด การศึกษาด้านธรณีวิทยาของรัสกินกับบัคแลนด์ต้องหยุดชะงักเนื่องจากสงสัยว่าเป็นวัณโรค อย่างไรก็ตาม ความกลัวของแพทย์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานอดิเรกอื่นๆ ก่อนตอนนี้ การตีพิมพ์ครั้งแรกของ Ruskin เรื่อง The Poetry of Architecture ปรากฏใน Architectural Journal; ในปี 1839 รัสกินได้รับรางวัล Newdige สำหรับบทกวีภาษาอังกฤษที่ดีที่สุด ในตอนท้ายของวัยสามสิบ Ruskin ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากพ่อของเขาเริ่มสะสมภาพวาดของ William Turner ซึ่งเป็นผลงานที่เขาหลงใหลมาเป็นเวลานาน ตอนอายุสิบเจ็ด Ruskin ยังเขียนเรียงความเพื่อป้องกัน Turner ซึ่งหลายปีต่อมาส่งผลให้งาน Modern Artists หลายเล่ม - เล่มแรกปรากฏในปี 1843 พวกเขากล่าวว่า Turner เองแทบจะไม่เข้าใจความหมายของคำชมเชยของผู้ชื่นชมที่กระตือรือร้นของเขาและไม่แม้แต่จะสนับสนุนการตีพิมพ์บทความแรกเกี่ยวกับตัวเขาซึ่งพ่อของ Ruskin ส่งให้ศิลปิน

ในปี พ.ศ. 2388 รัสกินเดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ที่ซึ่งเขารู้สึกยินดีกับภาพวาดทางศาสนาของ Fra Angelico และ Tintoretto ความกระตือรือร้นนี้ส่งผลให้ Modern Artists เล่มที่สองตีพิมพ์ในปี 1846 สามปีต่อมา Ruskin ตีพิมพ์บทความที่อุทิศให้กับความสนใจอื่นของเขา - สถาปัตยกรรมโกธิค- เจ็ดแสงแห่งสถาปัตยกรรม โดยทั่วไปแล้ว แรงงานยังคงไม่มีผู้อ้างสิทธิ์เนื่องจากลัทธิยูโทเปียอันไร้เดียงสาและความล้าสมัยของรัสกินที่ขัดกับเบื้องหลังของแนวหน้า การปฏิวัติทางสังคม และความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

รัสกินตามคำเรียกร้องของพ่อของเขายังคงเขียนงาน "Modern Artists" บรรยายเรื่อง "Political Economy in Art" ที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เขียนหนังสือในหัวข้อนี้ "Last as First" เขาสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาโดยเฉพาะในด้านงานฝีมือ สนับสนุนการจ้างงานถ้วนหน้าและช่วยเหลือผู้พิการและผู้สูงอายุ ในปี 1871 เขาเริ่มจัดพิมพ์ Fors Clavigera ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์รายเดือนสำหรับคนงานในบริเตนใหญ่ ซึ่งเขาเล่าถึงการก่อตั้งคณะเซนต์. จอร์จ ซึ่งควรจะสร้างเวิร์กช็อปที่ใช้แรงงานคนเท่านั้น เพื่อเผยความงามของงานหัตถกรรมให้คนงานเห็น และยังลบล้างผลที่ตามมาของการปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วย

John Ruskin ทำงานใน Brentwood, 1881

ในปี พ.ศ. 2394 Academy ได้จัดงานนิทรรศการของ Pre-Raphaelites ซึ่งได้รับการต้อนรับค่อนข้างเป็นศัตรู รัสกินปกป้องพวกเขาเขียนบทความ "Pre-Raphaelitism" และกลายเป็นเพื่อนกับคนส่วนใหญ่ ตัวแทนที่โดดเด่นกระแสของ John Everett Milles ซึ่งต่อมา Effie Grey ภรรยาของ Ruskin ก็จากไป ในเวลาเดียวกัน ในวัย 50 และ 60 ปี Ruskin หลงรัก Rosa La Touche ซึ่งตอนที่รู้จักกันนั้นมีอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น เมื่อหญิงสาวอายุ 18 ปี รัสกินขอเธอแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธ ในปีพ.ศ. 2415 เขาพยายามอีกครั้ง และถูกปฏิเสธอีกครั้ง ครั้งนี้เด็ดขาด สามปีต่อมาโรซาเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุและด้วยเหตุนี้การโจมตีด้วยอาการป่วยทางจิตของรัสกินซึ่งเริ่มย้อนกลับไปในอายุหกสิบเศษกลายเป็นบ่อยขึ้นในปี พ.ศ. 2428 เขาเกษียณในที่ดินของเขาซึ่งเขาไม่ได้จากไปจนกระทั่งเสียชีวิตใน 1900.

เป็นที่นิยมในหมวดหมู่: