เครื่องดนตรีของเอเชียกลาง: gamysh balaman, tuyduk และอื่น ๆ ภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์เครื่องดนตรีของเอเชียกลาง เครื่องดนตรีของเอเชียตะวันออกและเอเชียกลาง

เชิงนามธรรม

ภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ของเครื่องดนตรีในเอเชียกลาง

การแนะนำ

หัวข้อของเรียงความของฉันคือ "ภูมิศาสตร์ประวัติศาสตร์ของเครื่องดนตรี" ฉันคิดว่าหัวข้อนี้ค่อนข้างน่าสนใจและตรงประเด็น ลองถามคำถาม: "ทำไม"

ดนตรีเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่สำคัญและน่าสนใจที่สุดในธรรมชาติและในชีวิตของเรา ตั้งแต่เด็กปฐมวัย เราเริ่มได้ยินเสียงของคนอื่น เสียงนกร้อง เสียงทะเลและเสียงลม เสียงเหล่านี้ทำให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยสีสัน หากปราศจากเสียงเหล่านี้ ชีวิตคงน่าเบื่อมาก

การฟังเสียงของธรรมชาติคนในสมัยโบราณพยายามเรียนรู้วิธีเลียนแบบพวกเขาพยายามสร้างบางสิ่งบางอย่างที่เขาสามารถสร้างเสียงที่มีสีสันได้ ดังนั้นจึงมี เครื่องดนตรี. ในตอนแรกพวกเขาทำมาจากวิธีการชั่วคราวที่ธรรมดาที่สุด ตัวอย่างเช่น จากไม้อ้อธรรมดา หากคุณเจาะรู คุณจะได้ท่อที่สวยงาม และบล็อกที่หุ้มด้วยหนังสัตว์ทำหน้าที่เป็นกลองสำหรับคนโบราณ

ด้วยการพัฒนาของวัฒนธรรมและการเกิดขึ้นของชนชาติต่างๆ ทีละน้อย ความหลากหลายของเครื่องดนตรี เสียงและเสียงต่ำของพวกเขาก็เพิ่มขึ้น แต่ละประเทศพยายามสร้างเสียงพิเศษของตนเองโดยที่ชาติอื่น ๆ จะจดจำได้ สร้างเครื่องดนตรีของตัวเองซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงได้ชื่อนี้ - โฟล์ค ไม่ใช่โดยไม่มีเหตุผล ถ้าเราได้ยินเสียงของบาลาไลก้า เราจะนึกถึงรัสเซียทันที เสียงของดอมบราหรือโคบีซทำให้เรานึกถึงคาซัคสถาน

ด้วยเหตุนี้ เครื่องดนตรีและดนตรีจึงค่อย ๆ กลายเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมของชาติใด ๆ โดยเพิ่มลักษณะเฉพาะของตนเองเข้าไป ด้วยการกำเนิดของดนตรีพื้นบ้าน ประเพณีและขนบธรรมเนียมใหม่ ๆ เริ่มปรากฏขึ้น ตัวอย่างเช่นในหมู่ชาวคาซัคการแข่งขันดังกล่าวปรากฏขึ้น - aitys

กลับไปที่คำถามเดิมของฉัน ฉันอยากจะบอกว่าทุกคนควรรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของผู้คนของตน และเนื่องจากดนตรีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดองค์ประกอบหนึ่ง บุคคลจึงควรศึกษาเรื่องนี้ด้วย ท้ายที่สุดแล้วดนตรีมีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมประเพณีและขนบธรรมเนียมดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น

ในยุคของเราหลายคนเล่นเครื่องดนตรี แต่พวกเขาไม่รู้ประวัติความเป็นมาของมัน ผมถือว่าผิด มันเหมือนกับการไม่แสดงความเคารพต่อวัฒนธรรมของผู้ที่สร้างสรรค์เครื่องดนตรีนี้และนำมันและเสียงของมันมาสู่โลกของเรา

นอกจากนี้ ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากที่จะศึกษาประวัติความเป็นมาของเครื่องดนตรีชนิดใดชนิดหนึ่ง มันถูกสร้างขึ้นอย่างไรและทำไมมีตำนานใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเครื่องดนตรีนี้

ในเรียงความของฉัน ฉันอยากจะพูดถึงเครื่องดนตรีพื้นบ้านของเอเชียกลางโดยใช้ตัวอย่างของประเทศต่างๆ เช่น รัสเซีย จักรวรรดิจีน และคีร์กีซสถาน

ประเทศเหล่านี้มีความแตกต่างและ เรื่องราวที่น่าสนใจและวัฒนธรรม เพลงของพวกเขาก็แตกต่างกันเช่นกัน ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากที่จะอ่านเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของการเกิดขึ้นของ balalaika, gusli, guan, bankhu และ Kyrgyz chopo-choora และ temir-komuz และแนวดนตรีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนี้

1. เครื่องดนตรีของรัสเซีย

ประวัติความเป็นมาของเครื่องดนตรีพื้นบ้านของรัสเซียย้อนกลับไปในอดีตอันไกลโพ้น จิตรกรรมฝาผนังของวิหารเซนต์โซเฟียในเคียฟ วัสดุสัญลักษณ์ เพชรประดับ หนังสือที่เขียนด้วยลายมือ, ภาพพิมพ์ยอดนิยมเป็นพยานถึงความหลากหลายของเครื่องดนตรีของบรรพบุรุษของเรา เครื่องดนตรีโบราณที่นักโบราณคดีค้นพบเป็นหลักฐานที่แท้จริงของการมีอยู่ของมันในมาตุภูมิ ในช่วงที่ผ่านมา ชีวิตประจำวันคนรัสเซียคิดไม่ถึงหากไม่มีเครื่องดนตรี บรรพบุรุษของเราเกือบทั้งหมดมีความลับในการทำเครื่องดนตรีง่ายๆ และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ความคุ้นเคยกับความลับของงานฝีมือได้รับการปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก ในเกม ในงานที่เป็นไปได้สำหรับมือเด็ก การดูงานของผู้เฒ่าผู้แก่วัยรุ่นได้รับทักษะแรกในการสร้างเครื่องดนตรีที่ง่ายที่สุด

นอกจากนี้ ในหลายๆ ชนชาติ การสร้างเครื่องดนตรีมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเทพเจ้า เจ้าแห่งพายุฝนฟ้าคะนอง พายุหิมะ และลม ดังนั้นกับคนรัสเซีย ชาวสลาฟโบราณให้เกียรติบรรพบุรุษของพวกเขาและบูชาเทพเจ้าการบูชาเทพเจ้าได้แสดงต่อหน้าเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในวัดและใต้ ท้องฟ้าเปิดพร้อมด้วยระฆังและเทวรูป

พิธีทางศาสนาเพื่อเป็นเกียรติแก่ Perun (เทพเจ้าแห่งฟ้าร้องและสายฟ้า), Stribog (เทพเจ้าแห่งสายลม), Svyatovid (เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์), Lada (เทพีแห่งความรัก) เป็นต้น พร้อมร้องรำเล่นเครื่องดนตรีและจบด้วยงานเลี้ยงร่วมกัน

ตามที่นักวิจัยเพลงและศิลปะการบรรเลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้พัฒนาในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด เป็นไปได้ว่าการสวดมนต์ตามพิธีกรรมมีส่วนในการกำเนิดเครื่องดนตรีโดยมีโครงสร้างทางดนตรีของมัน เนื่องจากเพลงสวดในวัดมีการแสดงดนตรีประกอบ

นักประวัติศาสตร์ไบแซนไทน์ Theophylact Simokatta นักเดินทางชาวอาหรับ Al-Masudi นักภูมิศาสตร์ชาวอาหรับ Omar ibn Dast ยืนยันการมีอยู่ของเครื่องดนตรีในหมู่ชาวสลาฟโบราณ อย่างหลังใน "Book of Precious Treasures" ของเขาเขียนว่า "พวกเขามีพิณพิณและท่อทุกชนิด ... "

ในบทความเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ดนตรีในรัสเซียตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปลายศตวรรษที่ 18 นักดนตรีชาวรัสเซีย N.F. Findeisen ตั้งข้อสังเกตว่า: “เป็นไปไม่ได้เลยที่จะยอมรับว่าชาวสลาฟโบราณที่มีชีวิตในชุมชน ซึ่งพิธีกรรมทางศาสนาได้รับการพัฒนาอย่างมาก หลากหลายและประดับประดาด้วยความวิจิตรงดงาม จะไม่สามารถประดิษฐ์เครื่องดนตรีของตนเองได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่คำนึงว่า มีเครื่องดนตรีที่คล้ายกันในบริเวณใกล้เคียง"

ท่อไม้และแตร (ทองเหลืองสำหรับทหารและล่าสัตว์);

ระฆัง นกหวีดดินเหนียว (พิธี);

ขลุ่ยกระทะ;

gusli (สตริง); บาลาไลก้า;

หัวฉีดและขลุ่ย (เครื่องลมหลายาว)

เรามาพูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติของ balalaika และพิณ

บาลาไลก้า

บาลาไลก้าเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่กลายเป็น (พร้อมกับหีบเพลงและน่าเสียดาย) สัญลักษณ์ทางดนตรีคนรัสเซีย.

ชื่อของเครื่องดนตรีนั้นมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว โดยทั่วไปแล้วจะเป็นดนตรีพื้นบ้านซึ่งสื่อถึงลักษณะของการเล่นด้วยเสียงพยางค์ รากเหง้าของคำว่า "บาลาไลกา" หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "บาลาบายกา" ได้ดึงดูดความสนใจของนักวิจัยจากเครือญาติมาช้านานด้วยคำภาษารัสเซียเช่น บาลาคัต, บาลาโบนิท, บาลาโบลิต, โจ๊กเกอร์ ซึ่งหมายถึงการแชท ว่างเปล่า โทร (กลับไปที่สลาฟทั่วไป *bolbol ที่มีความหมายเดียวกัน ) แนวคิดทั้งหมดเหล่านี้เสริมซึ่งกันและกันถ่ายทอดสาระสำคัญของ balalaika ซึ่งเป็นเครื่องมือแห่งแสง ตลก "เสียงดีด" ที่ไม่จริงจังมากนัก

เป็นครั้งแรกที่คำนี้ได้รับการยืนยันในภาษายูเครนของต้นศตวรรษที่ 18 (ในเอกสารของปี 1717-1732) ในรูปแบบของ "balabaika" (เห็นได้ชัดว่านี่เป็นรูปแบบที่เก่ากว่าซึ่งยังคงอยู่ในภาษาเคิร์สต์และการาเชฟ ). ในภาษารัสเซียเป็นครั้งแรกในบทกวีของ V.I. Maikov "Elisey", 2314, เพลง 1: "ให้ฉันเป่านกหวีดหรือ balalaika"

ประวัติความเป็นมาของการกำเนิดของ balalaika มีรากฐานมาจากส่วนลึกของศตวรรษ ทุกอย่างไม่ง่ายนักเพราะมีเอกสารและข้อมูลจำนวนมากพอสมควรเกี่ยวกับที่มาของเครื่องมือ บาลาไลการัสเซีย หลายคนเชื่อว่าบาลาไลกาถูกประดิษฐ์ขึ้นในมาตุภูมิ คนอื่นๆ คิดว่ามาจากเครื่องดนตรีพื้นบ้านของคีร์กิซ - ไคซัคส์ - ดอมบรา มีอีกเวอร์ชันหนึ่ง: บางที balalaika อาจถูกประดิษฐ์ขึ้นในช่วงการปกครองของตาตาร์หรืออย่างน้อยก็ยืมมาจากพวกตาตาร์ ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะตั้งชื่อปีกำเนิดเครื่องดนตรี นักประวัติศาสตร์และนักดนตรีโต้แย้งเรื่องนี้เช่นกัน ส่วนใหญ่ยึดตามปี 1715 แต่วันที่นี้เป็นวันที่โดยพลการ เนื่องจากมีการอ้างอิงเพิ่มเติม ช่วงต้น- 1688. อาจเป็นไปได้ว่าข้าแผ่นดินคิดค้นบาลาไลก้าเพื่อทำให้การดำรงอยู่ของพวกเขาสดใสขึ้นโดยยอมจำนนต่อเจ้าของที่ดินที่โหดร้าย บาลาไลกาค่อยๆ แพร่กระจายไปในหมู่ชาวนาและตัวตลกที่เดินทางไปทั่วประเทศอันกว้างใหญ่ของเรา ตัวตลกแสดงในงานแสดงความบันเทิงผู้คนหาเลี้ยงชีพและวอดก้าหนึ่งขวดและไม่สงสัยด้วยซ้ำว่าพวกเขากำลังเล่นเครื่องดนตรีมหัศจรรย์อะไร ความสนุกอยู่ได้ไม่นานและในที่สุดซาร์และแกรนด์ดยุคแห่งอเล็กซี่มิคาอิโลวิชแห่งมาตุภูมิทั้งหมดได้ออกคำสั่งซึ่งเขาสั่งให้รวบรวมและเผาเครื่องดนตรีทั้งหมด (domra, balalaika, แตร, พิณ ฯลฯ ) และคนเหล่านั้นที่ไม่ยอมเชื่อฟังและให้บาลาไลก้า เฆี่ยนตีและถูกส่งตัวไปลี้ภัยในลิตเติ้ลรัสเซีย แต่เวลาผ่านไป กษัตริย์สิ้นพระชนม์และการกดขี่ก็ค่อยๆ ยุติลง Balalaika ดังขึ้นอีกครั้งทั่วประเทศ แต่ไม่นาน เวลาแห่งความนิยมถูกแทนที่ด้วยการลืมเลือนไปเกือบหมดจนถึงกลางศตวรรษที่ 19

ดังนั้น balalaika จึงหายไป แต่ก็ไม่เสียทีเดียว ชาวนาบางคนยังคงเล่นดนตรีด้วยซอสามสาย Vasily Vasilyevich Andreev และวันหนึ่งเมื่อเดินทางไปรอบ ๆ ที่ดินของเขา Vasily Vasilyevich Andreev ขุนนางหนุ่มคนหนึ่งได้ยินเสียง balalaika จากบ้านของเขา Antip Andreev รู้สึกทึ่งกับลักษณะเฉพาะของเสียงของเครื่องดนตรีชิ้นนี้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็คิดว่าตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดนตรีพื้นบ้านของรัสเซีย และ Vasily Vasilyevich ตัดสินใจที่จะสร้างเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจาก balalaika ในการเริ่มต้น เขาเรียนรู้ที่จะเล่นด้วยตัวเองอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเครื่องดนตรีนั้นเต็มไปด้วยความเป็นไปได้มากมาย และตัดสินใจที่จะปรับปรุงบาลาไลก้า Andreev ไปปีเตอร์สเบิร์กเพื่อ ช่างทำไวโอลิน Ivanov ขอคำแนะนำและขอให้คิดเกี่ยวกับวิธีปรับปรุงเสียงของเครื่องดนตรี อย่างไรก็ตาม Ivanov คัดค้านและกล่าวว่าเขาจะไม่ทำ balalaika อย่างเด็ดขาด Andreev ครุ่นคิดจากนั้นหยิบบาลาไลก้าเก่าออกมาซึ่งเขาซื้อในงานในราคาสามสิบ kopecks และแสดงหนึ่งในนั้นอย่างเชี่ยวชาญ เพลงพื้นบ้านซึ่งมีจำนวนมากในรัสเซีย อีวานอฟไม่สามารถต้านทานการโจมตีดังกล่าวได้และตกลง งานนั้นยาวนานและหนักหน่วง แต่ก็ยังมีการสร้าง balalaika ใหม่ แต่ Vasily Andreev รู้สึกบางอย่างมากกว่าการสร้างบาลาไลก้าที่ปรับปรุงแล้ว นำมันมาจากผู้คน เขาต้องการคืนมันให้กับผู้คนและแจกจ่ายมัน ตอนนี้ทหารที่รับใช้ทั้งหมดได้รับบาลาไลก้า และเมื่อออกจากกองทัพ ทหารก็นำเครื่องดนตรีไปด้วย

ดังนั้น balalaika จึงแพร่กระจายไปทั่วรัสเซียอีกครั้งและกลายเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดชิ้นหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น Andreev ตัดสินใจสร้างครอบครัวของบาลาไลก้า ขนาดแตกต่างกันตามรุ่น วงเครื่องสาย. ครอบครัวของ balalaikas ในการทำเช่นนี้เขาได้รวบรวมปรมาจารย์: Paserbsky และ Nalimov และพวกเขาทำงานร่วมกันสร้าง balalaikas: piccolo, เสียงแหลม, พรีมา, วินาที, วิโอลา, เบส, ดับเบิ้ลเบส จากเครื่องมือเหล่านี้ พื้นฐานของวง Great Russian Orchestra ถูกสร้างขึ้น ซึ่งต่อมาได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ นับไม่ถ้วนทั่วโลก เพื่อเชิดชู balalaika และวัฒนธรรมรัสเซีย มาถึงจุดที่ในประเทศอื่น ๆ (อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี) วงออเคสตร้าของเครื่องดนตรีพื้นบ้านรัสเซียถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของ Great Russian

Andreev เล่นในวงออเคสตราเป็นครั้งแรกจากนั้นเขาก็แสดง ในขณะเดียวกันเขาก็ให้ คอนเสิร์ตเดี่ยวที่เรียกว่า balalaika ตอนเย็น ทั้งหมดนี้มีส่วนทำให้ความนิยมของ balalaika เพิ่มขึ้นอย่างมากในรัสเซียและแม้แต่นอกพรมแดน ยิ่งไปกว่านั้น Vasily Vasilyevich ได้เลี้ยงดูนักเรียนจำนวนมากที่พยายามสนับสนุนการทำให้เป็นที่นิยมของ balalaika (Troyanovsky และอื่น ๆ ) ในช่วงเวลานี้นักแต่งเพลงให้ความสนใจกับ balalaika ในที่สุด เป็นครั้งแรกที่ balalaika เป่าด้วยวงออเคสตรา

วันนี้เครื่องมือกำลังประสบอยู่ เวลาที่ดีกว่า. มีนักแสดงมืออาชีพไม่กี่คน แม้แต่ในหมู่บ้านพวกเขาก็ลืมเรื่อง balalaika โดยทั่วไปแล้ว ดนตรีโฟล์คเป็นที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนที่เข้าร่วมคอนเสิร์ตหรือเล่นเครื่องดนตรีพื้นบ้านในวงแคบๆ ตอนนี้ผู้เล่น balalaika ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ V.B. คนเหล่านี้พยายามรักษาความนิยมของเครื่องดนตรีที่ยอดเยี่ยมของเราและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการสอนและคอนเสิร์ต

มีการขึ้นและลงในประวัติศาสตร์ของ balalaika แต่มันยังคงมีชีวิตอยู่และไม่ใช่เพื่ออะไรที่ชาวต่างชาติทุกคนเป็นตัวตนของวัฒนธรรมรัสเซีย

กุสลี

Gusli เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่เก่าแก่ที่สุดภายใต้ชื่อที่เข้าใจกันว่าพิณขี้เกียจหลายชนิดในรัสเซีย บทสดุดีสดุดี มีความคล้ายคลึงกับสดุดีของกรีกและกินนรของชาวยิว เหล่านี้รวมถึง: พิณ Chuvash, พิณ Cheremis, พิณรูปทรง clavier และพิณที่มีลักษณะคล้ายกับ Kantele ของฟินแลนด์, Kukles ของลัตเวียและ Kankles ลิทัวเนีย

เรากำลังพูดถึงเครื่องดนตรีที่มีอยู่ในดินแดนเบลารุส รัสเซีย ยูเครน ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย โปแลนด์ ฟินแลนด์ และบางประเทศในยุโรป เครื่องดนตรีเหล่านี้รวมเป็นหนึ่งด้วยคุณสมบัติที่สร้างสรรค์เป็นพิเศษ: พัดของสาย, ที่จับสาย, หมุดแถวและตัวสะท้อนเสียงที่อยู่ใต้สายสำหรับความยาวทั้งหมดของสาย ในการออกแบบเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น อาจมีคุณลักษณะและข้อยกเว้นต่างๆ ได้ แต่โดยปกติแล้วจะมีอยู่สี่ส่วนตามรายการ

ประวัติของกุสลีสลาฟ คันเตลฟินแลนด์ คันเนลเอสโตเนีย โคเคลลัตเวีย และคันเกลลิทัวเนีย และเครื่องดนตรีทั้งหมดที่ไม่ได้กล่าวถึงในที่นี้จากรายการเดียวกันจะถูกลดทอนให้มีรากเหง้าเดียวกันในบางช่วง เฉพาะอะไร? ไม่มีใครมีข้อมูลที่ถูกต้อง มีการคาดเดามากเกินไปในวรรณกรรมเกี่ยวกับ "ที่ไหน" และ "เมื่อไหร่" ของเวทีนี้ แต่เป็นเพียงการคาดเดา การคาดเดาเท่านั้น

ในสมัยโบราณสายธนูยางยืดเรียกว่า "กุสลา" ต่างกัน นี่คือหนึ่งในสมมติฐานที่มาของชื่อเครื่องดนตรี และด้วยการติดภาชนะกลวงเข้ากับเชือก เราก็ได้เครื่องดนตรีดึกดำบรรพ์ ดังนั้น: เครื่องสายและเครื่องสะท้อนเสียงที่ขยายเสียงเป็นหลักการสำคัญของเครื่องดนตรีที่ดึงออกมานี้

ในต้นฉบับภาษารัสเซียโบราณเรื่อง "The Tale of a Belarusian Man and Monasticism" นักย่อส่วนบรรยายในตัวอักษร "D" ร่างของกษัตริย์ รูปแบบของพวกเขาสอดคล้องกับเครื่องดนตรีที่มีอยู่ในสมัยนั้นในมาตุภูมิ นี่คือพิณที่เรียกว่า รูปร่างของพวกเขาคล้ายกับหมวกกันน็อคจริงๆ ต่อมารูปร่างของกล่องเรโซเนเตอร์แบบแบนก็เปลี่ยนไป กุสลีรูปสี่เหลี่ยมคางหมูปรากฏขึ้น จำนวนสายของเครื่องดนตรีลดลงและรูปร่างของร่างกายก็เปลี่ยนไปเช่นกัน กัสลีมีปีกจึงปรากฏขึ้น

ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 9 ชาวสลาฟทำให้กษัตริย์แห่งไบแซนเทียมประหลาดใจด้วยพิณ ในสมัยที่ห่างไกลนั้น เครื่องสดุดีทำจากแผ่นไม้สปรูซหรือไม้เมเปิลแห้งดังสนั่น เมเปิ้ล "Yavor" เป็นที่รักของช่างดนตรีเป็นพิเศษ นี่คือที่มาของชื่อพิณ - "Yarovchatye" / และทันทีที่สายเริ่มถูกดึงจากโลหะพิณก็ดังขึ้นและเริ่มถูกเรียกว่า "เปล่งเสียง"

ชะตากรรมของเครื่องดนตรีนี้เชื่อมโยงกับเพลงพื้นบ้านและประเพณีมหากาพย์มาช้านาน เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ช่างฝีมือได้ถ่ายทอดเคล็ดลับในการทำกุสลี เพลงห่านเพลงของนักร้องเป็นที่รักของทั้งประชาชนและกษัตริย์ แต่บ่อยครั้ง นักร้องลูกทุ่งร้องเพลงอย่างไม่ประจบสอพลอเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่

การกดขี่ข่มเหงของนักเล่นพิณ (คำนี้ฟังดูถูกต้อง) หรือในขณะที่นักเล่นพิณเริ่มเรียกพวกเขาอย่างเหยียดหยาม เป็นการรับใช้ที่ไร้ความปรานีต่อชะตากรรมของเครื่องดนตรี ความสนใจในการปรับปรุงของเขาไม่เหมือนกับที่เขาสนใจในชะตากรรมของไวโอลิน แต่เวลาได้เปลี่ยนเครื่องดนตรีโบราณนี้ การออกแบบ รูปทรงของตัวเครื่อง เทคโนโลยีการแปรรูปไม้ การเคลือบเงา การตกแต่งพื้นผิว ทั้งหมดนี้ทำให้พิณไม่อยู่ในประเภทของเครื่องดนตรีพื้นบ้านล้วน ๆ มาเป็นเวลานาน และเปลี่ยนให้เป็นเครื่องดนตรีระดับมืออาชีพบนเวทีพร้อมเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ปัจจุบันความสนใจในพิณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นักเล่นพิณสมัยใหม่ปรากฏตัวขึ้น - นักเล่าเรื่องที่เริ่มสร้างประเพณีโบราณทั้งเล่นพิณและร้องเพลงกับพิณ นอกจากพิณสามประเภทแล้ว เทคนิคหลักในการเล่นซึ่งก็คือการดีดและการเขย่า พิณคีย์บอร์ดก็ปรากฏขึ้นเช่นกัน กลไกที่ติดตั้งเมื่อคุณกดปุ่มเปิดสตริงและทำให้สามารถเลือกคอร์ดที่ต้องการได้ สิ่งนี้ทำให้การเล่นพิณเป็นเครื่องดนตรีประกอบง่ายขึ้นอย่างมาก

2. เครื่องดนตรีของจีน

ดนตรีพื้นบ้าน balalaika

ประวัติของเครื่องดนตรีพื้นบ้านของจีนมีระยะเวลาหลายพันปี การขุดค้นทางโบราณคดีแสดงให้เห็นว่าเมื่อกว่า 2,000 ปีที่แล้วและอาจเร็วกว่านั้น เครื่องดนตรีหลายชนิดถูกนำมาใช้ในประเทศจีนแล้ว ตัวอย่างเช่น จากการขุดค้นที่หมู่บ้านเหอมู่ตู้ในมณฑลเจ้อเจียง ได้มีการค้นพบกระดูกนกหวีดจากยุคหินใหม่ และที่หมู่บ้านเป่าโพ ในเมืองซีอาน มีเครื่อง "ซุ่น" (เครื่องลมดินเผา) ที่เป็นของ วัฒนธรรม Yangshao ถูกค้นพบ ในซากปรักหักพัง Yin ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน มีการพบ "shiqing" (ฆ้องหิน) และกลองที่หุ้มด้วยหนังงูเหลือม จากหลุมฝังศพของจักรพรรดิ Zeng (ฝังใน 433 ปีก่อนคริสตกาล) ค้นพบในเขต Suxiang ของมณฑลหูเป่ย "Xiao" (ขลุ่ยยาว) "sheng" (อวัยวะริมฝีปาก) "se" (พิณแนวนอน 25 สาย) ระฆัง "bianqing" (ฆ้องหิน) กลองต่างๆ และเครื่องดนตรีอื่นๆ

ตามกฎแล้วเครื่องดนตรีโบราณมีการใช้งานสองครั้ง - ใช้งานได้จริงและเป็นศิลปะ เครื่องดนตรีถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือหรือของใช้ในบ้านและในขณะเดียวกันก็ใช้ในการเล่นดนตรี ตัวอย่างเช่น "shiqing" (ฆ้องหิน) อาจมาจากเครื่องมือบางชนิดที่มีรูปร่างเหมือนจาน นอกจากนี้ยังใช้เครื่องดนตรีโบราณบางชนิดในการถ่ายทอดข้อมูลบางอย่าง ตัวอย่างเช่น การตีกลองทำหน้าที่เป็นสัญญาณในการเริ่มการรณรงค์ การตีฆ้องเพื่อล่าถอย ตีกลองกลางคืนเพื่อเอาชนะยามกลางคืน เป็นต้น ชนกลุ่มน้อยในชาติจำนวนหนึ่งยังคงมีประเพณีการแสดงความรักด้วยการเล่นทำนองด้วยเครื่องลมและเครื่องสาย

การพัฒนาเครื่องดนตรีมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการพัฒนาพลังการผลิตทางสังคม การเปลี่ยนจากการผลิตฆ้องหินเป็นฆ้องโลหะและการผลิตระฆังโลหะนั้นเป็นไปได้หลังจากการพัฒนาเทคโนโลยีการถลุงโลหะโดยมนุษย์เท่านั้น ด้วยการคิดค้นและพัฒนาการเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหม ทำให้สามารถผลิตเครื่องสาย เช่น "ฉิน" (จะเข้จีน) และ "เจิง" (เครื่องดนตรีโบราณที่มีสาย 13-16 สาย)

คนจีนมีความโดดเด่นในด้านความสามารถในการหยิบยืมสิ่งที่เป็นประโยชน์จากชนชาติอื่นมาโดยตลอด ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสต์ศักราช - 220 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เครื่องดนตรีจำนวนมากถูกนำเข้ามายังประเทศจีนจากประเทศอื่น ในยุคของราชวงศ์ฮั่น ขลุ่ยและ "shukunhou" (พิณแนวตั้ง) ถูกนำมาจากภูมิภาคตะวันตกและในยุคของราชวงศ์หมิง (1368-1644) - ฉิ่งและ "ลูกชาย" (ปี่จีน) เครื่องดนตรีเหล่านี้ซึ่งสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อย ๆ ในมือของปรมาจารย์ ค่อย ๆ เริ่มมีบทบาทสำคัญในวงออเคสตราดนตรีพื้นบ้านของจีน ควรสังเกตว่าในประวัติศาสตร์ของการพัฒนาเครื่องดนตรีพื้นบ้านของจีน เครื่องสายปรากฏขึ้นช้ากว่าเครื่องเคาะ เครื่องลม และเครื่องดีด

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ เครื่องสายซึ่งดึงเสียงโดยใช้ปิ๊กไม้ไผ่ ปรากฏเฉพาะในยุคราชวงศ์ถัง (ค.ศ.618-907) และเครื่องสาย เครื่องมือโค้งคำนับซึ่งธนูทำจากหางม้ามีต้นกำเนิดในราชวงศ์ซ่ง (960-1279) ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1206-1368) เครื่องสายอื่นๆ ได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นบนพื้นฐานนี้

หลังจากการก่อตั้งประเทศจีนใหม่ในช่วงกลางศตวรรษที่ผ่านมา บุคคลสำคัญทางดนตรีได้ดำเนินงานและปฏิรูปครั้งใหญ่เพื่อขจัดข้อบกพร่องของเครื่องดนตรีพื้นบ้านจำนวนหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นในความไม่บริสุทธิ์ของเสียง การแยกส่วนของระบบ ความไม่สมดุลของเสียง ยาก การมอดูเลตและมาตรฐานระดับเสียงที่ไม่เท่ากันสำหรับ เครื่องมือต่างๆ, การไม่มีตราสารลงทะเบียนขนาดกลางและต่ำ. ตัวเลขทางดนตรีมีความคืบหน้าอย่างมากในทิศทางนี้

กวน

Guan - ลมจีน เครื่องดนตรีกก(วาฬ. 管) สกุลปี่ กระบอกทรงกระบอกที่มีรูสำหรับเล่น 8 หรือ 9 รูทำจากไม้ ซึ่งมักทำจากกกหรือไม้ไผ่น้อยกว่า ไม้อ้อคู่ผูกด้วยลวดในส่วนแคบสอดเข้าไปในช่องกวน วงแหวนดีบุกหรือทองแดงจะสวมที่ปลายทั้งสองด้านของเครื่องดนตรี และบางครั้งก็อยู่ระหว่างรูสำหรับเล่น ความยาวรวมของกวนมีตั้งแต่ 200 ถึง 450 มม. ที่ใหญ่ที่สุดมีเบ้าทองเหลือง สเกลของกวนสมัยใหม่เป็นแบบสี ช่วงคือ es1-a3 (กวนขนาดใหญ่) หรือ as1 - c4 (กวนขนาดเล็ก) ใช้ในวงออร์เคสตร้าและเดี่ยว

ในประเทศจีน กวนกระจายอยู่ทั่วไปในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ทางตอนใต้ในมณฑลกวางตุ้งเรียกอีกอย่างว่า houguan (ภาษาจีน) 喉管). แบบดั้งเดิม ชื่อจีนเครื่องมือนี้ - จังหวะ (Ch. 筚篥) (ตรงตามแบบฟอร์มนี้ ( 篳篥 ในการสะกดแบบดั้งเดิม) ได้ย้ายไปเป็นภาษาเกาหลีและญี่ปุ่นแล้ว)

บานฮู้

เป่าหูเป็นเครื่องดนตรีเครื่องสายจีนประเภทเครื่องสายประเภทหูฉิน

ในศตวรรษที่ 20 บันฮูเริ่มถูกใช้เป็นเครื่องดนตรีออเคสตร้า บันฮูมี 3 ประเภท ได้แก่ รีจิสเตอร์สูง กลาง และต่ำ banhu ลงทะเบียนสูงที่พบมากที่สุด

3. เครื่องดนตรีของคีร์กีซสถาน

ดนตรีของชาวคีร์กีซไม่ใช่แค่การร้องเพลงประกอบดนตรี แต่เป็นศิลปะทั้งหมด เกมมืออาชีพอาจารย์ได้รับการฟังที่นี่โดยชุมชนทั้งหมดรวมตัวกัน อาคินส์ ( นักแสดงพื้นบ้าน) เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมดนตรีของประเทศ แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เพลงคีร์กีซมี มากมายทิศทาง แนวเพลง และรูปแบบการแสดงเพลง

ดนตรีของคีร์กีซสถานมีประวัติศาสตร์ของตัวเองตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เมื่อมาจากชนเผ่า เอเชียกลางได้ก่อตั้งชาวคีร์กีซขึ้น ส่วนต่าง ๆ ของประเทศมีเพลงพิเศษของตัวเอง ตัวอย่างเช่นในภาคใต้มีการแสดงเพลงในขณะที่เพลงทางเหนือของประเทศนั้นมีความหนืดและสงบ

หลายประเภทเป็นหัวใจของดนตรีดั้งเดิมของคีร์กีซสถาน: พิธีกรรม, ดั้งเดิม, แรงงาน, มหากาพย์, โคลงสั้น ๆ, งานศพ, เสียดสีและเนื้อหา นอกจากนี้ยังมีเพลงของเด็กผู้หญิงในท้องถิ่น "kyzdar yry" เพลงของผู้หญิง - kelinder yry และเพลงสำหรับเด็กที่เรียกว่า baldar yry รวมถึงแนวเพลงอื่น ๆ

การกล่าวถึงการร้องเพลงในสมัยโบราณยังได้รับการเก็บรักษาไว้ ตัวอย่างเช่นมีเพลง "Bekbekey" - ผู้หญิงขับร้องเมื่อพวกเขาปกป้องฝูงสัตว์ในตอนกลางคืน คณะนักร้องประสานเสียงยังร้องเพลง "Shyryldan" ด้วย และท่วงทำนองของเพลงนี้ก็หนืดและเศร้า เพลงรักยังเกิดขึ้นในเพลงของชาวคีร์กีซ

การก่อตัวและการปรับปรุงเครื่องดนตรีพื้นบ้านดำเนินไปตลอดประวัติศาสตร์ของชาวคีร์กีซและสิ้นสุดในราวศตวรรษที่ 16

เครื่องดนตรีพื้นบ้านคีร์กีซที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือซอสามสาย เครื่องมือที่ดึงออกมาโคมุซทำจากไม้แอปริคอท

kyl-kyyak เป็นเครื่องสายสองสายที่ได้รับความนิยม ซาวด์บอร์ดมักทำจากหนังอูฐ

ในการฝึกดนตรีพื้นบ้าน เครื่องดนตรีประเภทเป่าก็ใช้ได้เช่นกัน: เตเมียร์ โคมุซ ทำจากโลหะ และ ยีกัช อูซ โคมุซ ทำจากไม้

โชโป-ชอ

Chopo - choor (ดินประสานเสียง) - เครื่องดนตรีประเภทลมพื้นบ้านของคีร์กีซ มันถูกกระจายส่วนใหญ่ในภาคใต้, พื้นที่เกษตรกรรมของสาธารณรัฐภายใต้ ชื่อเรื่องต่างๆ- โชโปชูร์, ไลไลชูร์. รูปแบบของมันเป็นไปตามอำเภอใจ หนึ่งในตัวอย่างโบราณซึ่งอยู่ในคอลเลกชันของศาสตราจารย์ S. Subanaliev ทำในรูปของดินเหนียวสีขาวก้อนเล็ก ๆ ความสูงของมันมากกว่า 5 ซม. เล็กน้อย เกมสองเกมและรูปากกระบอกปืนหนึ่งรูตั้งอยู่ในลักษณะที่สามารถปิดปากและนิ้วชี้ของมือทั้งสองข้างพร้อมกันได้ (อุปกรณ์รองรับด้วยนิ้วหัวแม่มือ ). Chopo choor พื้นบ้านเป็นเรื่องง่ายในการปฏิบัติ เสียงต่ำน่าหลงใหล นุ่มลึก เห็นได้ชัดว่าchopo-choorสามารถทำหน้าที่เป็น ของเล่นดนตรีสำหรับเด็กและเป็นเครื่องมือที่เท่าเทียมกันใน ชุดชาวบ้าน. ขณะนี้เครื่องมือได้รับการปรับปรุงแล้ว โดยสร้างขึ้นใหม่ ลายโบราณครอบครัวของ Chopo Choors ใหม่ถูกสร้างขึ้น

ในสมัยโบราณ Kyrgyz ใช้สำหรับเลี้ยงสัตว์ เมื่อได้ยินเสียงของchopo - choora ที่ทำโดยคนเลี้ยงแกะ แกะไม่เคยต่อสู้กลับจากฝูง พวกมันตามคนเลี้ยงแกะไปยังสถานที่อพยพและกลับมา

เทมีร์-โคมุซ

ชาวคีร์กีซดึงเพลงกก เครื่องมือ. สกุลวาร์กัน เป็นเกือกม้าเหล็ก (เช่น ทองแดงหรือทองเหลือง) ที่มีปลายยาวและเรียว (ความยาว 60-120 มม. ความกว้างที่ฐาน 3.5-7 มม.) ลิ้นเป็นแผ่นเหล็กเสริมตรงกลางของส่วนโค้งการตีขึ้นรูป กดเครื่องมือด้วยการตีฟันด้วยมือข้างเดียว นักแสดงบน T.-to. (เรียกว่าโคมุซจิ) บีบลิ้น นิ้วชี้อีกมือหนึ่งรับหลัก โทนเสียง (โดยปกติจะอยู่ภายใน f - d1) ช่องปากทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อน (ดังนั้นคำที่ใช้กันทั่วไปในหมู่ชนชาติต่างๆ สำหรับเครื่องดนตรีประเภทนี้: German Maultrommel - oral drum เป็นต้น) โดยการเปลี่ยนรูปร่างของปาก เสียงหวือหวาที่สร้างเป็นทำนอง เมโลดี้จะฟังด้วยเบอร์ดอนต่อเนื่อง (โทนเสียงหลัก) ช่วงการทำงาน - ภายในหก; ช่วงสูงสุดไม่เกิน duodecim (ความกว้างของช่วงถูกกำหนดโดยความสามารถของนักแสดงในการควบคุมการจ่ายอากาศ) ต.-ถึง. - เครื่องดนตรีเดี่ยว พวกเขาแสดง ch. อร๊าย คยูตลอดจนท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้าน เทคนิคของมือขวานั้นมีความหลากหลาย - ด้วยความช่วยเหลือมากมาย เสียงและเอฟเฟกต์ภาพ บางครั้งนักแสดงใน T.-to. รวมการเล่นผิวปาก ต.-ถึง. แพร่หลายโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงและวัยรุ่น ที่พบได้น้อยในหมู่คีร์กิซคือพิณไม้ที่เรียกว่า "จิกาค-โอซโคมุซ ».

บทสรุป

ในบทความนี้ เราได้ตรวจสอบประวัติความเป็นมาของเครื่องดนตรีในรัสเซีย จีน และคีร์กีซสถาน การเรียนรู้เกี่ยวกับต้นกำเนิดและโครงสร้างของเครื่องดนตรีเช่น gusli, bankhu และ temir - komuz เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก หลังจากอ่านทั้งหมดเกี่ยวกับเครื่องมือและการเขียนเหล่านี้แล้ว งานนี้ฉันใกล้ชิดกับวัฒนธรรมของคนเหล่านี้มากขึ้น และนั่นคือเป้าหมายหลักของฉัน อย่างที่ฉันได้กล่าวไปแล้วในบทนำ หน้าที่ของทุกคนคือการเคารพและรู้จักวัฒนธรรมของผู้คนของตน ตลอดจนศึกษาวัฒนธรรมอื่น ๆ และปฏิบัติต่อแต่ละวัฒนธรรมด้วยความเคารพ

หนังสือมือสอง

2.http://sounds.kg/ru/dyhovie/21 "Chopo-choor"

http://russian.china.org.cn/russian/219364.htm "การเกิดขึ้นของเครื่องดนตรีพื้นบ้านจีน", "Banhu" "Guan". (ศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตจีน china.org.cn) 23/11/2549

http://antisait.ru/inc/content/strany/kyrgyzstan.php "ดนตรีของชาวคีร์กีซ" 2555

http://dic.academic.ru/dic.nsf/enc_music/7479/%D0% A2% D0% B5% D0% BC % D0% B8% D1% 80 "Temir - komuz"

http://eomi.ws/plucked/gusli/ กัสลี 2010

ดูตาร์ ดู่ - สอง น้ำมันดิน - สตริง เครื่องดนตรีที่มีเฟร็ตปลอมและสายสองเส้น คุณคิดว่ายิ่งสตริงน้อยยิ่งเล่นง่าย เพราะเหตุใด

ถ้าอย่างนั้นฟังหนึ่งในนั้น ช่างฝีมือที่ดีที่สุดเล่นดูตาร์ - อับดูราคิม ไคตา ชาวอุยกูร์จากซินเจียง ประเทศจีน
นอกจากนี้ยังมี Turkmen dutar สายและเฟร็ตของ Turkmen dutar เป็นโลหะ ตัวเครื่องทำจากไม้ชิ้นเดียว เสียงที่สดใสและดังกังวาล เครื่องดนตรีดูตาร์ของเติร์กเมนิสถานเป็นเครื่องดนตรีชิ้นโปรดของฉันในช่วงสามปีที่ผ่านมา และเครื่องดนตรีดูตาร์ที่แสดงในภาพเพิ่งนำมาให้ฉันจากทาชเคนต์ไม่นานมานี้ เครื่องมือที่น่าทึ่ง!

อาเซอร์ไบจาน saz. เครื่องสายทั้ง 9 สายแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม แต่ละสายได้รับการปรับเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน เครื่องดนตรีที่คล้ายกันในตุรกีเรียกว่าบากลามา

อย่าลืมฟังว่าเครื่องดนตรีนี้ให้เสียงอย่างไรเมื่ออยู่ในมือของปรมาจารย์ หากคุณมีเวลาน้อย ให้ดูอย่างน้อยตั้งแต่ 2:30 น.
จาก saz และ baglama เครื่องดนตรีกรีก bouzouki และเวอร์ชันไอริช

Oud หรือ al-ud ถ้าคุณเรียกเครื่องดนตรีนี้ในภาษาอาหรับ มันมาจากชื่อภาษาอาหรับของเครื่องดนตรีนี้ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพิณยุโรป Al-ud - lute, lute - คุณได้ยินไหม? ไม้อู๊ดแบบปกติไม่มีเฟรต - เฟรตในตัวอย่างจากคอลเลคชันของฉันนี้ปรากฏในความคิดริเริ่มของฉัน

ฟังว่าปรมาจารย์จากโมร็อกโกเล่นอู๊ดอย่างไร

จากไวโอลิน Erhu สองสายของจีนที่มีตัวสะท้อนเสียงที่เรียบง่ายและเยื่อหุ้มหนังขนาดเล็ก กิดจักแห่งเอเชียกลางถือกำเนิดขึ้น ซึ่งในคอเคซัสและตุรกีเรียกว่าเคมันชา

ฟังว่า kemancha ฟังอย่างไรเมื่อ Imamyar Khasanov เล่น

rubab มีห้าสาย สี่ตัวแรกจะเพิ่มเป็นสองเท่า แต่ละคู่จะถูกปรับโดยพร้อมเพรียงกัน และสายเบสจะเป็นหนึ่งเดียว คอยาวมีเฟรตตามสเกลสีเกือบสองอ็อกเทฟและรีโซเนเตอร์ขนาดเล็กพร้อมเมมเบรนหนัง คุณคิดว่าเขาที่โค้งลงมาจากคอถึงเครื่องดนตรีหมายถึงอะไร รูปร่างของมันทำให้คุณนึกถึงหัวแกะหรือไม่? แต่รูปร่างโอเค - ช่างเป็นเสียง! คุณน่าจะเคยได้ยินเสียงของเครื่องดนตรีชิ้นนี้! มันสั่นสะเทือนและสั่นแม้กับคอที่ใหญ่โตของมัน มันเติมเต็มพื้นที่ทั้งหมดด้วยเสียงของมัน

ฟังเสียงของ Kashgar rubab แต่ rubab ของฉันฟังดูดีกว่าจริงๆ

น้ำมันดินอิหร่านมีลำตัวกลวง 2 ชั้นทำจากไม้ชิ้นเดียวและเยื่อที่ทำจากหนังปลาอย่างดี สายหกคู่: สายเหล็กสองเส้น ตามด้วยเหล็กและทองแดงผสมกัน และคู่ถัดไปปรับเป็นอ็อกเทฟ - สายทองแดงหนาจะปรับอ็อกเทฟใต้เหล็กบาง น้ำมันดินของอิหร่านได้บังคับเฟร็ตที่ทำจากเส้นเลือด

ฟังว่าน้ำมันดินอิหร่านมีเสียงอย่างไร
น้ำมันดินของอิหร่านเป็นบรรพบุรุษของเครื่องดนตรีหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ setar ของอินเดีย (se - three, tar - string) และฉันจะพูดถึงอีกสองตัวด้านล่าง

อาเซอร์ไบจันทาร์ไม่มีหก แต่มีสิบเอ็ดสาย เช่นเดียวกับน้ำมันดินอิหร่าน 6 สาย สายเบสเพิ่มเติมและสายที่ไม่ได้เล่นอีก 4 สายที่กังวานเมื่อเล่น เพิ่มเสียงก้องให้กับเสียงและทำให้เสียงอยู่ได้นานขึ้น Tar และ kemancha อาจเป็นเครื่องดนตรีหลักสองชิ้นของดนตรีอาเซอร์ไบจัน

ฟังสักครู่ เริ่มเวลา 10:30 น. หรืออย่างน้อยเริ่มเวลา 13:50 น. คุณไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อนและนึกไม่ถึงว่าการแสดงแบบนี้จะเป็นไปได้ในเครื่องดนตรีชิ้นนี้ เรื่องนี้เล่นโดยพี่ชายของ Imamyar Khasanov - Rufat

มีสมมติฐานว่าน้ำมันดินเป็นบรรพบุรุษของกีตาร์ยุโรปสมัยใหม่

เมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อฉันพูดถึงหม้อไฟฟ้าพวกเขาตำหนิฉัน - พวกเขาพูดว่าฉันเอาวิญญาณออกจากหม้อต้ม อาจมีการพูดเรื่องเดียวกันนี้กับคนที่เมื่อ 90 ปีก่อนเดาว่าจะวางปิ๊กอัพบนกีตาร์อะคูสติก ประมาณ 30 ปีต่อมา มีการสร้างตัวอย่างกีตาร์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด ซึ่งยังคงเป็นมาตรฐานจนถึงทุกวันนี้ วันนี้. หนึ่งทศวรรษต่อมา The Beatles ก็ปรากฏตัวขึ้น หินกลิ้งตามด้วย Pink Floyd
และความคืบหน้าทั้งหมดนี้ไม่ได้รบกวนผู้ผลิต กีต้าร์โปร่งและผู้เล่นกีตาร์คลาสสิค

แต่เครื่องดนตรีไม่ได้แพร่กระจายจากตะวันออกไปตะวันตกเสมอไป ตัวอย่างเช่นหีบเพลงกลายเป็นเรื่องผิดปกติ เครื่องดนตรียอดนิยมในอาเซอร์ไบจานในศตวรรษที่ 19 เมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานชาวเยอรมันกลุ่มแรกปรากฏตัวที่นั่น

หีบเพลงของฉันทำโดยปรมาจารย์คนเดียวกับที่ทำเครื่องดนตรีให้กับ Aftandil Israfilov ฟังว่าเสียงเครื่องดนตรีนี้เป็นอย่างไร

โลกของเครื่องดนตรีตะวันออกมีขนาดใหญ่และหลากหลาย ฉันยังไม่ได้แสดงให้คุณเห็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันของฉัน ซึ่งยังห่างไกลจากความสมบูรณ์ แต่ฉันต้องบอกคุณเกี่ยวกับเครื่องดนตรีอีกสองชิ้น
ท่อที่มีกระดิ่งอยู่ด้านบนเรียกว่า zurna และเครื่องดนตรีที่อยู่ข้างใต้นั้นเรียกว่า ดูดุก หรือ บาลาบัน

การเฉลิมฉลองและงานแต่งงานเริ่มต้นด้วยเสียงของ Zurna ในคอเคซัส ตุรกี และอิหร่าน

นี่คือลักษณะของเครื่องดนตรีที่คล้ายกันในอุซเบกิสถาน

ในอุซเบกิสถานและทาจิกิสถาน zurna เรียกว่า surnay ในเอเชียกลางและอิหร่าน เสียงที่เอ้อระเหยของเครื่องดนตรีอีกชนิดหนึ่งคือ คาร์เนย์ จำเป็นต้องเพิ่มเข้าไปในเสียงของแซร์เนย์และแทมบูรีน Karnay-surnay เป็นวลีที่มั่นคงซึ่งแสดงถึงการเริ่มต้นของวันหยุด

ที่น่าสนใจคือเครื่องดนตรีที่เกี่ยวข้องกับ karnay มีอยู่ใน Carpathians และชื่อนี้เป็นที่คุ้นเคยสำหรับหลาย ๆ คน - trembita

และท่ออันที่สองที่แสดงในรูปภาพของฉัน เรียกว่า บาลาบัน หรือ ดูดุก ในตุรกีและอิหร่าน เครื่องดนตรีนี้เรียกอีกอย่างว่า mey

ฟังว่า Alikhan Samedov เล่นบาลาบันอย่างไร

เราจะกลับไปที่บาลาบัน แต่ตอนนี้ฉันต้องการพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันเห็นในปักกิ่ง
เท่าที่คุณเข้าใจ ฉันสะสมเครื่องดนตรี และทันทีที่ฉันมีเวลาว่างระหว่างการเดินทางไปปักกิ่ง ฉันก็รีบไปที่ร้านขายเครื่องดนตรีทันที สิ่งที่ฉันซื้อเองในร้านนี้ฉันจะบอกคุณอีกครั้ง และตอนนี้ฉันไม่ได้ซื้อและสิ่งที่ฉันเสียใจมาก
ในหน้าต่างมีท่อที่มีระฆัง การออกแบบคล้ายกับ Zurna
- เรียกว่าอย่างไร? ฉันถามผ่านล่าม
- Sona - พวกเขาตอบฉัน
- คล้ายกับ "sorna - surnay - zurna" - ฉันคิดดัง ๆ และผู้แปลยืนยันการเดาของฉัน:
- คนจีนไม่ออกเสียงตัวอักษร r กลางคำ

คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหลากหลายของ zurna ของจีน
แต่คุณรู้ไหม zurna และ balaban นั้นไปด้วยกันได้ การออกแบบของพวกเขามีหลายอย่างที่เหมือนกัน - นั่นอาจเป็นเหตุผล และสิ่งที่คุณคิดว่า? ถัดจากเครื่องดนตรีโซนาคือเครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่ง - กวนหรือกวนจี นี่คือสิ่งที่ดูเหมือน:

นี่คือสิ่งที่ดูเหมือน พวกสหายสุภาพบุรุษ แต่นี่คือ duduk!
แล้วเขาไปถึงเมื่อไหร่? ในศตวรรษที่แปด ดังนั้นจึงสันนิษฐานได้ว่ามาจากประเทศจีน - เวลาและภูมิศาสตร์ตรงกัน
จนถึงขณะนี้ มีเอกสารเพียงว่าเครื่องมือนี้แพร่กระจายไปทางตะวันออกจากซินเจียง พวกเขาเล่นเครื่องดนตรีนี้ในซินเจียงสมัยใหม่ได้อย่างไร?

รับชมและรับฟังตั้งแต่วินาทีที่ 18! แค่ฟังว่าอุยกูร์บาลามานมีเสียงที่หรูหราเพียงใด - ใช่เรียกที่นี่ว่าเหมือนกับในภาษาอาเซอร์ไบจันทุกประการ (มีการออกเสียงชื่อดังกล่าว)

และลองหาข้อมูลเพิ่มเติมในแหล่งข้อมูลอิสระ เช่น ในสารานุกรมอิหร่าน:
บาลาบัน
ช. ไบรท์
เครื่องดนตรีประเภทเป่าลมสองลิ้นที่มีรูเจาะเป็นทรงกระบอก ยาวประมาณ 35 ซม. มีรูนิ้วเจ็ดรูและรูหัวแม่มือหนึ่งรู เล่นในอาเซอร์ไบจานตะวันออกในอิหร่านและในสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน

หรืออิหร่านิกาเห็นอกเห็นใจอาเซอร์ไบจานหรือไม่? TSB ยังบอกด้วยว่าคำว่า duduk มีต้นกำเนิดจากภาษาเตอร์ก
อาเซอร์ไบจานและอุซเบกติดสินบนคอมไพเลอร์หรือไม่?
คุณจะไม่สงสัยว่าชาวบัลแกเรียเห็นอกเห็นใจพวกเติร์กอย่างแน่นอน!
บนไซต์ภาษาบัลแกเรียที่รุนแรงมากสำหรับคำว่า duduk:
ดูดุก, ดูดุก; duduk, dudyuk (จากภาษาตุรกี düdük), squeaker, svorche, glasnik, เพิ่มเติม - Naroden darven เป็นเครื่องดนตรีประเภท Aerophonite, ท่อครึ่งปิด
พวกเขาชี้ไปที่ที่มาของคำในภาษาตุรกีอีกครั้ง และเรียกมันว่าเครื่องดนตรีพื้นบ้านของพวกเขา
เครื่องมือนี้แพร่หลายโดยส่วนใหญ่ในหมู่ชนชาติเตอร์กหรือในหมู่ชนชาติที่มีการติดต่อกับพวกเติร์ก และทุกประเทศถือว่ามันเป็นเครื่องดนตรีประจำชาติของตนอย่างมีเหตุผล แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้เครดิตสำหรับการสร้าง

ท้ายที่สุดมีเพียงคนขี้เกียจเท่านั้นที่ไม่ได้ยินว่า "duduk เป็นเครื่องดนตรีอาร์เมเนียโบราณ" ในเวลาเดียวกันพวกเขาบอกใบ้ว่า duduk ถูกสร้างขึ้นเมื่อสามพันปีที่แล้ว - นั่นคือในอดีตที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ข้อเท็จจริงและตรรกะพื้นฐานแสดงให้เห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น

กลับไปที่จุดเริ่มต้นของบทความนี้และดูเครื่องดนตรีอีกครั้ง เครื่องดนตรีเหล่านี้เกือบทั้งหมดเล่นในอาร์เมเนียด้วย แต่เป็นที่ชัดเจนว่าเครื่องมือเหล่านี้ปรากฏอยู่ท่ามกลางชนชาติจำนวนมากที่มีประวัติที่ชัดเจนและเข้าใจได้ซึ่งชาวอาร์เมเนียอาศัยอยู่ ลองนึกภาพคนกลุ่มเล็กๆ ที่อาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจายท่ามกลางชนชาติอื่นๆ ที่มีรัฐและอาณาจักรเป็นของตนเอง คนเช่นนี้จะสร้างเครื่องดนตรีครบชุดสำหรับวงออร์เคสตราทั้งหมดหรือไม่?
ตรงไปตรงมา ฉันก็คิดเหมือนกันว่า: "เอาล่ะ เครื่องดนตรีเหล่านั้นมีขนาดใหญ่และซับซ้อน เลิกกันเถอะ แต่อย่างน้อยชาวอาร์เมเนียก็คิดท่อได้" และปรากฎว่าไม่ พวกเขาไม่ได้ทำ หากพวกเขาคิดขึ้นมาท่อนี้จะมีชื่ออาร์เมเนียล้วน ๆ ไม่ใช่ tsiranopok เชิงกวีและเชิงเปรียบเทียบ (วิญญาณของต้นแอปริคอท) แต่เป็นสิ่งที่ง่ายกว่าเป็นที่นิยมมากกว่าโดยมีรากเดียวหรือสร้างคำเลียนเสียงธรรมชาติทั้งหมด จนถึงตอนนี้ แหล่งที่มาทั้งหมดชี้ไปที่นิรุกติศาสตร์ของชื่อของเครื่องดนตรีนี้ และภูมิศาสตร์และวันที่จำหน่ายแสดงให้เห็นว่า duduk เริ่มจำหน่ายจากเอเชียกลาง
ลองตั้งสมมติฐานอีกครั้งแล้วบอกว่า duduk มาถึงซินเจียงจากอาร์เมเนียโบราณ แต่อย่างไร? ใครพาเขาไปที่นั่น? คนอะไรอพยพจากคอเคซัสไปยังเอเชียกลางในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษแรก? ไม่มีชนชาติดังกล่าว! แต่พวกเติร์กย้ายจากเอเชียกลางไปทางตะวันตกอย่างต่อเนื่อง พวกเขาสามารถแพร่กระจายเครื่องมือนี้ได้ดีในคอเคซัสและในดินแดนของตุรกีสมัยใหม่และแม้แต่ในบัลแกเรียตามที่เอกสารระบุ

ฉันคาดการณ์อีกหนึ่งข้อโต้แย้งของผู้พิทักษ์ของต้นกำเนิดของ duduk เวอร์ชันอาร์เมเนีย เช่นเดียวกับ duduk จริง ๆ ทำจากต้นแอปริคอทเท่านั้น ซึ่งในภาษาละตินเรียกว่า Prúnus armeniáca แต่ก่อนอื่นแอปริคอตในเอเชียกลางนั้นไม่น้อยไปกว่าในคอเคซัส ชื่อภาษาละตินไม่ได้ระบุว่าต้นไม้ชนิดนี้แพร่กระจายไปทั่วโลกจากพื้นที่ที่มี ชื่อทางภูมิศาสตร์อาร์เมเนีย จากนั้นมันก็บุกเข้าไปในยุโรปและอธิบายโดยนักพฤกษศาสตร์เมื่อประมาณสามร้อยปีก่อน ในทางตรงกันข้าม มีรุ่นที่แอปริคอตแพร่กระจายจาก Tien Shan ซึ่งส่วนหนึ่งอยู่ในประเทศจีน และส่วนหนึ่งอยู่ในเอเชียกลาง ประการที่สอง ประสบการณ์ของคนที่มีพรสวรรค์แสดงให้เห็นว่าเครื่องดนตรีนี้สามารถทำจากไม้ไผ่ได้ และบาลาบันที่ฉันโปรดปรานทำจากมัลเบอร์รี่และฟังดูดีกว่าแอปริคอตมาก ซึ่งฉันก็มีเช่นกันและผลิตในอาร์เมเนียเท่านั้น

ฟังว่าฉันเรียนรู้ที่จะเล่นเครื่องดนตรีนี้ได้อย่างไรในสองสามปี ศิลปินประชาชนของเติร์กเมนิสถาน Gasan Mammadov (ไวโอลิน) และศิลปินประชาชนของยูเครน เพื่อนร่วมชาติของฉันจาก Ferghana, Enver Izmailov (กีตาร์) เข้าร่วมในการบันทึก

จากทั้งหมดนี้ ฉันต้องการแสดงความเคารพต่อ Jivan Gasparyan นักแสดงดูดุกผู้ยิ่งใหญ่ชาวอาร์เมเนีย ชายผู้นี้ทำให้เครื่องดนตรี duduk เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ต้องขอบคุณผลงานของเขาที่ทำให้โรงเรียนสอนเล่น duduk อันยอดเยี่ยมเกิดขึ้นในอาร์เมเนีย
แต่การพูดถึง "อาร์เมเนีย duduk" นั้นถูกต้องเฉพาะกับเครื่องดนตรีเฉพาะ หากพวกเขาทำในอาร์เมเนีย หรือเกี่ยวกับประเภทของดนตรีที่เกิดขึ้นจากฝีมือของ J. Gasparyan ชี้ไปที่ ต้นกำเนิดของอาร์เมเนีย duduk ทำได้เฉพาะคนที่ยอมให้ตัวเองยืนยันโดยไม่มีเหตุผล

โปรดทราบว่าตัวฉันเองไม่ได้ระบุสถานที่ที่แน่นอนหรือเวลาที่แน่นอนของการปรากฏตัวของ duduk อาจเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างและต้นแบบของ duduk มีอายุมากกว่าชนชาติใด ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ฉันกำลังสร้างสมมติฐานของฉันเกี่ยวกับการแพร่กระจายของ duduk โดยอิงจากข้อเท็จจริงและตรรกะเบื้องต้น ถ้ามีคนต้องการคัดค้านฉัน ฉันอยากจะถามล่วงหน้า: ได้โปรด เมื่อสร้างสมมติฐาน ในทำนองเดียวกัน ให้พึ่งพาข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้และได้รับการยืนยันจากแหล่งข้อมูลอิสระ อย่าอายที่จะหลีกเลี่ยงตรรกะและพยายามหาคำอธิบายอื่นที่เข้าใจได้ สำหรับข้อเท็จจริงที่ปรากฏ

ผู้คนอุทิศชีวิตส่วนหนึ่งให้กับวัฒนธรรมตลอดเวลา ดังนั้น แม้จะมีวิถีชีวิตแบบเร่ร่อนและช่วงเวลาที่ยากลำบากต่างๆ แต่ชาวเอเชียกลางก็มีวัฒนธรรมทางดนตรีของพวกเขาตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ขอบคุณอาคินและปรมาจารย์ในอดีต เครื่องดนตรีประจำชาติในรูปแบบเดียวกับเมื่อ 100 และ 200 ปีที่แล้ว ชาวอุซเบกิสถาน ทาจิกิสถาน และคีร์กีซสถานยังคงสามารถฟัง เล่น หรือถือเครื่องดนตรีที่มีลักษณะเฉพาะของเอเชียกลางไว้ในมือได้

มาบอกคุณเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขา

อุซเบกิสถาน

Karnay เป็นเครื่องเป่าขนาดใหญ่ที่ทำจากโลหะผสมทองแดงและทองเหลือง ทรัมเป็ตขนาดใหญ่มีความยาวสูงสุด 3 เมตรและช่วยให้คุณสร้างท่วงทำนองที่ไม่เหมือนใคร

นักดนตรีอุซเบกิสถานสมัยใหม่ใช้คันไนในงานแต่งงานตามประเพณี เสียงที่เคร่งขรึมลึกเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ของวันหยุดในวันนี้ คุณจะได้ยินเสียงเหล่านี้ไม่เพียงแค่จากถนนถัดไปเท่านั้น คุณยังสามารถได้ยินจากอีกมุมหนึ่งของเมืองได้อีกด้วย ในงานเทศกาล ท่วงทำนองที่แต่งด้วยคันนาส่งเสียงดังและประกาศต่อสาธารณชนว่ากำลังมีการเฉลิมฉลองในบ้านหลังนี้

ก่อนหน้านี้ Karnay ถูกใช้ทั้งเป็นเครื่องมือในการรวมตัวของนักรบและเพื่อแจ้งให้ประชากรทราบว่ามีศัตรูเข้ามาใกล้ซึ่งเป็นเรื่องน่ารำคาญ เสียงของ kanay ได้ยินไปทั่วหมู่บ้านและผู้คนก็พร้อมสำหรับการกระทำบางอย่างเนื่องจากเสียงของชาติ เครื่องมือลม.

ทาจิกิสถาน

รูบับเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่มีประวัติอันยาวนาน ทำด้วยมือจากต้นไม้ชนิดพิเศษ ขั้นตอนการตัดร่างเหยือกออกนั้นต้องใช้ความอุตสาหะมากและไม่เพียงต้องใช้ความขยันหมั่นเพียร แต่ยังต้องใช้ทักษะพิเศษอีกด้วย ความลับของการแช่กระท่อมไม้ซุง การยืดผิวหนังของสัตว์ในส่วนหลักของเครื่องดนตรี การปรับสายและหมุดในทาจิกิสถานได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์สู่นักศึกษาเท่านั้น

Rubab ฟังดูไพเราะมาก เครื่องสายทำให้เกิดท่วงทำนองที่น่าอัศจรรย์หรือคลอไปกับบทเพลงของกวี แต่ปรมาจารย์ที่แท้จริงของเกมนี้ยังสามารถเล่นท่วงทำนองการเต้นรำประจำชาติทาจิกิสถานบนรูบับ ซึ่งหลายเพลงมีอายุนับไม่ถ้วนแล้ว และพวกมันถูกมองว่าเป็นนิทานพื้นบ้านดั้งเดิม

คีร์กีซ โคมุซ

โคมุซเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายประจำชาติของคีร์กีซ มีเพียงสามสาย แต่มีเสียงที่ดังและไพเราะมาก โคมุซแท้ทำจากแอปริคอตป่า (ต้นแอปริคอต) กระบวนการของช่างไม้ในการสร้างรูปร่างของโคมุซ ซึ่งเป็นส่วนเว้าที่สอดคล้องกันในร่างกาย ส่วนบน คอ และอื่นๆ นั้นซับซ้อนมากและต้องใช้ทักษะอย่างมาก ไม้แปรรูปสำหรับ komuz ในอนาคตจะต้องแห้งสนิทสำหรับสิ่งนี้สามารถวางไว้ในห้องมืดพิเศษเป็นเวลาหลายปี

คอของโคมุซไม่มีเฟรตเช่นเดียวกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ ของชาวเอเชียกลาง พวกเขาเรียนรู้ที่จะเล่นด้วยหู ดังนั้นไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเป็นโคมุซจิได้ (ปรมาจารย์ในการเล่นโคมุซ)

เสียง เครื่องสายในทางปฏิบัติไม่สามารถเลียนแบบได้ดังนั้นจึงมีการเขียนท่วงทำนองที่มีลักษณะเฉพาะมากมายสำหรับโคมุซซึ่งแสดงโดย akyns ระดับชาติทั้งแบบเดี่ยวและแบบรวม

แหล่งที่มาของข้อมูล รูปภาพ และวิดีโอ

อุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษและหลากหลาย แม้แต่ในสมัยโบราณในดินแดนของตะวันออกใกล้และตะวันออกกลางในปัจจุบันมีการใช้เครื่องเคาะที่ง่ายที่สุดในการเต้นรำพิธีกรรมและการเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญ ต่อไปนี้เป็นรายการเครื่องดนตรีอุซเบกที่พบมากที่สุดพร้อมชื่อและคำอธิบายโดยย่อ

Doira - แทมบูรีนชนิดหนึ่ง

Doira เป็นเครื่องดนตรีอุซเบกิสถานจากตระกูลเครื่องเพอร์คัชชัน มีรูปร่างหน้าตาคล้ายแทมบูรีน กระจายอยู่ทั่วไปในประเทศแถบตะวันออกใกล้และตะวันออกกลาง เครื่องมือนี้เป็นขอบที่ทำจากองุ่นแห้ง (ไม่นิยมใช้ไม้บีชหรือวอลนัท) ซึ่งมีการยืดเยื่อหนังออก เส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยประมาณ 40 ซม. รุ่นที่ทันสมัยเครื่องดนตรีพื้นบ้านอุซเบกนี้ใช้กับห่วงโลหะได้ นอกจากนี้ยังมีรุ่นของ doira ที่ติดอยู่ด้านในของห่วงหลัก โดยปกติจะมีจำนวนตั้งแต่ 40 ถึง 100

เพื่อให้ได้เสียงที่ดังและชัดเจนยิ่งขึ้น โดราต้องอุ่นใกล้ไฟหรือกลางแดดก่อนเล่น อากาศร้อนทำให้ผิวหนังที่ยืดออกไปบนกรอบแห้งและแรงดึงของเมมเบรนจะเพิ่มขึ้น

ในสมัยโบราณเครื่องดนตรีนี้เล่นโดยผู้หญิงเท่านั้น ในถ้ำบนภูเขาของหุบเขา Ferghana พบภาพที่ย้อนหลังไปถึง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล อี รูปภาพแสดง ร่างผู้หญิงเล่น doira ล้อมรอบด้วยนักเต้นประกอบพิธีกรรม

na doira ได้รับการปรับปรุงมาเป็นเวลาหลายศตวรรษและมาถึงปัจจุบันแล้ว ระดับสูง. เครื่องดนตรีนี้ใช้เป็นทั้งเครื่องดนตรีประจำชาติอุซเบกิสถานเพิ่มเติม และใช้เป็นเสียงประกอบ เทคนิคการแยกเสียงมีความหลากหลายมาก: แตะเบา ๆ ด้วยนิ้วก้อย, เป่าฝ่ามือแรง ๆ, เลื่อนนิ้วไปตามเมมเบรนและอื่น ๆ คุณสามารถเปลี่ยนระดับเสียงได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของนิ้ว การโดดเด่นตรงกลางเมมเบรนทำให้คุณสามารถเล่นโน้ตต่ำได้ และเมื่อคุณเลื่อนมือไปที่ขอบ เสียงก็จะดังขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเสริมการเล่นของคุณด้วยรูปแบบจังหวะที่หรูหราและเมลิสมาสทุกประเภท เช่น ทริลล์ ลูกคอ เกรซโน้ต ไดนามิกมีให้ตั้งแต่เปียโนที่เงียบที่สุดไปจนถึงมือขวาที่ดังสนั่น

Nagora - อะนาล็อกของทิมปานี

เครื่องดนตรีอุซเบกิสถานอีกชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเคาะคือนาโกรา มันคือกลองทิมปานีคู่หนึ่งในรูปแบบของหม้อเซรามิกที่หุ้มด้วยเยื่อหนัง เครื่องดนตรีมีขนาดแตกต่างกันไปซึ่งทำให้ได้เสียงที่หลากหลาย Nagora ไม่มีการตั้งค่าที่แม่นยำ แต่มีหลายพันธุ์:

• Dol-nagora เป็นหม้อขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อแยกเสียงกระหึ่ม
• Kos-nagora เป็นเครื่องดนตรีขนาดกลางที่มีเสียงค่อนข้างต่ำ
• Rez-nagora - สำหรับประสิทธิภาพของโน้ตที่สูงขึ้น

ก่อนการแสดง ทิมปานีอุซเบกจะอบอุ่นร่างกายด้วยแสงแดด สิ่งนี้ช่วยให้ได้จังหวะที่ชัดเจนและมีเสียงดัง

ซึ่งแตกต่างจาก doira, nagora ไม่ค่อยใช้เป็นเครื่องดนตรีเดี่ยว ใช้สำหรับบรรเลงเป็นวงร่วมกับเครื่องเป่าลมไม้ เช่น คาร์เนย์ และ เซอร์เนย์ สามารถได้ยินได้น้อยกว่าเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องสาย (ส่วนใหญ่ในอาร์เมเนีย) เครื่องดนตรีนี้เสริมการแต่งเพลงด้วยรูปแบบจังหวะต่างๆ และช่วยถ่ายทอดลักษณะของเพลงแทรนซ์หรือเพลงที่ก่อความไม่สงบ

นาย - ปานเป่าขลุ่ย

นาย เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเป่าลมไม้ที่มีรูหกนิ้ว ส่วนใหญ่ทำจากไม้ไผ่ เครื่องดนตรีนี้ในเวอร์ชันสมัยใหม่เสริมด้วยทองเหลืองและดีบุก ธรรมชาติของการสกัดเสียงคือริมฝีปาก (นั่นคือด้วยความช่วยเหลือของริมฝีปาก) รูปแบบเสียงไพเราะที่หลากหลายเกิดขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือของการผสมผสานนิ้วต่างๆ การปิดรูเล่นบางส่วนหรือทั้งหมด และการปรับความเข้มของการไหลของอากาศ Nye ใช้เป็นเครื่องดนตรีเดี่ยวและวงดนตรี

Surnay - เครื่องเป่าลมไม้ชนิดหนึ่ง

Surnay เป็นเครื่องดนตรีลมอีกชนิดหนึ่งของอุซเบก ลักษณะเป็นท่อแคบขยายออกที่ปลาย โดยเฉลี่ยแล้วความยาวของเครื่องดนตรีอยู่ที่ 45-55 ซม. Surnay โดดเด่นด้วยกลไกที่ค่อนข้างซับซ้อน: มีการใส่ท่อโลหะขนาดเล็กพร้อมแผ่นไม้ไผ่ที่ส่วนบน ในการแยกเสียง นักแสดงต้องกดริมฝีปากให้แน่นด้วยชิ้นแบนเล็กๆ ที่เรียกว่า "ซาดัต" การเล่นทรัมเป็ตด้วยลิ้นคู่ต้องใช้ทักษะบางอย่างและความเชี่ยวชาญระดับสูงในเครื่องดนตรี

Surnay ส่วนใหญ่จะใช้ในวงดนตรีในช่วงงานเฉลิมฉลองระดับชาติ จานเสียงของการผลิตเสียงค่อนข้างสมบูรณ์ - ตั้งแต่เลกาโต้ที่ราบรื่นไปจนถึงการกระโดดอย่างรวดเร็วและการตกแต่งที่ไพเราะ

Karnay เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านของอุซเบกิสถานในตระกูลทองแดง กระจายอยู่ทั่วไปในอิหร่านและทาจิกิสถาน kanay เป็นท่อตรงที่ขยายออกที่ปลาย ความยาวของเครื่องมือถึงสองเมตร เสียงที่ผลิตโดย karnay คล้ายกับทรอมโบน ช่วงไม่เกินคู่

เสียงอันทรงพลังและหนักแน่นของคันไนสามารถได้ยินในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์และ เกมกีฬาในอุซเบกิสถาน ในสมัยโบราณ มันยังทำหน้าที่เป็นเครื่องส่งสัญญาณการเริ่มต้นของสงครามและส่งเสริมขวัญกำลังใจของกองทัพ

ช้าง - อะนาล็อกโบราณของฉิ่ง

เครื่องดนตรีอุซเบกที่รู้จักกันดีอีกชนิดหนึ่งคือช้าง มันอยู่ในประเภทฉิ่ง ประกอบด้วยตัวไม้รูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูซึ่งยืดออกได้ 42 ตัว ซาวด์บอร์ดด้านบนมีรูสะท้อนเสียงขนาดเล็กที่ช่วยปรับปรุงเสียง ช้างเล่นด้วยไม้ไผ่หรือไม้อ้อสองอัน เสียงมีความบริสุทธิ์ สดใส และมีระยะเวลาที่ดี ช้างใช้ทั้งเป็นเครื่องดนตรีเดี่ยวและวงดนตรี

Sato - เครื่องสายโค้งคำนับ

Sato เป็นเครื่องดนตรีที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าพันปีและให้เสียงที่ไพเราะจับใจ การถือกำเนิดขึ้นของเครื่องสายประเภทโค้งคำนับในภาคตะวันออกมีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 ในตอนต้นของศตวรรษที่ 20 พวกเขากำลังจะสูญพันธุ์อย่างไรก็ตามปรมาจารย์ Usman Zufarov สามารถฟื้นฟูประเพณีโบราณได้

ซาโต้เป็นไม้รูปทรงลูกแพร์ที่มีคอติดอยู่ ใช้เฟร็ตและขึงสาย การสกัดเสียงทำโดยการนำคันธนูไปพร้อมสาย

ดนตรีตะวันออกอันน่าตื่นเต้นและลึกลับชวนให้หลงใหลด้วยจังหวะที่ซับซ้อนและรูปแบบท่วงทำนองที่วิจิตรงดงาม ชาวเอเชียสามารถอนุรักษ์โบราณได้ ประเพณีวัฒนธรรมและภูมิปัญญาแห่งยุคสมัยถ่ายทอดสมบัติล้ำค่าของบรรพบุรุษให้แก่คนรุ่นราวคราวเดียวกัน

เครื่องดนตรีคันธนูเครื่องสายเปอร์เซีย เชื่อกันว่าเครื่องดนตรีชนิดนี้เป็นบรรพบุรุษของสายธนูประเภทอื่นๆ วันนี้เครื่องดนตรีนี้แพร่หลายในเอเชียกลางและตะวันออกกลาง
"Kemancha" ในภาษาเปอร์เซีย แปลว่า "เครื่องดนตรีโค้งคำนับขนาดเล็ก" Kamancha เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 ในยุคนี้นักประวัติศาสตร์ระบุว่ายุครุ่งเรืองของ ศิลปะการแสดงเกมคามันช่า. สิ่งนี้เชื่อมโยงกับการพัฒนาศิลปะของนักร้อง khanende มืออาชีพ
Khanende เป็นนักร้องพื้นบ้านของอาเซอร์ไบจัน พวกเขาไม่เพียงแต่มีเสียงที่ไพเราะเท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการด้นสดที่หาได้ยากอีกด้วย ฮาเนเดะได้รับความเคารพอย่างสูง นักร้องเหล่านี้คือผู้ "จุดประกาย" ให้กับคามันชา
เครื่องมือชิ้นแรกทำจากน้ำเต้าหรือวอลนัทอินเดีย ตามกฎแล้วพวกเขาได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยงาช้าง
ร่างกายของ kemancha นั้นกลม คอเป็นไม้ตรงและโค้งมนด้วยหมุดขนาดใหญ่ ซาวด์บอร์ดทำจากหนังงู หนังปลา หรือกระเพาะวัว โบว์เป็นรูปโบว์ที่มีขนม้า
ตามข้อสันนิษฐานข้อหนึ่งเกี่ยวกับที่มาของ kamancha มันปรากฏบนพื้นฐานของ gopuz ที่โค้งคำนับ Gopuz เป็นเครื่องดนตรีเครื่องสายพื้นบ้านของอาเซอร์ไบจัน นี่คือเครื่องดนตรีสองหรือสามสาย ค่อนข้างชวนให้นึกถึงกีตาร์
ความรู้เกี่ยวกับ kamancha เสริมด้วยข้อมูลจากบทกวีคลาสสิกและวิจิตรศิลป์ ด้วยเหตุนี้คุณจึงสามารถรับแนวคิดได้เล็กน้อย ตัวอย่างเช่นมีการกล่าวถึง kamnacha ในบทกวี "Khosrov and Shirin" กวีชาวเปอร์เซียนิซามิ กันจาวี. เขาเปรียบเทียบการเล่น kamancha กับเพลงศักดิ์สิทธิ์ที่คร่ำครวญและแผดเผา
หากต้องการจินตนาการว่าคามันชามีหน้าตาเป็นอย่างไร ให้ดูที่ผลงานย่อส่วนของศิลปินอาเซอร์ไบจันในยุคกลาง มีภาพเธอเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรี

- เครื่องดนตรีเป่าโบราณ ต้นกำเนิดของมันมาจากเขาแกะโดยไม่ได้ตั้งใจ ความจริงก็คือในภาษาเซมิติกคำว่า "shofar" และชื่อของแกะภูเขาเป็นคำที่มีรากศัพท์เดียวกัน ในทัลมุด อนุญาตให้ทำโชฟาร์จากเขาแกะผู้ แพะป่าและแพะบ้าน ละมั่งและเนื้อทราย แต่ก็ยังแนะนำให้ใช้เขาแกะตัวผู้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการบูชายัญของอิสอัค Midrash กล่าวว่าโชฟาร์จากเขาด้านซ้ายของแกะตัวผู้ที่บูชายัญโดยอับราฮัมส่งเสียงที่ภูเขาซีนาย และโชฟาร์จากเขาด้านขวาจะถูกเป่าเมื่อเผ่าที่กระจัดกระจายของอิสราเอลมารวมกัน
โชฟาร์ใช้ในโอกาสพิเศษ ดังนั้น ในสมัยโบราณ เสียงโชฟาร์ควรจะเป็นการประกาศการเริ่มต้น ครบรอบปี. เครื่องมือเดียวกันนี้รายงานจุดเริ่มต้นของความโชคร้าย - การปฏิบัติการทางทหารหรือภัยพิบัติใด ๆ Shofar เป็นคุณลักษณะที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลต่างๆ
shofar มีสองประเภท - Ashkenazi และ Sephardic Ashkenazi shofar ได้รับการประมวลผลทั้งภายในและภายนอกโดยมีรูปพระจันทร์เสี้ยว โชฟาร์ดิกนั้นยาวและบิดเบี้ยว Shofars ทำโดยช่างฝีมือที่สืบทอดประเพณีจากรุ่นสู่รุ่น
โชฟาร์มีความแตกต่าง ลักษณะทางศาสนา. เล่นในบางพิธีกรรมในวันถือศีลอดหรือสวดมนต์ เสียงของโชฟาร์ตามตำนานได้ทลายกำแพงเมืองเยริโค ("แตรเจริโค") วันปีใหม่ของชาวยิว (รอช ฮาชานาห์) จะไม่สมบูรณ์หากไม่มีโชฟาร์ ตัวอย่างเช่น ในอิสราเอล สามารถได้ยินเสียงโชฟาร์ในสถานที่ที่คาดไม่ถึงอย่างใกล้ๆ สถานีรถไฟหรือไม่ก็ ศูนย์การค้า. ตามประเพณีในช่วงสองวันของ Rosh Hashanah ควรได้ยินเสียง shofar ร้อยครั้งดังนั้นพวกเขาจึงเป่าหลายครั้งในตอนเช้า เสียงโห่ร้องในวัน Rosh Hashanah เพิ่มความเคร่งขรึมและกระตุ้นให้กลับใจ ตามแนวคิดที่ได้รับความนิยม เสียงเหล่านี้น่าจะทำให้ซาตานสับสน ซึ่งในวันแห่งการพิพากษานี้ทำหน้าที่เป็นผู้กล่าวโทษ

- นี่คือขลุ่ยรื่นเริง พบได้ทั่วไปในตะวันออกใกล้และตะวันออกกลาง ทรานคอเคเซีย อินเดีย อนาโตเลีย คาบสมุทรบอลข่าน อิหร่าน เอเชียกลาง เช่นเดียวกับฟลุตทั่วไป มีลักษณะเหมือนท่อที่มีรูและมีเสียงบี๊บเล็กๆ โดยปกติจะมีรูมากถึงเก้ารูบนท่อซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่ฝั่งตรงข้าม
ญาติสนิทของ Zurna คือโอโบซึ่งมีลิ้นคู่เหมือนกัน โปรดทราบว่าโอโบยังคงยาวกว่า zurna มีรูด้านข้างมากกว่า และนอกจากนี้ยังติดตั้งกลไกวาล์ว เช่น คลาริเน็ต ฟลุต บาสซูน อย่างไรก็ตาม zurnas และdouble oboe reed ในแง่ของการจัดเรียงของ zurnas จนบางครั้งนักดนตรี zurnachi ก็ซื้อโอโบในร้านเพื่อใช้เป็นเครื่องดนตรีของพวกเขา
Zurna มีเสียงพิเศษเฉพาะ ช่วงของเสียงสูงถึงหนึ่งอ็อกเตฟครึ่ง และเสียงต่ำนั้นสว่างและเสียดแทง
Zurna ฟังดูดีเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรีบรรเลง นักดนตรีมักจะแสดงในสาม นักดนตรีคนแรกเรียกว่าปาก (หรือปรมาจารย์) เขาเล่นทำนองหลัก นักดนตรีคนที่สองช่วยเติมเต็มการเล่นของคนแรกและสะท้อนเขาด้วยเสียงเอ้อระเหย นักดนตรีคนที่สามเล่น เครื่องเคาะและแสดงพื้นฐานจังหวะที่หลากหลาย
ที่สุด zurna โบราณมีอายุมากกว่าสามพันปี ในระหว่างการขุดค้นในดินแดนของที่ราบสูงอาร์เมเนีย สำเนาที่เก่าแก่ที่สุดของ zurna ถูกค้นพบ เป็นที่ทราบกันดีว่ามีเครื่องมือดังกล่าวอยู่ใน กรีกโบราณ. เขามาพร้อมกับการออกกำลังกายยิมนาสติก การแสดงละครการเสียสละ การรณรงค์ทางทหาร จริงอยู่ตอนนั้นมีชื่ออื่น - avlos แต่มันแตกต่างจาก zurna ปัจจุบันเล็กน้อย
พื้นฐานสำหรับการผลิต Zurna คือต้นไม้ - แอปริคอท, วอลนัทหรือหม่อน เส้นผ่านศูนย์กลางของกระบอกเครื่องมือประมาณยี่สิบมิลลิเมตร เครื่องมือนี้ขยายเส้นผ่านศูนย์กลางลงไปจนถึงหกสิบมิลลิเมตร ความยาวเฉลี่ยของ zurna คือสามร้อยมิลลิเมตร
บูช ("masha") ถูกใส่เข้าไปในปลายด้านบนของถัง ความยาวประมาณหนึ่งร้อยมิลลิเมตร แกะสลักจากไม้วิลโลว์ ไม้วอลนัท หรือไม้แอปริคอต เป็นแขนที่ควบคุมการตั้งค่าของจาน ปากกระบอกของ Zurna ทำจากกกแห้ง ความยาวสิบมิลลิเมตร
นักแสดงเป่าลมผ่านปากเป่าและได้เสียง ช่วงของ Zurna นั้นค่อนข้างใหญ่สำหรับเครื่องดนตรีขนาดเล็ก เช่น จาก "B flat" ของอ็อกเทฟขนาดเล็กไปจนถึง "C" ของอ็อกเทฟที่สาม อย่างไรก็ตาม นักดนตรีมืออาชีพสามารถขยายช่วงเสียงนี้ได้หลายเสียง นักแสดงที่มีประสบการณ์รู้วิธีทำให้ zurna ร้องเพลงอย่างนุ่มนวลและนุ่มนวล

ขลุ่ยเป็นเครื่องลมไม้ นี่คือชื่อทั่วไปของเครื่องดนตรีหลายชนิดที่ประกอบด้วยท่อทรงกระบอกที่มีรู แบบฟอร์มที่เก่าแก่ที่สุดเห็นได้ชัดว่าขลุ่ยเป็นนกหวีด รูนิ้วเริ่มถูกตัดในท่อนกหวีดทีละน้อยเปลี่ยนนกหวีดธรรมดาให้เป็นนกหวีดเป่านกหวีดซึ่งสามารถทำได้แล้ว ผลงานดนตรี. การค้นพบทางโบราณคดีครั้งแรกของฟลุตมีอายุย้อนไปถึง 35 - 40,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ดังนั้นฟลุตจึงเป็นหนึ่งในเครื่องดนตรีที่เก่าแก่ที่สุด
มีอยู่ในโลก หลากหลายมากขลุ่ย: เครื่องบันทึก, ขลุ่ยขวาง,แพนฟลุต,พิคโคโลฟลุต และอื่นๆ. - นี่เป็นขลุ่ยซึ่งพบได้ทั่วไปในวัฒนธรรมอาหรับ - อิหร่าน, ทาจิกิสถาน - อุซเบกและมอลโดวา Ney เป็นขลุ่ยยาวชนิดหนึ่งซึ่งรวมถึงขลุ่ย pyzhatka และนกหวีด ไม่ใช่ชื่อเฉพาะของขลุ่ยดังกล่าว ชื่อของมันขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ทำ ขลุ่ยไม้เรียกว่า agach-Nai ขลุ่ยดีบุกเรียกว่า garau-NaiNai และทองเหลืองเรียกว่า Brindgzhi-Nai ขลุ่ยยาวเป็นที่รู้จักในอียิปต์เมื่อห้าพันปีก่อน และยังคงเป็นเครื่องดนตรีประเภทเป่าหลักในตะวันออกกลาง
พิจารณานีซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้ ขลุ่ยอาหรับมีหลุมแปดหลุม ในขณะที่ขลุ่ยอุซเบกมีหกหลุม แม้จะมีความแตกต่างดังกล่าว แต่สิ่งนี้ไม่ได้สะท้อนถึงเกมที่มีแฟน ๆ จำนวนมาก เสียงขลุ่ยไม่เพียง "ธรรมดา" ที่ผู้ฟังส่วนใหญ่คุ้นเคย แต่ยังเป็นเสียงสีอีกด้วย สำหรับขลุ่ยของมอลโดวาส่วนประกอบนั้นมีมากมาย - มากถึงยี่สิบสี่ท่อ ควรมีความยาวต่างกันขึ้นอยู่กับระดับเสียง ท่อเสริมด้วยคลิปหนังโค้ง ขนาดของเธอเป็นแบบไดอะโทนิก
นาย (หรือ เน่) - ไม่เป็นไร เครื่องมือใหม่เขาปรากฏตัวจาก garga tuiduka ที่ปรับปรุงแล้วซึ่งเป็นที่รู้จักมานานหลายศตวรรษในหมู่ คนตะวันออก. อย่างไรก็ตาม เครื่องลมโบราณ - การ์กี้ ตุยดุก - รอดชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้ ทำจากไม้อ้อและมีรูเฟรตหกรู ไม่มีขนาดเฉพาะเจาะจงแต่ละสำเนาถูกตัดแตกต่างกัน เครื่องดนตรีเหล่านี้ยังใช้แยกกัน: บางชนิดใช้บรรเลงเดี่ยว บางชนิดใช้บรรเลงคลอ ฟลุตแนวยาวที่สามารถเป่าระดับอ็อกเทฟได้ ให้สเกลดนตรีที่สมบูรณ์ แต่ละช่วงสามารถเปลี่ยนได้ สร้างโหมดต่างๆ ได้โดยการไขว้นิ้ว ปิดรูครึ่งหนึ่ง และเปลี่ยนทิศทางและความแรงของการหายใจ