ชูมันน์ - เขาคือใคร? นักเปียโนที่ล้มเหลว นักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยม หรือนักวิจารณ์ดนตรีที่เฉียบคม? ชีวประวัติสั้น ๆ ของ Robert Schumann ผู้ประพันธ์เพลงเกี่ยวกับ Robert

การแนะนำ

โรเบิร์ต ชูมันน์ (เยอรมัน) โรเบิร์ต ชูมันน์; 8 มิถุนายน 2353, Zwickau - 29 กรกฎาคม 2399, Endenich (ปัจจุบันเป็นหนึ่งในเขตเมืองของบอนน์) - นักแต่งเพลงชาวเยอรมัน (แซกซอน) ผู้ควบคุมวง นักวิจารณ์ดนตรี, ครู. นักแต่งเพลงคนแรกที่สำคัญที่สุดคนหนึ่ง ครึ่งหนึ่งของ XIXศตวรรษ. (สไตล์ - แนวโรแมนติกของเยอรมัน, ทิศทางศิลปะ - โรงเรียนไลพ์ซิก)

1. ชีวประวัติ

เกิดใน Zwickau (Saxony) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2353 ในครอบครัวของผู้จัดพิมพ์หนังสือและนักเขียน August Schumann (2316-2369) ชูมันน์เรียนดนตรีครั้งแรกจากนักออร์แกนท้องถิ่น ตอนอายุ 10 ขวบเขาเริ่มแต่งเพลงโดยเฉพาะการร้องเพลงประสานเสียงและ ดนตรีออเคสตร้า. เขาเข้าเรียนที่โรงยิมในเมืองบ้านเกิดของเขา ซึ่งเขาได้ทำความคุ้นเคยกับผลงานของ J. Byron และ Jean Paul และกลายเป็นแฟนตัวยงของพวกเขา อารมณ์และภาพนี้ วรรณกรรมโรแมนติกเมื่อเวลาผ่านไป สะท้อนให้เห็นในผลงานดนตรีของแมนน์ ตอนเป็นเด็กเขาเข้าร่วมมืออาชีพ งานวรรณกรรมเขียนบทความให้กับสารานุกรมที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ของบิดา เขาชอบวิชาภาษาศาสตร์อย่างจริงจังได้ทำการพิสูจน์อักษรพจนานุกรมภาษาละตินขนาดใหญ่ก่อนเผยแพร่ และงานวรรณกรรมของโรงเรียนของชูมันน์ถูกเขียนขึ้นในระดับที่พวกเขาได้รับการตีพิมพ์หลังเสียชีวิตเป็นภาคผนวกของการรวบรวมผลงานวารสารศาสตร์ที่เป็นผู้ใหญ่ของเขา ในช่วงหนึ่งของวัยหนุ่ม ชูมันน์ลังเลด้วยซ้ำว่าจะเลือกสาขานักเขียนหรือนักดนตรีดี

ในปี 1828 เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Leipzig และในปีต่อมาเขาย้ายไปที่มหาวิทยาลัย Heidelberg เมื่อแม่ของเขายืนกรานเขาวางแผนที่จะเป็นทนายความ แต่ชายหนุ่มก็สนใจดนตรีมากขึ้น เขาถูกดึงดูดโดยความคิดที่จะเป็นนักเปียโนคอนเสิร์ต ในปี พ.ศ. 2373 เขาได้รับอนุญาตจากมารดาให้อุทิศตนให้กับดนตรีโดยสิ้นเชิง และกลับไปยังเมืองไลพ์ซิก ซึ่งเขาหวังว่าจะพบผู้ให้คำปรึกษาที่เหมาะสม ที่นั่นเขาเริ่มเรียนเปียโนจาก F. Wieck และแต่งเพลงจาก G. Dorn ในความพยายามที่จะเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง เขาฝึกฝนด้วยความพากเพียรอย่างคลั่งไคล้ แต่สิ่งนี้ต่างหากที่นำไปสู่ปัญหา: บังคับให้ออกกำลังกายด้วยอุปกรณ์เชิงกลเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขน เขาได้รับบาดเจ็บที่มือขวา นิ้วกลางหยุดทำงาน และแม้จะได้รับการรักษาเป็นเวลานาน มือก็ไม่สามารถเล่นเปียโนอัจฉริยะได้ตลอดไป ความคิดเกี่ยวกับอาชีพ นักเปียโนมืออาชีพต้องออกไป จากนั้นแมนน์แมนก็จัดองค์ประกอบอย่างจริงจังและในเวลาเดียวกัน วิจารณ์เพลง. หลังจากได้รับการสนับสนุนจากบุคคลของฟรีดริช วิค, ลุดวิก ชุนเคอ และจูเลียส คนอร์ ในปี 1834 ชูมันน์สามารถค้นพบวารสารดนตรีที่มีอิทธิพลมากที่สุดชิ้นหนึ่ง นั่นคือ New Musical Journal, (ภาษาเยอรมัน. Neue Zeitschrift fur Musik) ซึ่งแก้ไขและตีพิมพ์บทความของเขาเป็นประจำเป็นเวลาหลายปี เขาพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้ที่ยึดมั่นในสิ่งใหม่และเป็นผู้ต่อสู้กับสิ่งล้าสมัยในศิลปะที่เรียกว่าพวกฟิลิสเตีย ซึ่งก็คือผู้ที่มีความคิดคับแคบและล้าหลังขัดขวางการพัฒนาดนตรีและเป็นตัวแทนของฐานที่มั่นของอนุรักษนิยม และเบอร์เกอร์

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2381 นักแต่งเพลงย้ายไปเวียนนา แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2382 เขากลับไปที่ไลป์ซิก ในปี พ.ศ. 2383 มหาวิทยาลัยไลป์ซิกได้มอบรางวัลดุษฎีบัณฑิตให้ชูมันน์ ในปีเดียวกันนั้น เมื่อวันที่ 12 กันยายน ชูมันน์ได้แต่งงานกับลูกสาวของอาจารย์ Clara Wieck ซึ่งเป็นนักเปียโนที่โดดเด่นของเขาในโบสถ์ในเมือง Schoenfeld ในปีแห่งการแต่งงาน Schuman ได้สร้างเพลงประมาณ 140 เพลง การแต่งงานหลายปีระหว่าง Robert และ Clara ผ่านไปอย่างมีความสุข พวกเขามีลูกแปดคน ชูมันน์พาภรรยาไปทัวร์คอนเสิร์ต และในทางกลับกัน เธอก็มักจะแสดงดนตรีของสามี ชูมันน์สอนที่ Leipzig Conservatory ซึ่งก่อตั้งในปี 1843 โดย F. Mendelssohn

ในปีพ. ศ. 2387 แมนน์พร้อมกับภรรยาไปทัวร์ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโกวซึ่งพวกเขาได้รับเกียรติอย่างสูง ในปีเดียวกัน ชูมันน์ย้ายจากไลป์ซิกไปเดรสเดน ที่นั่นเป็นครั้งแรกที่มีอาการทางประสาทปรากฏขึ้น จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1846 ชูมันน์ก็ฟื้นตัวได้ดีพอที่จะแต่งเพลงได้อีกครั้ง

ในปี พ.ศ. 2393 ชูมันน์ได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการดนตรีในเมืองดุสเซลดอร์ฟ อย่างไรก็ตามในไม่ช้าความขัดแย้งก็เริ่มขึ้นที่นั่นและในฤดูใบไม้ร่วงปี 2396 สัญญาก็ไม่ได้รับการต่ออายุ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2396 ชูมันน์และภรรยาเดินทางไปฮอลแลนด์ซึ่งเขาและคลาราได้รับ อย่างไรก็ตามในปีเดียวกันนั้นอาการของโรคก็เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2397 หลังจากอาการป่วยของเขาแย่ลง ชูมันน์พยายามฆ่าตัวตายด้วยการทิ้งตัวลงแม่น้ำไรน์ แต่ได้รับการช่วยชีวิต เขาต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวชในเอนเดนิช ใกล้กรุงบอนน์ ซึ่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 ถูกฝังอยู่ในกรุงบอนน์

2. ความคิดสร้างสรรค์

ชูมันน์มีสติปัญญาและสุนทรียภาพในดนตรีของเขามากกว่านักแต่งเพลงคนอื่นๆ ที่สะท้อนธรรมชาติส่วนตัวอันลึกซึ้งของแนวจินตนิยม ของเขา เพลงต้นครุ่นคิดและมักจะแปลก เป็นความพยายามที่จะทำลายประเพณีของรูปแบบและโครงสร้างแบบคลาสสิกในความคิดของเขาจำกัดเกินไป คล้ายกับบทกวีของเอช. ไฮน์มาก งานของชูมันน์ท้าทายความเลวร้ายทางจิตวิญญาณของเยอรมนีในช่วงทศวรรษที่ 1820-1840 โดยเรียกร้องให้โลกแห่งความเป็นมนุษย์สูงส่ง ชูมันน์เป็นทายาทของเอฟ. ชูเบิร์ตและเค. เอ็ม. เวเบอร์ เขาพัฒนาแนวโน้มที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นจริงของชาวเยอรมันและออสเตรีย แนวโรแมนติกทางดนตรี. ไม่ค่อยมีใครเข้าใจในช่วงชีวิตของเขา แต่ปัจจุบันดนตรีส่วนใหญ่ของเขาถูกมองว่าเป็นตัวหนาและเป็นต้นฉบับในด้านความกลมกลืน จังหวะ และรูปแบบ ผลงานของเขาเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับประเพณีดนตรีคลาสสิกของเยอรมัน

งานเปียโนของชูมันน์ส่วนใหญ่เป็นวงจรของชิ้นเล็กๆ ของประเภทโคลงสั้น ๆ ละคร ภาพ และ "ภาพบุคคล" ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยแนววางแผนทางจิตวิทยาภายใน หนึ่งในวัฏจักรทั่วไปที่สุดคือ "คาร์นิวัล" (พ.ศ. 2378) ซึ่งมีการละเล่น เต้นรำ หน้ากาก ภาพผู้หญิง(ในหมู่พวกเขา Kiarina - Clara Wieck) ภาพบุคคลทางดนตรีปากานินี, โชแปง. วัฏจักร Butterflies (1831 ตามผลงานของ Jean Paul) และ Davidsbündlers (1837) อยู่ใกล้กับงานคาร์นิวัล วงจรการเล่น Kreislerian (1838 ตั้งชื่อตาม ฮีโร่วรรณกรรม E. T. A. Hoffmann - Johannes Kreisler นักดนตรีผู้เพ้อฝัน) เป็นของความสำเร็จสูงสุดของ Schumann โลกแห่งภาพที่โรแมนติก, ความเศร้าโศกที่เร่าร้อน, แรงกระตุ้นที่กล้าหาญแสดงอยู่ในผลงานเปียโนของชูมันน์ในชื่อ "Symphonic etudes" ("การศึกษาในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลง", 1834), sonatas (1835, 1835-38, 1836), Fantasia (พ.ศ. 2379-38) , คอนแชร์โตสำหรับเปียโนและวงออเคสตรา (พ.ศ. 2384-45) ชูมันน์ยังมีวงรอบเปียโนที่สร้างขึ้นจากหลักการของชุดหรืออัลบั้มของชิ้นส่วน: "Fantastic Fragments" (1837), "Children's Scenes" (1838), "Album for Youth" (1848) ฯลฯ

ใน ความคิดสร้างสรรค์ของเสียงชูมันน์พัฒนาประเภท เพลงเนื้อเพลงเอฟ. ชูเบิร์ต. ในภาพวาดเพลงที่ออกแบบอย่างประณีต ชูมันน์แสดงรายละเอียดของอารมณ์ รายละเอียดบทกวีของข้อความ น้ำเสียงของภาษาที่มีชีวิต บทบาทที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของการเล่นเปียโนคลอในชูมันน์ทำให้โครงร่างมีความสมบูรณ์ของภาพ และมักจะพิสูจน์ความหมายของเพลง วงจรเสียงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเขาคือ "ความรักของกวี" ถึงบทกวีของ G. Heine (1840) ประกอบด้วยเพลง 16 เพลง โดยเฉพาะ "โอ้ถ้าดอกไม้เดา" หรือ "ฉันได้ยินเสียงเพลง", "ฉันพบในสวนในตอนเช้า", "ฉันไม่โกรธ", "ในฝัน ฉันร้องไห้อย่างขมขื่น”, “คุณมันชั่วร้าย, เพลงที่ชั่วร้าย วัฏจักรของเสียงร้องอีกโครงเรื่องคือ "ความรักและชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง" ของบทโดย A. Chamisso (1840) เพลงที่มีความหมายหลากหลายรวมอยู่ในวงจรของ "ไมร์เทิล" ต่อโองการของ F. Rückert, J. W. Goethe, R. Burns, G. Heine, J. Byron (1840), "Around the Songs" ถึงโองการของ J . ไอเชนดอร์ฟ (1840). ในเพลงบัลลาดและฉากเพลง ชูมันน์เข้าถึงอารมณ์อย่างมาก วงกลมกว้างแปลง ตัวอย่างที่โดดเด่นของเนื้อเพลงพลเรือนของแมนน์คือเพลงบัลลาด "Two Grenadiers" (ในบทของ G. Heine) เพลงของชูมันน์บางเพลงเป็นฉากง่ายๆ หรือภาพร่างในชีวิตประจำวัน ดนตรีของพวกเขาใกล้เคียงกับภาษาเยอรมัน เพลงพื้นบ้าน(“เพลงพื้นบ้าน” ในบทของ F. Ruckert เป็นต้น)

ใน oratorio "Paradise and Pere" (พ.ศ. 2386 ตามเนื้อเรื่องของหนึ่งในส่วนหนึ่งของนวนิยาย "ตะวันออก" "Lalla Rook" โดย T. Moore) รวมถึงใน "Scenes from Faust" (2387-53, อ้างอิงจาก J. W. Goethe) ชูมันน์ใกล้จะตระหนักถึงความฝันเก่าของเขาในการสร้างโอเปร่า โอเปร่าเรื่องเดียวที่สร้างเสร็จของชูมันน์ Genoveva (พ.ศ. 2391) ซึ่งมีเค้าโครงมาจากตำนานยุคกลางไม่ได้รับการยอมรับบนเวที ความสำเร็จที่สร้างสรรค์เพลงของชูมันน์สำหรับบทกวีละคร "Manfred" โดย J. Byron ปรากฏขึ้น (เพลงทาบทามและเพลง 15 เพลง, 2392)

ในซิมโฟนี 4 เพลงของนักแต่งเพลง (ที่เรียกว่า "ฤดูใบไม้ผลิ", 2384; ครั้งที่สอง 2388-46; ที่เรียกว่า "ไรน์", 2393; สี่ 2384-51) อารมณ์สดใสร่าเริงเหนือกว่า สถานที่สำคัญในพวกเขาถูกครอบครองโดยตอนของเพลง, การเต้นรำ, ตัวละครในเนื้อเพลง

ชูมันน์มีส่วนอย่างมากในการวิจารณ์ดนตรี โปรโมตผลงานของนักดนตรีคลาสสิกบนหน้านิตยสารของเขาต่อสู้กับปรากฏการณ์ต่อต้านศิลปะในยุคของเราเขาสนับสนุนชาวยุโรปใหม่ โรงเรียนโรแมนติก. ชูมันน์กล่าวโทษความฉลาดหลักแหลม ความไม่แยแสต่องานศิลปะ ซึ่งถูกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากแห่งความเมตตากรุณาและวิชาการที่ผิดๆ ตัวละครหลักที่ชูมันน์พูดในนามของสื่อ ได้แก่ Florestan ผู้กระตือรือร้น กล้าหาญ และแดกดัน และ Euzebius ผู้เพ้อฝันผู้อ่อนโยน ทั้งคู่รวมเอาลักษณะนิสัยของนักแต่งเพลงคนเดียว

อุดมคติของชูมันน์ใกล้เคียงกับนักดนตรีชั้นนำในศตวรรษที่ 19 เขาได้รับการยกย่องอย่างสูงจาก Felix Mendelssohn, Hector Berlioz, Franz Liszt ในรัสเซียผลงานของชูมันน์เผยแพร่โดย A. G. Rubinshtein, P. I. Tchaikovsky, G. A. Laroche, ตัวเลข " กำมืออันยิ่งใหญ่».

3. ผลงานที่สำคัญ

นี่คือผลงานที่มักใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตและการสอนในรัสเซียรวมถึงงานขนาดใหญ่ แต่ไม่ค่อยได้แสดง

3.1. สำหรับเปียโน

การเปลี่ยนแปลงใน "Abegg"

ผีเสื้อ, op. 2

การเต้นรำของ Davidsbündlers, Op. 6

• คาร์นิวัล, สหกรณ์. 9

  โซนาตาสามตัว:

  • Sonata หมายเลข 1 ใน F ชาร์ปไมเนอร์ op สิบเอ็ด

    Sonata No. 3 ใน F minor, op. 14

    Sonata No. 2 ใน G minor, op. 22

บทละครที่ยอดเยี่ยม, op. 12

การศึกษาซิมโฟนิก op. 13

ฉากเด็ก, Op. 15

ไครส์เลอเรียน, op. 16

แฟนตาซีในซีเมเจอร์ op 17

อาหรับ, op. 18

อารมณ์ขัน, op. 20

นวนิยาย, op. 21

ชิ้นกลางคืน, op. 23

เวียนนา คาร์นิวัล, op. 26

อัลบั้มสำหรับเยาวชน op. 68

ฉากป่า, op. 82

ใบไม้ที่แตกต่างกัน, op. 99

3.2. คอนเสิร์ต

เปียโนคอนแชร์โตใน A minor, op. 54

Konzertstückสำหรับสี่แตรและวงออเคสตรา, op. 86

บทนำและ Allegro Appassionato สำหรับเปียโนและวงออเคสตรา, op. 92

คอนแชร์โตสำหรับเชลโลและวงออร์เคสตรา, op. 129

คอนแชร์โตสำหรับไวโอลินและวงออร์เคสตรา พ.ศ. 2396

บทนำและ Allegro สำหรับเปียโนและวงออเคสตรา, op. 134

Fantasy Pieces สำหรับคลาริเน็ตและเปียโน op.73

Marchenerzählungen, Op.132

3.3. เสียงร้องทำงาน

"วงกลมของเพลง", op. 35 (เนื้อเพลงโดย Heine, 9 เพลง)

"ไมร์เทิล", op. 25 (กลอนของกวีต่างๆ 26 เพลง)

"วงกลมของเพลง", op. 39 (เนื้อเพลงโดย Eichendorff, 20 เพลง)

ความรักและชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง, op. 42 (เนื้อเพลงโดย A. von Chamisso, 8 เพลง)

"ความรักของกวี", op. 48 (เนื้อเพลงโดย Heine, 16 เพลง)

"เจ็ดเพลง ในความทรงจำของกวี (Elizaveta Kuhlman), op. 104 (1851)

บทกวีของ Queen Mary Stuart, op. 135, 5 เพลง (พ.ศ. 2395)

"เจโนเววา". โอเปร่า (2391)

3.4. เพลงไพเราะ

ซิมโฟนีหมายเลข 1 ในบีแฟลตเมเจอร์ (รู้จักในชื่อ "สปริง") op. 38

ซิมโฟนีหมายเลข 2 ใน C major, op. 61

ซิมโฟนีหมายเลข 3 ใน E flat major "Rhenish" op 97

ซิมโฟนีหมายเลข 4 ใน D minor, op. 120

การทาบทามโศกนาฏกรรม "Manfred" (1848)

ทาบทาม "เจ้าสาวแห่งเมสซีนา"

5. บรรณานุกรม

Schumann R. "Franz Liszt" (ข้อความที่ตัดตอนมาจากบทความ)

บันทึกความทรงจำของโรเบิร์ต ชูมันน์ / เรียบเรียง อรรถกถา คำนำ O. V. Losevoyต่อ. A. V. Mikhailova และ O. V. Loseva - อ.: นักแต่งเพลง พ.ศ. 2543 ISBN 5-85285-225-2 ISBN 5-89598-076-7

Grohotov S.V.ชูมันน์และบริเวณโดยรอบ โรแมนติกเดินผ่านอัลบั้มสำหรับเยาวชน ม., 2549. ISBN 5-89817-159-2

Grohotov S.V.ชูมันน์: งานรื่นเริง - ม.ค. 2552 ISBN 978-5-89817-285-5

Zhitomirsky D.V. Robert และ Clara Schumann ในรัสเซีย - ม., 2505.

Zhytomyrsky D.V. Robert Schumann: เรียงความเกี่ยวกับชีวิตและการทำงาน - ม., 1964. (แก้ไขครั้งที่ 2, M., 2000.)

Karminsky M.V.บทละครชีวิตของ Robert Schumann // Kharkiv assemblies-1995 เทศกาลดนตรีนานาชาติ "Robert Schumann และเยาวชน": การรวบรวมวัสดุ / G.I. ฮันส์บวร์ก. - คาร์คิฟ, 1995. - ส. 7-18.

Ganzburg G.I.โรงละครเพลงของ Robert Schumann // Academy of Music - 2548. - ครั้งที่ 1. - ส. 106-119.

Robert Schumann และทางแยกของดนตรีและวรรณกรรม: ส. ทางวิทยาศาสตร์ ทำงาน /คอมพ์. Ganzburg G.I.- Kharkov: RA - Caravel, 1997. - 272 น. ไอ 966-7012-26-3

สวิริเดนโก ซีชูมันน์และบทเพลงของเขา - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 2454

บันทึกของ Schumann บน ArtOfPiano.ru

เว็บไซต์ Robert Schumann ของรัสเซียอุทิศให้กับนักแต่งเพลง

โรเบิร์ต ชูมันน์ โครงการห้องสมุดโน้ตเพลงสากล

เทศกาลดนตรี "Schumann Resonances"

บรรณานุกรม:

ในบางแหล่งพวกเขาเพิ่มชื่อกลางของอเล็กซานเดอร์

ผลงานของโรเบิร์ต ชูมันน์
ถึงวันเกิดของ Robert Schumann (1810 - 1856)

ดนตรีของ Robert Schumann ดึงดูดใจด้วยจินตภาพแห่งบทกวี การเจาะลึกเข้าไปในส่วนลึกของโลกจิตวิทยา ความหุนหันพลันแล่น เขาเปิดหน้าโรแมนติกในศิลปะเปียโน โดยทำให้อิ่มตัวด้วยซอฟต์แวร์ที่ทำให้เปียโนจิ๋วเข้าใกล้ เรื่องสั้นวรรณกรรม. ท่วงทำนองใหม่ ความกลมกลืน พื้นผิวช่วยเผยภาพลักษณ์ของฮีโร่คนใหม่ - โรแมนติก มีประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ซับซ้อนและขัดแย้ง มุ่งมั่นเพื่ออุดมคติ

เปียโน - สาเหตุของประสบการณ์อันน่าเศร้าของชูมันน์ ผู้ได้รับบาดเจ็บที่มือจากการออกกำลังกายอย่างหนักและถูกบังคับให้เลิกอาชีพการเป็นนักเปียโนอย่างถาวร - กลายเป็นเครื่องมือในการค้นพบครั้งแรกของเขา ซึ่งเป็นการประพันธ์เพลงแนวใหม่ชิ้นแรกที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกของนักเปียโนทั้ง 20 คน นักแต่งเพลงอายุปี อีกแนวที่เขาชอบคือเพลง มากกว่า 130 คนเกิดใน "ปีแห่งบทเพลง" (1840) เมื่อความสุขที่ได้กลับมาพบกับผู้เป็นที่รักอีกครั้งหลังจากต่อสู้เพื่อเธอมาหลายปีเป็นแรงบันดาลใจให้ชูมานน์สร้างวงจรเสียงมากมาย พวกเขารวบรวมเฉดสีที่ละเอียดอ่อนและเข้าใจยากของความรู้สึกของมนุษย์ด้วยการแทรกซึมที่น่าทึ่ง สะท้อนถึงสไตล์เฉพาะตัวของกวีแต่ละคนที่ดึงดูดนักแต่งเพลง และแวดวงของพวกเขาก็กว้างมาก ชูมันน์เริ่มบรรเลงบทเพลงของชาวเยอรมันร่วมสมัยเกือบทั้งหมดและ โรแมนติกอังกฤษยกย่องความคลาสสิกของเกอเธ่

นักแต่งเพลงมีความเชี่ยวชาญในบทกวีอย่างละเอียดและตัวเขาเองมีพรสวรรค์ด้านวรรณกรรมที่ยอดเยี่ยมซึ่งสะท้อนให้เห็นในกิจกรรมที่สำคัญของเขาซึ่งแตกต่างอย่างมากจากนักดนตรีแนวโรแมนติกคนอื่น ๆ ชูมันน์สร้างนิตยสารดนตรีและเป็นผู้สนับสนุนหลัก บทความของเขาเป็นวรรณกรรมร้อยแก้วที่เขียนในนามของนักดนตรีหลากหลายอารมณ์ ตัวละครที่ชูมันน์ประดิษฐ์ขึ้น วีรบุรุษ - ผู้เขียนบทความ Florestan และ Eusebius ตัวตนของทั้งสองด้านของแนวโรแมนติกโดยทั่วไปและโดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองของ Schumann ความหุนหันพลันแล่นและความเพ้อฝันก็รวมอยู่ในดนตรีของเขาเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเนื้อเพลงของเปียโนและเสียงร้องขนาดเล็ก ในทางตรงกันข้าม ประเภทที่สำคัญ- ไพเราะ, oratorio, โอเปร่า, ซึ่งแมนน์อ้างถึง; ในช่วงทศวรรษที่ 1840-1850 มีวัตถุประสงค์มากกว่าและห่างไกลจากความเป็นต้นฉบับ

ความสามารถทางวรรณกรรมและความดึงดูดใจ เผยแพร่ Robert Schumann เกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2353 ในเมืองเล็ก ๆ ของ Zwickau ใน Saxony สืบทอดมาจากพ่อของเขา สำนักพิมพ์หนังสือที่เจริญรุ่งเรือง แปลโดย Walter Scott และ Byron เป็นเวลากว่าสองทศวรรษที่ทำงานเกี่ยวกับวารสาร เขาเขียนการศึกษาสำหรับหนังสืออ้างอิง ชีวประวัติ คนดังสำหรับพจนานุกรมและแม้แต่นวนิยาย แม่มีความโดดเด่นด้วยความรักในดนตรีของเธอและรู้จักข้อความที่ตัดตอนมาจากโอเปร่ามากมายจนเธอถูกเรียกว่า "หนังสืออาเรียที่มีชีวิต" เธอเต็มใจร้องเพลงในวงเพื่อนเรียนรู้เพลงของ Mozart กับสามีของเธอ และลูกชายด้วย เด็กปฐมวัยร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อายุ 7 ถึง 15 ปี เขาได้รับการสอนให้เล่นเปียโนโดย Johann Gottfried Kunst นักดนตรีฝึกหัดที่เรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งความสามารถด้านการสอนแบบเจียมเนื้อเจียมตัวทำให้นักเรียนเติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนอายุ 7 ขวบ เด็กชายได้ด้นสดบนเปียโน แต่งเพลงเต้นรำ ตอนอายุ 12 ปี เขาเขียนเพลงแรก งานสำคัญ- เพลงสดุดีลำดับที่ 150 สำหรับคณะนักร้องประสานเสียงและวงออเคสตรา ที่ 17 - เพลงและเปียโนคอนแชร์โต ซึ่งยังคงสร้างไม่เสร็จ หลังจากพบคะแนนของการทาบทามด้วยชุดเสียงออเคสตร้าในร้านของพ่อของเขา โรเบิร์ตจึงจัดวงออเคสตราประจำบ้านและเป็นผู้นำวง โดยเล่นเปียโน และเนื่องจากมีผู้เล่นวงออร์เคสตราไม่เพียงพอ เขาจึงเชี่ยวชาญในการเล่นฟลุตและเชลโลด้วย
พ่อของฉันยืนยันในการศึกษาแบบเสรีนิยมทั่วไป เริ่มด้วยการศึกษาภาษาละติน ฝรั่งเศส และกรีก เป็นเวลา 9 ปี (พ.ศ. 2363-2371) แมนน์เข้าเรียนที่โรงยิมซึ่งเขาแปลนักเขียนโบราณ เขียนบทกวีและละครที่จัดแสดงใน โฮมเธียเตอร์บทความเกี่ยวกับสุนทรียศาสตร์และชีวประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียงสำหรับหนังสือหลายเล่มที่พ่อของเขาตีพิมพ์ สร้างวงวรรณกรรมและวงออเคสตรา ซึ่งเขาแสดงในฐานะนักเปียโนเดี่ยวที่บ้านและตอนเย็นที่โรงยิม เขาติด อย่างเท่าเทียมกันกวีนิพนธ์และดนตรี นาฏศิลป์ และอักษรศาสตร์ และท้ายพละ ตามที่ระบุไว้ในใบประกาศฯ “สภาครูได้รับรองท่านโดยประการทั้งปวงว่าสมควรส่งเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยในฐานะนักศึกษาวิชากฎหมาย».

แมนน์สอนวิชานิติศาสตร์สองปีการศึกษา (พ.ศ. 2371-2373) - ครั้งแรกที่เมืองไลพ์ซิกจากนั้นที่เมืองไฮเดลเบิร์ก จากวิชาในมหาวิทยาลัย เขาสนใจวิชาปรัชญา ภาษาอิตาลีและภาษาฝรั่งเศส จากนั้นจึงเรียนภาษาอังกฤษและ สเปนวรรณคดีและแน่นอนดนตรี เพียงไม่กี่วันหลังจากมาถึงเมืองไลป์ซิก ชูมันน์ได้พบกับฟรีดริช วิก ครูสอนเปียโนชื่อดัง และคลารา ลูกสาวของเขา ซึ่งเป็นเด็กอัจฉริยะวัย 9 ขวบ ได้เริ่มเรียนบทเรียนจากเขา และใน ปีหน้า- แสดงคอนเสิร์ตที่บ้าน ในไม่ช้า ชูมันน์ก็ได้รับชื่อเสียงในฐานะ "คนโปรด" และเมื่ออายุได้ 20 ปี เขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาอย่างมาก โดยอุทิศตนให้กับดนตรีทั้งหมด ในการทำเช่นนี้จำเป็นต้องทำลายการต่อต้านของแม่ (พ่อเสียชีวิตในเวลานั้น) พี่ชายและผู้พิทักษ์ - พ่อค้าที่น่านับถือ ความเห็นของวิคซึ่งเชื่อว่า "โรเบิร์ต ด้วยพรสวรรค์และจินตนาการของเขา ในอีกประมาณ 3 ปี เขาจะกลายเป็นนักเปียโนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน" จึงตัดสินใจในเรื่องนี้ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1830 ชูมันน์ตั้งรกรากกับ Wieck และฝึกเปียโนวันละ 6-7 ชั่วโมง และเรียนการประพันธ์เพลงจาก Heinrich Dorn เป็นเวลา 10 เดือน

หนึ่งปีของการฝึกฝนเปียโนอย่างกระตือรือร้นนำไปสู่หายนะ ชูมันน์รู้สึกเจ็บที่แขนขวา เหตุผลก็คืออุปกรณ์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อพัฒนาความเป็นอิสระของนิ้วทั้งหมด: เส้นเอ็นถูกยืดออกซึ่งนำไปสู่อัมพาตของนิ้วเดียวและจากนั้นจึงเป็นโรคที่รักษาไม่หายของมือ ในอาชีพนักเปียโนฝีมือเยี่ยมชูมานต้องลืมเลือนไปตลอดกาล แต่เขาสามารถเขียน มาถึงตอนนี้ ผลงานเปียโนชุดแรกก็พิมพ์ออกมาแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงการก่อร่างสร้างตัวของผู้มีพรสวรรค์ ในช่วงทศวรรษที่ 1830 วงจรที่มีชื่อเสียงของ "Carnival", "Kreisleriana", "Dances of the Davidsbündlers", "Symphonic Etudes" รวมถึง sonatas ที่ตีความในรูปแบบใหม่ได้ปรากฏขึ้น

จากนั้นแมนน์เริ่มทำหน้าที่เป็นนักประชาสัมพันธ์ ในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2374 บทความแรกของเขาปรากฏในหนังสือพิมพ์ดนตรีไลป์ซิก และอีก 2 ปีครึ่งต่อมา วารสารดนตรีใหม่ฉบับแรกที่เขาสร้างขึ้นได้รับการตีพิมพ์ ในนั้นเขาต่อต้านรสนิยมแบบฟิลิสเตีย กิจวัตร ความเฉื่อย คำขวัญของเขาคือ " เยาวชนและก้าวไปข้างหน้า". นักดนตรีรุ่นเยาว์รวมกลุ่มกันรอบๆ ชูมันน์ ก่อตั้งกลุ่มภราดรภาพดาวิดิก ซึ่งตั้งชื่อตามกษัตริย์เดวิดในพระคัมภีร์ไบเบิล นักดนตรีและนักรบ ผู้ชนะของชาวฟิลิสเตีย (ในภาษาเยอรมัน ศัตรูหลักของชูมันน์) ภาพของDavidsbündlersพบได้เสมอในเพลงของนักแต่งเพลงรวมถึงภาพของ Kiarina - Clara Wieck ลูกสาวของอาจารย์ของเขา

ชูมันน์แต่งเพลงให้กับคลาราและน้องชายของเธอเมื่อตกลงกับ Wieck เทพนิยายและเรื่องราวของโจรเล่นทาย เพลงของพวกเขามีความใกล้ชิดเป็นพิเศษ คลาร่าไม่ได้เป็นเพียงนักเปียโนที่โดดเด่นซึ่งแสดงคอนเสิร์ตอิสระตั้งแต่อายุ 11 ขวบ เธอพยายามแต่งเพลง และชูมันน์ใช้ธีมของเธอในโซนาตาของเขา โดยแต่งเพลงให้เธอ "ในนามของ Florestan และ Eusebius" ความรู้สึกเกิดขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นระหว่างพวกเขา แต่พ่อเข้ามาขวางทาง วิคใช้ทุกวิถีทางเป็นเวลา 5 ปีเพื่อแยกคนรักออกจากกัน การต่อสู้นั้นเจ็บปวด ในปี ค.ศ. 1837 โรเบิร์ตและคลาราหมั้นหมายกันแบบลับๆ และอีก 2 ปีต่อมา พวกเขาต้องขอความช่วยเหลือจากศาล การพิจารณาคดีล่าช้าเป็นเวลา 13 เดือน Wieck กล่าวหาว่า Schumann เมาสุราและมึนเมาในลักษณะที่ผู้พิพากษาถูกบังคับให้ขัดจังหวะเขา พลเมืองที่เคารพนับถือหลายคนของไลป์ซิกพูดปกป้องชูมันน์ รวมถึงเมนเดลโซห์นด้วย ในที่สุด ศาลตัดสินให้ชูมันน์เป็นฝ่ายชนะ 12 กันยายน พ.ศ. 2383 ในวันก่อนที่คลาราจะบรรลุนิติภาวะ พวกเขาแต่งงานกันในโรงเล็กๆ โบสถ์ประจำหมู่บ้านไม่ไกลจากไลป์ซิกและปีแห่งความสุขในครอบครัวก็เริ่มต้นขึ้น คลาร่ากลายเป็นโรเบิร์ตไม่เพียง แต่เป็นคู่รัก, ภรรยา, แม่ของลูก 8 คนเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนแท้, รำพึง, นักโฆษณาชวนเชื่อในงานของเขาด้วย

40s - เวทีใหม่ในผลงานของชูมันน์ เป็นศูนย์กลางของชีวิตดนตรีของไลพ์ซิก บันทึกของเขาเป็นอวัยวะที่ได้รับการยอมรับจากนักดนตรีแนวหน้า เขาได้รับเชิญให้สอนเปียโน แต่งเพลง และอ่านโน้ตเพลงที่เรือนกระจกแห่งแรกในเยอรมนีที่ Mendelssohn เปิดทำการ

มหาวิทยาลัย Jena มอบรางวัลให้เขา ชื่อกิตติมศักดิ์ปริญญาเอก วงกลมของแนวดนตรีที่เขาสนใจกำลังขยายตัว: ชูมันน์สร้างซิมโฟนี, เปียโนคอนแชร์โต, วงแชมเบอร์, คณะนักร้องประสานเสียง, ออราทอรีโอ, ดนตรีสำหรับละคร, โอเปร่า ซิมโฟนี 4 ชิ้นเกิดขึ้นหลังจากที่นักแต่งเพลงได้รู้จักกับซิมโฟนีชิ้นสุดท้ายของชูเบิร์ต ซึ่งเป็นโน้ตเพลงที่เขาพบในระหว่างที่เขาอยู่ในเวียนนาในปี พ.ศ. 2382

ไปที่สุสานเพื่อโค้งคำนับเบโธเฟนและชูเบิร์ต ชูมันน์กล่าวด้วยคำพูดของเขาเอง "ครุ่นคิดถึงหลุมฝังศพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองนี้เป็นเวลานาน เกือบจะอิจฉาบางคน ถ้าฉันจำไม่ผิด เคานต์โอดอนเนลซึ่งอยู่ระหว่างพวกเขา" จากนั้นเขาไปเยี่ยมบราเดอร์ชูเบิร์ต ครูโรงเรียนยากจนที่อาศัยอยู่แถบชานเมือง และได้เห็นต้นฉบับของชูเบิร์ตมากมาย: “ข้าพเจ้ารู้สึกตัวสั่นด้วยความปิติเมื่อเห็นกองทรัพย์มากมายวางอยู่ที่นี่ จะเริ่มที่ไหน หยุดที่ไหน?ชูมันน์เลือกซิมโฟนีชิ้นสุดท้าย ในไม่ช้าก็มีการแสดงภายใต้การดูแลของ Mendelssohn และชูมันน์ได้เขียนบทความขนาดยาวเกี่ยวกับเรื่องนี้

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2387 โรเบิร์ตและคลารา ชูมันน์เดินทางไปรัสเซียและใช้เวลา 2 เดือนในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโกว พวกเขาได้พบกับ Glinka และ Rubinstein ภายใต้การดูแลของ Schumann การแสดงซิมโฟนีครั้งแรกของเขา (ในร้านเสริมสวยของพี่น้อง Vielgorsky ตามความคิดริเริ่มของพวกเขา)

ความรักที่มีต่อชูมันน์ได้รับการพิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไชคอฟสกีและผู้นำของ Mighty Handful ไชคอฟสกีพูดถึงชูมันน์อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยสังเกตความทันสมัยที่น่าตื่นเต้นของงานของชูมันน์ ความแปลกใหม่ของเนื้อหา ความแปลกใหม่ของความคิดทางดนตรีของนักแต่งเพลงเอง "ดนตรีของชูมันน์ไชคอฟสกีเขียนว่า อยู่ติดกับงานของ Beethoven และในขณะเดียวกันก็แยกออกจากเขาอย่างรวดเร็วเปิดโลกใหม่ทั้งใบ รูปแบบดนตรีสัมผัสสายที่ยังไม่ได้สัมผัสโดยผู้ยิ่งใหญ่รุ่นก่อนของเขา ในนั้นเราพบเสียงสะท้อนของกระบวนการทางจิตวิญญาณอันลึกลับของชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา ความสงสัย ความสิ้นหวัง และแรงกระตุ้นที่มีต่ออุดมคติที่ท่วมท้นหัวใจของคนสมัยใหม่

เมื่อกลับมาที่ไลป์ซิก สุขภาพของชูมันน์ทรุดโทรมลงอย่างมาก เขามีอาการทางประสาทซึ่งถูกค้นพบเมื่ออายุ 23 ปี อาการชักรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และนักแต่งเพลงถูกบังคับให้เลิกทำงานที่นิตยสารและย้ายไปอยู่ที่เมืองเดรสเดนที่เงียบกว่า ที่นั่นเขาได้ก่อตั้งคอนเสิร์ตซิมโฟนี นำคณะนักร้องประสานเสียงชาย จากนั้นจึงก่อตั้งสมาคมนักร้องประสานเสียง แสดงวงออราทอรีโอของบาคและฮันเดล รวมถึงฉากของเขาเองจากเฟาสท์, ออราทอรีโอพาราไดซ์และเปรี

ชูมันน์ได้พบกับวากเนอร์ ในเวลานั้น Kapellmeister แห่ง Dresden Theatre ซึ่งเป็นผู้สร้างโอเปร่าแนวปฏิรูปเรื่องแรก ไม่เหมือนในช่วงทศวรรษที่ 1930 ชูมันน์ไม่ดึงดูดความคิดสร้างสรรค์ บทสนทนาระหว่างนักแต่งเพลงชาวเยอรมันที่ใหญ่ที่สุดสองคนไม่ได้ผล

เมืองสุดท้ายที่ชีวิตของชูมันน์เชื่อมโยงคือดุสเซลดอร์ฟซึ่งในเดือนกันยายน พ.ศ. 2393 เขาเข้ารับตำแหน่งผู้นำเมือง วงดุริยางค์ซิมโฟนีและสังคมแห่งการร้องเพลง เพื่อเป็นเกียรติแก่การมาถึงของนักแต่งเพลง คอนเสิร์ตอันศักดิ์สิทธิ์ได้รับจากผลงานของเขา แต่ในปีหน้ามีสัญญาณของความไม่พอใจกับกิจกรรมของเขาทั้งจากสาธารณะและจากนักแสดง ในปี 1853 ชูมันน์ลาออกจากตำแหน่ง แม้ว่าเขาจะจัดงานเทศกาลแม่น้ำไรน์ตอนล่างอย่างยิ่งใหญ่ในเดือนพฤษภาคม แต่ได้รับการยอมรับในเมืองอื่น ๆ ของเยอรมัน ไลป์ซิกจัดงาน Schumann Week ใน Weimar Liszt แสดงดนตรีประกอบละครเรื่อง Manfred ของ Byron ชูมานได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชวงศ์ สังคมดนตรีแอนต์เวิร์ป (พ.ศ. 2395) ในปีต่อมา เขาออกทัวร์ชมเมืองต่างๆ ของเนเธอร์แลนด์อย่างมีชัย ซึ่งเป็นสถานที่แสดงซิมโฟนีที่สองและสาม และคลาราเล่นเปียโนคอนแชร์โต ในเวลาเดียวกัน การประชุมครั้งสำคัญเกิดขึ้นระหว่างชูมันน์ซึ่งยืนอยู่บนขอบหลุมฝังศพ และบราห์มส์วัย 20 ปี ชูมันน์เขียนเกี่ยวกับเขา บทความล่าสุดชื่อเรื่องว่า New Ways ซึ่งเขาได้ทำนายไว้ นักดนตรีหนุ่มอนาคตที่ดี

อาการป่วยทางประสาทที่จู่โจมอย่างเฉียบพลันและยาวนานเข้าครอบงำชูมันน์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2397 เขากล่าวว่าในตอนกลางคืน "ภาพของชูเบิร์ตส่งท่วงทำนองที่ไพเราะให้เขา นี่คือสัญลักษณ์สุดท้ายของชูมันน์ พวกเขาไม่ได้ทิ้งเขาไว้ตามลำพัง แต่อาศัยจังหวะนั้น เขาวิ่งออกจากบ้านและรีบลงจากสะพานไปสู่แม่น้ำไรน์ นักแต่งเพลงได้รับการช่วยชีวิตโดยชาวประมง หลังจากนั้นตามคำร้องขอของเขา เขาถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลจิตเวชใน Endenich ใกล้กรุงบอนน์ 4 เดือนต่อมา ลูกชายคนสุดท้ายของเขาถือกำเนิดขึ้น โดยตั้งชื่อตาม Mendelssohn Felix

คลาร่าไม่ได้พบสามีของเธอมานานกว่า 2 ปี: แพทย์กลัวความไม่สงบที่ไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2399 เธอถูกเรียกตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน และ 2 วันหลังการประชุม 29 กรกฎาคม ชูมันน์เสียชีวิต อีก 2 วันต่อมา งานศพอันเรียบง่ายของเขาจัดขึ้นที่เมืองบอนน์ ซึ่งเป็นเมืองที่ชีวิตของเบโธเฟนซึ่งชูมันน์รักมากเริ่มต้นขึ้นเธอยังคงเป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียง ในปี 1878คลาร่าได้รับคำเชิญให้เป็น "ครูสอนเปียโนคนแรก" ที่ Hoch Conservatory ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ในแฟรงก์เฟิร์ต อัม ไมน์ ซึ่งเธอสอนเป็นเวลา 14 ปี คลาร่าชูมานแก้ไขผลงานของ Robert Schumann และตีพิมพ์จดหมายหลายฉบับของเขา คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายคลาร่าให้เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2434 เธออายุ 71 ปี ห้าปีต่อมาเธอเป็นโรคลมชักและเสียชีวิตในอีกไม่กี่เดือนต่อมาเมื่ออายุได้ 76 ปี ตามความปรารถนาของ Clara Schumann เธอถูกฝังใน Bonn ในสุสานเก่าถัดจากสามีของเธอ

โรเบิร์ต ชูมันน์ (เยอรมัน: Robert Schumann) เกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2353 ในเมืองซวิคเคา - เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 ในเมืองเอนเดนิช นักแต่งเพลงชาวเยอรมันนักการศึกษาและนักวิจารณ์ดนตรีผู้ทรงอิทธิพล เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดแห่งหนึ่ง นักแต่งเพลงที่โดดเด่นยุคโรแมนติก ฟรีดริช วิก ครูของเขามั่นใจว่าชูมันน์จะกลายเป็นนักเปียโนที่เก่งที่สุดในยุโรป แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่มือ โรเบิร์ตจึงต้องออกจากอาชีพการเป็นนักเปียโนและอุทิศชีวิตให้กับการแต่งเพลง

จนถึงปี 1840 การแต่งเพลงทั้งหมดของชูมันน์เขียนขึ้นสำหรับเปียโนโดยเฉพาะ ต่อมามีการเผยแพร่เพลงหลายเพลง สี่ซิมโฟนี โอเปร่าและวงออเคสตราอื่นๆ ร้องเพลงประสานเสียง และ ห้องทำงาน. เขาตีพิมพ์บทความของเขาเกี่ยวกับดนตรีใน Neue Zeitschrift für Musik (เนียว ไซทช์ริฟต์ เฟือร์ มูสิก)

ขัดกับความต้องการของบิดา ในปี 1840 ชูมันน์แต่งงานกับลูกสาวของฟรีดริช วิค คลารา ภรรยาของเขายังแต่งเพลงและมีอาชีพการแสดงคอนเสิร์ตที่สำคัญในฐานะนักเปียโน กำไรจากคอนเสิร์ตทำให้พ่อของเธอร่ำรวยมหาศาล

ชูมันน์ได้รับความทุกข์ทรมานจากความผิดปกติทางจิตซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2376 ด้วยอาการซึมเศร้าขั้นรุนแรง หลังจากพยายามฆ่าตัวตายในปี พ.ศ. 2397 เขา เจตจำนงของตัวเองถูกจัดให้อยู่ในคลินิกจิตเวช ในปี พ.ศ. 2399 โรเบิร์ต ชูมันน์เสียชีวิตโดยไม่ได้รักษาอาการป่วยทางจิต

เกิดใน Zwickau (Saxony) เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2353 ในครอบครัวของผู้จัดพิมพ์หนังสือและนักเขียน August Schumann (2316-2369)

ชูมันน์เรียนดนตรีครั้งแรกกับ Johann Kunzsch นักออร์แกนท้องถิ่น ตอนอายุ 10 ขวบเขาเริ่มแต่งเพลงโดยเฉพาะเพลงประสานเสียงและดนตรีออเคสตร้า เขาเข้าเรียนที่โรงยิมในเมืองบ้านเกิดของเขา ซึ่งเขาได้ทำความคุ้นเคยกับผลงานของฌอง ปอล และกลายเป็นแฟนตัวยงของพวกเขา ในที่สุดอารมณ์และภาพของวรรณกรรมโรแมนติกนี้ก็สะท้อนออกมา ความคิดสร้างสรรค์ทางดนตรีชูมันน์.

เมื่อตอนเป็นเด็กเขาได้ร่วมงานวรรณกรรมมืออาชีพโดยเขียนบทความสำหรับสารานุกรมที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ของบิดา เขาชอบวิชาภาษาศาสตร์อย่างจริงจังได้ทำการพิสูจน์อักษรพจนานุกรมภาษาละตินขนาดใหญ่ก่อนเผยแพร่ และโรงเรียน งานเขียนวรรณกรรมชูมันน์ถูกเขียนขึ้นในระดับที่พวกเขาได้รับการตีพิมพ์หลังมรณกรรมเป็นภาคผนวกของการรวบรวมงานวารสารศาสตร์ที่เป็นผู้ใหญ่ของเขา ในช่วงหนึ่งของวัยหนุ่ม ชูมันน์ลังเลด้วยซ้ำว่าจะเลือกสาขานักเขียนหรือนักดนตรีดี

ในปี 1828 เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Leipzig และในปีต่อมาเขาย้ายไปที่มหาวิทยาลัย Heidelberg เมื่อแม่ของเขายืนกรานเขาวางแผนที่จะเป็นทนายความ แต่ชายหนุ่มก็สนใจดนตรีมากขึ้น เขาถูกดึงดูดโดยความคิดที่จะเป็นนักเปียโนคอนเสิร์ต

ในปี พ.ศ. 2373 เขาได้รับอนุญาตจากมารดาให้อุทิศตนให้กับดนตรีโดยสิ้นเชิง และกลับไปยังเมืองไลพ์ซิก ซึ่งเขาหวังว่าจะพบผู้ให้คำปรึกษาที่เหมาะสม ที่นั่นเขาเริ่มเรียนเปียโนจาก F. Wieck และแต่งเพลงจาก G. Dorn

ในระหว่างการศึกษาของเขา ชูมันน์ค่อย ๆ พัฒนาอัมพาตของนิ้วกลางและอัมพาตบางส่วนของนิ้วชี้ซึ่งทำให้เขาต้องละทิ้งความคิดเรื่องอาชีพนักเปียโนมืออาชีพ มีรุ่นที่แพร่หลายว่าการบาดเจ็บนี้เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้เครื่องจำลองนิ้ว (นิ้วถูกผูกไว้กับสายไฟที่ห้อยลงมาจากเพดาน แต่สามารถ "เดิน" ขึ้นและลงได้เหมือนเครื่องกว้าน) ซึ่งแมนน์ถูกกล่าวหาว่าทำเอง ตามประเภท "Dactylion" ของ Henry Hertz (1836) และ "Happy Fingers" โดย Tiziano Poli ซึ่งเป็นที่นิยมในเวลานั้นใช้สำหรับฝึกนิ้ว

อีกเวอร์ชันที่ผิดปกติแต่พบได้ทั่วไปกล่าวว่า ชูมันน์พยายามที่จะบรรลุความสามารถอันเหลือเชื่อ พยายามดึงเส้นเอ็นในมือของเขาที่เชื่อมต่อนิ้วนางกับนิ้วกลางและนิ้วก้อย ทั้งสองเวอร์ชันไม่มีการยืนยัน และทั้งสองเวอร์ชันถูกหักล้างโดยภรรยาของชูมันน์

แมนน์เองอ้างว่าการพัฒนาของอัมพาตมาจากลายมือที่มากเกินไปและการเล่นเปียโนที่มากเกินไป การศึกษาร่วมสมัยโดยนักดนตรี Eric Sams ซึ่งตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2514 ชี้ให้เห็นว่าอาการอัมพาตของนิ้วมืออาจเกิดจากการสูดดมไอปรอท ซึ่งชูมันน์อาจพยายามรักษาซิฟิลิสตามคำแนะนำของแพทย์ในสมัยนั้น แต่นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปี พ.ศ. 2521 พิจารณาว่าเวอร์ชันนี้น่าสงสัยเช่นกัน โดยบ่งชี้ว่าอัมพาตอาจเป็นผลมาจากการกดทับเส้นประสาทเรื้อรังในบริเวณข้อต่อข้อศอก จนถึงปัจจุบัน สาเหตุของอาการป่วยไข้ของชูมันน์ยังไม่ปรากฏแน่ชัด

ชูมันน์รับการวิจารณ์การแต่งเพลงและดนตรีในเวลาเดียวกัน หลังจากได้รับการสนับสนุนจากบุคคลของฟรีดริช วิค, ลุดวิก ชุนเคอ และจูเลียส คนอร์ ในปี ค.ศ. 1834 ชูมันน์สามารถค้นพบหนึ่งในวารสารดนตรีที่มีอิทธิพลมากที่สุดในอนาคต นั่นคือ Neue Zeitschrift für Musik (เยอรมัน: Neue Zeitschrift für Musik) ซึ่งเขา แก้ไขและแก้ไขเป็นประจำเป็นเวลาหลายปีตีพิมพ์บทความของเขา เขาพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นผู้ที่ยึดมั่นในสิ่งใหม่และเป็นผู้ต่อสู้กับสิ่งล้าสมัยในศิลปะที่เรียกว่าพวกฟิลิสเตีย ซึ่งก็คือผู้ที่มีความคิดคับแคบและล้าหลังขัดขวางการพัฒนาดนตรีและเป็นตัวแทนของฐานที่มั่นของอนุรักษนิยม และเบอร์เกอร์

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2381 นักแต่งเพลงย้ายไปเวียนนา แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2382 เขากลับไปที่ไลป์ซิก ในปี พ.ศ. 2383 มหาวิทยาลัยไลป์ซิกได้มอบรางวัลดุษฎีบัณฑิตให้ชูมันน์ ในปีเดียวกันเมื่อวันที่ 12 กันยายน ชูมันน์ได้แต่งงานกับลูกสาวของอาจารย์ของเขาซึ่งเป็นนักเปียโนที่โดดเด่นในโบสถ์ในเชินเฟลด์ - คลารา โจเซฟิน วิค.

ในปีแห่งการแต่งงาน Schuman ได้สร้างเพลงประมาณ 140 เพลง บางปี ชีวิตด้วยกันโรเบอร์ตาและคลาราจากไปอย่างมีความสุข พวกเขามีลูกแปดคน ชูมันน์พาภรรยาไปทัวร์คอนเสิร์ต และในทางกลับกัน เธอก็มักจะแสดงดนตรีของสามี ชูมันน์สอนที่ Leipzig Conservatory ซึ่งก่อตั้งในปี 1843 โดย F. Mendelssohn

ในปีพ. ศ. 2387 แมนน์พร้อมกับภรรยาไปทัวร์ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโกวซึ่งพวกเขาได้รับเกียรติอย่างสูง ในปีเดียวกัน ชูมันน์ย้ายจากไลป์ซิกไปเดรสเดน ที่นั่นเป็นครั้งแรกที่มีอาการทางประสาทปรากฏขึ้น จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1846 ชูมันน์ก็ฟื้นตัวได้ดีพอที่จะแต่งเพลงได้อีกครั้ง

ในปี พ.ศ. 2393 ชูมันน์ได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการดนตรีในเมืองดุสเซลดอร์ฟ อย่างไรก็ตามในไม่ช้าความขัดแย้งก็เริ่มขึ้นที่นั่นและในฤดูใบไม้ร่วงปี 2396 สัญญาก็ไม่ได้รับการต่ออายุ

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2396 ชูมันน์และภรรยาเดินทางไปฮอลแลนด์ซึ่งเขาและคลาราได้รับ อย่างไรก็ตามในปีเดียวกันนั้นอาการของโรคก็เริ่มปรากฏขึ้นอีกครั้ง ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2397 หลังจากอาการป่วยของเขาแย่ลง ชูมันน์พยายามฆ่าตัวตายด้วยการทิ้งตัวลงแม่น้ำไรน์ แต่ได้รับการช่วยชีวิต เขาต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชในเมือง Endenich ใกล้กรุงบอนน์ ในโรงพยาบาลเขาเกือบจะไม่ได้แต่งภาพสเก็ตช์ของการแต่งเพลงใหม่หายไป บางครั้งเขาได้รับอนุญาตให้พบคลาราภรรยาของเขา โรเบิร์ตเสียชีวิต 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 ถูกฝังอยู่ในกรุงบอนน์

ผลงานของ Robert Schumann:

ในดนตรีของเขา ชูมันน์เป็นมากกว่านักแต่งเพลงคนอื่นๆ ที่สะท้อนธรรมชาติส่วนตัวอันลึกซึ้งของแนวโรแมนติก ดนตรียุคแรกๆ ของเขา มีลักษณะที่ครุ่นคิดและมักจะแปลกประหลาด เป็นความพยายามที่จะทำลายประเพณีของรูปแบบคลาสสิกตามความคิดของเขา ซึ่งจำกัดเกินไป คล้ายกับบทกวีของเอช. ไฮน์มาก งานของชูมันน์ท้าทายความเลวร้ายทางจิตวิญญาณของเยอรมนีในช่วงทศวรรษที่ 1820-1840 โดยเรียกร้องให้โลกแห่งความเป็นมนุษย์สูงส่ง ชูมันน์เป็นทายาทของเอฟ. ชูเบิร์ตและเค. เอ็ม. เวเบอร์ ได้พัฒนาแนวโน้มที่เป็นประชาธิปไตยและเป็นจริงของแนวโรแมนติกทางดนตรีของเยอรมันและออสเตรีย ไม่ค่อยมีใครเข้าใจในช่วงชีวิตของเขา แต่ปัจจุบันดนตรีส่วนใหญ่ของเขาถูกมองว่าเป็นตัวหนาและเป็นต้นฉบับในด้านความกลมกลืน จังหวะ และรูปแบบ ผลงานของเขาเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับประเพณีดนตรีคลาสสิกของเยอรมัน

งานเปียโนของชูมันน์ส่วนใหญ่เป็นวงจรของชิ้นเล็กๆ ของประเภทโคลงสั้น ๆ ละคร ภาพ และ "ภาพบุคคล" ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยแนววางแผนทางจิตวิทยาภายใน หนึ่งในวัฏจักรที่พบมากที่สุดคือ "คาร์นิวัล" (พ.ศ. 2377) ซึ่งมีการละเล่น เต้นรำ หน้ากาก ภาพผู้หญิง (ในหมู่พวกเขาคือ Chiarina - Clara Wieck) ภาพบุคคลทางดนตรีของ Paganini โชแปงส่งเป็นสายผสม

วัฏจักร Butterflies (1831 ตามผลงานของ Jean Paul) และ Davidsbündlers (1837) อยู่ใกล้กับงานคาร์นิวัล วัฏจักรของบทละคร "Kreisleriana" (1838 ตั้งชื่อตามวีรบุรุษวรรณกรรมของ E. T. A. Hoffmann - Johannes Kreisler นักดนตรีผู้ช่างฝัน) เป็นของความสำเร็จสูงสุดของชูมันน์ โลกแห่งภาพที่โรแมนติก ความเศร้าโศก แรงกระตุ้นที่กล้าหาญแสดงอยู่ในผลงานเปียโนของชูมันน์ในชื่อ "Symphonic etudes" ("การศึกษาในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลง", 1834), sonatas (1835, 1835-1838, 1836), Fantasia (พ.ศ. 2379-2381) , คอนแชร์โตสำหรับเปียโนและวงออเคสตรา (พ.ศ. 2384-2388) ชูมันน์ยังมีวงรอบเปียโนที่สร้างขึ้นจากหลักการของชุดหรืออัลบั้มของชิ้นส่วน: "Fantastic Fragments" (1837), "Children's Scenes" (1838), "Album for Youth" (1848) ฯลฯ

ในงานร้อง ชูมันน์ได้พัฒนาประเภทของเพลงโคลงสั้น ๆ โดยเอฟ. ชูเบิร์ต ในภาพวาดเพลงที่ออกแบบอย่างประณีต ชูมันน์แสดงรายละเอียดของอารมณ์ รายละเอียดบทกวีของข้อความ น้ำเสียงของภาษาที่มีชีวิต บทบาทที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของการบรรเลงเปียโนในชูมันน์ทำให้โครงร่างภาพสมบูรณ์และมักจะพิสูจน์ความหมายของเพลง วงจรเสียงที่ได้รับความนิยมสูงสุดของเขาคือ "The Poet's Love" ถึง verse (1840) ประกอบด้วยเพลง 16 เพลง โดยเฉพาะ "โอ้ถ้าดอกไม้เดา" หรือ "ฉันได้ยินเสียงเพลง", "ฉันพบในสวนในตอนเช้า", "ฉันไม่โกรธ", "ในฝัน ฉันร้องไห้อย่างขมขื่น”, “คุณมันชั่วร้าย, เพลงที่ชั่วร้าย วัฏจักรของเสียงร้องอีกโครงเรื่องคือ "ความรักและชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง" ของบทโดย A. Chamisso (1840) เพลงที่มีความหมายหลากหลายรวมอยู่ในวงจรของ "ไมร์เทิล" ต่อโองการของ F. Rückert, R. Burns, G. Heine, J. Byron (1840), "Around the Songs" ถึงโองการของ J. Eichendorff ( 2383). ในเพลงบัลลาดและฉากเพลง ชูมันน์สัมผัสกับหัวข้อที่หลากหลายมาก ตัวอย่างที่โดดเด่นของเนื้อเพลงพลเรือนของแมนน์คือเพลงบัลลาด "Two Grenadiers" (ในบทของ G. Heine)

เพลงของชูมันน์บางเพลงเป็นฉากง่ายๆ หรือภาพร่างในชีวิตประจำวัน ดนตรีของพวกเขาใกล้เคียงกับเพลงพื้นบ้านของเยอรมัน ("เพลงพื้นบ้าน" ในบทของ F. Ruckert และคนอื่นๆ)

ใน oratorio "Paradise and Peri" (พ.ศ. 2386 ตามเนื้อเรื่องของหนึ่งในส่วนหนึ่งของนวนิยาย "ตะวันออก" "Lalla Rook" โดย T. Moore) เช่นเดียวกับใน "Scenes from Faust" (2387-2396, หลังจากเจ. ดับเบิลยู. เกอเธ่) ชูมันน์ใกล้จะตระหนักถึงความฝันเก่าของเขาในการสร้างโอเปร่า โอเปร่าเรื่องเดียวที่สร้างเสร็จของชูมันน์ Genoveva (พ.ศ. 2391) ซึ่งมีเค้าโครงมาจากตำนานยุคกลางไม่ได้รับการยอมรับบนเวที ดนตรีของชูมันน์สำหรับบทละคร "Manfred" โดย J. Byron (ทาบทามและ 15 หมายเลขดนตรี, 1849).

ในซิมโฟนี 4 เพลงของนักแต่งเพลง (ที่เรียกว่า "Spring", 1841; Second, 1845-1846; the เรียกว่า "Rhine", 1850; Fourth, 1841-1851) มีอารมณ์สดใสร่าเริง สถานที่สำคัญประกอบด้วยตอนของเพลง การเต้นรำ ตัวละครที่เป็นโคลงสั้น ๆ - ภาพ

ชูมันน์มีส่วนอย่างมากในการวิจารณ์ดนตรี ส่งเสริมผลงานของนักดนตรีคลาสสิกบนหน้านิตยสารของเขา ต่อสู้กับปรากฏการณ์ต่อต้านศิลปะในยุคของเรา เขาสนับสนุนโรงเรียนโรแมนติกแห่งใหม่ในยุโรป ชูมันน์กล่าวโทษความฉลาดหลักแหลม ความไม่แยแสต่องานศิลปะ ซึ่งถูกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากากแห่งความเมตตากรุณาและวิชาการที่ผิดๆ ตัวละครหลักที่ชูมันน์พูดในนามของสื่อ ได้แก่ Florestan ผู้กระตือรือร้น กล้าหาญ และแดกดัน และ Euzebius ผู้เพ้อฝันผู้อ่อนโยน ทั้งสองเป็นสัญลักษณ์ของลักษณะขั้วของนักแต่งเพลงเอง

อุดมคติของชูมันน์ใกล้เคียงกับนักดนตรีชั้นนำในศตวรรษที่ 19 เขาได้รับการยกย่องอย่างสูงจาก Felix Mendelssohn, Hector Berlioz, Franz Liszt ในรัสเซีย งานของชูมันน์ได้รับการส่งเสริมโดย A. G. Rubinshtein, P. I. Tchaikovsky, G. A. Laroche และผู้นำของ Mighty Handful

พวกเขาถูกเรียกอย่างถูกต้องว่าเป็นนักแต่งเพลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 19 แต่บ่อยครั้งที่ได้ยินวลีของ Schumann ชื่อนี้มอบให้กับยุคโรแมนติกในโลกของดนตรี

เด็กและเยาวชน

โรเบิร์ต ชูมันน์ นักแต่งเพลงและนักวิจารณ์ดนตรีชาวเยอรมันเกิดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2353 ในแซกโซนี (เยอรมนี) แก่คู่รักที่รัก ฟรีดริช ออกัสต์ และโยฮันน์ คริสเตียนา เนื่องจากความรักที่เขามีต่อ Johanna ซึ่งพ่อแม่ของเขาคัดค้านการแต่งงานกับ Friedrich เพราะความยากจนพ่อของนักดนตรีในอนาคตทำงานเป็นผู้ช่วยในร้านหนังสือเป็นเวลาหนึ่งปีจึงได้รับเงินสำหรับงานแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งและสำหรับการเริ่มต้นของเขาเอง ธุรกิจ.

Robert Schumann เติบโตในครอบครัวที่มีลูกห้าคน เด็กชายเติบโตขึ้นมาอย่างซุกซนและร่าเริงเหมือนแม่ของเขา และแตกต่างจากพ่อมาก เป็นคนเก็บตัวและเงียบขรึม

Robert Schumann เริ่มเข้าโรงเรียนตั้งแต่อายุหกขวบ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติความเป็นผู้นำและ ความคิดสร้างสรรค์. หนึ่งปีต่อมาผู้ปกครองสังเกตเห็น ความสามารถทางดนตรีลูกและส่งไปเรียนเล่นเปียโน ในไม่ช้าเขาก็แสดงความสามารถในการแต่งเพลงออเคสตร้า

ชายหนุ่มเป็นเวลานานไม่สามารถตัดสินใจเลือกอาชีพในอนาคตของเขา - ไปเล่นดนตรีหรือทำงานวรรณกรรมตามที่พ่อของเขาต้องการและยืนยัน แต่คอนเสิร์ตของนักเปียโนและผู้ควบคุมวง Moscheles ซึ่ง Robert Schumann เข้าร่วมนั้นไม่เหลือโอกาสสำหรับวรรณกรรม แม่ของนักแต่งเพลงมีแผนที่จะสร้างทนายความให้กับลูกชายของเธอ แต่ในปี 1830 เขายังคงได้รับพรจากพ่อแม่ให้อุทิศชีวิตให้กับดนตรี

ดนตรี

หลังจากย้ายไปเมืองไลป์ซิก โรเบิร์ต ชูมันน์เริ่มเรียนเปียโนกับฟรีดริช วีค ซึ่งสัญญากับเขาว่าจะทำงาน นักเปียโนที่มีชื่อเสียง. แต่ชีวิตย่อมมีการปรับเปลี่ยนของมันเอง ชูมันน์พัฒนามือขวาเป็นอัมพาต - ปัญหาทำให้ชายหนุ่มละทิ้งความฝันที่จะเป็นนักเปียโนและเขาเข้าร่วมกลุ่มนักแต่งเพลง

มีสองเหตุผลที่แปลกมากว่าทำไมผู้แต่งจึงเริ่มพัฒนาโรค หนึ่งในนั้นคือเครื่องจำลองที่นักดนตรีสร้างขึ้นเองเพื่อวอร์มอัพนิ้ว เรื่องที่สองลึกลับยิ่งกว่า มีข่าวลือว่านักแต่งเพลงพยายามที่จะเอาเส้นเอ็นออกจากมือของเขาเพื่อให้ได้ความเก่งกาจในการเล่นเปียโน

แต่ไม่มีเวอร์ชันใดได้รับการพิสูจน์ พวกเขาข้องแวะในบันทึกประจำวันของคลารา ภรรยาของเขา ซึ่งโรเบิร์ต ชูมันน์รู้จักตั้งแต่เด็ก โรเบิร์ต ชูมันน์ได้ก่อตั้ง New Musical Gazette ในปี 1834 โดยได้รับการสนับสนุนจากที่ปรึกษา ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ เขาวิพากษ์วิจารณ์และเยาะเย้ยความไม่แยแสต่อความคิดสร้างสรรค์และศิลปะภายใต้ชื่อสมมติ

นักแต่งเพลงท้าทายเยอรมนีที่หดหู่และน่าสังเวชในยุคนั้น โดยใส่ความกลมกลืน สีสัน และความโรแมนติกเข้าไปในผลงานของเขา ตัวอย่างเช่นหนึ่งในที่สุด รอบที่มีชื่อเสียงสำหรับเปียโน "คาร์นิวัล" มีภาพผู้หญิงฉากสีสันสดใสหน้ากากคาร์นิวัลพร้อมกัน ในขณะเดียวกันนักแต่งเพลงก็พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในการเปล่งเสียงประเภทของเพลงโคลงสั้น ๆ

เรื่องราวเกี่ยวกับการสร้างสรรค์และผลงาน "Album for Youth" นั้นสมควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ ในวันที่ ลูกสาวคนโต Robert Schumann อายุ 7 ขวบเด็กหญิงคนนี้ได้รับสมุดบันทึกที่มีชื่อ "Album for Youth" เป็นของขวัญ สมุดบันทึกประกอบด้วยผลงานของนักแต่งเพลงชื่อดัง และ 8 คนเขียนโดย Robert Schumann

นักแต่งเพลงให้ความสำคัญกับงานนี้ไม่ใช่เพราะเขารักลูก ๆ ของเขาและต้องการเอาใจเขา แต่เขารังเกียจระดับศิลปะ การศึกษาดนตรี- เพลงและดนตรีที่เด็ก ๆ เรียนที่โรงเรียน อัลบั้มประกอบด้วยบทละคร "Spring Song", "Santa Claus", "Merry Peasant", "Winter" ซึ่งในความเห็นของผู้เขียนนั้นง่ายและเข้าใจได้สำหรับการรับรู้ของเด็ก

ในช่วงที่ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น ผู้แต่งได้แต่งเพลงซิมโฟนี 4 เพลง ส่วนหลักของงานเปียโนประกอบด้วยวงจรที่มีอารมณ์โคลงสั้น ๆ ซึ่งเชื่อมต่อกัน โครงเรื่อง.

ในช่วงชีวิตของเขา เพลงที่เขียนโดย Robert Schumann ไม่เป็นที่รู้จักของคนรุ่นราวคราวเดียวกัน โรแมนติก ซับซ้อน กลมกลืน สัมผัสสายบาง จิตวิญญาณของมนุษย์. ดูเหมือนว่ายุโรปซึ่งปกคลุมไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและการปฏิวัติไม่สามารถชื่นชมสไตล์ของนักแต่งเพลงที่ก้าวทันยุคสมัยซึ่งต่อสู้ทั้งชีวิตเพื่อเผชิญกับสิ่งใหม่โดยปราศจากความกลัว

เพื่อนร่วมงาน "ในร้าน" ก็ไม่รับรู้ถึงความร่วมสมัยของเขาเช่นกัน - เขาปฏิเสธที่จะเข้าใจดนตรีของกบฏและกบฏ Franz Liszt ซึ่งอ่อนไหวและโรแมนติกรวมเฉพาะงาน "Carnival" ในรายการคอนเสิร์ต เพลงของ Robert Schumann คลอไปกับภาพยนตร์ร่วมสมัย: House, M.D. ลุงตู่พฤติกรรม", " เรื่องราวลึกลับเบนจามิน บัตตัน.

ชีวิตส่วนตัว

นักแต่งเพลงได้พบกับ Clara Josephine Wieck ภรรยาในอนาคตของเขาตั้งแต่อายุยังน้อยในบ้านครูสอนเปียโน - ผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นลูกสาวของ Friedrich Wieck ในปี 1840 การแต่งงานของหนุ่มสาวเกิดขึ้น ปีนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมากที่สุดสำหรับนักดนตรี - แต่งเพลง 140 เพลงและปีนี้ยังได้รับรางวัลปริญญาเอกจาก University of Leipzig

คลาร่ามีชื่อเสียงในการเป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียง เธอเดินทางไปดูคอนเสิร์ตที่สามีของเธอไปกับคนที่เธอรัก ทั้งคู่มีลูก 8 คน ปีแรกของชีวิตที่อยู่ด้วยกันเหมือนเทพนิยายเกี่ยวกับความรักที่จบลงอย่างมีความสุข หลังจากผ่านไป 4 ปี Robert Schumann เริ่มมีอาการทางประสาทเฉียบพลัน นักวิจารณ์แนะนำว่าเหตุผลนี้คือภรรยาของนักแต่งเพลง

ก่อนงานแต่งงาน นักดนตรีได้ต่อสู้เพื่อสิทธิในการเป็นสามีของนักเปียโนชื่อดัง โดยส่วนใหญ่มาจากพ่อของหญิงสาว ซึ่งไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาดต่อความตั้งใจของชูมันน์ แม้จะมีอุปสรรคที่พ่อตาในอนาคตสร้างขึ้น (มันมาถึงการฟ้องร้อง) Robert Schumann แต่งงานด้วยความรัก

หลังแต่งงานฉันต้องรับมือกับความนิยมและการยอมรับของภรรยา และถึงแม้ว่า Robert Schumann จะเป็นนักแต่งเพลงที่เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง แต่ความรู้สึกที่ว่านักดนตรีซ่อนตัวอยู่ในเงามืดของชื่อเสียงของ Clara ก็ไม่ได้หายไป ผลที่ตามมา ประสบการณ์ทางอารมณ์ Robert Schumann ใช้เวลาพักสองปีในการสร้างสรรค์

เรื่องราวความรักเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ที่โรแมนติกคู่ที่สร้างสรรค์ของคลาราและโรเบิร์ตชูมันน์ได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง "Song of Love" ซึ่งเปิดตัวในอเมริกาในปี 2490

ความตาย

ในปี 1853 นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงและนักเปียโนก็ออกเดินทางไปทั่วฮอลแลนด์ซึ่งทั้งคู่ได้รับเกียรติ แต่หลังจากนั้นไม่นานอาการของโรคก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว นักแต่งเพลงพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในแม่น้ำไรน์ แต่นักดนตรีก็รอดมาได้

หลังจากเหตุการณ์นี้เขาถูกส่งตัวไปที่คลินิกจิตเวชใกล้กับกรุงบอนน์โดยไม่ค่อยได้รับอนุญาตให้พบกับภรรยาของเขา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2399 อายุ 46 ปีนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่เสียชีวิต ผลการชันสูตรสาเหตุการป่วยและเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย คือ เส้นเลือดในสมองตีบตันและสมองเสียหาย

งานศิลปะ

• พ.ศ. 2374 - "ผีเสื้อ"
• 2377 - "งานรื่นเริง"
• พ.ศ. 2380 - "ชิ้นส่วนมหัศจรรย์"
• 2381 - "ฉากเด็ก"
• 2383 - "ความรักของกวี"
• พ.ศ. 2391 - "อัลบั้มสำหรับเยาวชน"

“ จิตใจผิดความรู้สึกไม่เคย” - คำพูดเหล่านี้ของชูมันน์อาจกลายเป็นคำขวัญของศิลปินโรแมนติกทุกคนที่เชื่อมั่นว่าสิ่งมีค่าที่สุดในบุคคลคือความสามารถของเขาที่จะรู้สึกถึงความงามของธรรมชาติและศิลปะ และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ประชากร.

งานของ Schumann ดึงดูดเราก่อนอื่นด้วยความร่ำรวยและความรู้สึกที่ลึกซึ้ง และจิตใจที่เฉียบแหลม ทะลุทะลวง และปราดเปรื่องของเขาไม่เคยเป็นจิตใจที่เย็นชา มันได้รับการส่องสว่างและอบอุ่นด้วยความรู้สึกและแรงบันดาลใจเสมอ
ความสามารถอันล้นเหลือของชูมันน์ไม่ได้แสดงออกทางดนตรีในทันที ความสนใจทางวรรณกรรมครอบงำในครอบครัว พ่อของชูมันน์เป็นผู้จัดพิมพ์หนังสือที่มีความรู้แจ้ง และบางครั้งก็ทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบทความด้วยตัวเขาเอง และโรเบิร์ตอิน ปีแรก ๆมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในด้านภาษาศาสตร์, วรรณกรรม, เขียนบทละครที่จัดแสดงในวงบ้านของมือสมัครเล่น เขายังเรียนดนตรี เล่นเปียโน และด้นสดอีกด้วย เพื่อนๆ ต่างชื่นชมในความสามารถของเขาในการวาดภาพบุคคลที่เขารู้จักด้วยดนตรีในลักษณะที่ผู้คนสามารถจดจำกิริยาท่าทาง ท่าทาง รูปร่างหน้าตาและอุปนิสัยของเขาได้อย่างง่ายดาย

คลาร่า วิค

ตามคำร้องขอของญาติของเขา Robert เข้ามหาวิทยาลัย (Leipzig และ Heidelburg) เขาตั้งใจจะรวมการศึกษาของเขาที่คณะนิติศาสตร์เข้ากับดนตรี แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชูมันน์ตระหนักว่าเขาไม่ใช่ทนายความ แต่เป็นนักดนตรี และเริ่มขอความยินยอมจากแม่ของเขาอย่างต่อเนื่อง (พ่อของเขาเสียชีวิตในตอนนั้น) เพื่ออุทิศตนให้กับดนตรีโดยสิ้นเชิง
ได้รับความยินยอมในที่สุด บทบาทสำคัญแสดงโดยการรับประกันของอาจารย์ที่มีชื่อเสียง Friedrich Wieck ซึ่งรับรองแม่ของ Schumann ว่าลูกชายของเธอจะต้องได้รับการศึกษาอย่างจริงจัง นักเปียโนที่โดดเด่น. อำนาจของวิกนั้นเถียงไม่ได้เพราะคลาร่าลูกสาวและนักเรียนของเขาซึ่งตอนนั้นยังเป็นเด็กผู้หญิงเป็นนักเปียโนคอนเสิร์ตอยู่แล้ว
โรเบิร์ตย้ายจากไฮเดลเบิร์กไปที่ไลป์ซิกอีกครั้ง และกลายเป็นนักเรียนที่ขยันและเชื่อฟัง เมื่อพิจารณาว่าเขาจำเป็นต้องชดเชยเวลาที่เสียไปโดยเร็วที่สุด เขาจึงทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และเพื่อให้บรรลุถึงอิสระในการเคลื่อนไหวนิ้วของเขา เขาจึงคิดค้นอุปกรณ์เชิงกล สิ่งประดิษฐ์นี้เล่น บทบาทร้ายแรงในชีวิตของเขา - มันนำไปสู่โรคที่รักษาไม่หายของมือขวา

ชะตากรรมที่ร้ายแรง

มันเป็นระเบิดที่น่ากลัว ท้ายที่สุดแล้วชูมันน์ได้รับอนุญาตจากญาติของเขาให้ละทิ้งการศึกษาที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์และอุทิศตนให้กับดนตรีโดยสิ้นเชิงและในที่สุดเขาก็ทำได้เพียงเล่นบางอย่าง "เพื่อตัวเอง" ด้วยนิ้วที่ซุกซนของเขา ... มี สิ่งที่ต้องสิ้นหวัง แต่หากไม่มีดนตรี เขาก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้อีกต่อไป ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุด้วยมือของเขา เขาเริ่มเรียนทฤษฎีและศึกษาองค์ประกอบอย่างจริงจัง ตอนนี้บรรทัดที่สองนี้กลายเป็นบรรทัดแรก แต่ไม่ใช่คนเดียว ชูมันน์เริ่มทำหน้าที่เป็นนักวิจารณ์ดนตรี และบทความของเขาก็เฉียบคม เฉียบคม เจาะลึกถึงแก่นแท้ ชิ้นดนตรีและคุณสมบัติของการแสดงดนตรี - ดึงดูดความสนใจได้ทันที

ชูมันน์นักวิจารณ์

ชื่อเสียงของชูมันน์ในฐานะนักวิจารณ์มีมาก่อนชูมันน์ในฐานะนักแต่งเพลง

ชูมานอายุเพียงยี่สิบห้าปีเมื่อเขาเริ่มต้นนิตยสารดนตรีของตัวเอง เขากลายเป็นผู้จัดพิมพ์ บรรณาธิการ และผู้สนับสนุนหลักของบทความที่ปรากฏในนามของสมาชิกของ Davidsbund ซึ่งเป็นกลุ่มภราดรภาพแห่งเดวิด

ดาวิด กษัตริย์ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีตามพระคัมภีร์ในตำนานได้ต่อสู้กับผู้คนที่เป็นศัตรู - ชาวฟิลิสเตียและเอาชนะพวกเขาได้ คำว่า "ฟิลิสเตีย" พ้องเสียงกับ "ฟิลิสทีน" ในภาษาเยอรมัน - พ่อค้า, คนธรรมดา, ถอยหลังเข้าคลอง เป้าหมายของสมาชิกของ "ภราดรภาพแห่งเดวิด" - กลุ่มDavidsbündlers - คือการต่อสู้กับรสนิยมทางศิลปะแบบฟิลิสเตีย โดยยึดติดกับของเก่า คร่ำครึ หรือตรงกันข้ามกับการแสวงหาแฟชั่นล่าสุดแต่ว่างเปล่า

ภราดรภาพนั้นไม่ได้มีอยู่จริงในนามของ Schumann's New Musical Journal มันเป็นวรรณกรรมหลอกลวง มีกลุ่มคนที่มีใจเดียวกันกลุ่มเล็ก ๆ แต่แมนน์ถือว่านักดนตรีชั้นนำทุกคนเป็นสมาชิกของกลุ่มภราดรภาพโดยเฉพาะ Berlioz และเปิดตัวอย่างสร้างสรรค์ซึ่งเขายินดีต้อนรับด้วยบทความที่กระตือรือร้น ชูมันน์เองก็เซ็นสัญญาด้วยนามแฝงสองชื่อ ซึ่งด้านต่างๆ ของธรรมชาติที่ขัดแย้งกันของเขาและแง่มุมต่างๆ ของลัทธิโรแมนติกเป็นตัวเป็นตน ภาพลักษณ์ของ Florestan - กบฏที่โรแมนติกและ Eusebius - นักฝันที่โรแมนติก เราพบไม่เพียง แต่ในบทความวรรณกรรมของ Schumann เท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลงานดนตรีของเขาด้วย

นักแต่งเพลงชูมันน์

และเขาเขียนเพลงมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมุดบันทึกของเขาถูกสร้างขึ้นทีละเล่ม ชิ้นเปียโนภายใต้ชื่อที่ผิดปกติในเวลานั้น: "ผีเสื้อ", " บทละครแฟนตาซี", "Kreisleriana", "ฉากสำหรับเด็ก" ฯลฯ ชื่อเรื่องระบุว่าบทละครเหล่านี้สะท้อนถึงชีวิตที่หลากหลายและความประทับใจทางศิลปะของชูมันน์ “ตัวอย่างเช่น ใน Kreislerian ภาพลักษณ์ของนักดนตรี Kreisler ซึ่งสร้างขึ้นโดยนักเขียนโรแมนติก E. T. A. Hoffmann ได้ท้าทายสภาพแวดล้อมของชนชั้นกลางที่อยู่รอบตัวเขาด้วยพฤติกรรมของเขาและแม้กระทั่งการดำรงอยู่ของเขาเอง "ฉากเด็ก" - ภาพร่างชีวิตเด็กชั่วขณะ: เกม นิทาน จินตนาการของเด็ก บางครั้งก็น่ากลัว ("หลอน") บางครั้งก็สดใส ("ความฝัน")

ทั้งหมดนี้เป็นของสาขาดนตรีโปรแกรม ชื่อของชิ้นงานควรส่งเสริมจินตนาการของผู้ฟัง ดึงความสนใจของเขาไปในทิศทางที่แน่นอน ละครส่วนใหญ่เป็นละครย่อส่วน สั้นๆ รวมภาพเดียว หนึ่งความประทับใจ แต่แมนน์แมนมักจะรวมเข้าด้วยกันเป็นวัฏจักร เพลงที่มีชื่อเสียงที่สุดของงานรื่นเริงนี้ประกอบด้วยชุดสั้น ๆ นี่คือเพลงวอลทซ์และ ฉากโคลงสั้น ๆการประชุมที่ลูกบอลและภาพเหมือนจริงและ ตัวละครในนิยาย. ในหมู่พวกเขาพร้อมกับหน้ากากงานรื่นเริงแบบดั้งเดิมของ Pierrot, Harlequin, Columbine เราได้พบกับ Chopin และในที่สุดเราจะได้พบกับ Schumann ในสองคน - Florestan และ Eusebius และ Chiarina - Clara Vik

ความรักของโรเบิร์ตและคลาร่า

โรเบิร์ตและคลาร่า

ความอ่อนโยนแบบพี่น้องสำหรับผู้หญิงที่มีความสามารถคนนี้ซึ่งเป็นลูกสาวของอาจารย์ชูมันน์ในที่สุดก็กลายเป็นความรู้สึกที่จริงใจ คนหนุ่มสาวตระหนักว่าพวกเขาถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน พวกเขามีเป้าหมายชีวิตเดียวกัน มีรสนิยมทางศิลปะเหมือนกัน แต่ความเชื่อมั่นนี้ไม่ได้ถูกแบ่งปันโดย Friedrich Wieck ผู้ซึ่งเชื่อว่าสามีของ Clara ควรจัดหาเงินให้เธอ เหนือสิ่งอื่นใด นี่ไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังจากนักเปียโนที่ล้มเหลว เนื่องจาก Wik Schumann อยู่ในสายตา เขายังกลัวว่าการแต่งงานจะขัดขวางชัยชนะในคอนเสิร์ตของคลารา

"การต่อสู้เพื่อคลารา" ดำเนินไปเป็นเวลาห้าปีเต็มและในปี พ.ศ. 2383 เท่านั้นที่ได้รับชัยชนะ การทดลองคนหนุ่มสาวได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการให้แต่งงาน โรเบิร์ตและคลารา ชูมันน์

นักเขียนชีวประวัติของชูมันน์เรียกปีนี้ว่าเป็นปีแห่งบทเพลง ชูมันน์สร้างวงจรเพลงหลายเพลง: "ความรักของกวี" (ในบทของไฮน์), "ความรักและชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง" (ในบทของอ. ชามิสโซ), "เมอร์เทิล" - วงจรที่เขียนเป็น ของขวัญแต่งงานให้คลาร่า อุดมคติของนักแต่งเพลงคือการผสมผสานดนตรีและคำเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และเขาประสบความสำเร็จในสิ่งนี้จริงๆ

ดังนั้นปีแห่งความสุขในชีวิตของชูมันน์จึงเริ่มต้นขึ้น ขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ได้ขยายออกไป ก่อนหน้านี้ความสนใจของเขามุ่งเน้นไปที่เกือบทั้งหมด เพลงเปียโนตอนนี้หลังจากปีแห่งเพลงก็ถึงเวลาแล้ว เพลงไพเราะ, ดนตรีสำหรับวงแชมเบอร์, oratorio "Paradise and Peri" กำลังถูกสร้างขึ้น ชูมันน์เริ่มต้นและ กิจกรรมการสอนที่ Leipzig Conservatory ที่เพิ่งเปิดใหม่ เขาติดตาม Clara ในทัวร์คอนเสิร์ตของเธอ ต้องขอบคุณที่การแต่งเพลงของเขามีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ในปี 1944 โรเบิร์ตและคลาราใช้เวลาหลายเดือนในรัสเซีย ซึ่งพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นมิตรจากนักดนตรีและผู้รักเสียงเพลง

การระเบิดครั้งสุดท้ายของโชคชะตา

ด้วยกันตลอดไป

แต่ปีที่มีความสุขถูกบดบังด้วยความเจ็บป่วยที่คืบคลานเข้ามาอย่างมองไม่เห็นของชูมันน์ ซึ่งในตอนแรกดูเหมือนเป็นการทำงานหนักเกินไป อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงมากขึ้น มันเป็น ป่วยทางจิตบางครั้งก็ถดถอย - จากนั้นนักแต่งเพลงก็กลับไปทำงานสร้างสรรค์และพรสวรรค์ของเขายังคงสดใสและเป็นต้นฉบับเหมือนเดิม บางครั้งก็แย่ลง - จากนั้นเขาก็ไม่สามารถทำงานหรือสื่อสารกับผู้คนได้อีกต่อไป โรคร้ายค่อยๆ ทำลายร่างกายของเขา และเขาใช้เวลาสองปีสุดท้ายของชีวิตในโรงพยาบาล