Sergei Rachmaninov: ชีวประวัติ, วิดีโอ, ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ, ความคิดสร้างสรรค์ ผลงานของ Rachmaninov: รายการ

ความสามารถที่หลากหลายของ Rachmaninov แสดงออกมาในบทบาทของวาทยกร นักแต่งเพลง นักแสดง แม้ว่าตัวนักแต่งเพลงเองมักจะพูดว่ากลัวที่จะไม่พบตัวเอง และในบั้นปลายชีวิตของเขา เขาเขียนว่า:

“…ฉันหาตัวเองไม่เจอ…”

นักแต่งเพลงคนนี้เรียกได้ว่าเป็นนักแต่งเพลงที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง ตัวเขาเองกล่าวว่า:

"ฉันอยากจะร้องเพลงธีมบนเปียโนในแบบที่นักร้องจะร้อง"

V. Bryantseva จดบันทึกการผสมผสานที่เป็นธรรมชาติในท่วงทำนองของเขาของคำพังเพยที่ก่อตัวขึ้นแล้วโดยมีเพียงความกว้างของการหายใจที่เกิดขึ้นใหม่ กระบวนการ ซึ่งรวบรวมคุณลักษณะของมหากาพย์เมโลดั้งเดิมของรัสเซีย นี่คือลักษณะที่ "ท่วงทำนอง dali" ดั้งเดิมของ Rachmaninov (B. Asafiev) ถือกำเนิดขึ้นด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของหลักการแต่งเพลงแต่ละเพลงและบทเพลงทั่วไป

นี่คือท่วงทำนองบทกวีมหากาพย์ประเภทใหม่ซึ่งมีศักยภาพที่น่าทึ่งซึ่งธรรมชาติอยู่ในอัตราส่วนพิเศษและการสลับวิธีการพัฒนาแบบคงที่และไดนามิกร่วมกันอย่างรวดเร็ว (L. Mazel)

ท่วงทำนองของ Rachmaninov เชื่อมโยงกับต้นกำเนิดพื้นบ้าน ธีมของมาตุภูมิ เสียงระฆังของรัสเซียเสมอ

จากมรดกอันยาวนานซึ่งครอบคลุมประเภทและหัวข้อที่หลากหลาย เราจะมุ่งเน้นไปที่ผลงานของนักแต่งเพลงเพียงไม่กี่คน:

ความคิดสร้างสรรค์เปียโนเอส.วี. รัชมานินอฟ

ในงานของปรมาจารย์ งานเปียโนถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่เขียนในรัสเซีย ภาพของเปียโนที่มีเสียงซึ่งเขาสร้างขึ้น ทำหน้าที่ถ่ายทอดความลึกของการเป็นตัวของตัวเอง เมื่อนำภาพของระฆังซึ่งมีความหมายเชิงปรัชญาและอุดมการณ์ ผู้แต่งจึงยืนยันในวัฒนธรรมดนตรีเปียโนว่าเป็นธีมนิรันดร์

บทละครแฟนตาซี (บทที่ 3, พ.ศ. 2435) ได้แก่บทละคร: "Elegy", "Prelude", "Melody", "Polishinelle", "Serenade" วัฏจักรนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นเอกเทศของภาษา Rachmaninov และความเชื่อมโยงกับภาษารุ่นก่อน ใน "Elegy" - คุณสมบัติของท่วงทำนองของ Chopin, เพลงของ Schubert; การเสียดสีและแปลกประหลาดของ Liszt - ใน "Polishinelle"

"Six Musical Moments" (1896) เป็นแนวคิดของ Rachmaninoff ในการสร้างจุดเริ่มต้นในแง่ดี เริ่มแรกสร้างเป็น ผลงานของแต่ละคนแล้วนำมารวมกันเป็นวงจรตามหลักการพัฒนาภาพจากความมืดไปสู่ความสว่าง จุดสูงสุดของความมืดและโศกนาฏกรรมคือลำดับที่ 3; จากนั้นเส้นทางของการพัฒนาภาพลักษณ์ก็ผ่านความตื่นเต้นเร้าใจในอันดับที่ 4 - ไปสู่เนื้อเพลงในอันดับที่ 5 โดยมีจุดสุดยอด (ชัยชนะของแสง) ในอันดับที่ 6

ภาพสเก็ตช์ (ภาพสเก็ตช์หกภาพ op.33, 1911; เก้าภาพสเก็ตช์ op.39, 1916-1917) โดยพื้นฐานแล้วเป็น "ภาพสเก็ตช์" ซึ่งมีความสัมพันธ์แบบมีเงื่อนไขกับประเภทภาพร่างเช่นนี้

โหมโรงโดย Rachmaninoff

ตามธรรมเนียมแล้วโหมโรงถูกนำเสนอโดยเกี่ยวข้องกับการดำรงอยู่สองทาง:

• เป็นบทนำสู่ความทรงจำ (ในวัฏจักร เช่น J.S. Bach);
• จิ๋ว (ในผลงานของ Chopin, Lyadov)

ในผลงานของ Rachmaninov ทิศทางที่สามปรากฏขึ้นในชีวิตของประเภท:

— แกรนด์เพลย์อิสระ

ในวงจรของโหมโรงมีหลักสามประการรวมกัน คือ บทร้อง กาพย์ และบทละคร พวกเขาครอบคลุมภาพที่หลากหลายพวกเขาโดดเด่นด้วยความสามารถพิเศษ, ความฉลาด, การพัฒนารูปแบบ, ความยิ่งใหญ่; ไม่มีชื่อโปรแกรม

การเปรียบเทียบวงจรของโหมโรง (โหมโรงสิบบท 23, 2446 และสิบสามโหมโรง 32, 2453) แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของรูปทรงกลมและอารมณ์ในดนตรี: อารมณ์ของเนื้อเพลงบทกวีเบา ๆ ที่มีลักษณะเฉพาะของวงจรก่อนหน้าถูกแทนที่ ในภายหลังโดยการเพิ่มบทบาทของการรบกวน, น่าทึ่ง, ถึงแก่ชีวิต; นอกจากนี้ - มหากาพย์คู่บารมีและการเพิ่มความสว่างของสีประจำชาติ สิ่งนี้ส่งผลต่อรูปแบบการเขียนเปียโน: ความยิ่งใหญ่ที่เพิ่มขึ้น ความมีชีวิตชีวาของสีทำให้คุณลักษณะของวงออเคสตรา

โซนาทัส

ประเภท เปียโนโซนาต้าโดยรวมแล้วไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับนักแต่งเพลงคนนี้ ซึ่งแตกต่างจากคนรุ่นราวคราวเดียวกัน Snata No. 1 in d-moll (op. 28, 1907) (เช่นเดียวกับ No. 2 in b-moll, op. 36, 1913) สร้างความประทับใจให้กับความลึก แม้ว่าจะไม่ใช่ผลงานที่มีการแสดงและเป็นที่นิยมมากที่สุด

คอนแชร์โตสำหรับเปียโนและวงออร์เคสตรา

ก่อน Rachmaninoff ประเภทของเปียโนคอนแชร์โตได้รับการรับรู้ในผลงานของ Balakirev, Rubinstein แต่ไม่มีใครเด็ดขาด สำหรับนักแต่งเพลงประเภทนี้ แนวเพลงประเภทนี้ได้กลายเป็นแนวเพลงที่สำคัญที่สุดแนวหนึ่ง โดยได้ซึมซับโลกทั้งใบของผลงานของเขา คุณสมบัติหลักประการหนึ่งคือความสามัคคีของหลักการสามประการในคอนแชร์โตของเขา

เปียโนคอนแชร์โตของ SV Rachmaninov สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานของเขา: พวกเขาสรุปสิ่งที่นักแต่งเพลงสะสมไว้ในโหมโรง, ซิมโฟนี ฯลฯ นี่คือส่วนใหญ่ -

• ความยิ่งใหญ่,
• คอนเสิร์ต,
• ความสามารถพิเศษ

เขาบรรเลงเพลงประสานเสียง 4 เพลงเพื่อเฉลิมฉลอง เหตุการณ์สำคัญความคิดสร้างสรรค์ รับเอาประเพณีนี้มาจากไชคอฟสกี

หมายเลข 1 (fis-moll, 2434)- สำเร็จการศึกษาจากเรือนกระจก เปียโนคอนแชร์โตชุดแรกที่มีเนื้อร้องที่จริงใจและตื่นเต้น ได้รับความสำเร็จ

เปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สอง (c-moll, 1901)เฉลิมฉลองทางออกจากวิกฤตและเปิด ระยะเวลาครบกำหนดความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณนักแต่งเพลงอุทิศให้กับ V. Dahl นักจิตอายุรเวทและนักสะกดจิตที่สามารถโน้มน้าวให้เขาประสบความสำเร็จที่ขาดไม่ได้ของงาน

เปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สาม (d-moll, 1909)หมายถึงจุดสูงสุดของผลงานทั้งหมดของนักแต่งเพลง ความหมายที่แท้จริงของมันจะเข้าใจได้ในเวลาเท่านั้น (จากนั้นจะถูกนับในหมู่ ผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเพลงเปียโนรัสเซียแห่งศตวรรษที่ 20);

ฉบับที่ 4 (g-moll, 2469),อุทิศให้กับ N. Medtner สร้างขึ้นมานานกว่าหนึ่งปีโดยสรุปการค้นหาที่สร้างสรรค์

บ่อยครั้ง Rhapsody on a Theme of Paganini (a-moll, 1934) ก็รวมอยู่ในคอนแชร์โตด้วย ซึ่งคุณภาพของคอนเสิร์ตโดยธรรมชาติทำให้งานนั้น

ซิมโฟนีโดย Rachmaninoff

(ฉบับที่ 1, d-moll, 1895, ฉบับที่ 2, e-moll, 1906-1907, ฉบับที่ 3, a-moll, 1935-1936)

ซิมโฟนีชุดแรกโดย S. V. Rachmaninoffไม่ได้รับการยอมรับจากคนรุ่นเดียวกันซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในงานของอาจารย์: การแสดงของเธอล้มเหลว ผลงานนี้เป็นผลงานชิ้นเอก ย้อนไปถึงท่วงทำนองเพลงประกอบละครของไชคอฟสกี จินตภาพ และความซับซ้อนของดนตรีและวิธีการแสดงออกของผู้แต่ง (ร่วมกับคุณลักษณะของสไตล์ส่วนตัวของผู้แต่ง) ความล้มเหลวกลายเป็นแรงระเบิดสำหรับผู้แต่งเพลงทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าเป็นเวลานาน ผู้แต่งเขียนว่า:

“หลังจากซิมโฟนีนี้ ฉันไม่ได้แต่งเพลงอะไรเลยประมาณสามปี เขาเหมือนคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองและใคร เป็นเวลานานหัวและมือถูกพรากไป ... "

เพลงของซิมโฟนีที่สองเผยให้เห็นภาพลักษณ์ที่น่าเศร้าของมาตุภูมิ ความยิ่งใหญ่และความกว้างของมหากาพย์ผสมผสานกับความลึกซึ้งของเนื้อเพลง

อารมณ์ ซิมโฟนีที่สามแสดงถึงโศกนาฏกรรมและการเสียชีวิต พวกเขาเต็มไปด้วยความโหยหาต่อผู้สูญเสีย (เช่นใน Symphonic Dances ธีมของซีเควนซ์ในยุคกลาง "Dies irae" ("Day of Wrath") ฟังที่นี่ ซึ่งได้เข้าสู่จิตสำนึกทางดนตรีอย่างแน่นหนาในฐานะสัญลักษณ์ แห่งความตายหิน

"ซิมโฟนิกแดนซ์"- งานชิ้นสุดท้ายของนักแต่งเพลงที่เขียนขึ้นในปี 2483 เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองได้สัมผัสกับยุโรปแล้ว

ความคิดสร้างสรรค์ในการร้องและการขับร้องประสานเสียง

งานด้านเสียงของ SV Rachmaninov โดยรวมนั้นมีแนวโน้มในการเสริมสร้างบทบาทของการเริ่มต้นการเปิดเผยอย่างค่อยเป็นค่อยไป (วัฏจักรแห่งความรัก op. 26, 1906; ในรอบต่อมา op. 34 และ 38 แนวโน้มนี้จะแสดงออกด้วยซ้ำ สว่างขึ้น).

ผลงานทางปรัชญาที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของนักแต่งเพลงคือบทกวี "The Bells" สำหรับวงออเคสตรา คณะนักร้องประสานเสียง และศิลปินเดี่ยว Edgar Poe ในการเล่าเรื่องฟรีของ Balmont (1913) งานนี้ - ตัวอย่างแนวเพลงผสมที่ผสมผสานคุณลักษณะของซิมโฟนีและออราทอริโอ

อีกด้านหนึ่งของแรงบันดาลใจทางอุดมการณ์ของผู้ประพันธ์ใน "เฝ้าทั้งคืน"(พ.ศ. 2458 สำหรับคณะนักร้องประสานเสียงอะแคปเปลลา) กับข้อความพิธีกรรมที่บัญญัติให้เป็นนักบุญ คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดคือสัญชาติที่ลึกซึ้ง ระบบเป็นรูปเป็นร่างและเนื้อหาน้ำเสียง ที่นี่นักแต่งเพลงใช้ท่วงทำนองของ Znamenny และบทสวดโบราณอื่น ๆ โดยตระหนักถึงสิ่งที่ค้นพบในด้านการนำเสนอการร้องเพลงประสานเสียงแบบโพลีโฟนิก การประสานกันของเนื้อหาดนตรี ธรรมชาติของน้ำเสียง

โอเปร่าผลงานของรัคมานินอฟ

ในหัวใจของโอเปร่า อัศวินขี้เหนียว"(2448 ตามข้อความของโศกนาฏกรรมโดยอ. นอกจากนี้ในปี 1906 นักแต่งเพลงได้สร้างโอเปร่า "Salambo" (บทเพลงของ M. Slonov ซึ่งปัจจุบันสูญหายไป) และตั้งแต่ปี 1907 ทำงานในโอเปร่า "Mona Vanna" (หลังจาก Maeterlinck) แต่ปล่อยให้มันยังไม่เสร็จโดยไม่ได้หันไปหาแนวโอเปร่าในงานของเขาอีกต่อไป

นักแต่งเพลง S.V. Rakhmaninov รักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเพณีตลอดอาชีพการงานของเขา พัฒนา ปรับปรุง และคิดใหม่ในงานของเขา เกณฑ์การประเมินสูงสุดสำหรับเขาคือความฉับไวและความจริงใจของถ้อยแถลง ซึ่งเมื่อรวมกับความงามที่ไม่ธรรมดา ความลุ่มลึก และพลังของผลกระทบจากดนตรีของเขา ทำให้มันอมตะและมีความเกี่ยวข้อง ทำให้อยู่เหนือเวลาที่กำหนด

ในหัวข้อนี้ เราได้เตรียมคำไขว้ออนไลน์เกี่ยวกับดนตรีของนายคนนี้ -

คุณชอบมันไหม? อย่าซ่อนความสุขของคุณจากโลก - แบ่งปัน

การแนะนำ

รัชมานีนอฟ นักแต่งเพลงเปียโนซิมโฟนี

เปลี่ยน XIX - XX ศตวรรษ - ช่วงเวลาที่น่าทึ่งในประวัติศาสตร์รัสเซีย นี่คือความซับซ้อนทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สำคัญ ในแง่หนึ่ง โดดเด่นด้วยการค้นพบและความสำเร็จที่โดดเด่น บุคลิกที่แข็งแกร่งและความสามารถ ความทันสมัยทางเศรษฐกิจ และการเติบโต และในทางกลับกัน - หายนะทางสังคม สงคราม และการปฏิวัติ นี่เป็นเวลาของการเข้าสู่วัฒนธรรมรัสเซียอย่างรวดเร็วผิดปกติในเวทีระหว่างประเทศ ช่วงเวลาของการพัฒนาอย่างรวดเร็วและการเกิดขึ้นของกองกำลังและกระแสใหม่ วัฒนธรรมรัสเซียซึ่งเรียกว่า "ยุคเงิน" ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้น ประมาณตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1890 ถึง 1917 ช่วงเวลานี้จึงเต็มไปด้วยศักยภาพสูงสำหรับพลังสร้างสรรค์ และทิ้งมรดกอันล้ำค่าไว้ในงานศิลปะทุกแขนง ดนตรีรัสเซียในช่วงเวลานี้มาถึงแนวหน้าของวัฒนธรรมดนตรีโลก

ไอเอ Ilyin เคยกล่าวไว้ว่า:“ ไม่มีศิลปะรัสเซียใดที่ไม่มีหัวใจที่ลุกโชน มันไม่มีอยู่จริงหากปราศจากแรงบันดาลใจ…” คำเหล่านี้สามารถนำมาประกอบกับผลงานของนักแต่งเพลงนักเปียโนและวาทยกรชาวรัสเซียผู้เก่งกาจในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 - ต้นศตวรรษที่ XX เซอร์เกย์ วาซิลเยวิช รัชมานินอฟ ในดนตรีของเขา ภารกิจทางจิตวิญญาณทั้งหมดของศิลปินยุคเงินนั้นมีหลายแง่มุมและถูกดึงดูดอย่างลึกซึ้ง - ความกระหายสิ่งใหม่ ความอิ่มเอิบทางอารมณ์ ความปรารถนาที่จะ "มีชีวิตเป็นสิบเท่า" (A.A. Blok) Rachmaninov สังเคราะห์หลักการของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโกวในงานของเขา โรงเรียนนักแต่งเพลงผสมผสานประเพณีของศิลปะรัสเซียและยุโรปเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืนสร้างสไตล์ดั้งเดิมของเขาซึ่งต่อมามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อดนตรีรัสเซียและโลกในศตวรรษที่ 20 และในขณะเดียวกันก็สร้างโรงเรียนสอนเปียโนรัสเซียที่มีความสำคัญระดับโลก

และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่การปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว XXII ที่เมืองโซซีเกิดขึ้นที่ดนตรีของ Rachmaninov ซึ่งมีการแสดงเปียโนคอนแชร์โต้ที่สองอันโด่งดังของเขา

. Sergei Vasilyevich Rachmaninov - ข้อมูลชีวประวัติโดยย่อ

รัชมานีนอฟ เซอร์เก วาซิลีเยวิช (พ.ศ. 2416-2486) - นักแต่งเพลงที่ยอดเยี่ยมนักเปียโนและวาทยกรฝีมือดีที่โดดเด่น ซึ่งชื่อของเขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมดนตรีระดับชาติและระดับโลกของรัสเซีย

Rachmaninov เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2416 ในตระกูลขุนนางในที่ดิน Oneg ซึ่งเป็นของแม่ของเขาใกล้กับ Novgorod วัยเด็กของนักแต่งเพลงในอนาคตผ่านไปที่นี่ สิ่งที่แนบมากับธรรมชาติของบทกวีรัสเซียกับภาพที่เขาหันมาทำงานซ้ำ ๆ มีต้นกำเนิดในวัยเด็กและวัยรุ่น ในปีเดียวกันนั้น Rachmaninoff มีโอกาสฟังเพลงพื้นบ้านของรัสเซียบ่อยครั้งซึ่งเขารักมากมาตลอดชีวิต เยี่ยมชมอาราม Novgorod กับคุณยายของเขา Sergei Vasilievich ฟังเสียงระฆัง Novgorod ที่มีชื่อเสียงและท่วงทำนองพิธีกรรมของรัสเซียโบราณซึ่งเขามักจะสังเกตเห็นต้นกำเนิดของชาติ ในอนาคตสิ่งนี้จะสะท้อนให้เห็นในผลงานของเขา (บทกวี Cantata "The Bells", "All-Night Vigil")

Rachmaninoff เติบโตในครอบครัวนักดนตรี Arkady Alexandrovich ปู่ของเขาซึ่งเรียนกับ John Field เป็นนักเปียโนและนักแต่งเพลงมือสมัครเล่นซึ่งเป็นนักเขียนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ในร้านเสริมสวย งานเขียนหลายชิ้นของเขาได้รับการตีพิมพ์ในศตวรรษที่ 18 พ่อของนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ Vasily Arkadyevich Rachmaninov เป็นคนที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีเป็นพิเศษ

ดอกเบี้ย S.V. รัคมานินอฟแสดงดนตรีในวัยเด็ก แม่ของเขาให้บทเรียนเปียโนครั้งแรกกับเขาจากนั้นครูสอนดนตรี A.D. ได้รับเชิญ ออร์นาตสกายา. ตามบันทึกของผู้แต่งเองบทเรียนทำให้เขา "ไม่พอใจมาก" แต่เมื่ออายุสี่ขวบเขาสามารถเล่นสี่มือกับคุณปู่ได้แล้ว

เมื่อนักแต่งเพลงในอนาคตอายุ 8 ขวบ ครอบครัวของเขาย้ายไปปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อถึงเวลานั้นความสามารถทางดนตรีของเขาค่อนข้างชัดเจนและในปี พ.ศ. 2425 เขาเข้าเรียนที่ St. Petersburg Conservatory ในชั้นเรียนเปียโนจูเนียร์ของ V.V. เดเมียนสกี้.

ในปี 1885 Rachmaninoff ได้ยินในเวลานั้นยังเด็กมาก แต่แล้ว นักดนตรีที่มีชื่อเสียงลูกพี่ลูกน้องของ Sergei Vasilyevich, A.I. ซิโลตี. Siloti เชื่อมั่นในความสามารถของลูกพี่ลูกน้องของเขา Siloti พาเขาไปที่ Moscow Conservatory ไปที่ชั้นเรียนของ Nikolai Sergeevich Zverev นักเปียโนชื่อดัง (ซึ่งเป็นนักเรียนของ Scriabin ด้วย)

Rachmaninov ใช้เวลาหลายปีในหอพักส่วนตัวที่มีชื่อเสียงของมอสโก Nikolai Zverev ครูสอนดนตรี ที่นี่เมื่ออายุ 13 ปี Rachmaninoff ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ Pyotr Ilyich Tchaikovsky ซึ่งต่อมามีส่วนสำคัญในชะตากรรมของนักดนตรีหนุ่ม นักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงฉันสังเกตเห็นนักเรียนที่มีความสามารถคนหนึ่งและติดตามความก้าวหน้าของเขาอย่างใกล้ชิด หลังจากนั้นไม่นาน P.I. ไชคอฟสกีกล่าวว่า: "ฉันทำนายอนาคตที่ดีสำหรับเขา"

หลังจากเรียนกับ Zverev แล้วกับ Siloti (เพราะ Zverev เรียนกับเด็กเท่านั้น) ที่แผนกอาวุโสของเรือนกระจก Rachmaninov เริ่มเรียนภายใต้การแนะนำของ S.I. Taneeva (ความแตกต่าง) และ A.S. Arensky (องค์ประกอบ) ตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2429 เขาได้กลายเป็นหนึ่งในนักเรียนที่ดีที่สุดและได้รับทุนการศึกษาที่ตั้งชื่อตาม N.G. รูบินสไตน์.

ในบรรดาผลงานที่เขียนขึ้นในระหว่างการศึกษา: คอนแชร์โตครั้งที่ 1 สำหรับเปียโนและวงออเคสตราและ บทกวีไพเราะ"เจ้าชาย Rostislav" (อ้างอิงจาก A.K. Tolstoy) รัคมานินอฟมีพรสวรรค์ด้านการฟังเพลงและความจำที่ไม่ธรรมดา ในปี 1891 ขณะอายุ 18 ปี รัคมานินอฟสำเร็จการศึกษาอย่างยอดเยี่ยมจากเรือนกระจกด้วยเหรียญทองในฐานะนักเปียโนในชั้นเรียนเปียโน และอีกหนึ่งปีต่อมา ในปี พ.ศ. 2435 เมื่อเขาสำเร็จการศึกษาจาก Moscow Conservatory ในชั้นเรียนการประพันธ์เพลง เขาได้รับรางวัลเหรียญทองขนาดใหญ่จากผลงานการแสดงและการแต่งเพลงที่โดดเด่น เขาจบการศึกษาจากเรือนกระจกและ Scriabin ร่วมกับเขาซึ่งได้รับเพียงเล็กน้อย เหรียญทอง, เพราะ รางวัลใหญ่มอบให้กับนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาจากเรือนกระจกในสองสาขาพิเศษเท่านั้น (Scriabin จบการศึกษาในฐานะนักเปียโน)

ผลงานชิ้นแรกที่สำคัญที่สุดของเขาคือเขา งานรับปริญญา- โอเปร่าเรื่องเดียว "Aleko" จากบทกวี "ยิปซี" ของพุชกิน เสร็จสิ้นในเวลาอันสั้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน - เพียงสองสัปดาห์ - ในเวลาเพียง 17 วัน การตรวจสอบเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2435; คณะกรรมการให้คะแนนสูงสุดแก่ Rachmaninov

สำหรับเธอ ไชคอฟสกีซึ่งเข้าร่วมการสอบได้มอบ "หลานชายด้านดนตรี" ของเขา (รัคมานินอฟเรียนกับทาเนเยฟ นักเรียนคนโปรดของปีเตอร์ อิลยิช) ห้าคน ล้อมรอบด้วยข้อดีสี่ประการ

รอบปฐมทัศน์ของ "Aleko" ที่ Bolshoi Theatre จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2436 และประสบความสำเร็จอย่างมาก ดนตรีของโอเปร่าที่ดึงดูดใจด้วยความหลงใหลในวัยเยาว์ พลังที่น่าทึ่ง ความมีชีวิตชีวา และท่วงทำนองที่สื่ออารมณ์ได้ ได้รับการชื่นชมอย่างสูงจากนักดนตรี นักวิจารณ์ และผู้ฟังรายใหญ่ที่สุด โลกดนตรีถือว่า "Aleko" ไม่ใช่งานของโรงเรียน แต่เป็นการสร้างปรมาจารย์สูงสุด เขาชื่นชมโอเปร่าของ P.I. ไชคอฟสกี: "ผมชอบสิ่งที่น่ารักนี้มาก" เขาเขียนถึงพี่ชายของเขา

ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิตของ Tchaikovsky Rachmaninoff มักจะติดต่อกับเขา เขาชื่นชมผู้สร้าง The Queen of Spades อย่างสูง ได้รับการสนับสนุนจากความสำเร็จครั้งแรกและการสนับสนุนทางศีลธรรมของไชคอฟสกี รัคมานินอฟ หลังจากจบการศึกษาจากเรือนกระจก ได้แต่งผลงานหลายชิ้น ในหมู่พวกเขา ได้แก่ ซิมโฟนิกแฟนตาซี "Cliff" ซึ่งเป็นชุดแรกสำหรับเปียโน 2 ตัว "Musical Moments" ซึ่งเป็นเพลงโหมโรงใน C-sharp minor ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นหนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รักที่สุดของรัคมานินอฟ ความรัก: "อย่าร้องเพลง, ความงาม, กับฉัน", "ในความเงียบของคืนที่เป็นความลับ", "เกาะ", "น้ำในฤดูใบไม้ผลิ"

ตอนอายุ 20 ปี เขากลายเป็นครูสอนเปียโนที่โรงเรียนสตรีมอสโก Mariinsky ตอนอายุ 24 ปี - ผู้ควบคุมวงของ Moscow Russian Private Opera ของ Savva Mamontov ซึ่งเขาทำงานเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาล แต่สามารถมีส่วนร่วมสำคัญในการพัฒนา ของอุปรากรรัสเซีย

ดังนั้น รัคมานินอฟจึงมีชื่อเสียงในฐานะนักแต่งเพลง นักเปียโน และวาทยกร

อย่างไรก็ตามอาชีพที่ประสบความสำเร็จของเขาถูกขัดจังหวะเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2440 โดยการแสดงรอบปฐมทัศน์ของ First Symphony ที่ไม่ประสบความสำเร็จ (ผู้ควบคุมวง - A.K. Glazunov) ซึ่งจบลงด้วยความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงเนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่ดีและธรรมชาติของดนตรีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ตามที่ A.V. Ossovsky การขาดประสบการณ์ของ Glazunov ในฐานะผู้นำวงออเคสตราในระหว่างการซ้อมมีบทบาทบางอย่าง

ความตกใจอย่างรุนแรงทำให้ Rachmaninov เข้าสู่วิกฤตที่สร้างสรรค์ ระหว่าง พ.ศ. 2440-2444 ท่านไม่สามารถแต่งเพลงได้

ในปี พ.ศ. 2440-2441 รัคมานินอฟได้แสดงละครเวทีเรื่อง Moscow Private Russian Opera ของ Savva Mamontov ในขณะเดียวกันอาชีพการแสดงระดับนานาชาติของเขาก็เริ่มขึ้น การแสดงในต่างประเทศครั้งแรกของ Rachmaninov จัดขึ้นที่ลอนดอนในปี พ.ศ. 2442 ในปี 1900 เขาไปเยือนอิตาลี

ในปี พ.ศ. 2441-2443 เขาได้แสดงร่วมกับ Fyodor Chaliapin ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในช่วงต้นทศวรรษ 1900 Rachmaninov สามารถเอาชนะวิกฤตความคิดสร้างสรรค์ได้ งานสำคัญชิ้นแรกในยุคนี้คือ Second Piano Concerto (1901) ซึ่งผู้แต่งได้รับรางวัล Glinka Prize

การสร้างเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สองไม่เพียงทำเครื่องหมายการออกจากวิกฤตของ Rachmaninov เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน - การเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความคิดสร้างสรรค์ครั้งต่อไป ทศวรรษครึ่งต่อมากลายเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในชีวประวัติของเขา: Sonata for Cello and Piano (1901); Cantata "Spring" (1902) จากบทกวี "Green Noise" ของ Nekrasov ซึ่งผู้แต่งยังได้รับรางวัล Glinka Prize ในปี 1906 เต็มไปด้วยโลกทัศน์ที่สนุกสนานในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ดนตรีรัสเซียการมาถึงของ Rachmaninoff ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2447 ที่ Bolshoi Theatre ในฐานะผู้ควบคุมวงและผู้อำนวยการละครเพลงของรัสเซีย ในปีเดียวกัน นักแต่งเพลงได้สร้างโอเปร่าเรื่อง The Miserly Knight และ Francesca da Rimini เสร็จ หลังจากสองฤดูกาล รัคมานินอฟออกจากโรงละครและตั้งรกรากที่อิตาลีก่อน จากนั้นจึงไปที่เดรสเดน บทกวีไพเราะ "Isle of the Dead" ถูกเขียนขึ้นที่นี่

ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2451 Sergei Vasilievich ได้เข้าเป็นสมาชิกของคณะกรรมการมอสโกของ Russian Musical Society และในฤดูใบไม้ร่วงปี พ.ศ. 2452 ร่วมกับ A.N. Skryabin และ N.K. Medtner - ต่อสภาสำนักพิมพ์เพลงรัสเซีย ในเวลาเดียวกัน เขาได้สร้างวงจรการร้องเพลง "Liturgy of St. John Chrysostom" และ "Vespers"

สมัยมอสโกของรัคมานินอฟสิ้นสุดลงในปี 2460 เมื่อเกิดการปฏิวัติสังคมนิยมครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม ในตอนท้ายของปี 1917 เขาได้รับเชิญให้ไปแสดงคอนเสิร์ตหลายครั้งในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย เขาไปกับครอบครัวและไม่เคยกลับไปรัสเซีย เขาออกจากบ้านเกิดแยกตัวออกจากดินที่งานของเขาเติบโต รัคมานินอฟประสบกับดราม่าภายในอันล้ำลึกจวบจนวาระสุดท้ายของเขา “หลังจากออกจากรัสเซีย ฉันหมดความปรารถนาที่จะแต่งเพลง เมื่อสูญเสียบ้านเกิดเมืองนอนไปฉันก็สูญเสียตัวเอง ... ” เขากล่าว

ในตอนแรก Rachmaninov อาศัยอยู่ในเดนมาร์กซึ่งเขาแสดงคอนเสิร์ตมากมายหาเลี้ยงชีพจากนั้นในปี 2461 เขาย้ายไปอเมริกา จากคอนเสิร์ตครั้งแรกในเมืองเล็ก ๆ ของพรอวิเดนซ์ในรัฐโรดไอส์แลนด์ กิจกรรมคอนเสิร์ตของ Rachmaninov เริ่มขึ้น ซึ่งดำเนินต่อไปโดยไม่หยุดชะงักเป็นเวลาเกือบ 25 ปี ในอเมริกา Sergei Rachmaninoff ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งที่เคยมีนักแสดงต่างชาติมาที่นี่ นักเปียโน Rachmaninoff เป็นไอดอลของผู้ชมคอนเสิร์ตผู้พิชิตโลกทั้งใบ ดาล 25 ฤดูกาลคอนเสิร์ต. ผู้ฟังไม่เพียงถูกดึงดูดโดยทักษะการแสดงระดับสูงของรัคมานินอฟเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลักษณะการเล่นของเขาและการบำเพ็ญตบะภายนอกด้วย ซึ่งเบื้องหลังนั้นธรรมชาติอันปราดเปรื่องของนักดนตรีผู้ปราดเปรื่องถูกซ่อนไว้

ที่น่าสนใจคือชาวอเมริกันถือว่า Sergei Rachmaninov เป็นนักแต่งเพลงชาวอเมริกันผู้ยิ่งใหญ่

ขณะถูกเนรเทศ รัคมานินอฟเกือบหยุดการแสดง แม้ว่าในอเมริกาเขาจะได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าบอสตัน วงดุริยางค์ซิมโฟนีและต่อมาคือวง Cincinnati City Orchestra แต่เขาไม่เห็นด้วยและยืนอยู่ที่อัฒจรรย์ของผู้ควบคุมวงเป็นครั้งคราวเท่านั้นเมื่อเขา เรียบเรียงเอง.

Rachmaninov อาศัยอยู่ต่างประเทศไม่ลืมบ้านเกิดของเขา เขาติดตามพัฒนาการของวัฒนธรรมโซเวียตอย่างใกล้ชิด ในปีพ.ศ. 2484 เขาทำงานชิ้นสุดท้ายเสร็จ ซึ่งหลายคนรู้จักในฐานะผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา นั่นคือ "Symphonic Dances"

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัคมานินอฟได้แสดงคอนเสิร์ตหลายครั้งในสหรัฐอเมริกาและส่งเงินสะสมทั้งหมดเข้ากองทุน กองทัพโซเวียตซึ่งช่วยเธอได้มาก “ฉันเชื่อในชัยชนะที่สมบูรณ์” เขาเขียน เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้มีอิทธิพลต่อความภักดีของรัฐบาลโซเวียตต่อความทรงจำและมรดกของนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่

เพียงหกสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต รัคมานินอฟได้แสดงคอนแชร์โตและการแรปโซดีครั้งแรกของเบโธเฟนในธีมของปากานินี การโจมตีของอาการป่วยถูกบังคับให้ขัดขวางการทัวร์คอนเสิร์ต รัคมานินอฟเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2486 ในเบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

นักแต่งเพลงชาวรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่เสียชีวิต แต่ดนตรีของเขายังคงอยู่กับเรา

นักเปียโนที่มีขนาดเท่า Rachmaninov เกิดหนึ่งครั้งใน 100 ปี

ปีแห่งชีวิตของ S.V. Rachmaninoff ใกล้เคียงกับช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและเส้นทางสร้างสรรค์ของเขาเอง ทั้งงดงามและน่าสลดใจ เขาได้เห็นสงครามโลกครั้งที่สองและ ชาวรัสเซียสามคนการปฏิวัติ เขายินดีต่อการล่มสลายของระบอบเผด็จการรัสเซีย แต่ไม่ยอมรับเดือนตุลาคม Rachmaninoff ใช้ชีวิตเกือบครึ่งชีวิตในต่างแดน รู้สึกเหมือนเป็นชาวรัสเซียไปจนสิ้นอายุขัย ภารกิจของเขาในประวัติศาสตร์ศิลปะโลกไม่สามารถกำหนดและประเมินเป็นอย่างอื่นได้นอกจากภารกิจของนักร้องชาวรัสเซีย

2. นักเปียโนและนักแต่งเพลงชาวรัสเซียผู้ยิ่งใหญ่ S.V. รัชมานินอฟ

2.1 ลักษณะโฆษณาทั่วไป

สำหรับนักดนตรีและผู้ฟังส่วนใหญ่ การประพันธ์เพลงของรัคมานินอฟคือสัญลักษณ์ทางศิลปะของรัสเซีย นี่คือลูกชายที่แท้จริงของยุคเงินซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของวัฒนธรรมรัสเซียในช่วงเปลี่ยนศตวรรษ

ภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์ของ Rachmaninoff ในฐานะนักแต่งเพลงมักถูกกำหนดโดยคำว่า "นักแต่งเพลงชาวรัสเซียส่วนใหญ่" ลักษณะที่สั้นและไม่สมบูรณ์นี้แสดงออกทั้งคุณสมบัติที่เป็นกลางของสไตล์ของ Rachmaninov และสถานที่มรดกของเขาในมุมมองทางประวัติศาสตร์ของดนตรีโลก เป็นงานของรัคมานินอฟที่ทำหน้าที่เป็นตัวหารสังเคราะห์ที่รวมและหลอมรวมหลักการสร้างสรรค์ของโรงเรียนมอสโก (พี. ไชคอฟสกี) และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ("Mighty Handful") ให้เป็นรูปแบบประจำชาติรัสเซียที่เป็นหนึ่งเดียวและสมบูรณ์

ธีม "รัสเซียและชะตากรรมของมัน" ซึ่งเป็นธีมทั่วไปสำหรับศิลปะรัสเซียทุกประเภทและทุกประเภท เป็นงานของรัคมานินอฟที่มีลักษณะพิเศษและสมบูรณ์ ในเรื่องนี้ Rachmaninoff เป็นทั้งผู้สืบทอดประเพณีโอเปร่าของ Mussorgsky, Rimsky-Korsakov, ซิมโฟนีของ Tchaikovsky และเชื่อมโยงในสายโซ่แห่งประเพณีของชาติที่ไม่ขาดสาย (หัวข้อนี้ยังคงดำเนินต่อไปในผลงานของ S. Prokofiev, D. Shostakovich , G. Sviridov, A. Schnittke และอื่น ๆ )

บทบาทพิเศษของ Rachmaninoff ในการพัฒนาประเพณีของชาตินั้นอธิบายได้จากตำแหน่งทางประวัติศาสตร์ของงานของ Rachmaninov ซึ่งเป็นผลงานร่วมสมัยของการปฏิวัติรัสเซีย: เป็นการปฏิวัติที่สะท้อนให้เห็นในงานศิลปะของรัสเซียว่าเป็น "หายนะ", "จุดจบของ โลก” ซึ่งเป็นความหมายของหัวข้อ “รัสเซียและชะตากรรมของมัน” เสมอมา

งานของ Rachmaninov เรียงตามลำดับเวลาอ้างอิงถึงศิลปะรัสเซียในยุคนั้น ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า "ยุคเงิน" วิธีการสร้างสรรค์ศิลปะที่สำคัญในยุคนี้คือสัญลักษณ์ซึ่งเป็นลักษณะที่ปรากฏอย่างชัดเจนในงานของ Rachmaninov ผลงานของ Rachmaninov นั้นเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนซึ่งแสดงออกด้วยความช่วยเหลือของสัญลักษณ์ที่เป็นสัญลักษณ์ซึ่งหลักคือบรรทัดฐานของการร้องเพลงประสานเสียงในยุคกลาง Dies Irae บรรทัดฐานนี้ใน Rachmaninov เป็นสัญลักษณ์ของลางสังหรณ์ของภัยพิบัติ "จุดจบของโลก" "การแก้แค้น"

ในการทำงานของ Rachmaninov มีความสำคัญมาก แรงจูงใจของคริสเตียน: ในฐานะที่เป็นคนเคร่งศาสนา รัคมานินอฟไม่เพียงแต่มีส่วนสนับสนุนอย่างโดดเด่นในการพัฒนาดนตรีศักดิ์สิทธิ์ของรัสเซียเท่านั้น แต่ยังรวมแนวคิดและสัญลักษณ์ของคริสเตียนไว้ในผลงานอื่นๆ ของเขาอีกด้วย สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับดนตรีรัสเซียทางจิตวิญญาณคือการแต่งเพลงประกอบพิธีกรรมของเขา - พิธีสวดของนักบุญ John Chrysostom (1910) และ All-Night Vigil (1915) ในปี 1913 บทกวีที่ยิ่งใหญ่ "The Bells" ถูกเขียนขึ้นเป็นบทกวีของ Edgar Allan Poe สำหรับศิลปินเดี่ยว คณะนักร้องประสานเสียง และวงออเคสตรา

หัวข้อมากมายเชื่อมโยงดนตรีของ Rachmaninov กับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในวรรณคดีและศิลปะในยุคนั้น ด้วย Bely, Balmont, Merezhkovsky, Gippius Rachmaninoff มีมุมมองทางสุนทรียศาสตร์และปรัชญาที่เหมือนกัน Rachmaninov เข้าใจศิลปะว่าเป็นการแสดงออกถึงความสูงส่งของการแสวงหาของมนุษย์ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสวยงามในความคิดทางจิตวิญญาณของมนุษย์ ดนตรีคือการแสดงออกถึงความงามที่เย้ายวนใจ Rachmaninov ยังใกล้ชิดกับผู้ที่พยายามเปิดเผยรากเหง้าทางจิตวิญญาณของรัสเซีย, เพื่อฟื้นฟูดนตรีรัสเซียโบราณ, คอนเสิร์ตทางจิตวิญญาณของศตวรรษที่ 18, แยกการร้องเพลง จุดสูงสุดของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการทางวัฒนธรรมคือการเฝ้าระวังตลอดคืนของเขา

โดยธรรมชาติของพรสวรรค์ Rachmaninoff เป็นนักแต่งเพลงที่มีอารมณ์ที่เปิดกว้าง เป็นลักษณะการผสมผสานของวิธีการพูดแบบโคลงสั้น ๆ สองประเภท: 1) สิ่งที่น่าสมเพช, อารมณ์; 2) การปรับแต่ง การเปล่งเสียงที่เงียบงัน

เนื้อเพลงของรัคมานินอฟแสดงออกถึงความรักที่มีต่อมนุษย์และธรรมชาติ และในขณะเดียวกันก็กลัวการเปลี่ยนแปลงและการกบฏที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ความงามในการแสดงออกทางความคิดในอุดมคติและจังหวะที่เดือดปุดๆ - ในขั้วนี้ รัคมานินอฟปรากฏเป็นผู้ชายในยุคสมัยของเขา แต่รัคมานินอฟไม่ได้เป็นเพียงนักแต่งเพลงเท่านั้น แต่ผลงานของเขายังแสดงออกถึงความยิ่งใหญ่อย่างชัดเจน Rachmaninov เป็นศิลปินผู้บรรยายเรื่อง Rus ที่ทำด้วยไม้ เสียงระฆังดังขึ้น ตัวละครมหากาพย์ของเขาเป็นแบบวีรบุรุษ

เมโลดี้. ซึ่งแตกต่างจาก Scriabin ร่วมสมัยของเขาที่มักจะคิดถึงดนตรีในรูปแบบของการบรรเลง Rachmaninoff จากผลงานการประพันธ์ชุดแรก ๆ แสดงให้เห็นถึงลักษณะเสียงของพรสวรรค์ของเขา เสียงร้องของท่วงทำนองกลายเป็นลักษณะเด่นของแนวเพลงทั้งหมดของเขา รวมถึงแนวเพลงบรรเลงด้วย ดนตรีของรัคมานินอฟโดยรวมเป็นเพลงหลายทำนอง และนี่เป็นหนึ่งในความลับของความชัดเจน ท่วงทำนองของเขาโดดเด่นด้วยความกว้างของลมหายใจ ความเป็นพลาสติก และความยืดหยุ่น ต้นกำเนิดมีมากมาย: เพลงในเมืองและชาวนา, ความรักในเมือง, บทสวดมนต์ znamenny ท่วงทำนองของเขามีรูปทรงที่มีลักษณะเฉพาะ: คลื่นพายุที่รุนแรงพร้อมกับการย้อนกลับอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ความสามัคคี. เขาอาศัยชัยชนะของชาวโรแมนติก คอร์ดแบบหลายเติร์ต, การขยายตัวของรูปแบบย่อย, วิธีหลัก - รอง, คอร์ดที่เปลี่ยนแปลง, พหุฮาร์โมนี, จุดอวัยวะเป็นลักษณะเฉพาะ "Rakhmaninov's Harmony" - คอร์ดไตรมาสที่สามของฮาร์มอนิกเบื้องต้นที่ลดลงด้วยคอร์ดที่สี่ (ในรอง) การใช้งานที่หลากหลายของเสียงระฆังเป็นลักษณะเฉพาะ ภาษาฮาร์มอนิกมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

พฤกษ์. ในงานแต่ละชิ้นมีพฤกษ์เสียงย่อยหรือเลียนแบบ

จังหวะ. Barcarolle จังหวะที่ลื่นไหลหรือการเดินขบวน จังหวะการไล่ล่าเป็นลักษณะเฉพาะ จังหวะทำหน้าที่สองอย่าง: 1) ช่วยในการสร้างภาพ (ostinato จังหวะยาวไม่ใช่เรื่องแปลก); 2) การสร้าง

รูปแบบและประเภทเริ่มต้นจากการเป็นนักดนตรีแบบดั้งเดิม: เขาเขียนเปียโนจิ๋วในสามจังหวะ เปียโนคอนแชร์โต เรียนรู้กฎของวงจรพิธีกรรม ในยุค 900 มีแนวโน้มที่จะสังเคราะห์รูปแบบและจากนั้น - เพื่อสังเคราะห์ประเภท

.2 วิวัฒนาการของรูปแบบสร้างสรรค์ ภาษาดนตรี

ต้นกำเนิดของงานของ Rachmaninov อยู่ที่ Chopin, Schumann, Grieg - นักแต่งเพลงที่โดดเด่นของศตวรรษที่ 19 ในวัฒนธรรมออร์โธดอกซ์ทางจิตวิญญาณในงานของ Mussorgsky และ Borodin เมื่อเวลาผ่านไป ศิลปะของ Rachmaninov ได้ดูดซับสิ่งใหม่ๆ มากมาย วิวัฒนาการของภาษาดนตรีจึงเกิดขึ้น

สไตล์ของ Rachmaninov ซึ่งเติบโตมาจาก แนวโรแมนติกตอนปลายต่อมาได้รับวิวัฒนาการที่สำคัญ: เช่นเดียวกับผู้ร่วมสมัยของเขา - A. Scriabin และ I. Stravinsky - Rakhmaninov อย่างน้อยสองครั้ง (ประมาณปี 1900 และประมาณปี 1926) ได้ปรับปรุงสไตล์ดนตรีของเขาอย่างรุนแรง สไตล์ที่เป็นผู้ใหญ่และโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปลายของรัคมานินอฟนั้นไปไกลเกินขอบเขตของประเพณีหลังโรแมนติก (“การเอาชนะ” ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงแรก) และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้อยู่ในกระแสโวหารใด ๆ ของแนวดนตรี -Garde ของศตวรรษที่ 20 ดังนั้น งานของ Rachmaninov จึงโดดเด่นกว่าใครในวิวัฒนาการของดนตรีโลกในศตวรรษที่ 20: หลังจากได้ซึมซับความสำเร็จมากมายของแนวอิมเพรสชั่นนิสต์และแนวหน้า สไตล์ของ Rachmaninov จึงยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นต้นฉบับ ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ในงานศิลปะระดับโลก ในดนตรีวิทยาสมัยใหม่มักจะใช้คู่ขนานกับ L. Van Beethoven: เช่นเดียวกับ Rachmaninoff, Beethoven ไปไกลเกินขอบเขตของรูปแบบที่ให้ความรู้แก่เขาโดยไม่เข้าร่วมกับความรักและยังคงเป็นคนต่างด้าวในโลกทัศน์ที่โรแมนติก

งานของ Rachmaninov แบ่งออกเป็นสามหรือสี่ช่วงตามอัตภาพ: ต้น (พ.ศ. 2432-2440) สุกงอม (บางครั้งก็แบ่งออกเป็นสองช่วง: 2443-2452 และ 2453-2460) และปลาย (พ.ศ. 2461-2484)

ช่วงแรก - ช่วงต้น - เริ่มขึ้นภายใต้สัญลักษณ์ของแนวจินตนิยมตอนปลาย โดยหลอมรวมเข้ากับสไตล์ของไชคอฟสกีเป็นหลัก (เพลงประสานเสียงครั้งแรก, ท่อนแรก) อย่างไรก็ตาม ใน Trio in D minor (พ.ศ. 2436) ซึ่งเขียนขึ้นในปีแห่งการเสียชีวิตของไชคอฟสกีและอุทิศให้กับความทรงจำของเขา รัคมานินอฟได้ยกตัวอย่างของการสังเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ที่กล้าหาญของประเพณีโรแมนติก (ไชคอฟสกี) "คุชคิสต์" ประเพณีคริสตจักรรัสเซียโบราณและดนตรีสมัยใหม่ในชีวิตประจำวันและยิปซี ผลงานชิ้นนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกๆ ของโพลีสไตลิสติกในดนตรีโลก ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความต่อเนื่องของประเพณีตั้งแต่ไชคอฟสกีไปจนถึงรัชมานินอฟ และการเข้ามาของดนตรีรัสเซีย เวทีใหม่การพัฒนา. ใน First Symphony หลักการของการสังเคราะห์โวหารได้รับการพัฒนาอย่างกล้าหาญยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความล้มเหลวในรอบปฐมทัศน์

ระยะเวลาครบกำหนดถูกทำเครื่องหมายด้วยการก่อตัวของแต่ละบุคคลสไตล์ที่เป็นผู้ใหญ่ตามสัมภาระของ Znamenny สวดมนต์การแต่งเพลงของรัสเซียและสไตล์ของสาย แนวโรแมนติกของยุโรป. คุณลักษณะเหล่านี้แสดงออกอย่างชัดเจนใน Second Concerto และ Second Symphony อันโด่งดัง ในเปียโนโหมโรง op. 23. อย่างไรก็ตาม เริ่มต้นด้วยบทกวีไพเราะ "Isle of the Dead" สไตล์ของรัคมานินอฟเริ่มซับซ้อนขึ้น ในแง่หนึ่ง เกิดจากการดึงดูดธีมของสัญลักษณ์และความทันสมัย ​​และในทางกลับกัน โดย การดำเนินการตามความสำเร็จ เพลงร่วมสมัย: อิมเพรสชั่นนิสม์, นีโอคลาสสิก, ออร์เคสตร้าใหม่, เท็กซ์เจอร์, เทคนิคฮาร์มอนิก

ช่วงปลาย - ช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์ในต่างประเทศ - โดดเด่นด้วยความคิดริเริ่มที่โดดเด่น สไตล์ของ Rachmaninov ประกอบด้วยการผสมผสานที่แข็งแกร่งขององค์ประกอบโวหารที่หลากหลายและบางครั้งก็เป็นปฏิปักษ์: ประเพณีของดนตรีรัสเซียและแจ๊ส, znamenny เก่าของรัสเซียและเวที "ร้านอาหาร" ของทศวรรษที่ 1930, สไตล์อัจฉริยะของศตวรรษที่ 19 - และ Toccato ที่รุนแรงของเปรี้ยวจี๊ด ความแตกต่างอย่างมากของสถานที่โวหารมีความหมายทางปรัชญา - ความไร้สาระความโหดร้ายของการอยู่ใน โลกสมัยใหม่สูญเสียคุณค่าทางจิตวิญญาณ ผลงานของช่วงเวลานี้มีความโดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ลึกลับ โพลีโฟนีเชิงความหมาย และท่วงทำนองเชิงปรัชญาที่ลุ่มลึก ผลงานล่าสุดของ Rachmaninov คือ Symphonic Dances (1941) ซึ่งรวบรวมคุณลักษณะเหล่านี้ทั้งหมดไว้อย่างชัดเจน เทียบกับนวนิยายเรื่อง The Master and Margarita ของ M. Bulgakov ซึ่งสร้างเสร็จในเวลาเดียวกัน

.3 ความคิดสร้างสรรค์เปียโน

งานของ Rachmaninov มีหลายแง่มุมอย่างยิ่ง มรดกของเขารวมถึงประเภทต่างๆ เพลงเปียโนเป็นสถานที่พิเศษในงานของ Rachmaninov เขาเขียนผลงานที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องดนตรีโปรดของเขา - เปียโน ได้แก่ โหมโรง 24 บท, ภาพอีทูดี้ 15 บท, คอนแชร์โต 4 บทสำหรับเปียโนและวงออเคสตรา, "Rhapsody on a Theme of Paganini" สำหรับเปียโนและวงออเคสตรา เป็นต้น

รัคมานินอฟในฐานะนักเปียโนและนักแต่งเพลงเปียโน ได้นำวีรบุรุษคนใหม่ - ผู้กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว อดกลั้น และจริงจัง โดยสรุปคุณลักษณะที่ดีที่สุดของสติปัญญาในเวลานั้น ฮีโร่ตัวนี้ปราศจากความเป็นคู่, เวทย์มนต์, เขาแสดงออกถึงความรู้สึกที่ละเอียดอ่อน, สูงส่ง, ประเสริฐ Rachmaninov ยังเสริมความแข็งแกร่งให้กับรัสเซีย เพลงเปียโนธีมใหม่: โศกนาฏกรรม มหากาพย์ระดับชาติ เนื้อเพลงทิวทัศน์, สถานะโคลงสั้น ๆ ที่หลากหลาย, ระฆังรัสเซีย

มรดกของ Rachmaninoff ได้แก่ โอเปร่าและซิมโฟนี ดนตรีแชมเบอร์-โวคอลและคอรอลอันศักดิ์สิทธิ์ แต่นักแต่งเพลงส่วนใหญ่แต่งเพลงสำหรับเปียโน ผลงานของ Rachmaninov ถือได้ว่าเป็นการเสร็จสิ้นประเพณีของดนตรีเปียโนโรแมนติกของยุโรป มรดกของผู้แต่งในประเภทเปียโนสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามเงื่อนไข:

กลุ่ม - ผลงานหลัก: 4 คอนแชร์โต, "Rhapsody on a Theme of Paganini" สำหรับเปียโนและวงออเคสตรา, 2 sonatas, Variations on a Theme of Corelli

กลุ่ม - ชิ้นสำหรับเปียโนเดี่ยว ต้น: op. ละครแฟนตาซี 3 เรื่อง op. 10 ชิ้นร้านเสริมสวย ช่วงเวลาดนตรี op. 16. ผู้ใหญ่: โหมโรง op. 23 และ op. 32, etudes-paintings op. 33 และ op. 39, ลายคอนเสิร์ต, การถอดความจากความรักและการแต่งเพลงของเขาเองโดยผู้แต่งคนอื่น

มีความแตกต่างพื้นฐานระหว่างการแต่งเพลงสองกลุ่ม: Rachmaninov เขียนการแต่งเพลงของกลุ่มที่ 2 ในรัสเซียเสร็จ (จนถึงปี 1917) ในขณะที่เขาเขียนการแต่งเพลงของกลุ่มที่ 1 ตั้งแต่ปี 1891 ถึง 1934 พวกเขาครอบคลุมทั้งชีวิตของผู้แต่ง . ดังนั้นผลงาน แบบฟอร์มขนาดใหญ่ส่วนใหญ่เปิดเผยวิวัฒนาการของความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ และผลงานเดี่ยวช่วยให้เข้าใจการก่อตัว นอกจากนี้ รัคมานินอฟยังหันมาสนใจแนวเพลงโอเปร่าอีกด้วย เขาเป็นผู้ประพันธ์โอเปร่า 3 องก์เรื่อง "Aleko", "The Miserly Knight", "Francesca da Rimini"

รายการผลงานทั้งหมดของ S.V. รัชมานินอฟสะท้อนอยู่ในภาคผนวก

นักเปียโนของ Rachmaninov สะท้อนถึงสไตล์ของเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ซึ่งโดดเด่นด้วยขนาดของรูปแบบ ความเก่งกาจ พลวัต พลัง ความโล่งใจ แม้จะมีสิ่งนี้ มีชิ้นงานที่เป็นลวดลายวิจิตรงดงามที่สุดอยู่หลายชิ้น

เทคนิคการเล่นเปียโนของ Rachmaninov เป็นไปตามสไตล์ของนักเปียโนโรแมนติกของ Liszt และ Rubinstein: โน้ตคู่, ทางเดินคอร์ดอ็อกเทฟ, การกระโดดยาก, ทางเดินของโน้ตขนาดเล็ก, คอร์ดโพลีโฟนิกที่มีความยาวมาก ฯลฯ

ภาพที่สร้างขึ้นแต่ละภาพมีการลงทะเบียน timbre ความคิดริเริ่ม เสียงเบสครอบงำ "เสียงเบสแห่งชีวิต" (ที. มานน์) รากฐานของการเป็นซึ่งความคิดของศิลปินแนบมาด้วยซึ่งเขา โลกแห่งอารมณ์. เสียงต่ำแบบไดนามิกและชัดเจนสร้างแผนเสียงที่ชัดเจนที่สุดและมีลักษณะเฉพาะมากที่สุด

เขานิยมจัดทำนองไว้ตรงกลางเชลโลรีจิสเตอร์ เปียโน Rachmaninoff เป็นเหมือนเชลโลในความช้าของมัน ในความสามารถในการถ่ายทอดเวลาที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า

การเคลื่อนไหวลงเป็นลักษณะเฉพาะซึ่งมีชัยเหนือการเคลื่อนไหวขึ้น การปฏิเสธแบบไดนามิกสามารถทำเครื่องหมายส่วนต่างๆ ของแบบฟอร์มได้ ธีมสร้างสรรค์ของ Rachmaninoff คือการดูแล ศิลปะรูปแบบสำหรับเขาคือศิลปะการดูแลเสมอ ในบทละครขนาดเล็ก รัคมานินอฟแสดงออกถึงแก่นเรื่องอย่างเต็มที่ อารมณ์ออกตลอดเวลา การลงจะไม่ถูกขัดจังหวะ รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลในทุกส่วน ในทุกวลี

ดนตรีของ Rachmaninov สร้างความประทับใจด้วยความแข็งแกร่งที่กล้าหาญ ความน่าสมเพชที่กบฏ การแสดงออกของความปีติยินดีและความสุขที่ไร้ขอบเขต ในเวลาเดียวกัน ผลงานของ Rachmaninov จำนวนหนึ่งเต็มไปด้วยดราม่าที่เฉียบคม: ที่นี่คุณสามารถได้ยินเสียงคนหูหนวกและโหยหาอย่างเจ็บปวด คนๆ หนึ่งรู้สึกถึงความโกลาหลที่น่าเศร้าและน่าสะพรึงกลัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความคมชัดนี้ไม่ได้ตั้งใจ เช่นเดียวกับผู้ร่วมสมัยของเขา - Scriabin, Blok, Vrubel, Rachmaninov เป็นตัวแทนของลักษณะเฉพาะของแนวโน้มโรแมนติกของศิลปะรัสเซียในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 งานศิลปะของ Rachmaninoff มีลักษณะเฉพาะคือความอิ่มเอิบทางอารมณ์ Rachmaninoff เป็นนักร้องที่มีจิตวิญญาณของธรรมชาติของรัสเซีย

สถานที่สำคัญในงานของ Rachmaninov เป็นภาพของรัสเซียซึ่งเป็นมาตุภูมิ ลักษณะเฉพาะของดนตรีประจำชาตินั้นมีความเชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับเพลงพื้นบ้านของรัสเซียโดยมีน้ำเสียงของการร้องเพลงของโบสถ์รัสเซียโบราณ (การร้องเพลง znamenny) รวมถึงการใช้เสียงระฆังในดนตรีอย่างกว้างขวาง: เสียงระฆังและสัญญาณเตือนภัย Rachmaninoff ค้นพบพื้นที่ของระฆังสำหรับดนตรีเปียโน - เสียงระฆังเป็นสภาพแวดล้อมทางเสียงที่นักดนตรีของรัสเซียอาศัยอยู่ Rachmaninov พบว่าการจากไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปในเสียงเรียกเข้าดังขึ้นกลายเป็น "คำถามเกี่ยวกับการไม่มีอยู่จริง" ด้วยเหตุนี้ อิมเมจเสียงของเปียโนที่สร้างโดย Rachmaninov จึงเป็นประสบการณ์ที่เป็นตัวเป็นตนของความกว้างและความสง่างามขององค์ประกอบทางโลก การดำรงอยู่ทางวัตถุ โซลูชันที่มีพื้นผิว ไดนามิก รีจิสเตอร์ แป้นเหยียบของ Rachmaninov ทำหน้าที่ถ่ายทอดคุณสมบัติที่สมบูรณ์ ต่อเนื่อง เติมเต็ม และรูปลักษณ์ของการเป็น

เทคนิคที่น่าอัศจรรย์และความเก่งกาจในเกมของ Rachmaninov นั้นมีจิตวิญญาณสูงและการแสดงออกที่สดใส ท่วงทำนอง พลัง และความเต็มอิ่มของ "การร้อง" คือลักษณะเฉพาะของนักเปียโนของเขา จังหวะที่แข็งกระด้างและยืดหยุ่นในเวลาเดียวกันและไดนามิกพิเศษทำให้การเล่นของ Rachmaninov มีเฉดสีที่หลากหลายอย่างไม่รู้จักหมดสิ้น ตั้งแต่พลังของวงออร์เคสตราไปจนถึงเปียโนที่ละเอียดอ่อนที่สุดและการแสดงออกของคำพูดที่มีชีวิตชีวาของมนุษย์

ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของ Rachmaninov คือ Second Piano Concerto ที่เขียนขึ้นในปี 1901 มันผสมผสานลักษณะเฉพาะของนักแต่งเพลงที่มีคุณภาพเหมือนระฆังและการเคลื่อนที่ของพายุที่รุนแรง นี่คือลักษณะสีประจำชาติของภาษาฮาร์มอนิกของรัคมานินอฟ การไหลของท่วงทำนองที่ไพเราะสไตล์รัสเซียองค์ประกอบของจังหวะที่กระตือรือร้นความสามารถที่ยอดเยี่ยมขึ้นอยู่กับเนื้อหาทำให้ดนตรีของ Third Concerto โดดเด่น มันเผยให้เห็นหนึ่งในรากฐานดั้งเดิม สไตล์ดนตรี Rachmaninov - การผสมผสานระหว่างความกว้างและอิสระของการหายใจที่ไพเราะด้วยพลังงานเป็นจังหวะ

.4 ความคิดสร้างสรรค์ไพเราะ "ระฆัง"

รัคมานินอฟกลายเป็นหนึ่งในนักเล่นซิมโฟนีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 20 คอนเสิร์ตครั้งที่สองเปิดช่วงเวลาที่มีผลมากที่สุดในกิจกรรมการแต่งเพลงของ Rachmaninov ผลงานที่สวยงามที่สุดปรากฏขึ้น: โหมโรง, etudes-รูปภาพ งานซิมโฟนีที่ใหญ่ที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาถูกสร้างขึ้น - ซิมโฟนีที่สอง, บทกวีไพเราะ "Isle of the Dead" ในปีเดียวกันพวกเขาได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักร้องประสานเสียงอะแคปเปลลา "The All-Night Vigil" โอเปร่า "The Miserly Knight" โดย A.S. พุชกินและ "ฟรานเชสกาดาริมินี" โดยดันเต มรดกทางซิมโฟนิกยังรวมถึงคันทาทาสองคัน ได้แก่ "Spring" และ "The Bells" ซึ่งสไตล์ของพวกเขาถูกกำหนดโดยการตีความเครื่องดนตรีของคณะนักร้องประสานเสียง บทบาทนำของวงออร์เคสตรา และลักษณะการนำเสนอที่เป็นซิมโฟนิกล้วนๆ

"The Bells" - บทกวีสำหรับนักร้องประสานเสียงวงออเคสตราและศิลปินเดี่ยว (2456) - หนึ่งในผลงานที่สำคัญของ Rachmaninov โดดเด่นด้วยความลึกของเจตนาทางปรัชญาทักษะที่ยอดเยี่ยมความร่ำรวยและสีสันของวงออเคสตราที่หลากหลาย นวัตกรรมที่สดใส อิ่มตัวด้วยเทคนิคการร้องประสานเสียงและออเคสตร้าแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน งานนี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการร้องเพลงประสานเสียงและ เพลงไพเราะศตวรรษที่ XX จากบทกวีของ Edgar Allan Poe แปลโดย K. Balmont ในแผนปรัชญาทั่วไปจะมีการเปิดเผยภาพของบุคคลและพลังแห่งโชคชะตาที่ไล่ตามเขา

ส่วน - 4 ช่วงชีวิตของบุคคลซึ่ง Rachmaninoff เปิดเผยผ่านเสียงระฆังประเภทต่างๆ ส่วน - "เสียงระฆังสีเงิน" ของระฆังถนน แสดงถึงความฝันในวัยเยาว์ที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและความสุข ส่วน - "เสียงกริ่งสีทอง" เรียกร้องให้มีการแต่งงาน และประกาศความสุขของมนุษย์ ส่วน - "เสียงทองแดง" สร้างเสียงที่น่ากลัวของสัญญาณเตือนไฟไหม้ ส่วน - "เสียงเหล็ก" วาดภาพงานศพ

ดังนั้นสองส่วนแรกจึงแสดงภาพของความหวัง แสงสว่าง ความปิติ สองส่วนถัดไป - ภาพของความตาย การคุกคาม

ธีมของงานนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับศิลปะสัญลักษณ์สำหรับศิลปะรัสเซียระยะนี้และงานของ Rachmaninov: ช่วงเวลาต่าง ๆ เป็นตัวเป็นตนในเชิงสัญลักษณ์ ชีวิตมนุษย์นำไปสู่ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเวลาเดียวกัน Rachmaninov ไม่ยอมรับการจบบทกวีของ E. Poe ในแง่ร้าย - บทสรุปของวงออเคสตราของเขาสร้างขึ้นจากเวอร์ชันหลักของธีมเศร้าของตอนจบและได้รับการตรัสรู้อย่างยอดเยี่ยม

Rachmaninov เองเกี่ยวกับประเภทของงานกล่าวว่าสามารถเรียกได้ว่าเป็นเพลงประสานเสียงซิมโฟนี สิ่งนี้ได้รับการสนับสนุนจากขนาด, ความยิ่งใหญ่ของความคิด, การปรากฏตัวของ 4 ส่วนที่ตัดกัน, บทบาทที่ยิ่งใหญ่ของวงออเคสตรา

2.5 ความสำคัญของงานของ Rachmaninov

ความคิดสร้างสรรค์ของนักแต่งเพลงของ Rachmaninov มีความสำคัญอย่างมาก

Rachmaninov สังเคราะห์แนวโน้มต่างๆ ในศิลปะรัสเซีย แนวโน้มเฉพาะเรื่องและโวหารต่างๆ และรวมเข้าด้วยกันภายใต้ส่วนเดียว - สไตล์ประจำชาติรัสเซีย

รัคมานินอฟทำให้ดนตรีรัสเซียสมบูรณ์ด้วยความสำเร็จของศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในผู้ที่นำประเพณีของชาติไปสู่เวทีใหม่

รัคมานินอฟได้เพิ่มพูนคุณค่าทางวรรณยุกต์ของดนตรีรัสเซียและโลกด้วยโทนเสียงของบทสวด Znamenny ของรัสเซียโบราณ

Rachmaninoff เป็นครั้งแรก (ร่วมกับ Scriabin) นำเพลงเปียโนของรัสเซียไปสู่ระดับโลก กลายเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงชาวรัสเซียกลุ่มแรกที่มีผลงานเปียโนรวมอยู่ในละครของนักเปียโนทุกคนในโลก

ความสำคัญของศิลปะการแสดงของ Rachmaninov ไม่น้อยไปกว่ากัน

นักเปียโน Rachmaninoff ได้กลายเป็นมาตรฐานสำหรับนักเปียโนหลายรุ่น ประเทศต่างๆและโรงเรียนต่างๆ เขาอนุมัติให้โรงเรียนสอนเปียโนรัสเซียมีความสำคัญระดับโลก โดยมีคุณลักษณะที่โดดเด่นคือ:

) เนื้อหาเชิงลึกของประสิทธิภาพ

) ให้ความสนใจกับเสียงสูงต่ำของดนตรี

) "ร้องเพลงบนเปียโน" - การเลียนแบบเสียงร้องและเสียงสูงต่ำโดยใช้เปียโน

Rachmaninov นักเปียโนได้ทิ้งบันทึกอ้างอิงของผลงานดนตรีโลกหลายชิ้นซึ่งนักดนตรีหลายรุ่นได้เรียนรู้

บทสรุป

เป็นอันเสร็จ งานนี้เรามาเน้นประเด็นหลักโดยสังเขป

Rachmaninov - นักแต่งเพลงนักเปียโนและวาทยกรชาวรัสเซียที่ใหญ่ที่สุดในช่วงปลาย XIX - ต้นศตวรรษที่ XX

เพลงของ Rachmaninov สร้างความตื่นเต้นและสร้างความสุขให้กับผู้ฟังหลายล้านคนแม้กระทั่งทุกวันนี้ มันสร้างความประทับใจด้วยความแข็งแกร่งและความจริงใจของความรู้สึกที่แสดงออกมาในนั้น ความงามและท่วงทำนองที่กว้างไกลของรัสเซียอย่างแท้จริง

มรดกของ Rachmaninov:

ช่วงเวลาของฉัน - ต้น, นักเรียน (ปลายยุค 80 - 90): เปียโนจิ๋ว, เปียโนคอนแชร์โต้ที่หนึ่งและสอง, บทกวีไพเราะ "Prince Rostislav", แฟนตาซี "Cliff", โอเปร่า "Aleko"

ช่วงที่สอง - ครบกำหนด (900 - จนถึงปี 1917): เสียงและเปียโนจิ๋ว, เปียโนคอนแชร์โต้ที่สาม, "Isle of the Dead", Cantata "Spring", "Bells", "Liturgy of St. John Chrysostom", "All-Night Vigil ". ช่วงเวลาดังกล่าวมีความแตกต่างของอารมณ์ รูปภาพ รูปแบบและประเภท หลังจากออกเดินทางไปต่างประเทศเกือบ 10 ปี เขาไม่ได้เขียนอะไรเลย เขาดำเนินกิจกรรมคอนเสิร์ตและการแสดงเท่านั้น

ยุคที่สาม - ปลาย (พ.ศ. 2470-2486) สร้างผลงานชิ้นเอกหลายชิ้น: "การเปลี่ยนแปลงในรูปแบบของ Corelli", เปียโนคอนแชร์โต้ครั้งที่สี่, ซิมโฟนีที่สาม, "Rhapsody on a Theme of Paganini", Symphonic Dances จุดเริ่มต้นที่น่าสลดใจทวีความรุนแรงขึ้นทีละน้อย

เมื่อเสียงเพลงของรัคมานินอฟดังขึ้น ราวกับว่าคุณได้ยินสุนทรพจน์ที่เร่าร้อน เป็นรูปเป็นร่าง และโน้มน้าวใจ นักแต่งเพลงถ่ายทอดความปีติยินดีของชีวิต - และดนตรีไหลเหมือนแม่น้ำที่กว้างใหญ่และไม่มีที่สิ้นสุด (Second Concerto) บางครั้งก็เดือดพล่านราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิที่เชี่ยวกราก (ในนิยายเรื่อง Spring Waters) Rachmaninoff พูดถึงช่วงเวลาที่คน ๆ หนึ่งเพลิดเพลินกับความสงบของธรรมชาติหรือชื่นชมยินดีในความงามของทุ่งหญ้าสเตปป์ ป่าไม้ ทะเลสาบ - และดนตรีจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ เบาบาง โปร่งใสและเปราะบาง (โรแมนติก "ที่นี่ดี", "เกาะ" , "ไลแลค") . ใน "ภูมิทัศน์ทางดนตรี" ของ Rachmaninov เช่นเดียวกับคำอธิบายของธรรมชาติโดย A.P. นักเขียนคนโปรดของเขา Chekhov หรือในภาพวาดของศิลปิน I.I. เลวีแทน เสน่ห์แห่งธรรมชาติของรัสเซีย สงบเสงี่ยม สลัว แต่ไร้ขอบเขต ถ่ายทอดออกมาอย่างลึกซึ้งและเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณ Rachmaninoff ยังมีหน้ามากมายที่เต็มไปด้วยดราม่า ความวิตกกังวล และแรงกระตุ้นที่ดื้อรั้น

ศิลปะของเขาโดดเด่นด้วยความจริงของชีวิต แนวประชาธิปไตย ความจริงใจและความสมบูรณ์ทางอารมณ์ของการแสดงออกทางศิลปะ แรงกระตุ้นอันเร่าร้อนของการประท้วงที่ไม่อาจประนีประนอมได้และการไตร่ตรองอย่างเงียบๆ ความตื่นตัวที่สั่นสะท้านและความมุ่งมั่นอันแรงกล้า โศกนาฏกรรมที่มืดมน ธีมบ้านเกิดเมืองนอนภาคกลาง ความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นผู้ใหญ่ Rachmaninoff เป็นตัวเป็นตนอย่างเต็มที่ในผลงานเครื่องดนตรีชิ้นสำคัญของเขา

ผู้ร่วมสมัยรู้จักรัคมานินอฟ นักเปียโนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดศตวรรษที่ XX Rachmaninov แสดงคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่องในรัสเซียและต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2442 เขาเดินทางไปฝรั่งเศสซึ่งประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ในปี พ.ศ. 2452 เขาได้แสดงผลงานในสหรัฐอเมริกา การแสดงของเขายอดเยี่ยม การแสดงของเขามีพรสวรรค์ โดดเด่นด้วยความสามัคคีภายในและความสมบูรณ์

Rachmaninov เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในโอเปร่าที่ใหญ่ที่สุดและ ตัวนำซิมโฟนีในช่วงเวลาของเขา ซึ่งให้การตีความที่แปลกประหลาดและหลากหลายแง่มุมของงานคลาสสิกมากมายที่เขียนต่อหน้าเขา เป็นครั้งแรกที่เขาขึ้นแท่นผู้ควบคุมวงเมื่ออายุเพียงยี่สิบปี - ในปี พ.ศ. 2436 ในเมืองเคียฟในฐานะผู้ประพันธ์โอเปร่าเรื่อง "Aleko" ในปี พ.ศ. 2440 งานของเขาเริ่มขึ้นในฐานะวาทยกรคนที่สองที่ Moscow Private Russian Opera S.I. Mamontov ซึ่ง Rachmaninov ได้รับการฝึกฝนที่จำเป็นและประสบการณ์การแสดง

ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและหลากหลายของศิลปะ, ความเชี่ยวชาญอันลึกซึ้งของสไตล์ของผู้แต่ง, รสนิยม, การควบคุมตนเอง, ระเบียบวินัยในการทำงาน, เบื้องต้นและขั้นสุดท้าย - ทั้งหมดนี้รวมกับความจริงใจและความเรียบง่ายด้วยความสามารถทางดนตรีส่วนบุคคลที่หายากที่สุด และการอุทิศตนอย่างเสียสละเพื่อเป้าหมายอันสูงส่ง ทำให้ผลงานของ Rachmaninov อยู่ในระดับที่เกือบจะไม่สามารถบรรลุได้

บรรณานุกรม

1.วีซอตสกายา แอล.เอ็น. เรื่องราว ศิลปะดนตรี: หนังสือเรียน / คอมพ์ : ล.น. Vysotskaya, V.V. อาโมซอฟ - วลาดิมีร์: สำนักพิมพ์วลาดิม สถานะ อังตา, 2555. - 138 น.

2.Emokhonova L.G. โลก ศิลปวัฒนธรรม: หนังสือเรียน / แอล.จี. อีโมคอนอฟ. - ม.: Academy, 2008. - 240 p.

.Konstantinova S.V. ประวัติศาสตร์โลกและวัฒนธรรมในประเทศ / S.V. คอนสแตนตินอฟ. - ม.: Eksmo, 2008. - 32 น.

.Mozheiko L.M. ประวัติดนตรีรัสเซีย / L.M. โมเซโกะ. - Grodno: GrGU, 2012. - 470 น.

.ราพัทสกายา แอล.เอ. ประวัติศาสตร์ศิลปะวัฒนธรรมของรัสเซีย (ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปลายศตวรรษที่ XX): หนังสือเรียน เบี้ยเลี้ยง / L.A. ราพัทสกายา. - ม.: Academy, 2008. - 384 p.

.ราพัทสกายา แอล.เอ. ศิลปะโลก. เกรด 11 ส่วนที่ 2: ตำราวัฒนธรรมศิลปะรัสเซีย - ใน 2 ส่วน / L.A. ราปัตสกายา. - ม.: Vlados, 2008. - 319 น.

.Sergei Rachmaninov: ประวัติศาสตร์และความทันสมัย: ส. บทความ. - Rostov-on-Don, 2548. - 488 น.

กวดวิชา

ต้องการความช่วยเหลือในการเรียนรู้หัวข้อหรือไม่?

ผู้เชี่ยวชาญของเราจะให้คำแนะนำหรือให้บริการสอนพิเศษในหัวข้อที่คุณสนใจ
ส่งใบสมัครระบุหัวข้อทันทีเพื่อค้นหาความเป็นไปได้ในการรับคำปรึกษา

1

บทความนี้พิจารณาถึงอิทธิพลของภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบต่อผลงานของนักแต่งเพลง SV Rakhmaninov เขาสร้างสไตล์ของตัวเองซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อทั้งดนตรีรัสเซียและดนตรีโลกในศตวรรษที่ยี่สิบ ธรรมชาติของที่ดิน Ivanovka ในจังหวัด Tambov เป็นแรงบันดาลใจของเขา ที่นี่เขาทำงาน พักผ่อน และมีกำลังสำหรับการท่องเที่ยวของเขา เกือบทุกเรื่องที่เขียนโดย Rachmaninov ในรัสเซียถูกสร้างขึ้นใน Ivanovka ในช่วงฤดูร้อนใน Ivanovka Sergei Vasilievich ปฏิเสธข้อเสนอทัวร์ที่ให้ผลกำไรสูงสุด Rachmaninov อธิบายถึงสาเหตุของวิกฤตความคิดสร้างสรรค์ของเขาหลังจากเดินทางไปต่างประเทศว่าหลังจากออกจากรัสเซียแล้ว เขาสูญเสียตัวเอง "นักดนตรีที่สูญเสียรากเหง้าทางดนตรี ประเพณี และดินพื้นเมืองไม่มีความปรารถนาที่จะสร้างผลงาน"

นักแต่งเพลง

ภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบ

1. Anichkina N.V. อิทธิพลของลักษณะภูมิปิดล้อมต่อการละเล่นพื้นบ้าน. /ปัญหาของการศึกษาต่อเนื่อง: การออกแบบ การจัดการ การทำงาน: การดำเนินการของการประชุมทางวิทยาศาสตร์และการปฏิบัติระดับนานาชาติ VIII (21-22 พฤษภาคม 2553 Lipetsk): เวลา 3 นาฬิกา - Lipetsk: LGPU, 2553 ส่วนที่ 1 - หน้า 165-168.

2. Gumilyov L.N. Ethnogenesis และชีวมณฑลของโลก -M.: รอล์ฟ, 2545. - 560 น.

3. ข้อมูลทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับโบสถ์คาซานในหมู่บ้าน Staraya Kazinka เขต Michurinsky ภูมิภาค Tambov [ทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์] / URL: http://starkazinka.prihod.ru/history (เข้าถึง 10.01.2016)

4. ที่ดินพิพิธภัณฑ์ของ S.V. รัชมานินอฟ. [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / URL: https://ru.wikipedia.org/wiki (เข้าถึงเมื่อ 10/01/2559)

5. Rachmaninov Sergei Vasilievich (ความทรงจำเกี่ยวกับเขา) [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / URL: http://chtoby-pommili.com/page.php?id=1136 (เข้าถึงเมื่อ 10/01/2559)

6. Rachmaninov, Sergey Vasilievich https: [แหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์] / URL: https: //ru.wikipedi a.org/wiki/ (เข้าถึง 10.01.2016)

7. Frayonova O.V. Rachmaninov // บอลชายา สารานุกรมรัสเซีย. เล่มที่ 28 - มอสโก 2558 - หน้า 267-270.

วิญญาณพยายามแสวงหาแสงสว่างและความเข้าใจ
เตรียมบินสู่ชีวิตใหม่
Ivanovka เต็มไปด้วยไลแลค
จากความสุขหัวใจร้องเพลงอย่างมีความสุข
คริสตัลพลังงานสีม่วง
ความรักสากลถูกตัดขาดโดยกระแส
เซอร์จิอุสลั่นระฆังสวรรค์ให้เรา
และกระแสเพลงขั้นเทพ!

อ.ก. ลูกิน

ภูมิทัศน์ที่ล้อมรอบเป็นหนึ่งในแนวคิดพื้นฐานในระบบประวัติศาสตร์สังคม-ธรรมชาติ ซึ่งศึกษาปฏิสัมพันธ์ของธรรมชาติและสังคมที่เกิดขึ้นและพัฒนาขึ้นในดินแดนที่แยกจากกันและในช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์บางช่วงเวลา

Rachmaninov Sergei Vasilyevich (พ.ศ. 2416-2486) - นักแต่งเพลงชาวรัสเซียนักเปียโนอัจฉริยะผู้ควบคุมวง สังเคราะห์หลักการของโรงเรียนนักแต่งเพลงในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและมอสโก (รวมถึงประเพณีของดนตรียุโรปตะวันตก) ในงานของเขาและสร้างสไตล์ดั้งเดิมของเขาเองซึ่งต่อมามีอิทธิพลต่อทั้งดนตรีรัสเซียและโลกในศตวรรษที่ยี่สิบ

Sergei Vasilyevich Rachmaninov เกิดในตระกูลขุนนาง พ่อของนักแต่งเพลง Vasily Arkadyevich (พ.ศ. 2384-2459) มาจากขุนนางของจังหวัดแทมบอฟ หมู่บ้าน Staraya Kazinka เป็นรังของครอบครัวขุนนาง Rachmaninoff หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในเขต Michurinsky ซึ่งภูมิภาค Tambov มีพรมแดนติดกับภูมิภาค Lipetsk

บรรพบุรุษของสาขา Tambov ของ Rachmaninovs คือสจ๊วตของราชวงศ์ Ievliy Kuzmich Rachmaninov ซึ่งตั้งรกรากอยู่ใน Staraya Kazinka ในปี 1727 ตัวแทนของตระกูล Rachmaninov ซึ่งมาจาก Staraya Kazinka เป็นนักการศึกษาที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 นักแปลและนักประชาสัมพันธ์ Ivan Gerasimovich Rachmaninov (1753-1807) นักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย ศาสตราจารย์และอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเคียฟ Ivan Ivanovich Rachmaninov (1826-1897) ) นักดนตรีและนักแต่งเพลงชื่อดัง Sergei Vasilievich Rachmaninov (พ.ศ. 2416-2486)

ในตอนท้ายของปี 1889 Rachmaninov มาเยี่ยม Varvara และ Alexander Satin ที่ดิน Ivanovka ของพวกเขาในจังหวัด Tambov กลายเป็นสถานที่พักผ่อนที่เขาโปรดปรานและเป็นห้องทดลองสร้างสรรค์ที่ดีที่สุดของเขา Ivanovka กลายเป็นสถานที่ที่เขา Ivanovka ในชีวิตของ Rachmaninov เป็นสถานที่พิเศษ “ฉันคิดว่ามันเป็นของฉันเอง” S. Rachmaninov เขียนในจดหมายฉบับหนึ่งของเขาถึง M. Shaginyan “เพราะฉันอยู่ที่นี่มา 23 ปีแล้ว ที่นี่เป็นเวลานานเมื่อฉันยังเด็กฉันทำงานได้ดี” (8 พฤษภาคม 2455, Ivanovka)

ที่นี่เองที่รัคมานินอฟสร้างผลงานที่ดีที่สุดของเขา ที่นี่เขาถูกสร้างมาโดยส่วนใหญ่ในฐานะบุคคลิกภาพในฐานะนักแต่งเพลง ใน Ivanovka Sergei Rachmaninoff ได้พบกับพี่น้อง Skalon สามคนซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Vera หญิงสาวตกหลุมรักนักดนตรีหนุ่มและเขาก็ตอบสนองเธอ Rachmaninov อุทิศให้กับความรักของเธอ "In the Silence of the Secret Night" ซึ่งสร้างขึ้นใน Ivanovka ซึ่งเขียนโดยเขาในบทของ Alexander Fet หลังจากออกเดินทางไปมอสโคว์ เขาเขียนจดหมายที่น่าประทับใจและน่าประทับใจมากกว่าร้อยฉบับถึงเธอ เซอร์เก รัคมานินอฟได้อุทิศบทเพลงโรแมนติกให้กับเชลโลและเปียโน และท่วงทำนองที่สองของ First Piano Concerto ให้กับ Vera Skalon เมื่ออายุ 19 ปี Rachmaninoff จบการศึกษาจากเรือนกระจก งานสำเร็จการศึกษาของเขาคือโอเปร่า "Aleko" จากผลงานของ A. S. Pushkin "Gypsies" นอกจากนี้ยังมีการประพันธ์เปียโนคอนแชร์โตชุดแรก ความโรแมนติกหลายชิ้น ท่อนสำหรับเปียโน รวมถึงโหมโรงใน C-sharp minor ซึ่งกลายเป็นผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดชิ้นหนึ่งของรัคมานินอฟ ในช่วงปี พ.ศ. 2433 ถึง พ.ศ. 2460 เขาใช้เวลาเกือบทุกฤดูใบไม้ผลิฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงใน Ivanovka ในปี 1902 เขาแต่งงานกับลูกสาวของ Satins และลูกพี่ลูกน้องของเขา Natalya Alexandrovna (พ.ศ. 2420-2494) ลูกสาวทั้งสองของ Sergei Vasilyevich และ Natalya Alexandrovna, Irina (1903) และ Tatyana (1907) เกิดที่ Ivanovka ที่นี่ท่ามกลางที่ราบกว้างใหญ่ที่ความสามารถของนักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่เฟื่องฟู ที่นี่เขาทำงานหนักและมีผล คอนเสิร์ตเปียโน ช่วงเวลาแห่งดนตรี ภาพวาดอีทูดี้ ความรัก ผลงานไพเราะ"Gypsy Capriccio", "Cliff" และอื่น ๆ อีกมากมาย ในช่วงปี พ.ศ. 2433 ถึง พ.ศ. 2460 S.V. Rakhmaninov ใช้ชีวิตตามตารางเวลาต่อไปนี้: ฤดูใบไม้ร่วง, ฤดูหนาว - ทัวร์รัสเซีย, ยุโรป, อเมริกา; ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน - ชีวิตใน Ivanovka ในช่วงฤดูร้อนใน Ivanovka Sergei Vasilievich ปฏิเสธข้อเสนอทัวร์ที่ให้ผลกำไรสูงสุด Ivanovka เป็นคำพูดของเขาเองสำหรับเขา "อารามอันเป็นที่รักของหัวใจและจิตวิญญาณ" Rachmaninov ชอบสวน Ivanovo สวนสาธารณะร่มรื่นขนาดใหญ่ สระน้ำ อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมของทุ่งนาและทุ่งหญ้าที่อยู่ติดกับที่ดิน การตกแต่งและความภาคภูมิใจของสวน Ivanovo ในเวลานั้นคือสีม่วง มีการปลูกพุ่มไลแลคแยกต่างหากแม้ระหว่างไม้ผลในสวน Sergei Rachmaninov ชอบดอกไลแลคที่กำลังบานมาก เธอเป็นแรงบันดาลใจให้เขาสร้างสรรค์ผลงาน หนึ่งในความรักของเขาเรียกว่าไลแลค สถานที่และเวลาของการสร้าง - Ivanovka, เมษายน 1902 ผู้เขียนบทกวี - E. Beketova ลูกสาวคนโตของศาสตราจารย์ A. N. Beketov อธิการบดีมหาวิทยาลัยมอสโก

ในตอนเช้าตรู่

บนพื้นหญ้าที่ชุ่มฉ่ำ

ฉันจะไปสดชื่นในตอนเช้าเพื่อหายใจ

และในร่มที่มีกลิ่นหอม

ที่ซึ่งฝูงไลแลค

ฉันจะมองหาความสุขของฉัน...

ความสุขในชีวิตมีเพียงหนึ่งเดียว

ฉันถูกกำหนดให้ค้นหา

และความสุขนั้นอยู่ในไลแลค

บนกิ่งไม้สีเขียว

บนแปรงที่มีกลิ่นหอม

ความสุขที่น่าสงสารของฉันผลิบาน

หนึ่งในนักแสดงโรแมนติกคนแรกคือ A. Nezhdanova ซึ่งมีรากฐานมาจากภูมิภาค Tambov เช่นกัน ในบันทึกของเธอ เธอเขียนว่า “การเป็นศิลปิน โรงละครบอลชอยและการแสดงในคอนเสิร์ต ฉันมักจะรวมความรักของ Rachmaninov ไว้ในรายการของฉัน: ฉันแสดงความรักที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทุกคนที่ชื่นชอบ “Lilac”, “ที่นี่ดี”, “ที่หน้าต่างของฉัน”, “เกาะ” และอื่น ๆ อีกมากมาย สวยงามพอ ๆ กับการแสดงออกของพวกเขา กวีนิพนธ์และความงามของท่วงทำนองของงาน

S. A. Satin ลูกพี่ลูกน้องของนักแต่งเพลงเขียนว่า: "หมู่บ้านเล็ก ๆ ของ Ivanovka ประมาณ 100 หลังคาเรือนติดกับที่ดินของเรา ทุ่งกว้าง ๆ ไม่มีที่สิ้นสุดล้อมรอบตัวเราผสานกับท้องฟ้าบนขอบฟ้า ห้า versts จาก Ivanovka ไปทางทิศเหนือ - กังหันลมของใครบางคน ไปทางทิศตะวันออก - ไม่มีอะไรนอกจากทุ่งนาและทางทิศใต้ - ป่าแอสเพนของเรา สำหรับหลาย ๆ รอบ ๆ Ivanovka แอสเพนเหล่านี้และสวนของเราใกล้บ้านเป็นต้นไม้เพียงต้นเดียวในทุ่งนาดังนั้นป่าแอสเพนแห่งนี้จึงเป็นที่หลบภัยของกระต่าย สุนัขจิ้งจอกและแม้แต่หมาป่าบางครั้งก็วิ่งมาจากที่ไหนสักแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกที่สร้างรังที่นั่นและส่งเสียงเจี๊ยก ๆ และร้องเพลงในอากาศ

เกือบทุกอย่างที่เขียนโดย Rachmaninov ในรัสเซียผ่าน Ivanovka ใน Ivanovka Rachmaninov ทำงานในบทละครไพเราะ The Cliff, The Island of the Dead, The Gypsy Capriccio, ซิมโฟนีที่หนึ่งและสอง, โอเปร่า Monna Vanna, The Miserly Knight และ Francesca da Rimini, The Liturgy of St. John Chrysostom , บทกวี "The Bells" เปียโนคอนแชร์โตที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ใน Ivanovka Sergei Vasilyevich เขียนบทนำ 24 ภาพ, ภาพวาด etudes 9 ภาพ, โซนาตา 2 เรื่อง, ความรัก 49 เรื่อง วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 รัคมานินอฟอพยพไปยังสหรัฐอเมริกา เขาไม่เคยอยู่ในรัสเซียอีกเลย ในการเชื่อมต่อกับการจากไปของเขา เขาเริ่มวิกฤตที่สร้างสรรค์ เขาหยุดเขียนเพลง เพียงแปดปีต่อมาเขากลับไปแต่งเพลง รัคมานินอฟเริ่มทำงานและสร้างผลงานหกชิ้น รวมถึง Fourth Concerto และ Three Russian Songs Rachmaninov อธิบายเหตุผลที่เขาเงียบไปหลังจากเดินทางไปต่างประเทศว่าหลังจากออกจากรัสเซียแล้ว เขาสูญเสียตัวเองไปว่า "นักดนตรีที่สูญเสียรากเหง้าทางดนตรี ประเพณี และดินพื้นเมืองไม่มีความปรารถนาที่จะสร้าง เมื่อตระหนักว่าเขาไม่สามารถกลับไปที่ Ivanovka ได้ เขาจึงพยายามสร้างความคล้ายคลึงกับธรรมชาติของ Ivanovka ขึ้นมาใหม่ในระหว่างการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่ปี 2473 ถึง 2483 กลับมาที่สหรัฐอเมริกาในปี 2484 เขาทำงานชิ้นสุดท้ายของเขาเสร็จ นั่นคือ Symphonic Dances ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัคมานินอฟได้จัดคอนเสิร์ตหลายครั้งในสหรัฐอเมริกาเพื่อสนับสนุนกองทัพแดง เขามอบเงินพร้อมคำพูด: "จากชาวรัสเซียคนหนึ่ง ความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ทั้งหมดแก่ชาวรัสเซียในการต่อสู้กับศัตรู ฉันอยากจะเชื่อ ฉันเชื่อในชัยชนะที่สมบูรณ์ ด้วยเงินของนักแต่งเพลง เครื่องบินรบถูกสร้างขึ้นสำหรับกองทัพ Rachmaninov ต้องการกลับบ้านจริงๆ ตามบันทึกของหลานชายของอเล็กซานเดอร์ Rachmaninov "รักรัสเซียบ้านเกิดของเขาอย่างสุดซึ้งและจริงใจ แต่เขาไม่สามารถทนต่อระบบโซเวียตและผู้นำได้" จนถึงสิ้นวันเขาเก็บความทรงจำอันสดใสของ "บ้านเกิดของเขา" Ivanovka ไว้ในความทรงจำของเขาและพยายามไปที่นั่น เพลงรัสเซียสามเพลงที่เขียนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซิมโฟนีที่สาม การเต้นรำซิมโฟนิก - นี่คือความรักที่เขามีต่อรัสเซีย ต่อดินแดนบ้านเกิดของเขา ซึ่งเขาจูบเมื่อเขาไปต่างประเทศ และกลับมา หลังจากการเสียชีวิตของเขา เลขาธิการพบรายชื่อซึ่งมีที่อยู่หลายร้อยรายการ ซึ่งให้ความช่วยเหลือในนามของรัคมานินอฟ เขาช่วยเหลือชาวรัสเซียและรัสเซียเสมอ

สถานที่ขนาดใหญ่ในผลงานของ S. V. Rakhmaninov ถูกครอบครองโดยภาพธรรมชาติของรัสเซีย Ivanovka มีบทบาทสำคัญในการเกิดขึ้นของรัสเซียทั่วไป ภาพดนตรี. "ทิวทัศน์" ที่งดงามของ Rachmaninov สร้างขึ้นใน Ivanovka หรือภายใต้อิทธิพลของเธอ มีความโดดเด่นตรงที่ไม่เพียงสื่อถึงภาพของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาวะทางอารมณ์ของเขาด้วย ซึ่งรวมถึงภาพและ การรับรู้การได้ยินธรรมชาติโดยนักแต่งเพลงพวกเขาสะท้อนทุกสิ่งที่รวมกันในความคิดของเขาเกี่ยวกับมาตุภูมิ - จิตวิญญาณของคนรัสเซีย, ความรักที่มีต่อดินแดนของเขา, ความคิดของเขา, เพลงของเขา ในที่ดิน Ivanovo ความชอบอื่น ๆ ของ S.V. Rachmaninoff ก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน เขาเป็นคนรัสเซีย และชาวรัสเซียในฐานะประเทศหนึ่งได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เกษตรกรรม การปลูกบางอย่างอยู่ในสายเลือดของชาวรัสเซีย แม้ตอนนี้แม้จะมีอาหารมากมายในร้านค้า แต่ชาวรัสเซียที่ร่ำรวยมากก็ยังปลูกพืชเกษตรใกล้บ้านได้อย่างแน่นอน Rachmaninov ก็ทำงานเช่นกัน เกษตรกรรม: พยายามปรับปรุงพันธุ์ปศุสัตว์ ซื้ออุปกรณ์ใหม่ๆ ทันสมัย ​​สนใจงานภาคสนาม ด้วยภูมิประเทศแบบรัสเซีย งานของ Rachmaninoff เชื่อมโยงกันด้วยแกนกลางของมัน ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวภายในสุดของจิตวิญญาณ ซึ่งก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ Rachmaninov กล่าวว่า: "ฉันเป็นนักแต่งเพลงชาวรัสเซีย และบ้านเกิดเมืองนอนของฉันได้ทิ้งร่องรอยไว้บนตัวละครและมุมมองของฉัน" ดนตรีของ Sergei Vasilyevich Rachmaninov ผสมผสานอย่างลงตัวกับบทกวีของ Fyodor Ivanovich Tyutchev นักแต่งเพลงเขียนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ สี่เรื่องตามบทกวีของ Tyutchev ในงานของเขา Rachmaninov หันมาใช้เนื้อเพลงของ Tyutchev เป็นครั้งแรกในปี 1906 เมื่อเขาเขียนเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ สองเรื่อง: เรื่องที่น่าเศร้า: "เขาพรากทุกอย่างไปจากฉัน" และเนื้อเพลง "Fountain" พวกเขาเขียนขึ้นในฤดูร้อนใน Ivanovka แต่หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของผลงานการร้องของห้องแชมเบอร์ของรัคมานินอฟคือบทโรแมนติก "Spring Waters" ต่อบทของ F. I. Tyutchev ราวกับว่ามันถูกน้ำท่วมด้วยกระแสแห่งดวงอาทิตย์และความปีติยินดีกำลังพลุ่งพล่านอยู่ในนั้น "ผู้ส่งสารรุ่นเยาว์" ของฤดูใบไม้ผลิปลุกทุกคนรอบตัวอย่างมีความสุขและแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการต่ออายุที่จะเกิดขึ้นเพราะธรรมชาติรอคอยมันมาก พลังแห่งดนตรีเน้นย้ำถึงพลังแห่งแรงบันดาลใจของการเปลี่ยนแปลงอันลึกลับนี้ ซึ่งเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปี แต่หลังจากฤดูหนาวอันยาวนาน ทั้งธรรมชาติและมนุษย์ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอการร่วงหล่นของฤดูใบไม้ผลิ ดนตรีของรัคมานินอฟใน "Spring Waters" ย้อนกลับไปยังตำนานสลาฟโบราณและความรู้สึกแห่งการรอคอยความรัก ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่ออายุโลก ซึ่งอยู่ในจิตใต้สำนึกและตื่นขึ้นมาด้วยพละกำลังที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกฤดูใบไม้ผลิ

หิมะยังคงขาวโพลนในทุ่งและน้ำก็เกิดสนิมแล้วในฤดูใบไม้ผลิ - พวกเขาวิ่งและปลุกชายฝั่งที่หลับใหลให้ตื่นขึ้นพวกเขาวิ่งและส่องแสงและพวกเขาพูดว่า ... พวกเขาพูดจนจบ: "ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาฤดูใบไม้ผลิ กำลังจะมา เราเป็นผู้ส่งสารของฤดูใบไม้ผลิอ่อน เธอส่งเราไปข้างหน้า ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมา ฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมา และวันที่เงียบสงบและอบอุ่นของเดือนพฤษภาคม การเต้นรำรอบแดงก่ำที่สดใส ฝูงชนสนุกสนานอยู่ข้างหลังเธอ! .. "

เพลงของ Rachmaninov ถ่ายทอดความปีติยินดีของชีวิต มันไหลราวกับเป็นท่วงทำนองที่กว้างยาวไม่มีที่สิ้นสุด (Second Concerto) จากนั้นก็เดือดราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิที่ไหลเชี่ยวกราก (แนวโรแมนติก "Spring Waters") Rachmaninov พูดถึงช่วงเวลาที่คน ๆ หนึ่งเพลิดเพลินกับความสงบของธรรมชาติหรือชื่นชมยินดีในความงามของทุ่งหญ้าสเตปป์ ป่าไม้ ทะเลสาบ - และดนตรีจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ เบาบาง โปร่งใสและเปราะบาง (โรแมนติก "ที่นี่ดี", " เกาะ", "ไลแลค") ใน "ภูมิทัศน์ดนตรี" ของ Rachmaninov เสน่ห์ของธรรมชาติของรัสเซียได้รับการถ่ายทอดอย่างละเอียดและลึกซึ้ง: กว้าง, กว้างขวาง, ใจกว้างและบทกวี

รัคมานินอฟทำให้ดนตรีรัสเซียสมบูรณ์ด้วยความสำเร็จของศิลปะแห่งศตวรรษที่ 20 และเป็นหนึ่งในผู้ที่นำประเพณีของชาติไปสู่เวทีใหม่ รัคมานินอฟได้เพิ่มพูนคุณค่าทางวรรณยุกต์ของดนตรีรัสเซียและโลกด้วยโทนเสียงของบทสวด Znamenny ของรัสเซียโบราณ Rachmaninov นำเพลงเปียโนของรัสเซียในศตวรรษที่ 20 ไปสู่ระดับโลก และกลายเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงชาวรัสเซียกลุ่มแรกที่มีผลงานเปียโนรวมอยู่ในละครของนักเปียโนทุกคนในโลก

งานของ Rachmaninov แบ่งออกเป็นสามหรือสี่ช่วงตามอัตภาพ: ต้น (พ.ศ. 2432-2440) สุกงอม (บางครั้งก็แบ่งออกเป็นสองช่วง: 2443-2452 และ 2453-2460) และปลาย (พ.ศ. 2461-2484) และเราเห็นว่าช่วงเวลาที่มีประสิทธิผลมากที่สุดของเขาคือตอนที่เขาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของรัสเซีย ซึ่งหล่อเลี้ยงเขา ให้กำลังและแรงบันดาลใจแก่เขา รัสเซียยังไม่ลืมลูกชาย ในปี 1968 มีการสร้างพิพิธภัณฑ์และตั้งแต่ปี 1987 - Museum-Estate of S.V. Rachmaninov ในหมู่บ้าน Ivanovka เขต Uvarovsky ภูมิภาค Tambov ตั้งแต่ปี 1982 เทศกาลดนตรีนานาชาติได้รับการตั้งชื่อตาม S.V. รัชมานินอฟ. นอกจากนี้ ภายในกรอบของ International Rachmaninov Music Festival คอนเสิร์ตจะจัดขึ้นตามประเพณีใน Kazinka

นักแต่งเพลง Rachmaninoff มักกล่าวกันว่าเป็น "นักแต่งเพลงชาวรัสเซียส่วนใหญ่" รัคมานินอฟได้มีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในการพัฒนาดนตรีศักดิ์สิทธิ์ของรัสเซีย (พิธีสวดของนักบุญจอห์น ไครซอสทอม, 1910; Vespers, 1916) Rachmaninov เป็นผลิตภัณฑ์ของมาตุภูมิและธรรมชาติของรัสเซีย เขาเป็นศูนย์รวมของสุภาษิตรัสเซียเช่นสุภาษิตนี้: "คนรัสเซียประเภทไหนที่ไม่ชอบขับรถเร็ว" Sergei Vasilievich ชอบขี่ม้า ขับเรือยนต์ และนั่งรถ รัคมานินอฟเขียนงานซึ่งเขาแสดงความรู้สึกแห่งความสุขที่ผู้คนได้สัมผัสท่ามกลางท้องทุ่ง ป่าไม้ ทุ่งหญ้า และท้องทุ่ง Maxim Gorky พูดเกี่ยวกับเขาว่า: "เขาได้ยินความเงียบได้ดีแค่ไหน" Rachmaninov สังเคราะห์แนวโน้มที่หลากหลายในศิลปะดนตรีประจำชาติและรวมเข้ากับสไตล์ประจำชาติของรัสเซีย Rachmaninov ชอบสวน Ivanovo สวนสาธารณะร่มรื่นขนาดใหญ่ สระน้ำ อากาศบริสุทธิ์ และกลิ่นหอมของทุ่งนาและทุ่งหญ้าที่อยู่ติดกับที่ดิน Ivanovka เป็นส่วนหนึ่งของมาตุภูมิที่ยิ่งใหญ่ ธรรมชาติของมันมีส่วนทำให้จิตสำนึกแห่งชาติของนักแต่งเพลงแย่ลงและปลุกความรักชาติ และนี่ ความรักที่ยิ่งใหญ่เราได้ยินเกี่ยวกับภูมิทัศน์ของรัสเซียที่ล้อมรอบในผลงานทั้งหมดของเขา

ลิงค์บรรณานุกรม

Pushilin N.O. ความคิดสร้างสรรค์ของ SERGEY VASILIEVICH RACHMANINOV เป็นภาพสะท้อนของภูมิประเทศที่มี // แถลงการณ์ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนต่างชาติ - 2559. - ครั้งที่ 2.;
URL: http://eduherald.ru/ru/article/view?id=14334 (วันที่เข้าถึง: 18/06/2019) เราขอนำเสนอวารสารที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ "Academy of Natural History"

Sergei Vasilievich Rakhmaninov เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม (1 เมษายน) พ.ศ. 2416 ในที่ดิน Oneg (ตามแหล่งอื่นในที่ดิน Semenovo) ในจังหวัด Novgorod ในตระกูลขุนนาง นักแต่งเพลงในอนาคตชอบดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุ 5 ขวบเขาเล่นเปียโนภายใต้การดูแลของ A. Ornatskaya

ในปี พ.ศ. 2425 รัคมานินอฟวัย 9 ขวบเข้าสู่เรือนกระจกเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2428 เขาเรียนครั้งแรกที่จูเนียร์ (ในชั้นเรียนของ N. Zverev) จากนั้นที่แผนกอาวุโสของ Moscow Conservatory กับ A. Siloti, S. Taneyev, A. Arensky

ชีวประวัติโดยย่อของ Rachmaninov จะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้กล่าวว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของการศึกษา นักดนตรีได้สร้างผลงานที่สำคัญจำนวนหนึ่ง รวมถึงเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่ 1 (พ.ศ. 2434) ในปี 1893 Sergei Vasilievich จบการศึกษาจาก Moscow Conservatory ในสาขาเปียโนและการประพันธ์เพลงด้วยเหรียญทอง

การเป็นนักดนตรี

หลังจากจบการศึกษาจากเรือนกระจก Rachmaninov ก็มีส่วนร่วมในการสอน ในปี 1897 เขาแสดงที่ Moscow Russian Private Opera ซึ่งเขาได้พบกับ Fyodor Chaliapin

แม้กระทั่งจากการเรียนที่เรือนกระจก Sergei Vasilievich ก็ยังได้รับชื่อเสียงในฐานะ นักดนตรีที่มีความสามารถอย่างไรก็ตาม ความนิยมของมันถูกขัดจังหวะหลังจากการแสดงรอบปฐมทัศน์ของซิมโฟนีที่ 1 ไม่ประสบความสำเร็จ วิจารณ์อย่างเฉียบขาด Caesar Cui, N. Rimsky-Korsakov กลายเป็นเหตุผล ภาวะซึมเศร้าลึก Rachmaninov ซึ่งชีวประวัติของเขาไม่เคยรู้จักวิกฤตการณ์ที่สร้างสรรค์มาก่อน เป็นเวลาเกือบสามปีที่นักแต่งเพลงไม่ได้สร้างอะไรเลย

ในปี พ.ศ. 2444 รัคมานินอฟได้เสร็จสิ้นเปียโนคอนแชร์โตชุดที่ 2 จากปี 1904 เขาทำงานเป็นวาทยกรที่โรงละครบอลชอย ตั้งแต่ปี 1906 Sergei Vasilyevich ได้เดินทางไปทั่วโลก เยี่ยมชมอิตาลี เยอรมนี อเมริกา และแคนาดา ในปี 1909 เขาสร้างเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่ 3

ชีวิตและการทำงานในต่างประเทศ

หลังจากพำนักระยะสั้นในรัสเซียเมื่อปลายปี พ.ศ. 2460 Rachmaninov ก็ออกทัวร์ยุโรปอีกครั้งโดยไปที่สวีเดนก่อนจากนั้นไปเดนมาร์กซึ่งเขาไม่เคยกลับบ้านเกิดของเขาเลย ในปี 1918 นักแต่งเพลงเล่นเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่ 2 ในโคเปนเฮเกน

ในตอนท้ายของปี 1918 Sergei Vasilievich เดินทางไปสหรัฐอเมริกา แม้จะมีกิจกรรมคอนเสิร์ตที่รุนแรง แต่ในเวลานั้นเขาไม่ได้สร้างอะไรใหม่เลย เฉพาะในปี พ.ศ. 2469-2470 เปียโนคอนแชร์โตครั้งที่ 4 และชิ้นเล็ก ๆ จำนวนหนึ่งปรากฏขึ้น ในปี 1941 Rachmaninoff เสร็จสิ้น งานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด- "การเต้นรำซิมโฟนี"

Sergei Vasilyevich Rachmaninov เสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2486 ในเบเวอร์ลีฮิลส์ สหรัฐอเมริกา นักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ถูกฝังที่สุสานเคนซิโก

เพลงคลาสสิค

Sergei Vasilievich Rachmaninov เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2416 ในจังหวัดนอฟโกรอด การเรียนเปียโนครั้งแรกและการเรียนดนตรีครั้งแรกเริ่มตั้งแต่อายุสี่ขวบและได้รับคำแนะนำจากแม่

ในปี 1882 ครอบครัว Rakhmaninov ย้ายไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและเด็กชายถูกส่งไปที่ St. Petersburg Conservatory ในชั้นเรียนของศาสตราจารย์ Demyansky ในปี 1885 ครอบครัวย้ายไปมอสโคว์ การย้าย Rachmaninov ไปยัง Moscow Conservatory นั้นเชื่อมโยงกับเหตุการณ์นี้ ที่นี่เขาศึกษาภายใต้คำแนะนำของ N.S. Zverev แล้ว A.I. Siloti ในสนามเปียโน เช่น. Arensky และ S.I. Taneyev สอนทฤษฎีดนตรีและเทคนิคการแต่งเพลงให้เขา Rachmaninov จบการศึกษาจาก Conservatory ในปี พ.ศ. 2435 ด้วยเหรียญทอง ปัจจุบันเป็น งานสอบโอเปร่าเรื่องเดียว "Aleko" ตามเนื้อเรื่องของบทกวี "ยิปซี" ของพุชกิน ในปีเดียวกัน โอเปร่านี้จัดแสดงในมอสโกที่โรงละครบอลชอย ในไม่ช้าผู้เขียนได้แสดงร่วมกับเธอในฐานะผู้ควบคุมวงที่เคียฟโอเปร่าเฮาส์

เมื่อมองไปข้างหน้า เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การกล่าวว่า Rachmaninoff แสดงให้เห็นแล้วในตอนต้นของเส้นทางสร้างสรรค์ของเขาในฐานะวาทยกรที่ยอดเยี่ยม ในช่วงเริ่มต้นของการแต่งเพลงและการแสดง ศิลปะการแสดงดึงดูดเขา: ในปี พ.ศ. 2440-2441 เขาทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมวงในโอเปร่าส่วนตัว (“แมมมอธ”) ในมอสโกว และในปี พ.ศ. 2447 ถึง พ.ศ. 2449 เขาได้ดำรงตำแหน่งเดียวกันที่ โรงละครมอสโกบอลชอย ต่อมาเขาเกือบจะไม่ได้ทำหน้าที่นี้

ตั้งแต่ฤดูหนาวปี 1892 Rachmaninov เริ่มแสดงต่อสาธารณชนในฐานะนักเปียโน และเขาก็แสดงความสามารถที่โดดเด่นอย่างรวดเร็ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเล่นของเขามีความโดดเด่นด้วยความสว่าง ความแข็งแกร่ง ความมีชีวิตชีวาและความบริบูรณ์ของเสียง ความแวววาวและความเฉียบคมของจังหวะ การแสดงออกที่น่าหลงใหลและโลดโผน

Rachmaninov ได้รับการยอมรับเป็นครั้งแรกในฐานะนักเล่นซิมโฟนีที่มีพรสวรรค์โดยวงดนตรีแฟนตาซี "Utes" ซึ่งเขียนขึ้นในปี พ.ศ. 2436 บทวิจารณ์จากสื่อมวลชนเกี่ยวกับการแสดงครั้งแรกของแฟนตาซีได้กล่าวถึงอารมณ์ของบทกวี ความมีชีวิตชีวาและความกลมกลืนที่ละเอียดอ่อน และความสว่างของสีสันของวงออเคสตรา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสไตล์ส่วนตัวของ Rachmaninov และยิ่งกว่านั้นสไตล์ของนักแต่งเพลงที่มีเสน่ห์นั้นสัมผัสได้อยู่แล้วในการทดลองครั้งเยาว์วัยครั้งแรกของเขา

การหยุดชั่วคราวที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2440 หลังจากการแสดง First Symphony ของ Rachmaninov ไม่ประสบความสำเร็จซึ่งเป็นผลงานที่นักแต่งเพลงลงทุนกับงานและพลังงานทางจิตวิญญาณจำนวนมากซึ่งนักดนตรีส่วนใหญ่เข้าใจผิดและเกือบจะเป็นเอกฉันท์ประณามในหน้าของสื่อ แม้กระทั่งถูกเยาะเย้ย โดยนักวิจารณ์บางคน ความล้มเหลวของซิมโฟนีกลายเป็นบาดแผลทางจิตใจอย่างลึกซึ้งสำหรับรัคมานินอฟ ด้วยตัวเขาเอง สารภาพในภายหลัง เขา "เป็นเหมือนคนที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองและสูญเสียทั้งศีรษะและมือไปเป็นเวลานาน" สามปีถัดไปเป็นปีแห่งความเงียบที่สร้างสรรค์เกือบสมบูรณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็รวมสมาธิในการไตร่ตรอง การประเมินเชิงวิพากษ์ของทุกสิ่งที่ทำไปก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ของการทำงานภายในที่เข้มข้นของนักแต่งเพลงที่มีต่อตัวเขาเองคือการเพิ่มขึ้นของความคิดสร้างสรรค์ที่เข้มข้นและสดใสอย่างผิดปกติในตอนต้นของศตวรรษใหม่ ในช่วงสามหรือสี่ปีแรกของศตวรรษที่ 20 รัคมานินอฟได้สร้างผลงานประเภทต่าง ๆ มากมาย โดดเด่นด้วยกวีนิพนธ์ที่ลุ่มลึก ความสดใหม่ และแรงบันดาลใจอันฉับไว ซึ่งความร่ำรวยของจินตนาการสร้างสรรค์และความคิดริเริ่มของ "ลายมือ" ของผู้แต่ง ผสมผสานกับงานฝีมือชั้นสูง

ห้าปีที่แยกจากเปียโนคอนแชร์โตที่สองของรัคมานินอฟ ซึ่งเสร็จในปี พ.ศ. 2444 จากครั้งก่อนของเขา ชิ้นเปียโน- หกช่วงเวลาดนตรี นักแต่งเพลงคนนี้ปรากฏตัวในผลงานชิ้นใหม่ของเขาในฐานะปรมาจารย์ที่เป็นผู้ใหญ่ด้วยบุคลิกลักษณะที่เด่นชัดและรูปแบบการเขียนที่มีการพัฒนาอย่างดี Rachmaninoff แสดงให้เห็นว่าตัวเองยิ่งใหญ่ ศิลปินต้นฉบับ, "ปราศจากความซับซ้อนทั้งหมดและในขณะเดียวกันก็เป็นเจ้าของเครื่องมือทั้งหมดของเทคโนโลยีล่าสุด"

คอนแชร์โตซึ่งทำให้ผู้แต่งประสบความสำเร็จอย่างสมควร ได้รับการยอมรับอย่างถูกต้องว่าเป็นเปียโนคอนแชร์โตของรัสเซียที่ดีที่สุด รองจาก B flat minor concerto ของไชคอฟสกี แต่ในขณะเดียวกันก็รักษาความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับมรดกของไชคอฟสกีและชาวรัสเซียคนอื่นๆ และ นักแต่งเพลงต่างประเทศศตวรรษที่ 19 คอนแชร์โต Rachmaninov มีสิ่งใหม่ๆ มากมาย ทั้งในโครงสร้างที่เป็นรูปเป็นร่างและวิธีการแสดงออกทางดนตรี และในการตีความแนวเพลง อาจเรียกได้ว่าเป็นบทกวีที่น่าสมเพชที่ได้รับแรงบันดาลใจสำหรับเปียโนและวงออเคสตรา ในเวลาเดียวกันกับคอนแชร์โต Second Suite ถูกสร้างขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ในบางช่วงเวลามันจะสะท้อนเขาตามธรรมชาติของดนตรี แม้ว่างานที่นักแต่งเพลงต้องเผชิญในกรณีนี้จะแตกต่างออกไป งานนี้เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จเชิงสร้างสรรค์ของรัคมานินอฟอย่างไม่ต้องสงสัย

ซิมโฟนิกคันทาทาขนาดพอประมาณหรือบทกวีไพเราะ "ฤดูใบไม้ผลิ" (พ.ศ. 2445) เขียนขึ้นตามถ้อยคำของบทกวีโดยเอ็น.เอ. เนคราซอฟ" เสียงเขียว". งานนี้สอดคล้องกับอารมณ์ "ฤดูใบไม้ผลิ" เหล่านั้นที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของแรงบันดาลใจในการปลดปล่อยและความคาดหวังของการเปลี่ยนแปลงที่ใกล้เข้ามาซึ่งกวาดล้างสังคมรัสเซียในวงกว้างในช่วงต้นทศวรรษ 1900

ที่ยากกว่านั้นคือชะตากรรมของผลงานสำคัญสองเรื่องที่ตามมาของ Rachmaninov - โอเปร่า The Miserly Knight และ Francesca da Rimini ซึ่งแสดงครั้งแรกบนเวทีของ Bolshoi Theatre ในเย็นวันเดียวกันของวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2449 พวกเขาได้รับความสนใจอย่างมากในขณะเดียวกันก็ก่อให้เกิดการโต้เถียงและความไม่ลงรอยกันมากมายในการประเมินของพวกเขา

ผลงานทั้งสองชิ้นมีความแปลกใหม่และแปลกใหม่ในหลาย ๆ ด้านจากมุมมองของบรรทัดฐานดั้งเดิมของละครโอเปร่าในศตวรรษที่ 19 เช่นเดียวกับ "Aleko" พวกเขาโดดเด่นด้วยความกะทัดรัดความกระชับของรูปแบบไม่มีรายละเอียดและค่อยๆพัฒนาการกระทำ: ความสนใจทั้งหมดมุ่งเน้นไปที่ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดและประสบการณ์ของตัวละครหลักหนึ่งหรือสองตัว แต่ถ้าถูกกำหนดโดยลักษณะของงานที่ได้รับแล้วใน "The Miserly Knight" และ "Francesca" ก็เป็นผลมาจากการเลือกผู้แต่งอย่างอิสระ

โอเปร่าเรื่อง "Francesca da Rimini" เป็นเรื่องสุดท้ายของ Rachmaninov โอเปร่าเรื่องใหม่ Monna Vanna ซึ่งคิดขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2449 ตามบทละครชื่อเดียวกันของ Maeterlinck ยังคงสร้างไม่เสร็จ หลังจากเขียนการแสดงครั้งแรกแล้ว นักแต่งเพลงปฏิเสธที่จะทำงานนี้ต่อด้วยเหตุผลบางประการ และต่อมาก็ไม่หันไปหาแนวเพลงโอเปร่า บางทีนี่อาจช่วยอำนวยความสะดวกโดยการออกเดินทางไปเดรสเดน ซึ่ง Rachmaninov อาศัยอยู่เป็นเวลาสามฤดูหนาว กลับบ้านในฤดูร้อน หรือโดยการแสดงค่อนข้างบ่อยในยุโรปในเวลานั้นในฐานะนักเปียโนและวาทยกร

สถานที่พิเศษในผลงานของนักแต่งเพลงถูกครอบครองโดยความรัก ในนั้น รัคมานินอฟปรากฏเป็นอีกด้านของภาพลักษณ์ที่สร้างสรรค์ของเขา ขอบเขตที่โดดเด่นของการสร้างสรรค์เสียงร้องในห้องของเขาคือเนื้อเพลง โลกแห่งความรู้สึกและอารมณ์ส่วนตัว การเล่นเปียโนคลอในเพลงรักของรัคมานินอฟยังโดดเด่นด้วยความมีชีวิตชีวา สีสัน และรูปแบบที่หลากหลาย ในบรรดาความนิยมมากที่สุด ได้แก่ - "Lilac", "อย่าร้องเพลง, ความงาม", "Spring Waters", "The night is sad", "An excerpt from Musset", "I am alone again"

เพียงสิบปีหลังจากอาการช็อกทางประสาทอย่างรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับความล้มเหลวของซิมโฟนีชุดที่หนึ่ง รัคมานินอฟก็หันมาเล่นแนวนี้อีกครั้ง โดยสร้างซิมโฟนีชุดที่สองของเขาขึ้นมา คราวนี้ทั้งสื่อมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ถึงคุณค่าทางศิลปะที่สูงของงานใหม่ นักวิจารณ์คนหนึ่งของเมืองหลวงเปรียบเทียบการปรากฏตัวของซิมโฟนีของ Rachmaninov อย่างมีนัยสำคัญกับการแสดงครั้งแรกของ Pathetique ของ Tchaikovsky โดยเรียก Rachmaninov ว่าเป็นผู้สืบทอดที่คู่ควรกับปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนนี้

งานที่มีขนาดเล็กลงแต่น่าสนใจและแปลกใหม่สำหรับรัคมานินอฟในหลายๆ ด้าน รูปภาพไพเราะ"Isle of the Dead" จากภาพวาดชื่อเดียวกันของ A. Böcklin หรือที่แม่นยำกว่านั้น สร้างขึ้นภายใต้ความประทับใจของเขา ในการวิจารณ์สื่อสำหรับการแสดงครั้งแรกของ "Isle of the Dead" มีข้อสังเกตว่าในดนตรีของงาน Rachmaninov นี้ไม่มีความสงบเยือกแข็งของการไม่มีอยู่จริงที่ครองราชย์ในBöcklin แต่ได้ยินเสียงความทรมาน เสียงครวญคราง และความสิ้นหวัง จากนรกของดันเต้ บวกกับความกระหายอย่างแรงกล้าที่จะมีชีวิต

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของ Rachmaninoff คือการสร้างเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สามในปี 1909 ดนตรีประสานเสียงชุดที่ 3 มีตราประทับของการมีวุฒิภาวะและความเข้มข้นของความคิดเทียบเท่ากับรุ่นก่อนในด้านความสดใหม่ของแรงบันดาลใจ ความไพเราะ และความสวยงามของธีม Asafiev เชื่อว่ามันมาจาก Third Concerto ที่การก่อตัวขั้นสุดท้ายของ "เปียโนฟอร์เตสไตล์ไททานิคของ Rachmaninov" เริ่มต้นขึ้น และคุณลักษณะของ

ในปีเดียวกัน รัคมานินอฟประสบความสำเร็จในการทัวร์สหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก จากปี 1909 ถึง 1912 เขาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบดนตรีรัสเซียที่คณะกรรมการหลักของ Russian Musical Society

มือของ Sergei Rachmaninoff

ในปี 1910 Rachmaninoff หันไปหาดนตรีศักดิ์สิทธิ์ เขาเขียนบทสวดของนักบุญ จอห์น คริสซอสตอม. รัชมานินอฟไม่ได้ใช้ Znamenny และบทสวดแบบโมโนโฟนิกอื่นๆ ของ Ancient Rus ในพิธีสวดของเขา สร้างองค์ประกอบที่ "อิสระ" ซึ่งเขาแสดงออกถึงความเข้าใจในความหมายของพิธีกรรม ทัศนคติส่วนตัวของเขาที่มีต่อข้อความประกอบพิธีกรรม ผู้ประพันธ์พยายามสร้างสรรค์อย่างมีศิลปะสูง เพลงคริสตจักรซึ่งโดยไม่ละเมิดความเรียบง่ายและความเคร่งครัดของพิธีกรรมทางศาสนา ในขณะเดียวกันก็จะมีคุณค่าทางสุนทรียะที่เป็นอิสระ

บทกวีเสียงไพเราะ "The Bells" ในบทกวีของ Edgar Allan Poe ในการแปลภาษารัสเซียโดย K.D. Balmont ซึ่งเขียนขึ้นในช่วงเวลาที่ Rachmaninov มีวุฒิภาวะในการสร้างสรรค์สูงในปี 1913 ในแง่ของความสำคัญของแนวคิดและทักษะในการนำไปใช้ ถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของดนตรีรัสเซียในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ธรรมชาติของดนตรี "The Bells" ที่แสดงออกอย่างตึงเครียดและกระสับกระส่ายเกิดจากลางสังหรณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่น่าเศร้าที่กำลังจะมาถึง นำเสนอเป็นสี่ส่วน เส้นทางชีวิตบุคคลในวัยเยาว์ที่เต็มไปด้วยความหวังและความคาดหวังถึงความตายอันน่าเศร้า เสียงระฆังที่ดังมีทั้งสดใสและสนุกสนาน หรือวิตกกังวลและเป็นลางร้าย เช่น คำเตือนที่น่ากลัว หรืออู้อี้และมืดมน เป็นสัญลักษณ์ของช่วงต่างๆ ของเส้นทางนี้

ผลงานชิ้นต่อไปของนักแต่งเพลง "The All-Night Vigil" ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่คล้ายกัน “การสร้างสรรค์ที่สำคัญที่สุดของ Rachmaninov คือดนตรีที่น่าทึ่งของ Vespers สำหรับการร้องประสานเสียงโดยไม่มีเครื่องดนตรีประกอบ” Asafiev พิจารณา ในขณะเดียวกัน “Vespers” ก็กลายเป็นประสบการณ์สร้างสรรค์สูงสุดที่ผู้แต่งเพลงทำราวกับว่าอยู่ภายใต้ อิทธิพลของการเปิดเผยทางจิตวิญญาณ กวาดล้างทุกสิ่งที่บังเอิญ ฉาบฉวย เล็กน้อย และสัมผัสกับส่วนลึกของจิตสำนึกของชาวบ้านและศาสนาโบราณ ความไพเราะหรือความลื่นไหลของเพลงปรากฏอยู่ในทุกช่วงเวลาของเสียงของ "All-Night" ทำให้เกิด การมีอยู่ของกระแสชีวิตที่ตึงเครียดและมองเห็นได้ชัดเจน ไหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและในแรงกระตุ้นส่องสว่างที่เอื้อเฟื้อเดียวที่ผสาน (ประมวลผล) กิเลสส่วนตัว ความเศร้าโศก ความสับสนเป็นองค์รวมและเป็นปัจจุบัน

การปฏิวัติเดือนตุลาคมพบว่า Rachmaninoff นำคอนแชร์โต้ชุดแรกของเขากลับมาใช้ใหม่ หลายคนเชื่อว่าการรัฐประหารในรัสเซียเป็นเพียงชั่วคราว รัคมานินอฟคิดว่านี่คือจุดจบของรัสเซียยุคเก่า และในฐานะศิลปิน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน เขาเชื่อว่าชีวิตที่ปราศจากศิลปะนั้นไร้จุดหมายสำหรับเขา เขากลัวว่างานศิลปะเช่นนี้จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ในการเลิกรา และกิจกรรมทางศิลปะทั้งหมดจะหยุดลงในรัสเซียเป็นเวลาหลายปี ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากข้อเสนอที่ได้มาโดยไม่คาดคิดจากสวีเดนในการแสดงคอนเสิร์ตในสตอกโฮล์ม ในตอนท้ายของปี 1917 เขาออกจากรัสเซียพร้อมกับภรรยาของเขา Natalya Alexandrovna และลูก ๆ ของพวกเขา

ก่อนอื่นเขาไปปารีสแล้วย้ายไปสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี 1935 นักแต่งเพลงได้อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา งานของ Rachmaninov มีจุดพักใหม่ ซึ่งคราวนี้ยาวกว่าครั้งก่อนมาก หลังจากผ่านไปหนึ่งทศวรรษนักแต่งเพลงก็กลับไปแต่งเพลงโดยจัดรัสเซียสามคน เพลงพื้นบ้านสำหรับคณะนักร้องประสานเสียงและวงออร์เคสตรา และเสร็จสิ้นการแสดงเปียโนคอนแชร์โตครั้งที่สี่ ซึ่งเริ่มขึ้นในวันก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง

Rachmaninov รู้สึกคิดถึงบ้านอย่างเจ็บปวด เขาคิดอยู่ตลอดเวลาว่าเขาทำพลาดหรือไม่ที่ออกจากบ้านเกิดเมืองนอน เขาสนใจทุกสิ่งที่มาจากสหภาพโซเวียตอย่างกระตือรือร้น และความสนใจในบ้านเกิดเมืองนอนของเขานั้นจริงใจและลึกซึ้ง เขาอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ และนิตยสารที่มาจากสหภาพโซเวียต รวบรวมบันทึกของสหภาพโซเวียต เขาชอบฟังเพลงรัสเซียที่แสดงโดย Red Banner Ensemble ที่ยอดเยี่ยมเป็นพิเศษ

บางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นแรงผลักดันให้มีการฟื้นฟูผลงานของ Sergei Vasilyevich ผู้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงทศวรรษที่ 1930 เช่น Symphonic Dances, Rhapsody on a Theme of Paganini และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Third Symphony

ฤดูร้อนปี 1934 ทำให้นักแต่งเพลงประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์ที่รอคอยมานาน ในเวลาเพียงเจ็ดสัปดาห์ รัคมานินอฟได้สร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดชิ้นหนึ่งของเขา - การแรปโซดีสำหรับเปียโนและวงออร์เคสตราในธีมของไวโอลินโดย Niccolò Paganini

ซิมโฟนีที่สาม สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2479 สรุปคุณสมบัติที่ดีที่สุดของรัคมานินอฟ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นปรากฏการณ์สำคัญในวิวัฒนาการของซิมโฟนีรัสเซียระดับชาติ ซิมโฟนีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเนื้อร้องและบทเพลงแห่งความสุขและความรัก โดยส่งถึงรัสเซียซึ่งเป็นบ้านเกิดอันยิ่งใหญ่ของนักแต่งเพลง